You are here: Khonphutorn.com - แหล่งข้อมูลของคนไทยหมวดอาชีพบทความ นานาสาระ (ผู้ดูแล: พงศธร)เกาลัดเปลือกกำมะหยี่สีแดงไม่มีขน
หน้า: [1]   ลงล่าง
 
ผู้เขียน หัวข้อ: เกาลัดเปลือกกำมะหยี่สีแดงไม่มีขน  (อ่าน 2682 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
คะแนนน้ำใจ 942
กระทู้: 179
ออฟไลน์ ออฟไลน์
   
« เมื่อ: 13 ตุลาคม 2556, 12:35:30 PM »

Permalink: เกาลัดเปลือกกำมะหยี่สีแดงไม่มีขน
เกาลัดเปลือกกำมะหยี่สีแดงไม่มีขน : ไม้มงคลให้โชคลาภทั้งในญี่ปุ่นและจีน (และไทย)



เกาลัด หรือเชสท์นัท (chestnut) เป็นพันธุ์ไม้ยืนต้นที่ขึ้นอยู่ในแทบจะทุกแถบถิ่นของโลกที่มีอากาศเย็น เป็นพืชท้องถิ่นทั้งในอเมริกา ยุโรป จีน ญี่ปุ่น แต่จัดเป็นพันธุ์ไม้หายากในบ้านเรา การปลูกเกาลัดจึงยังไม่แพร่หลาย คนไทยเรียกชื่อตามภาษาถิ่นว่า 'ลูกก่อ'


สำหรับเกาลัด ถึงจะเปลือกแข็ง ก็เป็นนัท(เมล็ดเกาลัด,ลูกเกาลัด) ประเภทเดียวที่ทางโภชนาการถือว่าเป็นผัก เพราะมันมีแป้งเป็นส่วนประกอบหลัก และน้ำมันมีนิดเดียวและเป็นกรดไขมันไม่อิ่มตัว อุดมด้วยวิตามินบี คนโบราณเขาว่าเกาลัดเหมาะสำหรับผู้สูงอายุ


ประเภทของเกาลัด
เกาลัด มีหลากหลายพันธุ์ ประเทศไทยได้มีการทดลองปลูกโดยนำมาจากประเทศจีนประมาณปี 2528 โดยมีการคัดแยกสายพันธุ์เพื่อให้เหมาะสมกับสภาพอากาศของประเทศไทย
เกาลัด ที่นิยมกินกันเป็นพันธุ์ที่มีเปลือกหุ้มเมล็ดเกาลัดขนยาวคล้ายเงาะ ซึ่งสามารถหาได้ทั่วไป ส่วน เกาลัด ที่มีเปลือกกำมะหยี่แดง เป็นที่นิยมในการปลูกเป็นไม้ประดับในสวน เพื่อความสวยงาม เนื่องจากพวงผลที่มีลักษณะเด่นเป็นสีแดงสดหุ้มเมล็ดเกาลัด และเมื่อผลออกเต็มต้นจะดูสวยงามเหมือนต้นโอ๊คที่มีผลสีแดงเต็มต้นซึ่งแตก ต่างจากพันธุ์ขนยาวคล้ายเงาะ

เกาลัดพันธุ์เปลือกกำมะหยี่แดงจึงเป็นที่นิยมในการปลูกเพื่อประดับ และเป็นศิริมงคลมากกว่า
ต้น กำเนิดของเกาลัดในประเทศไทยจึงนับได้ว่านำเข้ามาจากประเทศจีนทั้งสิ้น เพียงแต่ประเภทของเกาลัดมีจำนวนมากและต้องคัดตามความต้องการในการใช้ ประโยชน์ของผู้ปลูก



การปลูกเกาลัด
การปลูกเกาลัด สามารถทำได้ทั้งจากการตอนกิ่ง ลูกเกาลัดหรือเมล็ดเกาลัดโดย ทั่วไปใช้เวลาประมาณ 6-7 ปีจึงจะผลิดอกออกผล ต้องใช้เวลาและรู้จักรอคอย โดยเฉพาะการเพาะจากลูก

เกาลัด เนื่องจากต้องผ่านอุปสรรคเรื่องของแมลง และกระรอกที่จะคอยกัดกินผล อีกทั้งสภาพของดินและอากาศในขณะเพาะก็มีผลเช่นกัน

แมลงที่ชอบวางใข่เพื่อให้ลูกเกิดเป็นตัวหนอนแล้วไชเนื้อเมล็ดเกาลัดเป็นอาหารคือ ด้วงดิน

ส่วน หอยทากก็ชอบเช่นกัน ที่หนักไปกว่านั้นคือ กระรอก เนื่องจากกระรอกจะกินตั้งแต่เปลือกหุ้มเมล็ดยังเป็นสีเขียว นำมาแทะเล่นแล้วทิ้งซากไว้ให้ดูต่างหน้าเป็นประจำ ส่วนที่สุกจน

เปลือกหุ้มเมล็ดเป็นกำมะหยี่แดงก็มีโอกาสสูงที่จะถูกกระรอกกินเช่นกัน

นอก จากนี้ต้นอ่อนที่เพาะในกระถางยังสามารถถูกกระรอกมาขุดกินและทำลายอีกด้วย แต่เมื่อลำต้นตั้งตรงได้ประมาณ 20 เซนติเมตร ปัญหาเรื่องกระรอกก็จะหมดไปจนกว่าจะออกผล

อีกนั่นเอง อย่างไรก็ตามกระรอกมักจะโปรดปรานมะม่วงมากกว่าลูกเกาลัด เนื่องจากกินมะม่วงง่ายกว่าการมาแทะลูกเกาลัดเปลือกแข็งนั่นเอง

เกาลัด กับสภาวะโลกร้อน
เกาลัด เป็นพันธุ์ไม้ขนาดใหญ่ สูงได้ตั้งแต่ 4-30 เมตร ขึ้นอยู่้กับสถานที่ปลูกและการตัดแต่งกิ่ง เกาลัดเป็น ไม้ที่ต้องการก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เพื่อนำไปใช้ในกระบวนการสร้างเนื้อ

เยื่อ ของลำต้น รวมทั้งก๊าซพิษชนิดอื่นๆด้วย ดังนั้นจึงสามารถช่วยลดปัญหาเรื่องสภาวะโลกร้อน และปัญหามลภาวะทางอากาศได้เป็นอย่างดี อีกทั้งใบไม่ค่อยร่วง และมีขนาดใหญ่ จึง

สามารถให้ร่มเงาและกรองฝุ่นละอองสิ่งสกปรกได้เป็นอย่างดีอีกด้วย


ตำรายาจีน
จากข้อมูลตำรายาจีนแนะ นำว่า หากกินเมล็ดเกาลัดดิบจะแก้อาการกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ในผู้สูงอายุ และถ้าหากเคี้ยวดิบ ๆ ค่อย ๆ ซึมซับเอาน้ำเกาลัดเข้าไปจะแก้คออักเสบ หากเอาเกาลัด 7 ลูกไปต้มกับข้าวกล้อง ใส่เซ่งจี๊ จะช่วยแก้อาการปวดหลัง ถ้าท้องเสีย โดยเฉพาะในเด็ก ให้เอาเกาลัดมาบดเป็นแป้งแล้วต้มกับพลับแห้ง จนเป็นแป้งเปียก กินไปจนกว่าอาการท้องเสียจะทุเลาลง ถ้าใครที่ร่างกายอ่อนแอและกำลังฟื้นไข้ใช้สูตรนี้ สุขภาพก็จะฟื้นเร็วยิ่งขึ้น


ที่มา www.88DB.com
บันทึกการเข้า

รัก...ไม่จำเป็นต้อง "บอก"
แต่ขอให้ "แสดงออก" ต่อกันว่ายังรัก
รัก...ไม่จำเป็นต้อง "บรรยาย" อะไรมากนัก
แต่ขอให้ "รู้สึกได้" ว่าเรายังรักกันก็พอ..!!!
คะแนนน้ำใจ 4170
เหรียญรางวัล:
ผู้ดูแลบอร์ดนักโพสดีเด่น
กระทู้: 681
ออฟไลน์ ออฟไลน์
   
« ตอบ #1 เมื่อ: 13 ตุลาคม 2556, 07:14:34 PM »

Permalink: Re: เกาลัดเปลือกกำมะหยี่สีแดงไม่มีขน

@@ เกาลัดคั่วอร่อย @@
บันทึกการเข้า




หน้า: [1]   ขึ้นบน
 
 
กระโดดไป: