หน้า: [1]   ลงล่าง
 
ผู้เขียน หัวข้อ: กลัว"ครู" ขึ้น "คาน"  (อ่าน 2022 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ผู้ดูแลบอร์ด
คะแนนน้ำใจ 7752
เหรียญรางวัล:
นักอ่านยอดเยี่ยมนักโพสดีเด่นมีความคิดสร้างสรรค์ผู้ดูแลบอร์ด
กระทู้: 658
ออฟไลน์ ออฟไลน์
   
« เมื่อ: 14 พฤษภาคม 2559, 08:30:38 AM »

Permalink: กลัว"ครู" ขึ้น "คาน"
..สวัสดีครับ เช้านี้เป็นเช้าวันเสาร์
ว่างเว้นจากการแต่งกลอนมาหลายวัน..วันนี้เลยคิดว่าจะนำพล็อตเรื่องอะไรดีมาแต่งเป็นกลอน
ฝากเพื่อนๆ แต่บังเอิญไปเห็นภาพคุณครูสาวสวยท่านหนึ่งในอินเทอร์เน็ต ทราบว่าเธอชื่อ ครูเหมียว
เป็นคุณครูสอนวิชาภาษาอังกฤษ อยู่ในจังหวัดร้อยเอ็ด เธอมีชื่อเสียงเพราะเป็นครูที่มีใบหน้าหวาน
งดงาม นอกจากเหนือจากความเก่งในด้านภาษาอังกฤษ ที่เธอสอนจนมีชื่อเสียงรวมทั้งมีภาพถ่าย
ที่แพร่หลายในอินเทอร์เน็ตมากมายอีกด้วย วันนี้ จึงขออนุญาตนำภาพเธอมาประกอบในบทกลอน
ที่ผมแต่งนี้นะครับ เพราะผมกำลังแต่งกลอนเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับ "คุณครู"
  คำว่า "ครู" ท่านว่า มาจากคำว่า คุรุ ซึ่งแปลว่า หนัก.. ผมคิดเอาเองว่า การสอนคนไม่รู้
ให้กลายมาเป็นคนที่รู้ นับเป็นเรื่อง หนัก เป็นเรื่องยาก และเป็นเรื่องลำบาก
 ในทางพุทธศาสนา ท่านยกย่องให้ ครู เป็น 1 ใน ปูชนียบุคคล คือ บุคคลที่ควรเคารพ
กราบไหว้ ซึ่งประกอบด้วย พ่อ แม่ ครู อุปัชฌาย์ อาจารย์
   ไม่รู้ว่ามีคนคิดว่า ครู เป็นบุคคลที่ควรเคารพ หรือเปล่า เลยมีชายหนุ่มบางคนไม่กล้าไปจีบคุณครู
 เพราะเห็นว่าเธอควรอยู่บนหิ้งน่ากราบไหว้ เลยปล่อยให้ครู  ไม่มีคู่ ต้องขึ้นคาน เหมือนคุณครูสาวสวยที่
ผมเห็นและเคยสอนผมตอนวัยเด็ก  ผมจับมุข หรือพล็อตเรื่องตรงนี้ แหละครับ มาเขียนเป็นกลอน
ที่อ่านแล้วให้แง่คิดในแบบที่เป็นเรื่องตลกๆ แบบน่ารักๆ ของชายหนุ่มที่คิดมาก จนไม่กล้าจีบคนที่เป็นคุณครู
ทั้งๆ ที่ไปแอบรัก แต่สุดท้ายก็ต้องฝืนคำสอนของครููในวัยเด็ก เพราะไม่อยากให้คุณครูสาวสวยที่อยู่ตรงหน้า
 ต้องขึ้นคาน ...ขอให้ชื่อบทกลอนนี้ว่า..."ไม่อยากให้ครู ขึ้นคาน"



ภาพจากอินเทอร์เน็ต/ขอขอบคุณ คุณครูเหมียว ครูสอนภาษาอังกฤษจาก จ.ร้อยเอ็ด

กลัว"ครู" ขึ้น "คาน"




เมื่อตอนเด็ก เล็กนัก ครูมักสอน
ดั่งเป็นพร สอนสั่ง ฟังไว้หนา
จงตั้งใจ ใฝ่เรียน เพียรวิชา
ต่อภายหน้า เติบใหญ่ จะได้ดี

แต่เป็นเพราะ เด็กอยู่ ไม่รู้ความ
มีคำถาม แม้สงสัย มักใคร่หนี
ด้วยขี้อาย หากถามครู ดูไม่ดี
คำถามนี้ จึงเก็บงำ จำเรื่อยมา

อันคำถาม ที่อยากถาม จำความได้
ครูสอนไว้ แน่นหนัก เป็นนักหนา
“ให้เคารพ พ่อแม่ แลครูบา
อุปัชฌาย์ อาจารย์” จงวานจำ

ด้วยยกให้ หมายรู้ “ปูชนียะ”
อย่าเลยละ ล่วงเกิน เพลินถลำ
ตั้งแต่เล็ก จนเติบใหญ่ ใจเฝ้าจำ
ไม่เกินกล้ำ คุณครู เพราะรู้ความ

จนมาถึง วันนี้ ผมมีเรื่อง
สิ่งนอนเนื่อง ที่เก็บไว้ อยากใคร่ถาม
คุณครูครับ ตอบหน่อย คอยฟังความ
มีคำถาม ถ้าครูตอบ จักขอบคุณ

คำถามผม ไม่ซับซ้อน ครูวานตอบ
ผมแอบชอบ หญิงงามเหลือ ใจเกื้อหนุน
เนิ่นนานวัน ใจเลยแย่ เพราะแม่คุณ
ยิ่งว้าวุ่น ไปรักเขา น่าเศร้าใจ

เพราะมาทราบ ภายหลัง หวังเขารัก
มอบใจภักดิ์ จิตเคยมั่น กลับหวั่นไหว
เพิ่งได้ทราบ ใจเลยช้ำ ทำฉันใด
น้องทรามวัย ที่ผมเห็น เธอเป็น “ครู”

จะจีบเธอ ก็ไม่กล้า แม้น่าจีบ
สิ่งควรรีบ ก็ไม่กล้า น่าอดสู
เพราะตอนเด็ก ยังจดจำ คำคุณครู
พวกหนูหนู “เคารพ..ครู” ผมรู้ดี

คิดถึง“คำ คุณครูสอน” มานอนเศร้า
หากมัวเฝ้า ใจละเหี่ย จะเสียศรี
เธอเป็นครู “ควร..เคารพ” จบพอดี
แล้วกี่ปี จะมี "ครู" เป็นคู่ครอง

ผมขอมี แฟนเป็น"ครู" ได้ไหมครับ
โปรดตอบกลับ น้ำคำ นำสนอง
ไม่จีบครู แล้วเมื่อไหร่ ได้คู่ครอง
มัวแต่มอง คงอดสู ......“ครู-ขึ้นคาน”

.......TOP GUN......


(ปล. ใครมีสามี/ภรรยา เป็นครู ถือเป็นการละมิด "ปูชนียบุคคล" ใช่หรือเปล่า...
เพราะ "ครู เป็นบุคคลที่ควรเคารพ"...กราบไหว้ก่อนนอนด้วยนะ..คริ คริ....ล้อเล่งนะครู)





บันทึกการเข้า

หน้า: [1]   ขึ้นบน
 
 
กระโดดไป: