หน้า: [1]   ลงล่าง
 
ผู้เขียน หัวข้อ: ของนี้มีที่มา ตอน จักรยาน....  (อ่าน 1368 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
คะแนนน้ำใจ 1676
เหรียญรางวัล:
ผู้ดูแลบอร์ดมีความคิดสร้างสรรค์นักโพสดีเด่น
กระทู้: 120
ออฟไลน์ ออฟไลน์
หนุ่มภูธร...ผู้ผิดหวังจากการเป็นครู
อีเมล์
   
« เมื่อ: 18 ตุลาคม 2561, 09:08:07 PM »

Permalink: ของนี้มีที่มา ตอน จักรยาน....
....ในสมัยเด็กๆหลายๆท่านคงเคยได้ปั่นจักรยานไปโรงเรียนกันไม่มากก็น้อย หรือสมัยนี้อาจมีบางคนที่ยังนิยมชมชอบในการปั่นจักรยานอยู่ เพราะใช้ง่าย ได้ออกกำลังกายขาด้วยอีกต่างหาก แต่จักรยานมีที่มาอย่างไรละ วันนี้จะมาสาธยายให้รู้กันครับ....

....จักรยานคันแรกของโลกเรานั้นได้สร้างขึ้นในปี พ.ศ. ๒๓๗๗(ค.ศ.๑๘๓๔) โดย Kirkpatrick Mcmillan(เคิร์กแพทริก แมกมิลแลน)ชาวสกอตแลนด์ ได้ดัดแปลงแบบมาจากภาพวาดจักรยานโบราณบนผนังปูน มีอายุประมาณ ๕,๐๐๐ ปีของชาวเมโสโปเตเมีย โดยเป็นรูปยานพาหนะที่มีล้อทำจากไม้หรือหิน....
....เคิร์กแพทริก แมกมิลแลน ได้สร้างรถจักรยานคันแรกขึ้น ซึ่งทำจากไม้ มีล้อหน้าหลังเล็กใหญ่ไม่เท่ากัน มีบันไดถีบที่ล้อหน้า ซึ่งถีบค่อนข้างยาก แต่เขาก็ไม่ได้นำจักรยานของเขาไปจดสิทธิบัตร จึงมีคนสร้างเลียนแบบและพัฒนาให้ถึบง่ายขึ้นเรื่อยมา ภายหลังจึงมีการสร้างรถจักรยานที่มีล้อหน้าและล้อหลังขนาดเท่ากัน มีบันไดถึบคล้องกับโซ่ โยงระหว่างล้อหน้ากับล้อหลัง ทำให้จักรยานนั้นถีบได้ง่ายขึ้น....

....จักรยานได้วิวัฒนาการมาตามลำดับ จนกระทั่งในปี พ.ศ. ๒๔๐๘(ค.ศ.๑๘๖๕) Pierre Michaux และ Pierre Lallement จึงได้ประดิษฐ์จักรยานขึ้นใหม่ โดยมีบันไดถีบเหมือนจักรยานในปัจจุบัน และมีสายโซ่โยงไปยังเพลาล้อหลัง แต่จักรยานในสมัยก่อนยังไม่มีล้อกันสะเทือน จึงทำให้เวลาเคลื่อนที่จะสะเทือนมาก(คนสมัยนั้นคงก้นระบมกันเป็นกิจวัตรแน่นอน 555)

....ต่อมาช่วงปี พ.ศ. ๒๔๒๒-๒๔๒๘(ค.ศ.๑๘๗๙-๑๘๘๕) จักรยานได้ถูกออกแบบใหม่และปรับปรุงให้ดีขึ้นเน้นถึงความปลอดภัยมากขึ้น โดย J.K. Starley มีการอัดลมเข้าไปในยางรถจักรยานเพื่อกันสะเทือน ต่อมาในปี พ.ศ. ๒๔๓๖(ค.ศ.๑๘๙๓) จักรยานที่ใช้ได้ประดิษฐ์ระบบเบรกขึ้น ทำให้รถสามารถหยุดได้ตามต้องการ ในปี พ.ศ. ๒๔๔๑(ค.ศ.๑๘๙๘) มีผู้ออกแบบให้รถมีล้อหน้าและล้อหลัง จนในที่สุดจักรยานก็มีสภาพเหมือนในปัจจุบัน....

...ส่วนประวัติจักรยานในประเทศไทยนั้น ในสมัยรัชกาลที่ ๕ จักรยานได้ถูกนำเข้ามาแพร่หลาย ใช้งานในประเทศไทยเป็นครั้งแรกและมีการประชุมรถจักรยานเป็นครั้งแรกที่วังบูรพาภิรมย์เนื่องในโอกาสที่กรมหลวงพิษณุโลกประชานาถ เสด็จกลับจากยุโรป เมื่อ พ.ศ. ๒๔๔๒ โดยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนิน เมื่อวันที่ ๙ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๔๒ และได้มีการนำจักรยานมาโชว์ด้วย(ซึ่งในสมัยนั้นเราเรียกว่า "ไบซิเคิล"ตามฝรั่งเรียกกัน) จักรยานจึงได้ค่อยๆนิยมใช้ในไทย โดยเริ่มใช้กันในชนชั้งเจ้านายก่อน ต่อมาถึงได้เริ่มแพร่หลายในหมู่สามัญชนจนถึงทุกวันนี้นั่นเอง....

....ข้อมูลน่ารู้ :ณ ปัจจุบัน จักรยานทั่วโลกมีมากกว่า ๑ พันล้านคัน นับได้ว่าจักรยานเป็นยานพาหนะคู่กับชีวิตประจำตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน และจักรยานเป็นสิ่งสำคัญสำหรับหลายท้องที่ทั่วโลกเนื่องจากเป็นยานพาหนะที่ไม่ต้องใช้เชื้อเพลิงน้ำมันหรือแก๊ส ใช้แต่แรงคน ซึ่งทำให้ได้ออกกำลังกายและดีต่อสุขภาพ แถมช่วยลดมลพิษด้วยอีกต่างหาก.....

.....สำหรับวันนี้ก็ขอจบบทความเท่านี้ก่อนนะครับ....สวัสดีครับ
บันทึกการเข้า

รวมบทประพันธ์ของ หนุ่มภูธร ณ ลุ่มน้ำป่าสัก คลิ๊กที่นี่
http://www.khonphutorn.com/index.php/topic,12043.0.html
ขอบคุณทุกภาพจาก Internet และเพลงจาก YouTube
หน้า: [1]   ขึ้นบน
 
 
กระโดดไป: