การร้องขอตั้งผู้จัดการมรดก
ศาลแพ่งมีนโยบายอำนวยความสะดวกให้ประชาชน ในคดีร้องขอตั้งผู้จัดการมรดก โดยจัดนิติกรบริการ
ให้คำปรึกษาและทำคำร้อง ทั้งนี้ศาลแพ่งได้จัดตั้งคณะจัดการพิเศษ เพื่อนำคดีร้องขอตั้งผู้จัดการมรดกกรณีที่ไม่มี ผู้คัดค้าน
หรือไม่มีข้อพิพาทแยกมาพิจารณา ไต่สวนเพื่อให้เกิดความสะดวกรวดเร็ว
โดยผู้ร้องสามารถรับคำสั่งตั้งผู้จัดการมรดกได้ภายใน วันไต่สวน
ความหมายของมรดก มรดก คือ ทรัพย์สินทุกชนิดของผู้ตายที่มีอยู่ก่อนถึงแก่ความตายรวมทั้งสิทธิ หน้าที่และความรับผิดต่าง ๆ
เช่น กรรมสิทธิ์ในที่ดิน รถยนต์ ห้องชุด สิทธิการเช่าซื้อ ทรัพย์สินต่างๆ เงินฝากในธนาคาร ส่วนเงินบำเหน็จบำนาญ
เงินฌาปนกิจสงเคราะห์ และเงินประกันชีวิตของผู้ตายไม่เป็นมรดก
ความหมายของผู้จัดการมรดก ผู้จัดการมรดก คือ บุคคลซึ่งศาลมีคำสั่งตั้งให้เป็นผู้จัดการมรดก เพื่อทำหน้าที่รวบรวม ทำบัญชี
และแบ่ง มรดกให้ทายาทผู้มีสิทธิรับมรดกของผู้ตาย
เหตุที่ร้องขอตั้งผู้จัดการมรดก ๑. เมื่อเจ้ามรดกถึงแก่ความตาย ทายาทโดยธรรมหรือผู้รับพินัยกรรมสูญหายหรืออยู่ต่างประเทศ หรือเป็นผู้เยาว์
๒. เมื่อผู้จัดการมรดกหรือทายาทโดยธรรม ไม่สามารถหรือไม่เต็มใจจัดการมรดก หรือมีเหตุขัดข้องในการ
จัดการมรดกหรือแบ่งมรดก
๓. เมื่อข้อกำหนดตามพินัยกรรมซึ่งตั้งผู้จัดการมรดกไม่มีผลบังคับ
ผู้มีสิทธิยื่นคำร้องขอตั้งผู้จัดการมรดก ๑. ทายาทโดยธรรมหรือผู้รับพินัยกรรม
๒. ผู้มีส่วนได้เสียในมรดก
๓. พนักงานอัยการ
คุณสมบัติของผู้จัดการมรดก ๑. บรรลุนิติภาวะ ( มีอายุ ๒๐ ปีบริบูรณ์ )
๒. ไม่เป็นคนวิกลจริต
๓. ไม่เป็นคนไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ความสามารถ
๔. ไม่เป็นคนล้มละลาย
หน้าที่ของผู้จัดการมรดก ผู้จัดการมรดกมีสิทธิและหน้าที่ที่จะทำการอันจำเป็นเพื่อจัดการมรดกโดยทั่วไปและ มีหน้าที่รวบรวมมรดก
เพื่อแบ่งให้ทายาทโดยธรรมหรือผู้รับพินัยกรรม ตลอดจนชำระหน ี้สินของเจ้ามรดกแก่เจ้าหนี้ ทำบัญชีมรดกและทำรายการ
แสดงบัญชีการจัดการและแบ่ง มรดก โดยต้องจัดการไปในทาง ที่เป็นประโยชน์แก่มรดก จะทำนิติกรรมใดๆที่เป็น ปรปักษ์ต่อมรดกไม่ได้
หากผู้จัดการมรดกละเลยไม่ทำการตามหน้าที่ เช่น ปิดบังมรดกต่อทายาท หรือเพิกเฉยไม่ แบ่งมรดกให้ทายาท
ทายาทผู้มีสิทธิรับมรดกหรือผู้มีส่วนได้เสียจะร้องขอให้ ศาลมีคำสั่ง ถอนผู้จัดการมรดก
เพราะเหตุผู้จัดการมรดกละเลยไม่ทำตามหน้าที่หรือเพราะเหตุอย่าง อื่นที่สมควรก็ได้
เขตอำนาจที่ศาลแพ่งให้บริการ การบริการให้คำปรึกษาและทำคำร้องขอตั้งผู้จัดการมรดกของศาลแพ่ง ต้องเป็นกรณีที่ผู้ตาย
มีภูมิลำเนาอยู่ในเขตอำนาจศาลแพ่งขณะถึงแก่ความตาย หรือกรณีที่ผู้ตายไม่มีภูมิลำเนา ในประเทศไทย
แต่มีมรดกอยู่ในเขตอำนาจศาลแพ่ง ดังนี้คือ
๑. เขตจตุจักร
๒. เขตดอนเมือง
๓. เขตดินแดง
๔. เขตดุสิต
๕. เขตบางกะปิ
๖. เขตบางเขน ( เฉพาะแขวงอนุสาวรีย์ )
๗. เขตบางซื่อ
๘. เขตบึงกุ่ม ( เฉพาะแขวงคลองกุ่ม ,นวลจันทร์, นวมินทร์)
๙. เขตพญาไท
๑๐. เขตพระนคร
๑๑. เขตราชเทวี
๑๒. เขตลาดพร้าว ( เฉพาะแขวงลาดพร้าว )
๑๔. เขตสายไหม ( เฉพาะแขวงคลองถนน )
๑๓. เขตวังทองหลาง
๑๕. เขตหลักสี่
๑๖. เขตห้วยขวาง
วิธีการยื่นคำร้องขอเป็นผู้จัดการมรดก ๑. ยื่นโดยทนายความ
๒. ยื่นโดยพนักงานอัยการ
๓. ยื่นโดยผู้ร้องมาใช้บริการที่งานจัดการมรดกศาลแพ่ง
ระยะเวลาในการดำเนินการ
เมื่อทำคำร้องและยื่นคำร้องขอเป็นผู้จัดการมรดก แล้วจะนัดไต่สวนคำร้องประมาณ ๕๐ วัน
ในวันนัดไต่สวนคำร้องใช้เวลาประมาณ ๒๐ นาที หลังจากไต่สวนคำร้องเสร็จ
ผู้ร้องสามารถขอคัดสำเนาคำสั่งตั้งผู้จัดการมรดกและรับคำ สั่งดังกล่าวไปดำเนินการตามความประสงค์ได้ทันที
ลำดับคำถามในการไต่สวนคำร้อง ๑. ความสัมพันธ์ระหว่างผู้ร้องกับผู้ตาย
๒. วันที่ผู้ตายถึงแก่ความตาย สาเหตุการตาย และภูมิลำเนาของผู้ตาย
๓. มรดกของผู้ตาย
๔. เหตุขัดข้องในการจัดการมรดก
๕. บัญชีทายาท
๖. ความยินยอมของทายาท
๗. คุณสมบัติของผู้ที่จะเป็นผู้จัดการมรดก
ค่าใช้จ่ายในการร้องขอจัดการมรดก ศาลแพ่งไม่คิดค่าใช้จ่ายในการขอคำปรึกษาเกี่ยวกับการร้องขอตั้งผู้จัดการมรดก และทำคำร้องขอตั้ง
ผู้จัดการมรดกแต่อย่างใด โดยผู้ร้องจะเสียค่าใช้จ่ายดังนี้
๑. ค่าใช้จ่ายในวันทำคำร้องและยื่นคำร้อง - ค่าขึ้นศาล จำนวน ๒๐๐ บาท
- ค่าประกาศหนังสือพิมพ์ให้ผู้มีส่วนได้เสียทราบ จำนวน ๕๐๐ บาท
๒. ค่าใช้จ่ายในวันนัดไต่สวนคำร้อง - ค่าถ่ายเอกสารคำสั่งตั้งผู้จัดการมรดก หน้าละ ๒ บาท
- ค่ารับรองสำเนาคำสั่งแต่งตั้งผู้จัดการมรดก ฉบับละ ๕๐ บาท
การพิจารณาคดีจัดการมรดกที่ไม่มีผู้คัดค้าน การพิจารณาคดีร้องขอเป็นผู้จัดการมรดกที่ไม่มีผู้คัดค้านทุกเรื่องหรือไม่มีข้อพิพาท จะพิจารณาที่อาคาร
ศาลแพ่ง ชั้น๙ ห้องพิจารณาที่ ๙๐๖ และ ๙๐๗ เริ่มพิจารณาคดีตั้งแต่เวลา ๘.๓๐ นาฬิกา
ส
ถานที่ติดต่อขอทำคำร้องขอเป็นผู้จัดการมรดก ผู้ร้องติดต่อขอคำปรึกษาและทำคำร้องผู้จัดการมรดกได้ที่ อาคารศาลแพ่ง ชั้น ๙ ห้อง ๙๐๑ ถนนรัชดาภิเษก
แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร ๑๐๙๐๐
การติดต่อสอบถามเพิ่มเติม ผู้ร้องสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ ๐- ๒๕๔๑ ๒๕๐๕
หรือ ๐ -๒๕๑๒ ๘๒๒๘ และ ๐- ๒๕๔๑ ๒๔๒๐ ถึง ๙ ต่อ ๑๙๑๕
เอกสารที่ใช้ร้องขอจัดการมรดก๑ . กรณีบุตรกับบิดา / มารดา หรือบิดา / มารดากับบุตร ๑ . ๑ ใบสำคัญการสมรส หรือใบสำคัญการหย่าของบิดา มารดา ( กรณีสูญหายใช้ สำเนาทะเบียน สมรส
(ตามตัวอย่างเอกสารหมายเลข ๑)หรือ ข้อมูลทะเบียนครอบครัว (ตามตัวอย่างเอกสารหมายเลข ๒ )
หรือ ทะเบียนฐานะแห่งครอบครัว (ตามตัวอย่างเอกสารหมายเลข ๓) หรือสำเนาทะเบียนการหย่า
(ตามตัวอย่างเอกสารหมายเลข ๔) ที่รับรองสำเนาถูกต้องโดยเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องแทน)
๑. ๒ สูติบัตรของบุตร ( กรณีสูญหายใช้สำเนาทะเบียนคนเกิด (ตามตัวอย่างเอกสารหมายเลข ๕) หรือ
แบบรับรองรายการทะเบียนคนเกิด (ตามตัวอย่างเอกสารหมายเลข ๖) ที่รับรองสำเนาถูกต้องโดย
เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องแทน )หรือ สำเนาทะเบียนบ้านของบุตรที่มีเลขประจำตัวประชาชนของบิดา
หรือมารดา(ตามตัวอย่างเอกสารหมายเลข ๗)( กรณีไม่มีเลขประจำตัวของบิดาหรือมารดาให้ติดต่อ
สำนักงานเขตตามสำเนาทะเบียนบ้านของบุตรเพื่อให้เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องดำเนินการให้ หรือ
ทะเบียนการรับรองบุตร (ตามตัวอย่างเอกสารหมายเลข ๘ ) หรือ ทะเบียนการรับบุตรบุญธรรม (ตามตัวอย่างเอกสารหมายเลข ๙)
๑.๓ บัตรประจำตัวของผู้ร้องและผู้ตาย
๑.๔ มรณบัตรของผู้ตายหรือ แบบรับรองรายการทะเบียนคนตายของผู้ตาย (ตามตัวอย่างเอกสารหมายเลข ๑๐ )
๑. ๕ สำเนาทะเบียนบ้านของผู้ตาย หรือ แบบรับรองรายการทะเบียนราษฎร (ตามตัวอย่างเอกสาร หมายเลข ๑๑ )
๑. ๖ หลักฐานเกี่ยวกับมรดกของผู้ตาย เช่น โฉนดที่ดิน หนังสือรับรองการทำประโยชน์ หนังสือกรรมสิทธิ์ห้องชุด
เงินฝากในธนาคาร ปืน รถยนต์ รถจักรยานยนต์ หุ้น ( กรณีที่ดิน หรือห้องชุดสูญหายหรือจดทะเบียนจำนองไว้
ใช้สำเนาโฉนดที่ดินหรือสำเนาหนังสือกรรมสิทธิ์ห้องชุดที่ รับรองสำเนาถูกต้องโดยเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องแทน )
สมุดคู่ฝากของธนาคาร คู่มือรายการจดทะเบียน รถยนต์หรือรถจักรยานยนต์ สัญญาเช่าซื้อรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์
ใบหุ้น ใบอนุญาตให้มี และใช้อาวุธปืน ( กรณีสูญหายใช้สำเนาที่รับรองสำเนาถูกต้องโดยเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องแทน)
๑. ๗ บัญชีทายาทผู้มีสิทธิรับมรดก (ตามตัวอย่างเอกสารหมายเลข ๑๒ )
๑.๘ หนังสือให้ความยินยอมของทายาทผู้มีสิทธิรับมรดกพร้อมสำเนาบัตรประจำตัวที่รับรอง
สำเนาทะเบียนบ้านที่รับรองสำเนาถูกต้องโดยทายาทดังกล่าว (ตามตัวอย่างเอกสารหมายเลข ๑๓ )
( กรณีทายาทเป็นผู้เยาว์ใช้สูติบัตร )
๑.๙ มรณบัตรของทายาทผู้มีสิทธิรับมรดกที่ถึงแก่ความตายก่อนผู้ตาย เช่น บิดา มารดา คู่สมรส บุตร
๑.๑๐ หนังสือสำคัญการเปลี่ยนชื่อหรือชื่อสกุล ของผู้ร้อง หรือผู้ตาย หรือทายาทผู้มีสิทธิรับมรดก
๒. กรณีคู่สมรส ๒. ๑ ใบสำคัญการสมรสของผู้ตาย (กรณีสูญหายใช้สำเนาทะเบียนสมรส (ตามตัวอย่างเอกสารหมายเลข ๑) หรือ ข้อมูลทะเบียนครอบครัว (ตามตัวอย่างเอกสารหมายเลข ๒ ) หรือ ทะเบียนฐานะแห่งครอบครัว (ตามตัวอย่างเอกสารหมายเลข ๓)
๒. ๒ เอกสารตามข้อ ๑.๓ ถึง ๑.๑๐
๓. พี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกัน ๓.๑ สูติบัตรของผู้ร้องและผู้ตาย ( กรณีสูญหายใช้ สำเนาทะเบียนคนเกิด (ตามตัวอย่างเอกสารหมายเลข ๕) หรือ แบบรับรองรายการทะเบียนคนเกิด (ตามตัวอย่างเอกสารหมายเลข ๖) ที่รับรองสำเนาถูกต้องโดยเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องแทน ) หรือ
๓. ๒ สำเนาทะเบียนบ้านของผู้ร้องและผู้ตายที่มีเลขประจำตัวประชาชนของบิดา และมารดา ( ตามตัวอย่างเอกสารหมายเลข ๗) ( กรณีไม่มีเลขประจำตัวให้ติดต่อสำนักงานเขตตามสำเนา ทะเบียนบ้านเพื่อระบุ )
๓.๓ เอกสารตามข้อ ๑.๓ ถึง ๑.๑๐
๔. ผู้รับพินัยกรรม หรือผู้จัดการมรดกตามพินัยกรรม ซึ่งเป็นผู้รับพินัยกรรม ๔ . ๑ พินัยกรรม
๔ . ๒ เอกสารตามข้อ ๑.๓ ถึง ๑.๑๐
หมายเหตุ เอกสารแนบท้ายทุกฉบับ ขอได้ที่สำนักงานเขตที่เอกสารนั้นอยู่