-/> ส้นตีน...แตก

หน้า: [1]   ลงล่าง
 
ผู้เขียน หัวข้อ: ส้นตีน...แตก  (อ่าน 2955 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ผู้บริหารเว็บ
คะแนนน้ำใจ 65535
เหรียญรางวัล:
PJ ดีเด่นนักอ่านยอดเยี่ยมผู้ดูแลเว็บ
กระทู้: 18,136
ออฟไลน์ ออฟไลน์
"สาวหวาน กับ ความฝันไม่รู้จบ "
   
« เมื่อ: 21 พฤษภาคม 2558, 07:07:04 AM »

Permalink: ส้นตีน...แตก




ส้นเท้าแตก



เท้าถือเป็นอวัยวะหนึ่งที่สำคัญมากซึ่งเราต้องใช้เรียกได้ว่าแทบจะตลอดเวลาตั้งแต่เช้าจรดค่ำเลยทีเดียว
ดังนั้น จึงอาจเป็นสาเหตุทำให้เกิดอาการส้นเท้าแตกได้ ซึ่งเป็นปัญหาที่ใครหลายๆคนต่างประสบพบเจอ
และทำให้รู้สึกแย่ทุกครั้งที่มองส้นเท้าของตนเองจนทำให้เสียบุคลิกภาพ ฉะนั้นหากเกิดอาการส้นเท้าแตกควรรีบไปรักษา
 อย่าปล่อยเอาไว้ให้มันลุกลามจนแก้ไขได้ยาก

ส้นเท้าแตกคืออะไร
ส้นเท้าแตกเป็นภาวะที่หนังกำพร้าบริเวณส้นเท้าขาดความชุ่มชื้น แห้ง แตกลายงา เพราะส้นเท้านั้นเป็นบริเวณที่ค่อนข้างหนา
และต้องรับน้ำหนักตัวของเรา แถมต้องใช้งานเกือบตลอดทั้งวัน โดยเฉพาะในคนอ้วนมักประสบพบเจอภาวะส้นเท้าแตก
ได้ง่ายกว่าคนผอม รวมทั้งผู้ที่ชอบเดินเท้าเปล่าไม่ใส่รองเท้าไปย่ำกับพื้นแข็งๆ
ตลอดจนกรรมพันธุ์ก็เป็นสาเหตุหนึ่งของภาวะส้นเท้าแตกได้เช่นเดียวกัน
อาการของส้นเท้าแตก
ในระยะแรกนั้นส้นเท้ามักจะเริ่มบวมแดง เมื่อปล่อยทิ้งไว้นานเข้าก็จะเริ่มแตกเป็นรอยเล็กๆ และเริ่มมีร่องลึก
หรืออาจถึงขั้นแตกเป็นรอยเลือดและแสบจนเดินไปไหนไม่ได้เลยทีเดียว ดังนั้น อย่าได้นิ่งนอนใจคิดว่า
เป็นเพียงเรื่องเล็กๆกับอาการส้นเท้าแตก เพราะหากปล่อยไว้เนิ่นนานจะสร้างความทรมานบั่นทอนจิตใจได้
สาเหตุของอาการส้นเท้าแตก
เนื่องด้วยภาวะอากาศประเทศไทยเป็นเมืองร้อนทำให้เรามักชอบใส่รองเท้าแตะ หรือรองเท้าแบบเปิดส้น
เพื่อให้เท้าไม่อับชื้น แถมยังชอบเดินไปมาในบ้านด้วยเท้าเปล่า ซึ่งด้วยความแข็งของพื้น
ประกอบกับความเย็นที่สัมผัสเป็นเหตุให้ผิวหนังบริเวณส้นเท้าแห้ง ตลอดจนคนอ้วนที่น้ำหนักตัวเยอะ
 ทำให้เท้าได้รับแรงกระแทกมากขึ้น และการเลือกสวมใส่รองเท้าที่คุณภาพไม่ได้มาตรฐาน
ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้บริเวณส้นเท้าเกิดการหนาตัวขึ้นและแตกได้ง่ายขึ้นด้วย






การรักษาอาการส้นเท้าแตก
- แช่เท้าในน้ำอุ่นประมาณ 15 นาทีก่อนนอนทุกคืน ประมาณ 2 – 3 สัปดาห์ จากนั้นถูส้นเท้าที่แตกเบาๆ
เพื่อให้เซลล์ผิวที่ตายแล้วหลุดลอกออกไป แล้วเช็ดเท้าให้แห้งและทาครีมให้ความชุ่มชื้น
- อาจลองนำเปลือกกล้วยหอมมาถูบริเวณส้นเท้าแตกเบาๆ ประมาณ 10 นาที โดยกรดในเปลือกกล้วย
จะช่วยลอกผิวที่แตกและช่วยสมานผิวไปในตัว ลองทำดูนะคะ สัปดาห์ละประมาณ 2 – 3 ครั้ง
- ก่อนนอนควรสวมถุงเท้านอนเป็นการรักษาความชุ่มชื้นให้คงอยู่
- ควรใส่รองเท้าปิดส้นระหว่างที่อาการส้นเท้าแตกยังไม่หาย
- ทาครีมให้ความชุ่มชื้นบริเวณส้นเท้าแตกเป็นประจำทุกวันและทุกคืน หรือทาได้บ่อยครั้งเท่าที่ต้องการ
- หากรักษาในเบื้องต้นแล้วอาการยังไม่ดีขึ้น หรือถึงขั้นส้นเท้าแตกเป็นรอยเลือดและแสบ ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อทำการรักษาทันที






วิธีการป้องกันส้นเท้าแตก
- ขณะอยู่ในบ้านหรือออฟฟิศควรใส่รองเท้า อาจหารองเท้าขนสัตว์นุ่มๆ มาสวมใส่ เพื่อลดแรงกระแทกของเท้า
และป้องกันความเย็นที่อาจทำให้ส้นเท้าสูญเสียความชุ่มชื้นไป
- ควรหมั่นทาครีมบนส้นเท้าเป็นประจำเพื่อป้องกันส้นเท้าแตก
- ควรเลือกรองเท้าให้เหมาะกับรูปเท้าของคุณ ไม่คับหรือหลวมจนเกินไป รวมทั้งพื้นไม่แข็ง
ลงทุนหาแบบมีคุณภาพมาใส่จะดีกว่าเพื่อเท้าสวยๆ ของคุณนะคะ
- ควรใส่ถุงเท้าเวลานอนเป็นประจำ
- ควรลดน้ำหนัก (หากอ้วน) ทำให้ส้นเท้าไม่ต้องรับน้ำหนักมากเกินไป






รู้อย่างนี้แล้วเริ่มหันมาใส่ใจกับสุขภาพเท้าของคุณตั้งแต่วันนี้นะคะ
ก่อนที่จะสายเกินไป เพราะหากส้นเท้าแตกก็อาจส่งผลให้บุคลิกของคุณดูแย่ลงได้ ดังนั้น การป้องกันส้นเท้าแตก
ก็ถือเป็นเรื่องที่คุณๆควรใส่ใจเพียงเท่านี้ ปัญหาส้นเท้าแตกก็ห่างไกลไม่มารบกวนใจคุณอีกต่อไปแล้ว





ที่มา  ..  





บันทึกการเข้า


♪♪♪ รวมบทกลอนน้องจ๋า คลิกค่ะ ...

ขอบคุณทุกภาพจาก Internet และเพลงจากYouTube
ผู้บริหารเว็บ
คะแนนน้ำใจ 65535
เหรียญรางวัล:
PJ ดีเด่นนักอ่านยอดเยี่ยมผู้ดูแลเว็บ
กระทู้: 18,136
ออฟไลน์ ออฟไลน์
"สาวหวาน กับ ความฝันไม่รู้จบ "
   
« ตอบ #1 เมื่อ: 16 กุมภาพันธ์ 2564, 07:12:56 PM »

Permalink: Re: ส้นตีน...แตก
1031
บันทึกการเข้า


♪♪♪ รวมบทกลอนน้องจ๋า คลิกค่ะ ...

ขอบคุณทุกภาพจาก Internet และเพลงจากYouTube
หน้า: [1]   ขึ้นบน
 
 
กระโดดไป: