หน้า: [1]   ลงล่าง
 
ผู้เขียน หัวข้อ: ปวดขา มีสาเหตุมากกว่าที่คิด  (อ่าน 1450 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หัวใจ..มีไว้เพื่อรัก
คะแนนน้ำใจ 3667
เหรียญรางวัล:
นักอ่านยอดเยี่ยม
กระทู้: 310
ออฟไลน์ ออฟไลน์
   
« เมื่อ: 15 ธันวาคม 2558, 07:55:17 AM »

Permalink: ปวดขา มีสาเหตุมากกว่าที่คิด




ปวดขามีสาเหตุมากกว่าที่คิด

เชื่อไหมว่าหากนำ "เส้นเลือดแดง" ในตัวคนมาต่อกัน จะได้ความยาวมากกว่าระยะทางรอบโลกเสียอีก...
ตลอดความยาวอันน่าทึ่ง ภายในผนังเส้นเลือดแดงคือกล้ามเนื้อเล็กๆ ที่ไม่เคยหยุดส่งเลือดไปเลี้ยงอวัยวะต่างๆ
ตราบใดที่เส้นเลือดแดงยังทำงานเป็นปกติ เจ้าของร่างกายก็จะยังไม่รู้สึกผิดแปลกอะไร
ต้องให้เกิดปัญหาการตีบตันขึ้นภายในหลอดเลือดเสียก่อน
 เราจึงจะรู้สึกถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับอวัยวะที่ไม่ได้รับเลือดไปเลี้ยง

"เส้นเลือดแดงที่ขา" เป็นอีกจุดที่เกิดการตีบตันได้บ่อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในคนที่เป็นโรคหัวใจ
 เบาหวาน มีความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง หรือเคยสูบบุรี่จัด รวมทั้งคนอ้วน
จะยิ่งมีโอกาสเป็นโรคหลอดเลือดแดงที่ขาตีบตันได้ง่าย

แค่ปวดขา หรือเป็นโรคหลอดเลือด
อาการที่เริ่มบอกว่าเส้นเลือดแดงอาจมีการอุดตัน ได้แก่ อาการปวดน่อง ปวดเท้า หรือปวดขา
หลังจากเดินหรือออกกำลังกาย และจะดีขึ้นเมื่อได้พัก อาการเช่นนี้เรียกว่า Claudication
ซึ่งเป็นการปวดเพราะกล้ามเนื้อขาดเลือด แต่เนื่องจากเป็นอาการปวดที่เมื่อได้พักแล้วหาย
จึงทำให้คนไข้คิดว่าตัวเองไม่ได้เป็นอะไรมาก และมักแก้ไขด้วยการหายามาถูนวด ยิ่งถ้าหากไปหาหมอ
 แล้วคุณหมอไม่ได้ตรวจอย่างละเอียดหรือไม่ได้คลำชีพจรที่เท้า
ก็อาจไม่ทราบว่าโรคที่เกิดคือ "โรคหลอดเลือดแดงส่วนปลาย" (Peripheral artery disease: PAD)
แต่อาจวินิจฉัยว่าเป็นโรคข้อ หรือโรคปวดเมื่อยตามประสาคนแก่ก็เป็นได้

อาการปวดขาจากโรคหลอดเลือดแดงส่วนปลายนี้ หากปล่อยทิ้งไว้จนเส้นเลือดตีบตันมากขึ้นอาจทำให้เท้าชา เย็น
 ยิ่งถ้าผู้ป่วยเป็นโรคเบาหวานอยู่แล้ว ก็อาจเกิดแผลที่รักษาไม่หาย ถ้าเป็นมากๆ อาจถึงขั้นมีลิ่มเลือดมาอุดตัน
จนทำให้เกิดอาการขาดเลือดมาเลี้ยงฉับพลัน หากแก้ไขไม่ทันจะทำให้กล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อที่เท้าข้างนั้นตาย
 จนนำเป็นต้องตัดเนื้อเยื่อ ตัดนิ้ว หรือตัดเท้าตัดขาทีเดียว เนื่องจากถ้าทิ้งไว้พิษจากเนื้อตายจะซึมเข้ากระแสเลือด
ลามไปทั่วร่างกายได้

หลอดเลือดอุดตันป้องกันได้
การป้องกันอาการหลอดเลือดแดงอุดตันลุกลามเริ่มต้นด้วยการตรวจร่างกาย
 โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณมีอาการที่น่าสงสัย เช่น ปวดเท้า หรือปวดน่องจากการเดินมากๆ
หรือมีความเสี่ยงจากอาการ 4-5 อย่างที่ได้กล่าวมาแล้ว ก็ควรเข้ารับการตรวจด้วยเครื่องมือ
วัดความแข็งตัวของหลอดเลือดแดงที่เรียกว่า ABI

การตรวจพบแต่เนิ่นๆ จะทำให้คุณสามารถดูแลตัวเองอย่างถูกต้องเพื่อป้องกันไม่ได้เป็นหนักขึ้น
ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว การดูแลตัวเองไม่ได้ยุ่งยากอะไร เบื้องต้นก็คือการออกกำลังกายกล้ามเนื้อขาเป็นประจำ
 เช่น เดินเร็วๆ หรือวิ่งเหยาะๆ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 วัน วันละ 30 นาที ส่วนผู้มีน้ำหนักเกินควรลดน้ำหนัก
ควบคุมอาหาร รวมทั้งดูแลโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ความดัน หรือไขมันสูง ควบคู่กันไปด้วย
เพียงเท่านี้ก็พอจะช่วยป้องกันไม่ให้อาการเส้นเลือดตีบรุนแรงขึ้นได้

ที่สำคัญ อย่าลืมว่า หากคุณมีอาการชวนสงสัยว่าจะเกิดจากหลอดเลือดขอดหรือตีบ ต้องปรึกษาแพทย์

ที่มา  ศูนย์หลอดเลือด รพ.หัวใจกรุงเทพ

บันทึกการเข้า
หน้า: [1]   ขึ้นบน
 
 
กระโดดไป: