You are here: Khonphutorn.com - แหล่งข้อมูลของคนไทยหมวดความบันเทิงสาระน่าอ่าน (ผู้ดูแล: Top Gun)นิทานพื้นบ้าน : คนอกตัญญู
หน้า: [1]   ลงล่าง
 
ผู้เขียน หัวข้อ: นิทานพื้นบ้าน : คนอกตัญญู  (อ่าน 1966 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
คะแนนน้ำใจ 661
กระทู้: 193
ออฟไลน์ ออฟไลน์
   
« เมื่อ: 09 มิถุนายน 2556, 12:43:59 PM »

Permalink: นิทานพื้นบ้าน : คนอกตัญญู
.. คนอกตัญญู ..


               กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีชายหนุ่มผู้ยากจนคนหนึ่งท่องเที่ยวโดยไร้จุดหมายจากเมืองหนึ่งไปยังอี เมืองหนึ่งอยู่มาวันหนึ่งในขณะที่เขาเข้าไปยังเมืองเล็กๆ แห่งหนึ่งก็ได้พบกับคนขอทานผู้พิการคนหนึ่งเข้ามาขออาหารกินด้วยความสงสาร เขาก็แบ่งอาหารและน้ำที่พกติดตัวมาให้คนขอทานคนนั้นกิน

                ขณะที่เขาเตรียมตัวจะเดินจากไป ชายขอทานก็จับมือเขาไว้พร้อมกับพูดกับเขาด้วยเสียงอันแหบแห้งว่า “ พ่อหนุ่ม ” เจ้าเป็นคนมีเมตตามากถึงเจ้าจะยากจนก็ยังอุตส่าห์แบ่งอาหาให้เรา เพื่อเป็นการตอบแทนความมีน้ำใจของเจ้า เราจะให้คาถาแก่เจ้าบทหนึ่ง ท่องจำไว้ให้ดีสักวันหนึ่งมันจะเป็นประโยชน์ต่อเจ้า

                ด้วยอำนาจของคาถานี้จะทำให้ชายผู้นั้นสามารถกระตุ้นให้ ผลไม้ทุกชนิดออกผลนอกฤดูกาล ได้แต่ว่าเขาต้องนำน้ำมาขันหนึ่งและเมื่อท่องคาถาแล้วก็ให้เป่าลง ไปบนน้ำนั้นแล้วจึงนำน้ำไปรดโคนต้นไม้ที่ต้องการให้ออกผลอย่างไรก็ดีชายขอ ทาน ได้ตั้งเงื่อนไขไว้ข้อหนึ่งว่าชายหนุ่มผู้นั้นต้องให้ความเคารพอย่างจริงใจ ตลอดชีวิต มิฉะนั้นแล้วคาถานั้นก็จะเสื่อมความคลังลงไปชายหนุ่มรับปากโดยไม่มีเงื่อนไข เขาดีใจมากและหลังจากกราบลาชายขอทานแล้วเขาก็มุ่งหน้าต่อไปยังเมืองอื่นอีก

               อยู่มาวันหนึ่งชายหนุ่มผู้นั้นบังเอิญเดินทางมาถึงเมืองใหญ่แห่งหนึ่ง ซึ่งทหารกำลังป่าวประกาศหาคนผู้ซึ่งสามารถหามะม่วงในฤดูกาลนี้มาถวายพระราชินีผู้ซึ่งกำลังทรงพระครรภ์ได้ก็จะได้รับรางวัลอย่างงาม นื่องจากในช่วงที่ป่าวประกาศนั้นไม่ใช่ฤดูกาลที่มะม่วงจะออกผลจึงไม่มีผู้ใดหามะม่วงมาถวายพระราชินีได้ พระราชินีเองทรงมีพระประสงค์จะเสวยมะม่วงเป็นอย่างมาก

                หลังจากได้ยินคำประกาศ ชายหนุ่มผู้นั้นก็รีบอาสาไปเอามะม่วงมาถวายพระราชินี ในทันทีเขานำน้ำมาหนึ่งขันและหลังจากท่องคาถาแล้วก็เป่าลงไปบนน้ำนั้นแล้วก็บอกทหารให้นำเขาไปยังพระราชอุทยาน เมื่อไปถึงเขาก็เอาน้ำรดลงไปบนรากของต้นมะม่วงแล้วก็บอกให้ทุกคนกลับมาในวันรุ่งขึ้น
                เป็นที่น่าประหลาดใจยิ่งนักที่ในวันรุ่งขึ้นมะม่วงต้นนั้นออกผลเต็มไปหมด พระราชินีทรงดีพระทัยยิ่งหนักที่ได้เสวยมะม่วง พระองค์พระราชทานรางวัลอันมีค่าแก่ชายหนุ่มผู้นั้นและชวนให้เขามาอยู่ในพระนครของพระนาง

                ชายหนุ่มกลับกลายเป็นเศรษฐีเพียงชั่วข้ามคืน เขามีชีวิตความเป็นอยู่อย่างสุขสบายในเมืองนั้นโดยที่ไม่ต้องเร่ร่อนไปยัง เมืองโน้นเมืองนี้อีกต่อไป อย่างไรก็ตามอยู่มาวันหนึ่งพระราชาทรงมีความสงสัยก็เลยตรัสถามชายหนุ่มผู้ นั้นว่าเขาได้คาถานั้นมาอย่างไรและใครเป็นอาจารย์ของเขา เมื่อถูกถามอย่างนี้ เขาเกิดความอายอย่างมากที่จะกราบทูลพระราชาว่า แท้ที่จริงแล้วอาจารย์ของเขาเป็นคนขอทานผู้พิการ ดังนั้นเขาจึงกราบทูลพระราชาไปว่าอาจารย์ของเขาเป็นฤาษีอาศัยอยู่ในป่าไกล

                อีก 2-3 วันต่อมา พระราชินีทรงมีพระประสงค์ที่จะเสวยมะม่วงอีก ดังนั้นพระราชาจึงรับสั่งให้ชายหนุ่มนั้นนำมะม่วงมาถวายพระราชินี และแล้วชายหนุ่มก็เริ่มประกอบพิธีเหมือนอย่างที่เคยทำ แต่ว่าครั้งนี้มะม่วงไม่ยอมออกผลแม้แต่ลูกเดียว พระราชาทรงกริ้วมากละรับสั่งให้ชายหนุ่มผู้นั้นกราบทูลเหตุผลให้ทรงทราบ หลังจากทรงทราบความจริงแล้วพระราชาทรงตำหนิชายอกตัญญูผู้นั้นและทรงขับไล่ ออกจากพระนคร ชายหนุ่มผู้นั้นจึงกลับไปเป็นคนจนเหมือนอย่างเดิม ชายหนุ่มผู้นั้นรู้ดีว่าที่คาถาของเขาเสื่อมลง นั้นเพราะเขาไม่รักษาคำพูดของอาจารย์ของเขานั้นเอง เขารู้สึกเสียใจแต่ก็สายไปแล้วตอนนี้ ดังมีคำขวัญที่ว่า “ อย่าเนรคุณผู้มีบุญคุณ ”






แง่คิด   :    ความอกตัญญูต่อผู้มีพระคุณไม่เคยนำความเจริญมาสู่ผู้ใด




บันทึกการเข้า
หน้า: [1]   ขึ้นบน
 
 
กระโดดไป: