You are here: Khonphutorn.com - แหล่งข้อมูลของคนไทยหมวดสุขภาพสุขภาพ (ผู้ดูแล: ญิบสลิล ณ นคร, หมอกริชครับ...คมกริช... คมกริช)เท้ามีกลิ่น...ทำลายบุคลิก อยากรู้แก้ได้อย่างไร คลิกซะ
หน้า: [1]   ลงล่าง
 
ผู้เขียน หัวข้อ: เท้ามีกลิ่น...ทำลายบุคลิก อยากรู้แก้ได้อย่างไร คลิกซะ  (อ่าน 1454 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ผู้บริหารเว็บ
คะแนนน้ำใจ 65535
เหรียญรางวัล:
PJ ดีเด่นนักอ่านยอดเยี่ยมผู้ดูแลเว็บ
กระทู้: 18,136
ออฟไลน์ ออฟไลน์
"สาวหวาน กับ ความฝันไม่รู้จบ "
   
« เมื่อ: 29 พฤศจิกายน 2557, 08:39:30 AM »

Permalink: เท้ามีกลิ่น...ทำลายบุคลิก อยากรู้แก้ได้อย่างไร คลิกซะ




ฤดูฝนอากาศอับชื้น เท้าของคนเรามักจะมีกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ ซึ่งเป็นปัญหาที่พบได้บ่อย
 อีกทั้งเท้าเป็น "อวัยวะที่โลกลืม" จริงๆ เพราะมีน้อยคนที่จะดูแลเอาใจใส่เท้าอย่างถูกวิธีและทะนุถนอม

เท้า... ดูแลอย่างไร
การดูแลเท้าของตนเองนั้น ปฏิบัติไม่ยาก นั่นคือการเลือกสวมรองเท้าที่มีขนาดพอเหมาะ
แต่งานวิจัยทางการแพทย์ระบุว่า เด็กจำนวนมากสวมรองเท้าขนาดที่เล็กเกินไป
มีงานวิจัยชิ้นหนึ่งแสดงข้อมูลว่าราวครึ่งหนึ่งของเด็กหญิงวัยเรียนจะเกิดปัญหาเกี่ยวกับเท้าเมื่ออายุได้ เพียง ๑๐ ขวบ
พบความผิดปกติของเท้าหลายต่อหลาย อย่าง เช่น เล็บขบ เล็บผิดรูปร่าง ตาปลา หรือกระดูกคด
ล้วนเกิดจากการใส่รองเท้าที่มีขนาดไม่เหมาะสมทั้งนั้น การดูแลเท้านั้นรวมไปถึงการล้างเท้าทุกวัน

 ยกเว้นในกรณีที่ผิวหนังเท้าแห้งและแตกอยู่แล้ว หลังจากล้างเท้าไม่ควรสวมรองเท้าและถุงเท้าทันที
ควรรอให้เท้าแห้งสนิทก่อนจึงค่อยสวมรองเท้าอาจใช้ผ้าขนหนูซับเท้า หรือใช้พัดลมเป่า เพื่อให้เท้าแห้งเร็วขึ้น
ทั้งนี้เพราะเท้าที่เปียกชื้นจะมีการติดเชื้อราที่เรียกว่า "ฮ่องกงฟุต" ได้ง่าย เนื่องจากเท้าเป็นอวัยวะที่มีต่อมเหงื่อมากมาย
ทำให้เหงื่อออกมาก ถ้าไม่หมั่นทำความสะอาดเท้าและรองเท้าจะส่งกลิ่นตุๆ ไปได้ไกล
ในขณะเดียวกันผิวหนังเท้ามีต่อมไขมันน้อย ฝ่าเท้าจึงแห้งและแตกง่าย ในกรณีนี้ต้องใช้ครีมให้ความชุ่มชื้นทา

เท้า...มีปัญหาอะไรบ้าง

ส้นเท้าแตก อาจต้องดูแลเท้าเป็นพิเศษระหว่างการอาบน้ำอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง เมื่อผิวหนังนุ่มตัวจากการสัมผัสน้ำแล้ว
ให้ใช้หินขัดขี้ไคลค่อยๆ ถูเท้าที่มีหนังหนาตัวขึ้นกว่าปกติ หลังจากนั้นให้ทาครีมให้ความชุ่มชื้น นวดบริเวณส้นเท้าและฝ่าเท้า
จนครีมซึมซาบเข้าไปนั่นแหละ วิธีนี้จะช่วยป้องกันปัญหาส้นเท้าแตกได้ครับ

เหงื่อออกมาก สำหรับเท้าที่มีเหงื่อออกมากควรใช้แป้งฝุ่นโรยก็ช่วยได้ เลือกใช้แป้งทั่วไป หรือแป้งเฉพาะ
สำหรับเท้าที่เรียกว่า foot powder ก็ได้ แป้งชนิดนี้มีลักษณะคล้ายแป้งฝุ่นทาตัว เพียงแต่เนื้อแป้ง
อาจหนากว่าและดูดซึมน้ำได้ดีกว่า การโรยแป้งทำให้ผิวที่เท้าแห้ง ไม่เฉอะแฉะ จึงลดอาการระคายเคือง
 และช่วยให้เกิดความรู้สึกเย็นสบาย ควรเปลี่ยนถุงเท้าทุกวันและควรใส่รองเท้าสลับวันเว้นวัน คู่ใดไม่ได้ใส่ก็ผึ่งเสียให้แห้ง

เล็บขบ คนที่สวมรองเท้าคับเกินไปและตัดเล็บผิดวิธี มักจะเกิดเล็บขบตามมา แรกๆ เริ่มจากเล็บที่งอกขึ้นมาใหม่
อาจแทงผิวหนังข้างๆ เล็บ ทำให้เกิดการอักเสบบวมแดง การตัดเล็บเท้าที่ถูกต้องคือตัดเป็นเส้นตรง

เท้ามีกลิ่น...เหม็น
นอกจากนี้ พบว่าคนไทยหลายคนเป็นโรคเท้าเหม็น (pitted keratolysis) โรคเท้าเหม็นนี้ไม่ใช่โรคใหม่
พบมานาน ๙๐ ปีแล้ว พบบ่อยที่สุดในผู้ที่ชอบเดินเท้าเปล่าย่ำน้ำในหน้าฝน เมื่อผิวหนังชั้นขี้ไคลของฝ่าเท้าเปียกชื้น
จากเหงื่อหรือน้ำที่เจิ่งนองจะทำให้ผิวหนังยุ่ยและเกิดการติดเชื้อแบคทีเรีย โรคเท้าเหม็นพบมากในประเทศเขตร้อน
 ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ทั้งผู้ชายและผู้หญิง แต่พบได้บ่อยกว่าในผู้ชาย เพราะมีเหงื่อออกที่ฝ่าเท้ามากกว่า
 และผู้ชายมักสวมถุงเท้าอยู่ตลอดเวลา อาการสำคัญของโรคนี้ที่พบบ่อยสุดถึงร้อยละ ๙๐ คือ เท้ามีกลิ่นเหม็นมาก

 นับเป็นการทำลายบุคลิกภาพ อาการรองลงมาที่พบร้อยละ ๗๐ คือ เวลาถอดถุงเท้าจะรู้สึกว่าถุงเท้าติดกับฝ่าเท้า
 ส่วนอาการคันนั้นพบได้น้อยคือ ร้อยละ ๘ ลักษณะของโรคเท้าเหม็นจะเห็นเป็นหลุมเล็กๆ ที่ฝ่าเท้า
บางครั้งหลุมอาจรวมตัวกันเป็นแอ่งเว้าตื้นๆ ดูคล้ายแผนที่ มักพบหลุมเหล่านี้ตามฝ่าเท้าที่รับน้ำหนัก
 และง่ามนิ้วเท้า ถ้าขูดผิวหนังและย้อมเชื้อจะพบเชื้อแบคทีเรียติดสีน้ำเงิน โรคนี้ดูจากลักษณะภายนอกก็บอกได้

การป้องกัน ต้องระวังให้เท้าแห้งอยู่เสมอ อาจใช้แป้งฝุ่นฆ่าเชื้อโรยบ้าง
การรักษา ยารักษาโรคสิวที่ใช้กันบ่อยคือ เบนซอยล์ เปอร์ออกไซด์ (benzoyl peroxide)
ก็นำมาใช้รักษาโรคเท้าเหม็นได้ผลดี นอกจากนั้นยาปฏิชีวนะและยาฆ่าเชื้อราชนิดทาก็รักษาโรคเท้าเหม็นได้

 พบว่าส่วนหนึ่งของคนที่เหงื่อออกที่ฝ่ามือ ฝ่าเท้ามาก จะมีลักษณะตื่นเต้น ตกใจง่าย วิตกกังวล และรู้สึกไม่มั่นคง
บางครั้งหากเปลี่ยนอุปนิสัยให้เยือกเย็นและสงบขึ้น เหงื่อออกที่ฝ่ามือ ฝ่าเท้าจะดีขึ้น
ถ้าไม่เคยตรวจสุขภาพก็แนะนำให้ไปพบอายุรแพทย์เพื่อตรวจเช็กร่างกายทั่วไป เพราะโรคบางอย่าง
 เช่น ต่อมไทรอยด์เป็นพิษก็อาจทำให้เหงื่อออกมากได้

หมอชาวบ้าน


บันทึกการเข้า


♪♪♪ รวมบทกลอนน้องจ๋า คลิกค่ะ ...

ขอบคุณทุกภาพจาก Internet และเพลงจากYouTube
หน้า: [1]   ขึ้นบน
 
 
กระโดดไป: