หน้า: [1]   ลงล่าง
 
ผู้เขียน หัวข้อ: ไวรัสตับอักเสบ C  (อ่าน 4310 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ผู้บริหารเว็บ
คะแนนน้ำใจ 65535
เหรียญรางวัล:
PJ ดีเด่นนักอ่านยอดเยี่ยมผู้ดูแลเว็บ
กระทู้: 18,134
ออฟไลน์ ออฟไลน์
"สาวหวาน กับ ความฝันไม่รู้จบ "
   
« เมื่อ: 09 พฤษภาคม 2556, 08:57:38 AM »

Permalink: ไวรัสตับอักเสบ C







การตรวจการทำงานของตับ ตับอักเสบ ไขมันพอกตับ


พอรู้จัก ไวรัสตับอักเสบ ซี Hepatitis C กันบ้างไหมคะ

คงพอคุ้นเคยกับไวรัสตับอักเสบ บี แต่ถ้าได้ติดตามโรคตับอักเสบท่านจะพบว่า
ไวรัสตับอักเสบ ซี เพิ่มขึ้นเนื่องจากพบได้บ่อยมากขึ้น พบได้ประมาณ 1-2% ของคนที่มาบริจาคเลือด
 หลังเป็นตับอักเสบแล้ว ก็มีแนวโน้มจะเป็นตับอักเสบเรื้อรัง  20%
ของผู้ป่วยตับอักเสบเรื้อรังชนิด ซี จะเป็นตับแข็งภายใน 10-20 ปี บางส่วนกลายเป็นมะเร็งตับ

ปัจจัยเสี่ยงและการติดต่อ
ไวรัสตับอักเสบ ซี ติดต่อทางเลือด การใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน แต่มีผู้ป่วยบางท่านได้รับเชื้อโดย
ไม่ทราบแหล่งที่มาปัจจัยเสี่ยงได้แก่

•ผู้ที่เคยได้รับเลือด และ สารเลือดก่อนปี คศ 1992 เนื่องจากยังไม่มีการตรวจหาเชื้อไวรัสตับอักเสบ ซี•
เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ที่ได้รับอุบัติเหตุถูกเข็มตำ
•ผู้ป่วยติดยาเสพติดใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน
•ทารกที่เกิดจากแม่ที่มีเชื้อ ไวรัสตับอักเสบ ซี พบได้ร้อยละ 5
•ผู้ที่สำส่อนทางเพศ หรือ รักร่วมเพศ
•ไดรับเชื้อจากการสักตามตัวกิจกรรมต่อไปนี้ไม่ทำให้เกิดการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ ซี

•การให้นมบุตร
•การจามหรือไอ
•อาหารหรือน้ำ
•การใช้ถ้วยชามร่วมกันอาการของผู้ป่วย

ผู้ที่เป็นตับอักเสบ ซี เรื้ออาจจะไม่มีอาการ หรือมีอาการแต่ไม่มาก อาการที่พบได้คือ

•อ่อนเพลีย
•เบื่ออาหาร
•คลื่นไส้อาเจียน
•ปวดชายโครงขวา
•ปวดกล้ามเนื้อและ ปวดข้อสำหรับผู้ป่วยที่เป็นเรื้อรังและกลายเป็นตับแข็งจะมีอาการ

•ตับ ม้ามโต
•ตัวเหลืองตาเหลือง
•กล้ามเนื้อลีบ
•ท้องมาน
•เท้าบวม

การเจาะเลือดตรวจ

•Anti-HCVโดยวิธี enzyme immunoassay (EIA) ถ้าเจอแสดงว่าเป็นไวรัสตับอักเสบ ซี
•HCV RNA โดยวิธี polymerase chain reaction (PCR) ถ้าให้ผลบวกแสดงว่าเป็นไวรัสตับอักเสบ ซี
•เจาะเลือดตรวจการทำงานของตับพบว่ามีการอักเสบของตับ
•บางรายต้องตรวจโดยการเจาะชิ้นเนื้อตับเพื่อการวินิจฉัยการวินิจฉัย

•ไวรัสตับอักเสบเฉียบพลัน โดยการเจาะเลือดตรวจการทำงานของตับพบว่ามีการอักเสบ
 และตรวจพบ Anti-HCV หรือ HCV-RNAในเลือด บางรายที่ตรวจไม่เจอในระยะแรก
อาจจะต้องตรวจซ้ำอีก 2-8 สัปดาห์
•ตับอักเสบเรื้อรัง ซี วินิจฉัยโดยพบว่ามีการอักเสบของตับมากกว่า 6 เดือน
ร่วมกับการตรวจพบ HCV -RNAการรักษา

•โดยการให้ alpha interferon
•ให้ยาสองขนานคือ  alpha interferon and ribavirin.
•ควรไดรัการฉีดวัคซีนป้องกันตับอักเสบ เอ และ บีผู้ป่วยไวรัสตับอัเสบ ซีรายใดที่ควรได้รับการรักษา

•มีเชื้อไวรัสตับอักเสบ ซี และ มีการเพิ่มของ SGOT,SGPT
และผลการเจาชิ้นเนื้อตับพบว่ามีการอักเสบ
 และไม่มีข้อห้ามการให้ยา

•ผู้ป่วยที่มีตับแข็งต้องไม่มี ตัวเหลืองตาเหลือง ท้องมาน เส้นเลือดในหลอดอาหารโป่งพอง
•อายุ น้อยกว่า60 ปีผู้ป่วยไวรัสตับอัเสบ ซีรายใดที่ไม่ควรได้รับการรักษา

•โรคตับแขงและมีโรคแทรกซ้อน
•ผลเลือด SGOT,SGPT ปกติ
•มี ตับ ไต หัวใจวาย
•มีข้อห้ามในการให้ยาข้อห้ามในการให้ยา interferon

ผู้ป่วยซึมเศร้า ติดยา ติดสุรา autoimmune disease
โรคไขกระดูก ไม่สามารถคุมกำเนิด

ผลข้างเคียงของยา interferon

ผู้ป่วยจะมีอาการเหมือนไข้หวัด ไข้ ปวดตามตัว ปวดหัวในระยะแรก
ระยะหลังอาจมีอาการเหนื่อยหอบ ผมร่วง เม็ดเลือดขาวต่ำ ซึมเศร้า
จะมีผู้ป่วยจำนวนน้อยที่เกิดอาการข้างเคียงอย่างรุนแรง เช่น โรคธัยรอยด์
ชัก หัวใจ และไตวาย นอกจากนั้นยังทำให้ตับอักเสบด้วย

วิธีป้องกันตับไวรัสอักเสบ ซี

•ห้ามใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน
•ให้สวมถุงมือถ้าต้องสัมผัสเลือด
•ห้ามใช้มีดโกนหนวด แปรงสีฟันร่วมกัน
•ห้ามใช้อุปกรณ์ในการสักร่วมกัน
•ให้ใช้ถุงยางคุมกำเนิดถ้าหากมีเพศสัมพันธ์หลายคน
•ถ้าคุณเป็นตับอักเสบ ซีห้ามบริจาคเลือด
ใครควรได้รับการเจาะเลือดตรวจหาเชื้อไวรัสตับอักเสบ ซี

•ผู้ป่วยที่ฉีดยาเสพติดเข้าเส้น
•ผู้ป่วยที่เคยได้เลือด และสารประกอบของเลือดก่อนปี คศ.1992
•ผู้ป่วยที่ฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม
•ผู้ป่วยที่เจาะเลือดพบว่ามีตับอักเสบ
•เจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่ถูกเข็มตำ
•เด็กที่เกิดจากแม่ที่มีเชื้อไวรัสตับอักเสบ ซี

หากท่านมีเชื้อไวรัสตับอักเสบ ซี
แพทย์จะวางแผนการรักษาอย่างไร

ผู้ป่วยที่มีเชื้อไวรัสตับอักเสบ ซี บางรายเมื่อตรวจเลือด
จะพบว่าค่า SGOT,SGPT ปกติ
แพทย์จะนัดตรวจเลือดอีกครั้ง 6-12 เดือน

คนท้องสมควรตรวจหาไวรัสตับอักเสบ ซีหรือไม่

ไม่ควรเนื่องจากคนท้องไม่ได้มีแัตราการติดเชื้อมากกว่าคนทั่วไป
 นอกจากว่าคนนั้นจะมีปัจจัยเสี่ยงดังกล่าว

เด็กที่เกิดจากแม่ที่มีเชื้อไวรัสตับอักเสบ ซี สมควรเจาะเลือดหาเชื้อหรือไม่

ไม่ควรเจาะก่อนอายุ 12 เดือนเนื่องจากเชื้อจากแม่ยังไม่หมด


ผู้ป่วยที่มีไวรัสตับอักเสบ ซี จะป้องกันการอักเสบของตับอย่างไร

•งดสุรา
•พบแพทย์ตามนัด
•ก่อนใช้ยา หรือสมุนไพรควรปรึกษาแพทย์
•ฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบ เอ บี
 
 อ้างอิง จาก  Siamhealth
 
บันทึกการเข้า


♪♪♪ รวมบทกลอนน้องจ๋า คลิกค่ะ ...

ขอบคุณทุกภาพจาก Internet และเพลงจากYouTube
ผู้บริหารเว็บ
คะแนนน้ำใจ 65535
เหรียญรางวัล:
PJ ดีเด่นนักอ่านยอดเยี่ยมผู้ดูแลเว็บ
กระทู้: 18,134
ออฟไลน์ ออฟไลน์
"สาวหวาน กับ ความฝันไม่รู้จบ "
   
« ตอบ #1 เมื่อ: 08 กุมภาพันธ์ 2557, 10:51:23 AM »

Permalink: Re: ไวรัสตับอักเสบ C
 e103
บันทึกการเข้า


♪♪♪ รวมบทกลอนน้องจ๋า คลิกค่ะ ...

ขอบคุณทุกภาพจาก Internet และเพลงจากYouTube
คะแนนน้ำใจ 3
กระทู้: 1
ออฟไลน์ ออฟไลน์
อีเมล์
   
« ตอบ #2 เมื่อ: 02 มีนาคม 2558, 05:55:23 PM »

Permalink: Re: ไวรัสตับอักเสบ C
ตรวจกันบ่อยๆนะครับ ไม่ก็ 2 ปีทีก็ดีครับ
บันทึกการเข้า
ผู้บริหารเว็บ
คะแนนน้ำใจ 65535
เหรียญรางวัล:
PJ ดีเด่นนักอ่านยอดเยี่ยมผู้ดูแลเว็บ
กระทู้: 18,134
ออฟไลน์ ออฟไลน์
"สาวหวาน กับ ความฝันไม่รู้จบ "
   
« ตอบ #3 เมื่อ: 02 มีนาคม 2558, 07:16:41 PM »

Permalink: Re: ไวรัสตับอักเสบ C
 e103
บันทึกการเข้า


♪♪♪ รวมบทกลอนน้องจ๋า คลิกค่ะ ...

ขอบคุณทุกภาพจาก Internet และเพลงจากYouTube
หน้า: [1]   ขึ้นบน
 
 
กระโดดไป: