| 
			| 
					
						| 
							
				                  นักกลอนตลาด  ที่ผิดพลาดเรื่องสัมผัสเป็นนิสัย คะแนนน้ำใจ 1625 เหรียญรางวัล:  กระทู้: 246  ออฟไลน์"สร้างความฝันอันละไมในบทกลอน" | 
								|    | «  เมื่อ: 23 มกราคม 2560, 06:23:38 PM » |  | 
 Permalink: *** พระเจ้าสิบชาติคำกลอน  พระชาติที่ ๔  พระเนมิราช ***
 
 พระเจ้าสิบชาติ  พระชาติที่ ๔  พระเนมิราช  บทนำ | | | ** ในชาตินี้พระองค์เสวยพระชาติเป็นพระเจ้าเนมิราชครองกรุงใหญ่
 มิถิลาระบือเลื่องลือไกล
 เป็นหนึ่งในบรรดามหานคร
 
 ** ทรงบำเพ็ญบารมีอธิษฐาน
 ก็คือการแน่วแน่ไม่ทอดถอน
 ไม่โอนเอนไม่ไหวหวั่นไม่สั่นคลอน
 ช่างแน่นอนมั่นคงไม่หลงตน
 
 ** ทรงปฏิเสธความหวังดีที่มีให้
 ของเทพไท้เทวดาในเวหน
 ในคราวที่เสด็จจรดล
 สู่มณฑลชั้นวิมานตระการตา
 
 ** ท้าวสักกะอัญเชิญให้สถิต
 บนวิมานโสภิตอันสูงค่า
 ไม่ทรงรับไมตรีของเทวา
 ขอกลับมาบำเพ็ญบารมี
 
 | 
 | 
 | 
สมพงศ์  ชูสุวรรณบ้านกัลปังหา
 ข้อมูล : พระเจ้าสิบชาติ  สำนักพิมพ์ธรรมสภา
 ภาพประกอบเรื่อง : ไพบุลย์  อินทศรี
 บรรยายภาพ : บรรจบ  บรรณรุจิ
 
 |  
						| 
								|  |  
								|  |  บันทึกการเข้า | 
 
 |  |  | 
	| 
			| 
					
						| 
							
				                  นักกลอนตลาด  ที่ผิดพลาดเรื่องสัมผัสเป็นนิสัย คะแนนน้ำใจ 1625 เหรียญรางวัล:  กระทู้: 246  ออฟไลน์"สร้างความฝันอันละไมในบทกลอน" | 
								|    | « ตอบ #1 เมื่อ: 23 มกราคม 2560, 06:28:46 PM » |  | 
 Permalink: Re: *** พระเจ้าสิบชาติคำกลอน  พระชาติที่ ๔  พระเนมิราช ***
 
 พระเจ้าสิบชาติ  พระชาติที่ ๔  พระเนมิราช  ตอนที่ ๑  ครูของชาวเมือง | | | ** จะขอกล่าวเล่าเรื่องจอมกษัตริย์แคว้นวิเทหะรัฐเกษมศรี
 มิถิลานครราชธานี
 เนมิราชจอมบดีครองพารา
 
 ** เป็นเชื้อสายพระเจ้ามฆเทวะ
 จอมราชะผู้ตั้งมั่นในศาสนา
 ครั้นเติบโตเจริญวัยใจศรัทธา
 การรักษาศีลห้าและให้ทาน
 
 ** เมื่อพระราชบิดาทรงเบื่อหน่าย
 เกิดเสื่อมคลายในลาภยศมหาศาล
 สละราชสมบัติและบริวาร
 หวังนิพพานออกบวชอยู่ป่าไพร
 
 ** เนมิราชจึงทรงสถาปนา
 เป็นราชาครอบครองนครใหญ่
 ทรงเปลื้องทุกข์ให้ประชาพาสุขใจ
 คนทั่วไปสรรเสริญเจริญคุณ
 
 ** โปรดให้สร้างโรงทานขึ้นห้าแห่ง
 เพื่อเป็นแหล่งสงเคราะห์สนับสนุน
 ให้ประชาหน้าใสพึ่งใบบุญ
 เพื่อเป็นทุนเลี้ยงชีวีให้มีกิน
 
 ** ที่ประตูเมืองเข้าออกทั้งสี่ด้าน
 เพื่อผู้ผ่านไปมาดังถวิล
 จะได้มีข้าวปลาเลี้ยงชีวิน
 เป็นอาจิณไม่อดอยากหากต้องการ
 
 ** อีกแห่งหนึ่งที่กลางเมืองเรื่องอาหาร
 เป็นโรงทานเป็นที่พึ่งพึงประสาน
 แก่คนจนและคนที่ตกงาน
 ได้เบิกบานมีความสุขทุกทุกวัน
 
 ** ทรงสละราชทรัพย์ส่วนพระองค์
 ด้วยประสงค์เป็นประตูสู่สวรรค์
 เมื่อถึงคราวที่จะละชีวัน
 มวลทรัพย์สินนับอนันต์ดุจก้อนดิน
 
 ** สมาทานศีลห้าพาให้สุข
 ศีลแปดทำให้ทุกข์มลายสิ้น
 จิตผ่องใสและใจไร้ราคิน
 ปราศจากมลทินสิ้นกังวล
 
 ** ทรงสั่งสอนธัมมะประชาราษฏร์
 ให้มุ่งมาดใฝ่ใจในกุศล
 มีคุณธรรมนำให้เกิดมงคล
 จักสุขล้นเพราะทำกรรมที่ดี
 
 ** เมื่อตายแล้วไปเกิดในสวรรค์
 กล่าวขานกันถึงองค์พระทรงศรี
 เนมิราชเจ้าผู้ครองบุรี
 มิถิลาธานีที่พบมา
 
 ** ให้เหล่าเทวดาได้รับรู้
 เพื่อเชิดชูคุณความดีที่สูงค่า
 ของพระเจ้าเนมิราชจอมราชา
 ผู้มีธรรมสัมมาสารพัน
 
 | 
 | 
 | 
สมพงศ์  ชูสุวรรณบ้านกัลปังหา
 ข้อมูล : พระเจ้าสิบชาติ  สำนักพิมพ์ธรรมสภา
 ภาพประกอบเรื่อง : ไพบุลย์  อินทศรี
 บรรยายภาพ : บรรจบ  บรรณรุจิ
 
 |  
						| 
								|  |  
								|  |  บันทึกการเข้า | 
 
 |  |  | 
	| 
			| 
					
						| 
							
				                  นักกลอนตลาด  ที่ผิดพลาดเรื่องสัมผัสเป็นนิสัย คะแนนน้ำใจ 1625 เหรียญรางวัล:  กระทู้: 246  ออฟไลน์"สร้างความฝันอันละไมในบทกลอน" | 
								|    | « ตอบ #2 เมื่อ: 23 มกราคม 2560, 06:31:31 PM » |  | 
 Permalink: Re: *** พระเจ้าสิบชาติคำกลอน  พระชาติที่ ๔  พระเนมิราช ***
 
 พระเจ้าสิบชาติ  พระชาติที่ ๔  พระเนมิราช  ตอนที่ ๒  ข้อสงสัย | | | ** พระเจ้าเนมิราชทรงสงสัยซึ่งความนัยทานศีลที่ลดหลั่น
 ว่าอย่างไหนมีผลมากกว่ากัน
 ที่ทรงธรรม์ทรงบำเพ็ญไม่เว้นเลย
 
 ** จึงคิดอยากไต่ถามหาความรู้
 จากท่านผู้เต็มใจจะเปิดเผย
 เราควรจะกระทำอย่างไรเอย
 มัวนิ่งเฉยไม่ได้การถ้านานไป
 
 ** ครั้นเมื่อถึงวันพระสิบห้าค่ำ
 เวลาย่ำสว่างจันทร์ไสว
 ท้าวมัฆวานผู้หัวหน้าของเทพไท
 ได้ครรไลมาหาจอมธานี
 
 ** แล้วตรัสถามราชาผู้ยิ่งใหญ่
 มีอะไรบอกมาอย่างเร็วรี่
 เราจะช่วยสงเคราะห์ในทันที
 โปรดจงเผยวจีเจรจา
 
 ** เนมิราชกราบทูลท้าวโกสี
 ตัวข้ามีเรื่องราวที่กังขา
 ทานกับศีลสิ่งใดที่กล่าวมา
 จะมีผลมากกว่าจงสาธยาย
 
 ** ท้าวสักกะเทวราชประกาศว่า
 รักษาศีลดีกว่าอย่างเหลือหลาย
 มีผลมากกว่าทานตั้งมากมาย
 เมื่อชีพวายไปดีสู่วิมาน
 
 ** การให้ทานได้เกิดแค่สวรรค์
 รักษาศีลผลอนันต์ขอกล่าวขาน
 ได้เกิดในพรหมโลกนานแสนนาน
 ตลอดกาลเสวยสุขทุกข์ไม่มี
 
 ** อันความจริงสิ่งที่ควรหวนระลึก
 คำนึงนึกทุกกระบวนให้ถ้วนถี่
 อันทานศีลคู่กันนั้นสิ่งดี
 จะต้องมีศีลทานการมงคล
 
 ** ควรจะทำคู่กันทั้งสองอย่าง
 และตั้งใจรีบสร้างทางกุศล
 ดังพระองค์กระทำมาอย่างแยบยล
 ย่อมเกิดผลสูงค่าน่านิยม
 
 ** เนมิราชปิติโสมนัส
 ที่ขจัดความกังขาพาสุขสม
 ฝ่ายพระอินทร์กลับสวรรค์อันรื่นรมย์
 ทรงชื่นชมราชาว่ายอดคน
 
 ** ได้ตรัสเล่าเรื่องราวเนมิราช
 กษัตริย์ชาติผู้ยิ่งใหญ่ไม่ตกหล่น
 ให้เหล่าเทวดาทั่วมณฑล
 ฟากฟ้าบนดาวดึงส์พึงร้บรู้
 
 | 
 | 
 | 
สมพงศ์  ชูสุวรรณบ้านกัลปังหา
 ข้อมูล : พระเจ้าสิบชาติ  สำนักพิมพ์ธรรมสภา
 ภาพประกอบเรื่อง : ไพบุลย์  อินทศรี
 บรรยายภาพ : บรรจบ  บรรณรุจิ
 
 |  
						| 
								|  |  
								|  |  บันทึกการเข้า | 
 
 |  |  | 
	| 
			| 
					
						| 
							
				                  นักกลอนตลาด  ที่ผิดพลาดเรื่องสัมผัสเป็นนิสัย คะแนนน้ำใจ 1625 เหรียญรางวัล:  กระทู้: 246  ออฟไลน์"สร้างความฝันอันละไมในบทกลอน" | 
								|    | « ตอบ #3 เมื่อ: 23 มกราคม 2560, 06:36:10 PM » |  | 
 Permalink: Re: *** พระเจ้าสิบชาติคำกลอน  พระชาติที่ ๔  พระเนมิราช ***
 
 พระเจ้าสิบชาติ  พระชาติที่ ๔  พระเนมิราช  ตอนที่ ๓  รถจากสวรรค์ | | | ** ครั้นเมื่อเหล่าเทวดาได้ฟังแล้วก็ชอบใจในแนวการเป็นอยู่
 ของพระเจ้าเนมิราชผู้เชิดชู
 คุณธรรมควบคู่การปกครอง
 
 ** จึงกราบทูลท้าวสักกะเทวราช
 ผู้ประทับราชอาสน์ไม่หม่นหมอง
 ให้อัญเชิญจอมราชัยใสเรืองรอง
 มาเที่ยวท่องสวรรค์ชั้นดาวดึงษ์
 
 ** องค์อัมรินทร์จึงตรัสสั่งเทพบุตร
 มาตลีรีบรุดไปให้ถึง
 เจ้าผู้ครองมิถิลาดังคำนึง
 อัญเชิญมาไตรตรึงตามต้องการ
 
 ** มาตลีเทพบุตรไม่รอช้า
 ขับรถเวชยันตราอย่างกล้าหาญ
 ไปรับเนมิราชไม่ทันนาน
 ตรงไปยังป้อมปราการในทันที
 
 ** เนมิราชประทับยังปราสาท
 ท่ามกลางหมู่อำมาตย์อย่างสุขี
 ทรงปรึกษาหารือกิจที่มี
 อย่างเปรมปรีดิ์ชื่นบานสำราญใจ
 
 ** ขณะนั้นเวชยันตราราชรถ
 ก็ปรากฏให้เห็นสว่างไสว
 เมื่อกระทบกับแสงจันทร์อันอำไพ
 ระยิบระยับไกลงามโสภา
 
 ** จอมราชาพร้อมข้าราชบริพาร
 เห็นราชรถสวยตระการเป็นหนักหนา
 มองส่วนไหนเลิศหรูดูตื่นตา
 อลังการเกินกว่าจะบรรยาย
 
 ** ครั้นเมื่อลอยมาเทียบพระบัญชร
 เพื่อที่จะอ้อนวอนดังมุ่งหมาย
 ให้พระเจ้าเนมิราชได้เยื้องกราย
 สู่ดาวดึงส์พรรณรายดังต้องการ
 
 ** มาตลีได้กราบทูลองค์ราชา
 ท้าวสักกะสั่งมาเป็นพื้นฐาน
 ให้อัญเชิญพระองค์ผู้เชี่ยวชาญ
 รักษาศีลบำเพ็ญทานอย่างอุดม
 
 ** ได้เสด็จดาวดึงส์สรวงสวรรค์
 ให้เทวดายลโฉมกันอย่างเหมาะสม
 เพราะพวกเราฟังข่าวแล้วชื่นชม
 นึกนิยมในพระองค์จงไคลคลา
 
 ** เนมิราชจึงเอ่ยเผยวจี
 เมื่อต้องการอย่างนี้รอก่อนหนา
 เราจะมอบหมายงานก่อนอำลา
 แก่อำมาตย์พราหมณ์พฤฒาทั่วหน้ากัน
 
 | 
 | 
 | 
สมพงศ์  ชูสุวรรณบ้านกัลปังหา
 ข้อมูล : พระเจ้าสิบชาติ  สำนักพิมพ์ธรรมสภา
 ภาพประกอบเรื่อง : ไพบุลย์  อินทศรี
 บรรยายภาพ : บรรจบ  บรรณรุจิ
 
 |  
						| 
								|  |  
								|  |  บันทึกการเข้า | 
 
 |  |  | 
	| 
			| 
					
						| 
							
				                  นักกลอนตลาด  ที่ผิดพลาดเรื่องสัมผัสเป็นนิสัย คะแนนน้ำใจ 1625 เหรียญรางวัล:  กระทู้: 246  ออฟไลน์"สร้างความฝันอันละไมในบทกลอน" | 
								|    | « ตอบ #4 เมื่อ: 23 มกราคม 2560, 06:41:14 PM » |  | 
 Permalink: Re: *** พระเจ้าสิบชาติคำกลอน  พระชาติที่ ๔  พระเนมิราช ***
 
 พระเจ้าสิบชาติ  พระชาติที่ ๔  พระเนมิราช  ตอนที่ ๔  ชมนรก | | | ** ก่อนจะถึงดาวดึงส์เทวโลกมาตลีมอบโชคที่เลือกสรร
 ให้แก่เนมิราชจอมราชัน
 คือขับรถพากันชมอเวจี
 
 ** นรกที่พาชมสิบห้าขุม
 เป็นแหล่งสัตว์ฯร้อนรุ่มคล้ายไฟจี้
 เพราะผลของบาปกรรมมาย่ำยี
 ใช้ชีวีอย่างประมาทชาติผ่านมา
 (เหล่าสัตว์ฯ = สัตว์นรก)
 
 ** “เวตรณีนรก” ยกให้เห็น
 อีกขุมเป็น “นรกสุนัข” จักฉุดคร่า
 ให้คนบาปทั้งหลายได้ลงมา
 ชดใช้กรรมจนกว่าจะสิ้นไป
 
 ** “นรกทองแดง” เป็นแหล่งของคนชั่ว
 ที่เกลือกกลั้วสิ่งเลวด้วยเหลวไหล
 “นรกถ่านเพลิง” ร้อนเหลือด้วยเชื้อไฟ
 ที่เผาไหม้จากกิเลสเหตุสร้างกรรม
 
 ** “นรกหม้อทองแดง” ใช่แกล้งว่า
 ถูกต้มเคี่ยวเป็นผักปลาร้องครวญคร่ำ
 “นรกโซ่ทองแดง” แหล่งจองจำ
 พวกชอบทำเรื่องชั่วไม่กลัวเกรง
 
 ** “นรกแม่น้ำแกลบ” แสบดีแท้
 ต้องลงแช่หลีกไม่พ้นโดนข่มเหง
 “นรกหลาวและแหลน” แดนวังเวง
 สร้างกรรมเองชดใช้เองไม่เกรงใคร
 
 ** “นรกถูกทุบตี” ที่โหดร้าย
 ทรมานร่างกายกันขวักไขว่
 “นรกคูถ” กลิ่นเหม็นโชยลอยไกล
 ต้องฝืนใจกลืนกินจนชินชา
 
 ** “นรกน้ำเลือดและน้ำหนอง”
 สัตว์ฯจะต้องดื่มกลืนยืนผวา
 “นรกเบ็ด” น่ากลัวชั่วชีวา
 ลากลิ้นมาเกี่ยวเล่นไม่เว้นวัน
 
 ** “นรกบ่อไฟ” เป็นเชื้อคอยเผาไหม้
 ทั้งจิตใจร่างกายคล้ายกับฝัน
 “นรกสัตว์น่าเกลียด” เสนียดครัน
 คอยหลอกหลอนเขย่าขวัญทุกวันคืน
 
 ** ท้าวสักกะสถิตบรรลังอาสน์
 คอยท้าวเนมิราชอย่างสดชื่น
 ผู้ยึดมั่นศีลทานอันยั่งยืน
 ไม่แปรเปลี่ยนเป็นอื่นตลอดกาล
 
 ** จึงสงสัยเหตุใดจึงช้า นัก
 หรือหยุดพักเถลไถลไม่กล่าวขาน
 มัวแต่เพลินเดินเล่นอย่างสำราญ
 จะเสียการต้องส่องทิพยเนตรดู
 
 ** ในที่สุดทราบว่าชมนรก
 ดังหยิบยกกล่าวมาน่าหดหู่
 จึงรีบบอกมาตลีเพื่อให้รู้
 เวลาที่มีอยู่น้อยเต็มที
 
 ** ดูนรกให้หมดคงไม่ได้
 แค่เพียงเพื่อพอให้เป็นสักขี
 จงบริหารเวลาเท่าที่มี
 นำราชาเร็วรี่มาวิมาน
 
 ** มาตลีจึงบันดาลอิทธิฤทธิ์
 เนรมิตนรกเป็นมาตรฐาน
 ให้พระองค์ทรงเห็นไม่ช้านาน
 ปรากฏการณ์ทั้งหมดได้จดจำ
 
 ** เนมิราชราชันทรงหวั่นหวาด
 ทรงขยาดนรกอกระส่ำ
 ตั้งพระทัยแน่วแน่ไม่สร้างกรรม
 และจะนำไปบอกกล่าวชาวประชา
 
 ** เพื่อตั้งมั่นไม่ประมาทอาจพลาดผิด
 ไปหลงคิดทำชั่วมั่วตัณหา
 อีกกิเลสหลากหลายจะบีทา
 สิ้นชีวาตกนรกหมกไหม้ตน
 
 | 
 | 
 | 
สมพงศ์  ชูสุวรรณบ้านกัลปังหา
 ข้อมูล : พระเจ้าสิบชาติ  สำนักพิมพ์ธรรมสภา
 ภาพประกอบเรื่อง : ไพบุลย์  อินทศรี
 บรรยายภาพ : บรรจบ  บรรณรุจิ
 
 |  
						| 
								|  |  
								|  |  บันทึกการเข้า | 
 
 |  |  | 
	| 
			| 
					
						| 
							
				                  นักกลอนตลาด  ที่ผิดพลาดเรื่องสัมผัสเป็นนิสัย คะแนนน้ำใจ 1625 เหรียญรางวัล:  กระทู้: 246  ออฟไลน์"สร้างความฝันอันละไมในบทกลอน" | 
								|    | « ตอบ #5 เมื่อ: 23 มกราคม 2560, 06:44:27 PM » |  | 
 Permalink: Re: *** พระเจ้าสิบชาติคำกลอน  พระชาติที่ ๔  พระเนมิราช ***
 
 พระเจ้าสิบชาติ  พระชาติที่ ๔  พระเนมิราช  ตอนที่ ๕  ชมสวรรค์ | | | ** หลังจากชมนรกยกให้เห็นเป็นประเด็นต้องใส่ใจในกุศล
 ถ้าทำชั่วต้องรับกรรมช้ำกมล
 จงฝึกฝนใฝ่ธัมมะจะได้บุญ
 
 ** มาตลีได้ขับราชรถ
 ไปปรากฏบนสวรรค์อันอบอุ่น
 มองทางไหนวิไลหรูดูละมุน
 ไม่ว้าวุ่นเหมือนมนุษย์สุดสมปอง
 
 ** พบวิมานโสภาสง่าศรี
 เทพธิดาวารุณีเป็นเจ้าของ
 กว้างใหญ่สิบสองโยชน์ช่างชวนมอง
 เหตุคือบุญได้สนองคุณความดี
 
 ** รอบบริเวณมีสวนล้วนร่มรื่น
 แสนสดชื่นระรวยด้วยพฤกษี
 กลิ่นหอมกรุ่นรื่นนาสามวลมาลี
 ที่มากมีในสวนชวนให้ยล
 
 ** สระโบกขรณีสวยงามยามคืนค่ำ
 ดวงจันทราสวยล้ำกลางเวหน
 สาดแสงส่องสดใสในมณฑล
 น้ำพลิ้วล้นมองเห็นเป็นดังทอง
 
 ** เนมิราชตรัสถามความใคร่รู้
 เธอเป็นอยู่อย่างไรไม่เศร้าหมอง
 มาเกิดบนสวรรค์อันเรืองรอง
 ได้ครอบครองทิพย์วิมานตระกานตา
 
 ** มาตลีเทพบุตรหยุดนั่งคิด
 ถึงชีวิตแต่หนหลังดังปรารถนา
 ของวารุณีจอมนางเทพธิดา
 ได้กระทำสิ่งใดมาก็แจ้งใจ
 
 ** ในสมัยพระพุทธเจ้ากัสสปะ
 มุมานะทำอาหารด้วยเลื่อมใส
 ถวายพระเป็นประจำทุกวันไป
 ตามคำสั่งผู้ใหญ่คนเป็นนาย
 
 ** อานิสงส์บันดาลให้มาเกิด
 ในที่อันประเสริฐเลิศเหลือหลาย
 เนรมิตวิมานทองผ่องพรรณราย
 ให้พักกายรื่นรมย์อุดมคุณ
 
 ** มาตลีพาชมวิมานมาศ
 ของเหล่าเทวราชอย่างอบอุ่น
 เจ้าของคอยต้อนรับนับเป็นบุญ
 เกื้อการุณเอ่ยวาจากล่าวพาที
 
 ** เมื่อชาติก่อนเคยทำอะไรบ้าง
 ยกมาอ้างให้เห็นเป็นสักขี
 จึงเล่าความให้เห็นเหตุเป็นดี
 ในชาตินี้มีสุขทุกวันคืน
 
 ** ท้าวสักกะตรัสเตือนห้ามเชื่องช้า
 รีบนำเนมิราชมาอย่าขัดขืน
 เวลาน้อยผ่านไปเหมือนถูกกลืน
 กาลเวลาไม่ยั่งยืนรอคอยใคร
 
 ** มาตลีจึงบันดาลเพื่อสานฝัน
 เปิดสวรรค์ทุกชั้นทั้งน้อยใหญ่
 มาปรากฏตรงหน้าก่อนคลาไคล
 แล้วจึงนำราชาไปเฝ้าองค์อินทร์
 
 | 
 | 
 | 
สมพงศ์  ชูสุวรรณบ้านกัลปังหา
 ข้อมูล : พระเจ้าสิบชาติ  สำนักพิมพ์ธรรมสภา
 ภาพประกอบเรื่อง : ไพบุลย์  อินทศรี
 บรรยายภาพ : บรรจบ  บรรณรุจิ
 
 |  
						| 
								|  |  
								|  |  บันทึกการเข้า | 
 
 |  |  | 
	| 
			| 
					
						| 
							
				                  นักกลอนตลาด  ที่ผิดพลาดเรื่องสัมผัสเป็นนิสัย คะแนนน้ำใจ 1625 เหรียญรางวัล:  กระทู้: 246  ออฟไลน์"สร้างความฝันอันละไมในบทกลอน" | 
								|    | « ตอบ #6 เมื่อ: 23 มกราคม 2560, 08:56:03 PM » |  | 
 Permalink: Re: *** พระเจ้าสิบชาติคำกลอน  พระชาติที่ ๔  พระเนมิราช ***
 
 พระเจ้าสิบชาติ  พระชาติที่ ๔  พระเนมิราช  ตอนที่ ๖  ท่ามกลางสภา | | | ** ณ สุธรรมาเทวะสภาใหญ่ที่สวยสุดอำไพใจถวิล
 บรรยากาศอบอุ่นละมุนจินต์
 จอมนรินทร์ประทับนั่งบัลลังก์ทอง
 
 ** จึงเชิญชวนราชาประทับนั่ง
 ที่บัลลังก์ข้างหน้าอย่าหม่นหมอง
 เคียงคู่กับพระองค์ผู้ทรงครอง
 จักรวาลทั้งผองให้สุขใจ
 
 ** เบื้องหน้าองค์สักกะเจ้าสวรรค์
 เทวดาพากันนั่งขวักไขว่
 หมอบกราบอยู่แทบพระบาทองค์ท้าวไท
 และองค์ภูวไนยจอมราชา
 
 ** ท้าวโกสีห์จึงมีถ้อยดำรัส
 กับพระมหากษัตริย์เสน่หา
 ขออัญเชิญพระผู้ผ่านพารา
 เสด็จมาเป็นใหญ่ในดาวดึงส์
 
 ** ไม่ต้องย้อนกลับไปมนุษย์โลก
 ถือเป็นโชคที่ใครนึกไม่ถึง
 เพื่อเทิดทูนคุณความดีที่ตราตรึง
 เป็นที่พึ่งของชาวโลกโชคอำนวย
 
 ** พระราชาได้ฟังก็นั่งนิ่ง
 รับไม่ได้จริงจริงใช่โลกสวย
 สมบัติเฉพาะคนจนหรือรวย
 เขาได้ด้วยผลบุญบุญหนุนให้มา
 
 ** ถ้ายอมรับก็เท่ากับยืมของเขา
 ไม่ใช่สิทธิ์ของเราน่าขายหน้า
 จะขอรับเท่าที่บุญอุดหนุนพา
 คือนครมิถิลาที่ร่มเย็น
 
 ** เพราะเป็นผลกุศลที่ทำไว้
 ส่งผลให้ถึงฝั่งดังที่เห็น
 จะครอบครองด้วยธรรมไม่ลำเค็ญ
 เพราะมันเป็นของเราชั่วชีวา
 
 ** ต่อจากนั้นจึงบรรยายขยายอรรถ
 ถึงธัมมะปรมัตถ์ดีหนักหนา
 ตลอดคืนตลอดวันจำนรรจา
 เป็นเวลาเจ็ดราตรีมิเบื่อเลย
 
 ** ก่อนอำลามุ่งหน้าโลกมนุษย์
 มันแสนสุดวุ่นวายใคร่เปิดเผย
 พระองค์ทรงอวยพรย้อนภิเปรย
 สรรเสริญคุณผู้คุ้นเคยด้วยศรัทธา
 
 ** ครั้นถึงมิถิลาคราใกล้รุ่ง
 ดวงอาทิตย์พวยพุ่งแสงอุษา
 เนมิราชจากไตรตรึงษ์ถึงนครา
 ชาวประชาต่างปิติมิเสื่อมคลาย
 
 | 
 | 
 | 
สมพงศ์  ชูสุวรรณบ้านกัลปังหา
 ข้อมูล : พระเจ้าสิบชาติ  สำนักพิมพ์ธรรมสภา
 ภาพประกอบเรื่อง : ไพบุลย์  อินทศรี
 บรรยายภาพ : บรรจบ  บรรณรุจิ
 
 |  
						| 
								|  |  
								|  |  บันทึกการเข้า | 
 
 |  |  | 
	| 
			| 
					
						| 
							
				                  นักกลอนตลาด  ที่ผิดพลาดเรื่องสัมผัสเป็นนิสัย คะแนนน้ำใจ 1625 เหรียญรางวัล:  กระทู้: 246  ออฟไลน์"สร้างความฝันอันละไมในบทกลอน" | 
								|    | « ตอบ #7 เมื่อ: 23 มกราคม 2560, 08:59:46 PM » |  | 
 Permalink: Re: *** พระเจ้าสิบชาติคำกลอน  พระชาติที่ ๔  พระเนมิราช ***
 
 พระเจ้าสิบชาติ  พระชาติที่ ๔  พระเนมิราช  ตอนที่ ๗  เล่าเรื่องนรก (๑) | | | ** หมู่ข้าราชบริพารและอำมาตย์พร้อมทวยราษฎร์ปวงประชาต่างมุ่งหมาย
 อยากจะรู้เรื่องราวทั้งหญิงชาย
 ที่ราชาเยื้องกรายยังวิมาน
 
 ** จึงกราบทูลไต่ถามความทั้งหมด
 ขอร้องพระทรงยศให้เล่าขาน
 ถึงเรื่องราวที่ผ่านพบประสบการณ์
 ในสถานฟากฟ้ามาให้ฟัง
 
 ** ครานั้นเนมิราชชาติกษัตริย์
 มีดำรัสตรัสเล่าคราวหนหลัง
 การเยี่ยมชมสวรรค์อย่างจริงจัง
 มาตลีพานั่งไม่เศร้าตรม
 
 ** เริ่มต้นที่นรกแดนหมกไหม้
 ทรงจำได้ติดพระเนตรเขตขื่นขม
 เสียงโหยหวนเพราะปวดร้าวเคล้าระบม
 เสียงดังขรมทั่วทั้งนรกกานต์
 
 ** “เวตรณีนรก” ยกมากล่าว
 เป็นเรื่องราวยิ่งใหญ่ไฟคอยผลาญ
 ทั้งน้ำแสบน้ำเค็มเต็มบาดาล
 มีไฟกาฬลุกโหมคอยโรมรัน
 
 ** ในน้ำแสบน้ำเค็มมีกอหวาย
 หนามก็คมมากมายคอยห้ำหั่น
 สัตว์นรกถูกนิรบาลไล่ฟาดฟัน
 ตกน้ำแสบเจ็บและคันหนามทิ่มแทง
 
 ** ขาดออกเป็นท่อนท่อนซับซ้อนมาก
 โดนไฟจากบ่อน้ำมันกำแหง
 คอยเผาผลาญให้เร่าร้อนอ่อนเรี่ยวแรง
 เพราะผลแห่งเวรกรรมที่ทำมา
 
 ** สาเหตุที่ต้องตกนรกนี้
 เพราะเหตุที่เบียดเบียนผู้ด้อยกว่า
 ในเรื่องของกำลังและวังชา
 เพียงเพื่อว่าหวังผลประโยชน์ตน
 
 ** ต่อไป “นรกสุนัข” จักเอ่ยอ้าง
 แสนวังเวงอ้างว้างช่างหมองหม่น
 สัตว์นรกถูกทรมานเกินจะทน
 เพราะบาปกรรมส่งผลต้องทนไป
 
 ** สุนัขแดงสุนัขด่างต่างแย่งกัด
 อีกแร้งกาสารพัดแย่งกันใหญ่
 เพื่อขบกัดจิกตีอยู่ร่ำไป
 เขี้ยวเป็นเหล็กปากเป็นไฟคอยกัดกิน
 
 ** แสนเจ็บปวดทรมานร้าวรานนัก
 กายแทบจักสลายมลายสิ้น
 สุนัขกัดแร้งกาจิกพลิกชีวิน
 ให้ด่าวดิ้นแล้วฟื้นใหม่ไปใช้กรรม
 
 ** ต้องวนเวียนอย่างนี้มิสิ้นสุด
 ไม่มีวันได้หยุดถ้าถลำ
 เห็นกงจักรเป็นดอกบัวชั่วระยำ
 เพราะใจต่ำเกลือกกลั้วมั่วอบาย
 
 ** ตอนที่มีชีวิตจิตตระหนี่
 ขาดน้ำใจไมตรีอย่างเหลือหลาย
 ไม่เคยมีเมตตาน่าละอาย
 ถึงคราวตายสิ้นใจไปโลกันต์
 
 ** หรือโกรธเคืองด่าว่าสมณะ
 ผู้เป็นพระทรงศีลอย่างกวดขัน
 อีกทั้งพราหมณ์พฤฒาสารพัน
 ผลของมันต้องตกอเวจี
 
 | 
 | 
 | 
สมพงศ์  ชูสุวรรณบ้านกัลปังหา
 ข้อมูล : พระเจ้าสิบชาติ  สำนักพิมพ์ธรรมสภา
 ภาพประกอบเรื่อง : ไพบุลย์  อินทศรี
 บรรยายภาพ : บรรจบ  บรรณรุจิ
 
 |  
						| 
								|  |  
								|  |  บันทึกการเข้า | 
 
 |  |  | 
	| 
			| 
					
						| 
							
				                  นักกลอนตลาด  ที่ผิดพลาดเรื่องสัมผัสเป็นนิสัย คะแนนน้ำใจ 1625 เหรียญรางวัล:  กระทู้: 246  ออฟไลน์"สร้างความฝันอันละไมในบทกลอน" | 
								|    | « ตอบ #8 เมื่อ: 23 มกราคม 2560, 09:02:32 PM » |  | 
 Permalink: Re: *** พระเจ้าสิบชาติคำกลอน  พระชาติที่ ๔  พระเนมิราช ***
 
 พระเจ้าสิบชาติ  พระชาติที่ ๔  พระเนมิราช  ตอนที่ ๘  เล่าเรื่องนรก (๒) | | | ** “นรกแผ่นเหล็กแดง” แหล่งโหดร้ายต่อคนชั่วที่ตายไปเป็นผี
 แล้วต้องตกนรกอเวจี
 ด้วยกรรมชั่วมากมีล้วนเลวทราม
 
