You are here: Khonphutorn.com - แหล่งข้อมูลของคนไทยหมวดความบันเทิงสาระน่าอ่าน (ผู้ดูแล: Top Gun)ถ้าคิดจะเถียงแม่...อ่านนี่ก่อน
หน้า: [1]   ลงล่าง
 
ผู้เขียน หัวข้อ: ถ้าคิดจะเถียงแม่...อ่านนี่ก่อน  (อ่าน 2756 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ผู้บริหารเว็บ
คะแนนน้ำใจ 65535
เหรียญรางวัล:
PJ ดีเด่นนักอ่านยอดเยี่ยมผู้ดูแลเว็บ
กระทู้: 18,127
ออฟไลน์ ออฟไลน์
"สาวหวาน กับ ความฝันไม่รู้จบ "
   
« เมื่อ: 10 มีนาคม 2560, 10:46:16 AM »

Permalink: ถ้าคิดจะเถียงแม่...อ่านนี่ก่อน




ถ้าคิดจะเถียงแม่
ลองทำให้ได้อย่างนี้ก่อน  ถ้าทำได้แล้วค่อยเถียง

1.อาเจียนหลังกินข้าวทุกมื้อเป็นเวลาสามเดือน(ตอนแม่แพ้ท้อง)
2.หัวนมถูกกัดทุกวัน แต่ต้องยอมอดทนไม่โกรธ ไม่ตี(ช่วงที่ฟันของลูกเริ่มขึ้นใหม่ๆ)
3.เอาลูกบอลใส่ท้องและเพิ่มขนาดให้ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ทุกเดือนเป็นเวลาเก้าเดือน(คือระยะที่แม่ตั้งท้อง)
4.เจ็บปวดเหมือนถูกแส้เฆี่ยนตีข้ามวันข้ามคืน(ช่วงที่แม่คลอดลูก)
5.งดน้ำแข็ง ชา กาแฟและของชอบที่ส่งผลร้ายต่อลูกในครรภ์เป็นเวลาเก้าเดือน
6.เวลานอนพลิกตัวไม่ได้เป็นเวลาห้า-หกเดือน
7.งดเที่ยว งดกระโดดโลดเต้นเป็นเวลาเก้าเดือน
8.ห้ามป่วยเป็นอันขาดเป็นเวลาเก้าเดือน ต่อให้ป่วยก็กินยาเองไม่ได้
9.เช็ดขี้เช็ดเยี่ยวเช็ดอ๊วก เปลี่ยนผ้าอ้อมซักผ้าอ้อม ล้างก้นเป็นปีๆ
10.กลางคืนต้องตื่นทุกๆ สองชั่วโมง แต่ละช่วงใช้เวลาประมาณสามสิบนาทีประมาณสาม-ห้าเดือน

......................
เห็นแผลผ่าตัดเอาลูกออกที่บนหัวลูกไหม
ก่อนที่จะเถียงแม่ คิดก่อนว่าคุณมีคุณสมบัติในสิบข้อนี้หรือเปล่า?
ถ้าคุณทำได้ เถียงแม่ได้เลย


บันทึกการเข้า


♪♪♪ รวมบทกลอนน้องจ๋า คลิกค่ะ ...

ขอบคุณทุกภาพจาก Internet และเพลงจากYouTube
ผู้บริหารเว็บ
คะแนนน้ำใจ 65535
เหรียญรางวัล:
PJ ดีเด่นนักอ่านยอดเยี่ยมผู้ดูแลเว็บ
กระทู้: 18,127
ออฟไลน์ ออฟไลน์
"สาวหวาน กับ ความฝันไม่รู้จบ "
   
« ตอบ #1 เมื่อ: 19 กุมภาพันธ์ 2563, 09:07:21 AM »

Permalink: Re: ถ้าคิดจะเถียงแม่...อ่านนี่ก่อน
 love letter
บันทึกการเข้า


♪♪♪ รวมบทกลอนน้องจ๋า คลิกค่ะ ...

ขอบคุณทุกภาพจาก Internet และเพลงจากYouTube
คะแนนน้ำใจ 3119
เหรียญรางวัล:
นักอ่านยอดเยี่ยมมีความคิดสร้างสรรค์นักโพสดีเด่น
กระทู้: 190
ออฟไลน์ ออฟไลน์
   
« ตอบ #2 เมื่อ: 21 สิงหาคม 2563, 06:05:47 PM »

Permalink: Re: ถ้าคิดจะเถียงแม่...อ่านนี่ก่อน
     

     การนำพ่อแม่ไปทิ้งในสมัยเอโดะ (ค.ศ.1603-1867)

ช่วงนั้นญี่ปุ่นถูกภัยแล้งคุกคามนานหลายปี เจ้าเมืองได้ออกกฎว่า บ้านไหนมีพ่อแม่ที่อายุเกิน 70 ปี ลูกต้องนำพ่อแม่ไปทิ้งบนเขา มิฉะนั้นจะถูกประหาร

เพราะคนสูงวัยไร้ประโยชน์ เป็นภาระ โดยถือว่าตายเพื่อให้ลูกหลานได้อยู่ต่อ นับเป็นเกียรติสูงยิ่ง

ภูเขาจึงกลายเป็นสุสานคนแก่  ขึ้นไป 2 คน แต่กลับลงมา 1

เรียกภูเขาเหล่านี้ว่า "อุบะสุเทะ" ("อุบะ" แปลว่า คนแก่ "สุเทะ" แปลว่า ทิ้ง)

และแล้วก็ถึงวันที่แม่ของ XX อายุครบ 70 ปี เขาอุ้มแม่ลงตระกร้า แบกขึ้นหลังเดินไปยังภูเขา

ในขณะที่ชายหนุ่มปีนเขาสูงขึ้นเรื่อยๆ แม่ก็สังเกตเห็นว่าฟ้ากำลังมืดลงทุกที

นางกลัวว่าถ้าฟ้ามืดลูกชายอาจหลงทาง จึงเอื้อมมือไปหักกิ่งไม้ กิ่งแล้วกิ่งเล่า เพื่อที่ว่าหลังจากทิ้งนางไว้บนภูเขาแล้ว ลูกจะสามารถกลับบ้านได้อย่างปลอดภัย

เมื่อถึงเวลาที่แม่ลูกต้องจากกัน นางได้บอกลูกชายว่า

"ลูกแม่ ตอนที่เราขึ้นมา แม่ได้หักกิ่งไม้ไว้ตลอดทาง ตอนลงเขา เจ้าจงตามรอยไม้ที่แม่หักไว้ ก็จะถึงบ้านโดยปลอดภัย"

เมื่อลูกได้ยินและมองเห็นมือที่เต็มไปด้วยรอยขีดข่วนของแม่

ก็อดหลั่งน้ำตาออกมาไม่ได้
และตัดสินใจว่าจะไม่ยอมทิ้งแม่ไว้เด็ดขาด

เขาจึงพาแม่ลงเขา
และซ่อนไว้ในยุ้งฉางเพื่อหลบคนภายนอก

อยู่มาวันหนึ่ง... เจ้าเมืองก็ประกาศปริศนา 2 ข้อ ว่าหากใครแก้ได้ ก็จะให้สมปรารถนา 1 ประการ

ข้อแรกคือ ให้ฟั่นเชือกขึ้นมาจากขี้เถ้า

และสองคือ ให้ร้อยเส้นไหมลอดผ่านเปลือกหอยสังข์

ผ่านไปหลายสัปดาห์ก็ยังไม่มีใครแก้ได้

ลูกชายจึงนำเรื่องนี้ไปเล่าให้แม่ฟัง แม่ก็ยิ้มแล้วสอนว่า...

"ลูกแม่ ปริศนาข้อแรก ให้เจ้าฟั่นเชือกขึ้นมาแล้วนำไปเผาจนไหม้ ขี้เถ้าจะคงรูปเหมือนเชือกอยู่อย่างนั้น

ส่วนข้อที่สอง ให้ผูกเส้นไหมกับขามด แล้วจับมดไปใส่ในเปลือกหอย

หลังจากนั้นให้โรยน้ำตาล
และจุดเทียนอีกด้านหนึ่งของเปลือกหอย เมื่อมดได้กลิ่นน้ำตาลและเห็นแสงเทียนก็จะเดินออกด้านนี้"

ภายหลังเมื่อเจ้าเมืองรู้ว่าคนที่แก้ปริศนาได้ แท้จริงแล้วคือหญิงชราธรรมดาๆ คนหนึ่ง จึงเลื่อมใสในภูมิปัญญาว่าคนแก่ก็มีคุณค่า และตัดสินใจยกเลิกกฎให้ทิ้งพ่อแม่ตั้งแต่นั้น

แม่กับลูกชายจึงใช้ชีวิตต่อมาอย่างมีความสุข

ความรักของพ่อแม่เป็นสิ่งอัศจรรย์ เพราะมีแต่คำว่า "ให้" อย่างที่ไม่มีลูกคนไหน "ให้" คืนกลับได้อย่างเท่าเทียม

การดูแลพ่อแม่ในยามที่ท่านดูแลตัวเองไม่ได้ ถือเป็นการทดแทนบุญคุณของท่านเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

หากใครบอกว่าไม่สามารถดูแลพ่อแม่ได้ จะด้วยเหตุผลใดก็ตาม โปรดจำเรื่องนี้ไว้เป็นคติสอนใจ

..........................................

จากตำนานอุบะสุเทะ...ที่ชาวญี่ปุ่นรู้จักดี

มีการสร้างเป็นภาพยนต์ชื่อ Ballad of Narayama
โดยผู้กำกับอิมะมุระ โชเฮ (Imamura Shohei) ที่เล่าเรื่องราวชีวิตปีที่ 70 ของหญิงชราชื่อ โอริน

ที่มาจากโลกออนไลน์
บันทึกการเข้า

คะแนนน้ำใจ 12160
เหรียญรางวัล:
มีความคิดสร้างสรรค์นักโพสดีเด่นมีความคิดสร้างสรรค์
กระทู้: 1,365
ออฟไลน์ ออฟไลน์
   
« ตอบ #3 เมื่อ: 23 สิงหาคม 2563, 09:14:59 PM »

Permalink: Re: ถ้าคิดจะเถียงแม่...อ่านนี่ก่อน


พ่อแม่ ครูครับ สดับที
ลูกหลาน อวดดี หรือไฉน
จารเสมือน ตัดสิน โดยไว
"ทวงคุณ" เหตุใด ไขที

ลูกหลาน สำนึก พระคุณ
มี"พระ" โปรดบุญ สุขี
ที่บ้าน โรงเรียน เปรมปรีดิ์
โกรธหลง ฅนมี ธรรมดา



บันทึกการเข้า



รวมบทกลอนของ  share  คลิกเลยครับ
http://www.khonphutorn.com/index.php/topic,6282.msg18780/topicseen.html#msg18780
คะแนนน้ำใจ 3119
เหรียญรางวัล:
นักอ่านยอดเยี่ยมมีความคิดสร้างสรรค์นักโพสดีเด่น
กระทู้: 190
ออฟไลน์ ออฟไลน์
   
« ตอบ #4 เมื่อ: 24 สิงหาคม 2563, 04:00:04 PM »

Permalink: Re: ถ้าคิดจะเถียงแม่...อ่านนี่ก่อน
         

           


เถียงหรือทวงล่วงเกินเมินดีไหม
อยู่อย่างไทยหรือฝรั่งข้องกังขา
นางศรีแพรแม่เอ๋ยเฉลยมา
จ่ายเงินค่าศึกษาหน้าที่ใคร

ความควรตรองสนองมอบตอบด้วยจิต
จะเคร่งคิดอวดปัญญาไม่น่าใช่
เรื่องไม่ลึกนึกรู้อยู่ที่ใจ
คุณมอบรักให้ผู้ใดใครรักคุณ
บันทึกการเข้า

หน้า: [1]   ขึ้นบน
 
 
กระโดดไป: