You are here: Khonphutorn.com - แหล่งข้อมูลของคนไทยหมวดความบันเทิงกาพย์ กลอน โคลง ฉันท์ (ผู้ดูแล: วิชญะ วิชญ์)นิทานเรื่อง แก้วสารพัดนึก ตอน อภินิหารลูกแก้ว ๓
หน้า: [1]   ลงล่าง
 
ผู้เขียน หัวข้อ: นิทานเรื่อง แก้วสารพัดนึก ตอน อภินิหารลูกแก้ว ๓  (อ่าน 2932 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ผู้บริหารเว็บ
คะแนนน้ำใจ 23063
เหรียญรางวัล:
ผู้ดูแลเว็บนักอ่านยอดเยี่ยมผู้ดูแลบอร์ดนักเโพสดีเด่นมีความคิดสร้างสรรค์
กระทู้: 1,949
ออฟไลน์ ออฟไลน์
รักทุกคนที่รักเรา รักทุกคนที่เรารัก
   
« เมื่อ: 21 สิงหาคม 2560, 01:47:38 AM »

Permalink: นิทานเรื่อง แก้วสารพัดนึก ตอน อภินิหารลูกแก้ว ๓



       ..นิทานเรื่อง แก้วสารพัดนึก..
        (อภินิหารลูกแก้ว ตอนที่ ๓)

**เมขลา โดดเดี่ยว แสนเปลี่ยวจิต
ทั้งชีวิต หงอยเหงา เศร้าหวั่นไหว
คนเคยรัก เหินห่าง ลางเลือนไป
ทิ้งทรามวัย หนีจบ ลบลืมกัน

**ทำหน้าที่ เฝ้าห้วง มหาสมุทร
นางเป็นบุตร มังกรการ ธารสวรรค์
คอยช่วยเหลือ มิขอ รอรางวัล
คนจมน้ำ เหล่านั้น พลันบรรเทา

**ใครมีบุญ อุ่นใจ เมื่อได้พบ
ยามประสบ เรือล่ม จมอับเฉา
นางรีบรุด ฉุดชัก หนักเป็นเบา
แล้วพาเข้า หาฝั่ง ยังแผ่นดิน

**มาวันหนึ่ง ซึ้งใจ เมื่อได้พบ
หนุ่มมานพ แห่งเมือง เขื่องเสาหิน
รูปร่างงาม ตามคิด จิตยุพิน
จึงมอบรัก หมดสิ้น มิยินยล

**ยังจำได้ ครั้งนั้น สวรรค์พร่าง
เขาพานาง ล่องเรือ เพื่อฝ่าฝน
ลุยยอดคลื่น ชื่นคล้อง กันสองคน
ล่องไปจน สุดฟ้า นภาลัย

**คลื่นลูกแล้ว ลูกเล่า เข้าถาโถม
เรือถูกโจม ดังครืน ลื่นไถล
หนีพิกัด ลัดทาง ห่างออกไป
ทำให้ใจ หวาดหวั่น ตะครั่นตัว

**นางสำลัก ชักดิ้น เหมือนสิ้นท่า
เงยปากอ้า ร้องลั่น พลันสั่นหัว
โดนพายุ ลูกใหญ่ ทำให้กลัว
กายสั่นรัว รีบกอด ยอดชีวา

**บอกพี่ค่ะ พี่ขา อย่าใจร้อน
หันหัวเรือ หนีก่อน วอนเถิดหนา
น้องจวนเจียน ขาดใจ ในธารา
หยาดน้ำตา ไหลปริ่ม ริมแก้มนาง

**ช่วยกันจับ หางเสือ ดันเรือส่ง
มิให้หลง ทางค้น จนรุ่งสาง
เห็นแสงเหลือง แห่งอรุณ อุ่นสีจาง
ฟ้ากระจ่าง สู่ฝั่ง ได้ดั่งใจ

**พ่อยอดชาย หายหน้า ลับลาจาก
รักที่ฝาก กลางจิต คิดบ้างไหม
น้องว้าวุ่น ขุ่นข้อง หมองหทัย
อยู่ที่ไหน กันเล่า เฝ้ารอเธอ

**ได้มารู้ เรื่องราว นำข่าวสาร
ถึงราหู ชายชาญ พาลพลั้งเผลอ
เนื่องจากดาว ดวงน้อย คอยพบเจอ
จึงฝากสาส์น นำเสนอ เพ้อรำพัน

**ราหูพา เข้าพบ พระอิศวร
ทุกเรื่องล้วน รับฟัง ดังกับฝัน
ว่าลูกแก้ว เรืองฤทธิ์ อิทธิพลัน
ในใจนั้น จึงโลภ ละโมบจ้อง

**รอจังหวะ จะโคน ก่อนโยนพิษ
จนราหู หลับสนิท ปิดสมอง
แอบโขมย แก้วฟ้า เอามาครอง
หวังจับจอง ใจจิต ยอมผิดทาง

**ขอมองส่อง ช่องสาน ผ่านมิติ
อุตริ จริงหนอ ก่อเป็นหาง
เห็นความจริง หมดแล้ว แก้วที่วาง
มานพน้อย เหินห่าง เพราะจางใจ

**นอนร่างกก กายกอด พรอดหญิงอื่น
ทั่วทั้งหน้า ระรื่น ชื่นสดใส
บอกว่ารัก ไยหนี ไปมีใคร
แค้นมากไซร้ ตรมฤดี แสนชีช้ำ

**จะรุนแรง แค่ไหน ในน้ำโห
เมขลา ขาโจ๋ โชว์ขยำ
จะสับย่อย ซอยโยก หรือโขลกตำ
ขอน้อมนำ เสนอต่อ รออีกตอน.

..........*-*..........

เริงอักษร
๒๑ สิงหาคม ๒๕๖๐



บันทึกการเข้า

ผู้บริหารเว็บ
คะแนนน้ำใจ 23063
เหรียญรางวัล:
ผู้ดูแลเว็บนักอ่านยอดเยี่ยมผู้ดูแลบอร์ดนักเโพสดีเด่นมีความคิดสร้างสรรค์
กระทู้: 1,949
ออฟไลน์ ออฟไลน์
รักทุกคนที่รักเรา รักทุกคนที่เรารัก
   
« ตอบ #1 เมื่อ: 21 สิงหาคม 2560, 12:39:07 PM »

Permalink: Re: นิทานเรื่อง แก้วสารพัดนึก ตอน อภินิหารลูกแก้ว ๓



ประวัติของ "เมขลา"

เมขลา หรือ มณีเมขลา เป็นเทพธิดาประจำมหาสมุทร และเป็นนางผู้ถือดวงแก้วล่อให้รามสูรขว้างขวานจนทำให้เกิดฟ้าร้อง แต่นางก็โยนแก้วล่อไปล่อมาทำให้เกิดฟ้าแลบแสบตา ทั้งนี้จาตุมหาราชิกาได้มอบหมายให้คอยช่วยเหลือผู้มีบุญญาที่ตกน้ำ โดยปรากฏในชาดกเรื่อง "พระมหาชนก" ซึ่งเมขลาเข้าช่วยเหลือเจ้าชายมหาชนกจากเรืออัปปาง

ที่มาของชื่อ
เมขลา เป็นภาษาบาลี แปลว่า "สายรัดเอว" หรือ "เข็มขัดสตรี" บ้างว่าหมายถึงจับปิ้ง อันเป็นเครื่องประดับอวัยวะเพศหญิงประเทศไทยใช้ชื่อ "เมขลา" มาตั้งเป็นชื่อของพายุหมุนเขตร้อนในปี พ.ศ. 2548 และ 2551 ตามลำดับ นอกจากนี้ยังใช้เป็นชื่อรางวัลผลงานดีเด่นทางโทรทัศน์ และศูนย์ป้องกันวิกฤตน้ำ
ประวัติ
ตามนิยายพื้นบ้านของไทย ได้ยกเรื่องเมขลามาอธิบายเกี่ยวกับปรากฏการณ์ฟ้าแลบและฟ้าร้อง โดยเล่าว่าเมขลามีแก้ววิเศษประจำตัว รามสูรเห็นดังนั้นก็พอใจในดวงแก้วและความงามของเมขลาจึงเที่ยวไล่จับ เมื่อจับไม่ทันก็เอาขวานขว้างแต่ไม่ถูก เนื่องจากนางใช้แก้วล่อจนมีแสงเป็นฟ้าแลบทำให้รามสูรตาพร่ามัวขว้างขวานไม่ถูก บ้างว่าเป็นเพราะรามสูร เมขลา และพระประชุนมาชุมนุมรื่นเริงกัน พระประชุนคือพระอินทร์ในสมัยพระเวทที่มีหน้าที่ทำให้เกิดพายุฝน พระอินทร์ในหน้าที่นี้เรียกว่า ปรรชันยะ หรือ ปรรชัยนวาต ไทยเรียกเป็นพระประชุน เมื่อมีการชุมนุมรื่นเริงกันของเทพแห่งฝน เมขลาผู้มีดวงแก้วและรามสูรผู้มีขวานจึงทำให้เกิดฟ้าแลบ ฟ้าร้อง ฟ้าผ่า
ในวรรณคดี เฉลิมไตรภพ ได้อธิบายว่า มีพระยามังกรการตนหนึ่งอมแก้วไว้เสมอ จะไปไหนก็เอาดวงแก้วทูนศีรษะไว้ มังกรการได้แปลงเป็นเทวดาไปสมสู่กับนางฟ้ามีบุตรีชื่อ เมขลาเมื่อเจริญวัยขึ้นมีความงามยิ่ง มังกรการได้นำบุตรีและดวงแก้วไปมอบแก่พระอิศวร ครั้งหนึ่งเมขลาได้ขโมยดวงแก้ววิเศษนั้นไป ราหูผู้มีครึ่งตัวเพราะถูกจักรพระนารายณ์เมื่อครั้งแปลงเป็นเทวดาไปดื่มน้ำอมฤต ได้อาสาไปจับเมขลา และได้ชวนรามสูรผู้เพื่อนไปด้วย รามสูรได้ขว้างขวานจนกลายเป็นฟ้าลั่น ดังที่สุนทรภู่ได้แต่งกลอนอธิบายการล่อแก้วของเมขลาและการขว้างขวานของรามสูรไว้ ความว่า
๏ เมขลากล้าแกล้ว      ล่อแก้วแววไว
โยนสว่างเหมือนอย่างไฟ      ปลาบไนยเนตรมาร
๏ หน้ามืดฮืดฮาด      เกรี้ยวกราดโกรธทยาน
แค้นนางขว้างขวาน      เปรี้ยงสท้านโลกา
๏ ฤทธิ์แก้วแคล้วคลาศ      ยิ่งกริ้วกราดโกรธา
โลดไล่ไขว่คว้า      เมขลาล่อเวียน
๏ ยักษ์โถมโจมโจน      นางก็โยนวิเชียร
หลีกลัดฉวัดเฉวียน      ล่อเวียนวงวล
๏ เปรี้ยงเปรี้ยงเสียงขวาน      ก้องสท้านสากล
ไล่นางกลางฝน      มืดมนท์ในเมฆา
๏ นวลนางนั้นช่างล่อ      รั้งรอร่อนรา
เวียนรไวไปมา      ในจักรราศีเอย ๚

ขอบคุณข้อมูลจาก วิกิพีเดีย
https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%82%E0%B8%A5%E0%B8%B2

เริงอักษร

บันทึกการเข้า

ผู้บริหารเว็บ
คะแนนน้ำใจ 23063
เหรียญรางวัล:
ผู้ดูแลเว็บนักอ่านยอดเยี่ยมผู้ดูแลบอร์ดนักเโพสดีเด่นมีความคิดสร้างสรรค์
กระทู้: 1,949
ออฟไลน์ ออฟไลน์
รักทุกคนที่รักเรา รักทุกคนที่เรารัก
   
« ตอบ #2 เมื่อ: 22 สิงหาคม 2560, 12:28:46 AM »

Permalink: Re: นิทานเรื่อง แก้วสารพัดนึก ตอน อภินิหารลูกแก้ว ๓
http://oknation.nationtv.tv/blog/nongjar/2017/08/22/entry-1
 
บันทึกการเข้า

หน้า: [1]   ขึ้นบน
 
 
กระโดดไป: