หน้า: [1]   ลงล่าง
 
ผู้เขียน หัวข้อ: เรื่องสั้นเรื่อง "เสี่ยวผี"  (อ่าน 1574 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
คะแนนน้ำใจ 2654
เหรียญรางวัล:
มีความคิดสร้างสรรค์นักโพสดีเด่น
กระทู้: 139
ออฟไลน์ ออฟไลน์
อีเมล์
   
« เมื่อ: 29 มิถุนายน 2563, 11:56:50 AM »

Permalink: เรื่องสั้นเรื่อง "เสี่ยวผี"




เสี่ยวผี
โดย...วิเวก วังเวง

......ฝนต้นฤดูเทลงมาปานฟ้ารั่ว  มันตกติดต่อกัน ๒-๓ วัน ทุ่งนา ห้วยหนอง คลองบึง ที่เคยแห้งขอดกลับเจิ่งนองไปด้วยน้ำป่าที่ไหลหลาก
 ทุ่งนาถ้ำป่อง ทุ่งนานกเขียน ทุ่งนาห้วยทราย และทุ่งนาอื่นๆ ก็ได้รับอานิสงส์ จากฝนตกครั้งนี้ไปตามๆ กัน  
......นาห้วยทรายกับนาถ้ำป่องจะอยู่ติดกัน มีถนนตัดผ่านไปบ้านนาปุ่งคั่นไว้ สมัยก่อนเป็นทางเกวียน ใครไม่มีเกวียนก็เดินทางด้วยเท้า
 ทุกครัวเรือนต่างอพยพขนย้ายครอบครัวไปนอนที่เถียงนา เพื่อประกอบกิจกรรมทำนาจนกว่าจะแล้วเสร็จ บางคนนอนเฝ้านาตลอดฤดูกาลก็มี
......คุณอาของผม มีนาอยู่ที่ทุ่งนาห้วยทราย ตั้งเถียงนาอยู่ติดเชิงเขาใกล้ๆ ถ้ำเกีย สมัยเด็กๆ ผมกับเพื่อนๆ มักจะไปใส่เบ็ดที่นาของคุณอา
 เพราะปลาชุกชุม และนอนที่เถียงนากับคุณอาเป็นประจำ
......ทุกครั้งที่ไปนอนกับท่าน ท่านมักจะเล่านิทานและเล่าเรื่องเร้นลับที่ท่านได้ประสบมาให้ฟังเสมอ ผมกับเพื่อนๆ ชอบฟังเรื่องราวที่คุณอาเล่า
 โดยเฉพาะเรื่องผีๆ แม้จะกลัวแต่ก็ชอบฟัง ผมไม่รู้หรอกว่ามันเป็นเรื่องจริงหรือเรื่องหลอกเด็ก ครั้งหนึ่งท่านเล่าว่า
...... คืนหนึ่ง ท่านฝันเห็นคนสมัยโบราณ ร่างสูงใหญ่กำยำ ผิวดำคล้ำ ผมหยิก แต่งกายด้วยการนุ่งผ้าเตี่ยว ไว้ผมม้า ยาวประบ่า
 มีผ้าแดงโพกศีรษะ ถือหน้าไม้เป็นอาวุธ มาหาท่าน และบอกว่า

“กูจักขอเป็นเสี่ยวกับมึง มึงจะคิดเห็นเป็นประการใด” คุณอาอ้ำอึ้งพักใหญ่ กลัวจนขี้หดตดแตก
“ไม่ต้องเกรงกลัวอันใด” เสียงนั้นมีพลังอำนาจ “ไขปากมาว่าจะเป็นเสี่ยวกับกูหรือไม่”
คุณอา ไม่รู้จะทำประการใด ถ้าปฏิเสธไป ก็ไม่ทราบว่าจะเกิดเหตุร้ายอันใดขึ้น จึงละล่ำละลักตอบไปว่า
“เป็นก็เป็นข้าน้อย”
ชายในฝันหัวเราะเสียงดัง ก่อนกล่าวอย่างอารมณ์ดี
“ประเสริฐยิ่งแล้ว ต่อไปนี้กูกับมึงเป็นเสี่ยวฮักเสี่ยวแพงกัน มึงคงแคลงใจว่ากูเป็นใคร”
“โดยข้าน้อย” คุณอาประนมมือแต้ นักรบโบราณหัวเราะชอบใจ ก่อนเล่าชีวประวัติให้คุณอาฟัง
“กูเป็นนักรบข่า แต่ก่อนชนเผ่าข่า เคยปกครองแว่นแคว้นแถวนี้  ได้สู้รบกับเผ่าผู้ไท เพื่อแย่งชิงถิ่นฐานมาตลอด
เผ่าข่าสู้ไม่ได้ หนีตายไปอยู่ที่อื่น พวกเจ้าขุนมูลนายไม่อาจนำทรัพย์สมบัติ แก้วแหวนเงินทองกลับไปได้
จึงเอาสมบัติมาฝังไว้ที่ถ้ำภูแห่งนี้ กูขันอาสาเฝ้าสมบัติให้ (คนที่เฝ้าสมบัติต้องถูกฆ่าแล้วฝังใกล้ๆ ขุมสมบัติ)
บัดนี้กาลล่วงเลยมาหลายร้อยปีแล้ว กูจักไปจุติในภพภูมิใหม่ จึงใคร่จะมอบสมบัติให้มึงดูแลแทน มึงจักคิดเห็นเป็นประการใด”
คุณอาครุ่นคิดอยู่นาน ก่อนไขคำปากเอ่ยถาม

“ข้าน้อยจะไม่ตายหรือ แล้วสมบัติฝังอยู่ที่ใด”
“ไม่ตายดอก กูจักให้มึงได้สมบัติบางส่วน สมบัติฝังอยู่ที่ถ้ำ.....ตรงก้อนหินใหญ่กลางถ้ำ” นักรบข่าบอกที่ซ่อนสมบัติ
“รุ่งแจ้ง มึงไปขุดดูก็จะประจักษ์ด้วยตาเอง แต่ขอย้ำว่าอย่าโลภมาก ใกล้พระอาทิตย์จะไขแสงแล้ว กูไปก่อนนะ จำไว้อย่าโลภมาก”
“โดยข้าน้อย”
......เสียงไก่ป่าขันเจื้อยแจ้ว ปลุกให้คุณอาสะดุ้งตื่น และครุ่นคิดจนท้องฟ้าอรุโณทัย เมื่อแจ้งหูแจ้งตาดีแล้ว เพื่อเป็นการพิสูจน์ว่า
 ความฝันนั้นเป็นจริงหรือไม่ คุณอาจึงถือไฟฉายพร้อมกับแบกเสียมไปยังถ้ำที่ผีนักรบข่ามาเข้าฝัน  
......ทางเข้าปากถ้ำเป็นโพรงแคบๆ กว้างประมาณ ๗๐ เซนติเมตร คุณอาค่อยๆคลานมุดเข้าไปอย่างยากเย็น
ไฟฉายถูกส่องกราดไปทั่วบริเวณถ้ำ เพื่อหาหินก้อนใหญ่ ตามที่เสี่ยวผีบอก เมื่อพบหินก้อนนั้น จึงลงมือเอาเสียมขุดรอบๆ โคนหิน
 ไม่นานก็เจอไหหินขนาดใหญ่ ๓ ไห
......คุณอาถึงกับตกตะลึง นึกไม่ถึงว่าความฝันจะเป็นจริง ดีใจจนเนื้อเต้น ผีนักรบข่าบอกว่าขอเป็นเสี่ยว และจะมอบสมบัติให้ส่วนหนึ่ง
 เมื่อทบทวนความฝันดีแล้ว จึงไขคำปากว่า  
“ข้าแต่เจ้าทรัพย์ ที่รักษาสมบัติอยู่ตรงนี้ ข้าน้อยขอไหสมบัติ ๑ ไห คงไม่ว่าอะไรนะขอรับ”

......จบคำก็ขุดเอาไหสมบัติขึ้นมา ๑ ไห แบกออกมาจากถ้ำ ดุ่มเดินลัดเลาะมาที่เถียงนา แต่ให้ตายเถอะ เดินไปหลายต่อหลายครั้ง
 ก็ยังไม่ถึงเถียงนาสักที กลับวกวนมาที่เดิมอีก คุณอาคิดได้ว่า ชะรอยตนเองจะโลภมากไป เจ้าทรัพย์จึงไม่อนุญาตให้นำสมบัติไปได้
คุณอาจึงเอาไปฝังไว้ที่เดิม และลงจากถ้ำมาเถียงนาได้อย่างปลอดภัย
......คืนต่อมา ผีนักรบข่ามาเข้าฝันอีก แกบอกว่าอย่าโลภมาก และอย่าบอกใครเด็ดขาดว่าสมบัติฝังอยู่ที่ใด ให้เก็บเป็นความลับ
ไม่เช่นนั้นจะไม่ได้อะไรเลย ซึ่งคุณอาก็รับปากเป็นมั่นเหมาะ
......รุ่งเช้าคุณอาขึ้นไปที่ถ้ำอีกครั้ง หลังจุดธูปเทียนบูชาคารวะปู่โสมเจ้าทรัพย์ และกล่าวขอสมบัติเสร็จสรรพ
จึงลงมือขุดเอาสมบัติตามที่เสี่ยวผีบอก
......คุณพระช่วย ! คุณอาแทบไม่เชื่อสายตาของตัวเอง เพราะในหีบทองคำใบย่อมนั้น อัดแน่นไปด้วยแก้ว แหวน เงิน ทอง
หนักประมาณ ๒๐ ชั่ง ด้วยอารามดีใจ คุณอาถึงกับเป็นลมหมดสติแน่นิ่งอยู่ตรงนั้นเอง....*




บันทึกการเข้า

ผู้บริหารเว็บ
คะแนนน้ำใจ 65535
เหรียญรางวัล:
PJ ดีเด่นนักอ่านยอดเยี่ยมผู้ดูแลเว็บ
กระทู้: 18,135
ออฟไลน์ ออฟไลน์
"สาวหวาน กับ ความฝันไม่รู้จบ "
   
« ตอบ #1 เมื่อ: 30 มิถุนายน 2563, 09:24:57 AM »

Permalink: Re: เรื่องสั้นเรื่อง "เสี่ยวผี"
ตาลุกวาว (ไม่ได้ลุกเพราะกลัวผี แต่ลุกเพราะ แก้ว แหวน เงิน ทอง 5555)
บันทึกการเข้า


♪♪♪ รวมบทกลอนน้องจ๋า คลิกค่ะ ...

ขอบคุณทุกภาพจาก Internet และเพลงจากYouTube
หน้า: [1]   ขึ้นบน
 
 
กระโดดไป: