กว่าจะเห็นว่าเป็นทอง บางครั้งก็หมอง เพราะผ้าขี้ริ้ว

กว่าจะเห็นว่าเป็นทอง บางครั้งก็หมอง เพราะผ้าขี้ริ้ว

อันน้ำคำ ที่เปรียบมา ฟังน่าเพราะ
หากให้เหมาะ ควรดูดี เหมือนที่หวัง
ข้างในสวย ภายนอกเด่น เห็นแล้วดัง
เปรียบเหมือนดั่ง ทองคำสวย ช่วยน่ามอง

หากไปเอา ผ้าขี้ริ้ว หิ้วห่อหุ้ม
ปกปิดคลุม ยากสวยล้ำ ซ้ำทำหมอง
น้อยคนนัก ยากรู้เห็น ว่าเป็นทอง
ใจอาจหมอง เช้าจนค่ำ แม้ทำดี

เปรียบเจ้าเงาะ หน้าไม่งาม เพราะทรามนอก
ถอดเงาะออก เห็นรูปทอง ไม่หมองศรี
กว่าจะถอด ให้คนเห็น ว่าเด่นดี
คนมากมี ประณามชั่ว เพราะตัวดำ

หากสวยนอก สวยใน ใครจะว่า
ทั่วพารา เรื่องคงจบ กลบเสียงขำ
สวยข้างนอก ดีข้างใน ใจทองคำ
คงสุขล้ำ ทรงคุณค่า และน่าปอง

ส่วน เบญจ กัลยาณี เหมือนที่ว่า
หากได้มา เธอเป็นหนึ่ง ไม่พึงสอง
นอกก็สวย ในก็เด่น ไม่เป็นรอง
ชายหมายปอง ไม่มัวหมอง เหมือน..ทองคำ

.....TOP GUN.....

(สํานวนสุภาษิต ผ้าขี้ริ้วห่อทอง หมายถึงผู้ที่มีฐานะร่ำรวย แต่ทำตัวสมถะหรือแต่งตัวซ่อมซ่อ เปรียบเปรยถึงหากเราเห็นผ้าขี้ริ้ว
เราก็จะรู้สึกว่าสกปรกหรือไม่น่าพิสมัย แต่หารู้ไม่ว่าข้างในผ้าขี้ริ้วนั้นมีของมีค่าก็คือทองอยู่ข้างใน คนเราบางคนที่รูปกายภายนอก
ไม่สวยแต่จิตใจดีมีให้เห็นมากมาย......แต่ต้องใช้เวลาในการพิสูจน์ความดีให้คนทั่วไปได้เห็น บางครั้งก็ทำให้ใจเศร้าหมอง
เพราะคนอาจมองว่าไม่ดีตั้งแต่แรกเห็น..หรือหากจะกล่าวว่า ต้องใช้เวลาพิสูจน์ความดีมากกว่าคนที่มีรูปกายภายนอกสวยๆ เขาทำ
..ซึ่มักจะได้รับความนิยมตั้งแต่แรกเห็น..หากเป็นคนดีด้วยยิ่งเสริมให้ความสวย สวยยิ่งขึ้น..อย่างที่เรียกว่าสวยทั้งนอก สวยทั้งจิตใจภายใน...
...สำหรับคำว่า เบญจกัลยาณี..ลักษณะ หญิงาม 5 ประการ..เป็นเพียงเรื่องเล่า..ในครั้งพุทธกาล..
ว่ามีมานพน้อยลูกเศรษฐีคนหนึ่งไม่อยากแต่งงานมีครอบครัว แต่พ่อแม่รบเร้าให้แต่งด้วยถึงวัยมีครอบครัว..ชายหนุ่มจึงตัดความรำคาญ
ว่าแต่งก็แต่งแต่ผู้หญิงที่จะแต่งงานด้วย เธอต้องมีความงาม 5 ประการ คือ ผมงาม เนื้องาม(ริมฝีปากเป็นสีแดงระเรื่อ ไม่ดำ เหมือนริมปี
ปากของคนสูบบุหรี่) ฟันขาวงาม ผิวพรรณงามและวัยงาม(จะอยู่ในวัยไหนก็งาม)...ไม่รู้ป่านนี้ เจอหรือยัง แต่คติในการเลือกหญิงสาวแบบนี้.
ก็เป็นเรื่องที่ชายหนุ่มบางคนในปัจจุบันนำมาใช้ในการพิจารณา..ในการเลือกหญิงที่จะมาเป็นคู่ครองบ้างก็ได้)