
เปรตวัดสุทัศน์
เสียงหวีดหวิวทิวไม้ส่ายโยกลม
น้ำค้างพรมดึกสงัดหมาวัดหอน
สองขี้เมาเขย่ากายหายง่วงนอน
จากพักผ่อนกายาศาลาคอย
วัดสุทัศน์สงัดเหลือเมื่อคราก่อน
หากจะย้อนเวลามาเสียหน่อย
เสาชิงช้าหน้าโบสถ์พราหมณ์ตามร่องรอย
มากเกินร้อยปีข้ามนับตามกาล
ตามถนนหนทางแทบร้างคน
กลัวผจญสิ่งเล่าเขาขับขาน
มันสยองพองขนคนเหมือนมาร
คงสืบสานอสุรกายคล้ายเปรตอิง
ถิ่นที่พบสบเหตุอยู่เขตวัด
นามสุทัศน์เจอะเจอจนเยอะยิ่ง
หลากหลายตัวกลัวนักประจักษ์จริง
พบเป็นวิ่งหนีห่างร้องครางครวญ
กลิ่นสาบสางบางเบาเข้าจมูก
สองชายถูกปลุกนั่งฟังลมหวล
ดังหวีดแว่วแผ่วเสียงสำเนียงกวน
โสตให้ชวนสยองขวัญประหวั่นแคลง
กลิ่นรุนแรงแห้งโหยโชยมาถูก
ซึมซาบปลูกกังวลสองคนแช่ง
เสียงผิวปากหลากหวีดที่กรีดแซง
พลันสำแดงแห่งตัวให้กลัวลาน
มันสูงเท่าเสาชิงช้าตั้งหน้าโบสถ์
ตาลโตนดพอเปรียบเทียบสัณฐาน
ลิ้นห้อยยาวราวหิวเลือดไม่ปาน
ไข่ของห่านเล็กกว่าลูกตามัน
มือโตใหญ่ไกวกวัดสะบัดตบ
สองหนุ่มหลบวูบกายเตรียมผายผัน
อยู่ไม่ได้ตายแน่จะแย่กัน
โดดหนีทันหวั่นปลิดชีวิตวาย
อรรถกถาบาลีที่ไขความ
เป็นเปรตตามบาปนำที่ทำหลาย
ด้วยด่าทอพ่อแม่และทำลาย
เมื่อชีพวายกลายเปรตทุเรศมอง
วันปีย์