 ** ที่นรกแห่งนี้มีเหล็กหนา
 ไฟลุกแรงแดงจ้าพาวาบหวาม
 ความร้อนแผ่กระจายหมายคุกคาม
 คอยเผาไหม้ทุกยามไร้ปรานี
 
 ** นิรยบาลไล่ต้อนตีสัตว์นรก
 บนเหล็กแดงโดนหมกไฟร้อนจี้
 บ้างหกล้มกายขาดไม่มีดี
 เปลวไฟเผาอีกทีจนไหม้เกรียม
 
 ** เพราะพวกเขามีกรรมที่ทำไว้
 จึงต้องมาชดใช้อย่างโหดเหี้ยม
 ตอนที่มีชีวิตไม่คิดเจียม
 ปล่อยตัณหาโลมเลียมทุกวี่วัน
 
 ** เพราะจิตใจเจือด้วยอกุศล
 เบียดเบียนคนมีศีลให้โศกศัลย์
 ด้วยใจกายวาจาสารพัน
 ต้องทนทุกข์มหันต์เกินบรรยาย
 
 ** ส่วน “นรกถ่านเพลิง” ยุ่งเหยิงนัก
 สัตว์นรกทุกข์หนักเช้าค่ำสาย
 นิรยบาลตักถ่านเพลิงไฟกระจาย
 ใส่ตะกร้ามุ่งหมายทรมาน
 
 ** แล้วนำไปเทลงบนศีรษะ
 สัตว์ฯ ผู้ขาดธัมมะละสังขาร
 ได้รับทุกข์เวทนาพาร้าวราน
 ร้องครวญครางกังวานดังไปไกล
 
 ** สัตว์ฯ พวกนี้เคยทำกรรมชั่วมาก
 ยักยอกเงินบริจาคที่เขาให้
 เพื่อประโยชน์ของวัดวาเอามาใช้
 มิเกรงกลัวเวรกรรมใดในโลกา
 
 ** รับจ้างเป็นพยานเท็จไม่เข็ดขาม
 หากินด้วยคดีความชั่วหนักหนา
 ครั้นสิ้นลมวายปราณมรณา
 ต้องเกิดมามีกรรมตามรังควาญ
 
 ** “นรกหม้อทองแดง” ร้อนแรงแน่
 เป็นแหล่งให้สัตว์ฯ แช่น่าสงสาร
 น้ำทองแดงมีเปลวไฟลุกชั่วกาล
 ทรมานผู้มีบาปใจหยาบคาย
 
 ** ต้องลอยคอตั้งแต่เช้าจนยันค่ำ
 ให้ไฟลวกจนระกำชอกช้ำหลาย
 ชดใช้กันให้สาสมที่งมงาย
 เสวยกรรมในอบายให้สาใจ
 
 ** สมัยเป็นมนุษย์สุดหยาบช้า
 เที่ยวด่าว่าทุบตีจนหม่นไหม้
 ซึ่งสมณะชีพราหมณ์ทั่วทั่วไป
 ผู้ทรงศีลก็ไม่งดเว้นเลย
 
 | 
 | 
 | 
สมพงศ์  ชูสุวรรณบ้านกัลปังหา
 ข้อมูล : พระเจ้าสิบชาติ  สำนักพิมพ์ธรรมสภา
 ภาพประกอบเรื่อง : ไพบุลย์  อินทศรี
 บรรยายภาพ : บรรจบ  บรรณรุจิ
 
 |  
						| 
								|  |  
								|  |  บันทึกการเข้า | 
 
 |  |  | 
	| 
			| 
					
						| 
							
				                  นักกลอนตลาด  ที่ผิดพลาดเรื่องสัมผัสเป็นนิสัย คะแนนน้ำใจ 1625 เหรียญรางวัล:  กระทู้: 246  ออฟไลน์"สร้างความฝันอันละไมในบทกลอน" | 
								|    | « ตอบ #9 เมื่อ: 23 มกราคม 2560, 09:05:43 PM » |  | 
 Permalink: Re: *** พระเจ้าสิบชาติคำกลอน  พระชาติที่ ๔  พระเนมิราช ***
 
 พระเจ้าสิบชาติ  พระชาติที่ ๔  พระเนมิราช  ตอนที่ ๙  เล่าเรื่องนรก (๓) | | | ** “นรกโซ่ทองแดง” แอบแฝงโทษที่แสนโหดหนักหนาจะเปิดเผย
 น่ากลัวจังนรกนี่เหมือนที่เคย
 ได้เอื้อนเอ่ยเฉลยมาคราก่อนนี้
 
 ** นายนิรยบาลไล่ต้อนสัตว์ ฯ
 ใช้โซ่คล้องคอผูกมัดร้อนเหลือที่
 กดศีรษะลงไปในทันทันที
 แล้วรีบดึงเร็วรี่มาบิดคอ
 
 ** รดด้วยน้ำทองแดงแล้วโบยซ้ำ
 แสนเจ็บปวดชอกช้ำจริงจริงหนอ
 ทำครั้งแล้วครั้งเล่าไม่รู้พอ
 บาปที่ก่อทำไว้ชดใช้คืน
 
 ** ในมนุษย์สัตว์ฯ เหล่านี้อำมหิต
 ได้ทำลายชีวิตของสัตว์อื่น
 เคยเป็นพรานล่านกอย่างยั่งยืน
 แล้วบิดคอหยิบยื่นซึ่งความตาย
 
 ** เพื่อจะนำเอามาทำอาหาร
 เลี้ยงคนภายในบ้านและเอาขาย
 ได้ทำบาปทำกรรมไว้มากมาย
 ครั้นตอนปลายมาตกนรกกาฬ
 
 ** “นรกแม่น้ำแกลบ” แยบคายแท้
 เมื่อมองแลแต่ไกลใสมาตรฐาน
 น่ารื่นรมย์ยิ่งเหลือเหนือจักรวาล
 ชวนเหล่าสัตว์ฯ ให้ทะยานลงอาบกิน
 
 ** สัตว์นรกทั้งหลายกระหายน้ำ
 อยากว่ายดำลอยคอเล่นกระแสสินธุ
 กระโดดลงไม่รอรั้งสมดังจินต์
 กลับแปรเปลี่ยนไปสิ้นเป็นแกลบฟาง
 
 ** แถมมีไฟลุกโชนดูโซติช่วง
 กลายเป็นดวงไฟลุกสุกสว่าง
 คอยเผาไหม้เหล่าสัตว์ฯ ให้วายวาง
 แล้วกลับฟื้นคืนร่างคอยรับทัณฑ์
 
 ** ในชาติก่อนพวกนี้เคยขายค้า
 ได้นำเอาข้าวเปลือกมาแล้วจัดสรร
 เอาข้าวลีบหรือแกลบมาปนกัน
 หลังจากนั้นเอาไปขายหมายโกงกิน
 
 ** ด้วยความโลภครอบงำกรรมส่งผล
 เมื่อละจากความเป็นคนชีพสูญสิ้น
 มาเกิดในนรกเพราะมลทิน
 ได้รับทุกข์เป็นอาจิณในแกลบเพลิง
 
 ** “นรกแหลนและหลาว” ขอกล่าวขาน
 ถึงผลกรรมที่บันดาลเพราะความเหลิง
 เกลือกกลั้วอกุศลจนกระเจิง
 ตกนรกหมดเชิงถูกทรมาน
 
 ** นรกนี้มีทั้งหลาวและแหลน
 เป็นดินแดนโหดร้ายหมายสังหาร
 นิรบาลทิ่มแทงให้วายปราณ
 ดิ้นไปมาเพื่อประจานผลกรรมมัน
 
 ** เหตุที่ทำให้ตกนรกร้าย
 เพราะฆ่าสัตว์ไปขายไม่ไหวหวั่น
 ในชาติเป็นมนุษย์สุดจาบัลย์
 ต้องโศกศัลย์อนาถเพราะทาสกรรม
 
 | 
 | 
 | 
สมพงศ์  ชูสุวรรณบ้านกัลปังหา
 ข้อมูล : พระเจ้าสิบชาติ  สำนักพิมพ์ธรรมสภา
 ภาพประกอบเรื่อง : ไพบุลย์  อินทศรี
 บรรยายภาพ : บรรจบ  บรรณรุจิ
 
 |  
						| 
								|  |  
								|  |  บันทึกการเข้า | 
 
 |  |  | 
	| 
			| 
					
						| 
							
				                  นักกลอนตลาด  ที่ผิดพลาดเรื่องสัมผัสเป็นนิสัย คะแนนน้ำใจ 1625 เหรียญรางวัล:  กระทู้: 246  ออฟไลน์"สร้างความฝันอันละไมในบทกลอน" | 
								|    | « ตอบ #10 เมื่อ: 23 มกราคม 2560, 09:09:12 PM » |  | 
 Permalink: Re: *** พระเจ้าสิบชาติคำกลอน  พระชาติที่ ๔  พระเนมิราช ***
 
 พระเจ้าสิบชาติ  พระชาติที่ ๔  พระเนมิราช  ตอนที่ ๑๐  เล่าเรื่องนรก (๔) | | | ** “นรกทุบตี” เป็นที่ทรมานสัตว์ฯเป็นการดัดนิสัยไม่ถลำ
 ไปทำบาปอกุศลที่เคยทำ
 เป็นประจำในกาลที่ผ่าน
 
 ** นายนิรยบาลทุบตีไม่สงสาร
 หวังให้ทุกข์ทรมานจนผวา
 ให้สาสมกับเวรกรรมหวังนำพา
 เพื่อให้รู้คุณค่าการทำดี
 
 ** ในชาติก่อนเคยปล้นสะดมเขา
 เพื่อหวังเอาทรัพย์สินแล้วบินหนี
 แล้วทิ้งความเศร้าโศกอันมากมี
 ให้เจ้าทรัพย์เป็นผู้ที่ต้องทุกข์ใจ
 
 ** “นรกคูถ” เต็มด้วยของบูดเน่า
 มีกลิ่นเหม็นคลุกเคล้าเกินแก้ไข
 จะย่างเท้าก้าวเดินตรงที่ใด
 ส่งกลิ่นเหม็นทั่วไปจนอาเจียน
 
 ** สัตว์นรกต้องเคี้ยวกินอุจจาระ
 อีกทั้งปัสสาวะชวนคลื่นเหียน
 เป็นอาหารประจำซ้ำวนเวียน
 ต้องพากเพียรยอมทนจนวางวาย
 
 ** เวรกรรมที่เคยสร้างชาติปางปกก่อน
 ได้ยอกย้อนหักหลังมิตรสหาย
 นี่คือกรรมทำไว้อย่างมากมาย
 เมื่อตัวตายนรกนี้ที่พึ่งตน
 
 ** “นรกน้ำเลือดและน้ำหนอง”
 น่าสยองหนักหนาพาหมองหม่น
 สัตว์นรกต้องดื่มกินสิ้นทุกคน
 เป็นอาหารที่ดีล้นเกินรำพัน
 
 ** ด้วยกรรมหนักที่สร้างไว้ช่างร้ายกาจ
 มาตุฆาตปิตุฆาตโทษมหันต์
 สัตว์นรกเหล่านี้ได้ฆ่าฟัน
 พ่อแม่สิ้นชีวัน “อนันตริยกรรม”
 
 ** หรือฆ่าผู้บรรลุอรหัตตผล
 เป็นอเสขะบุคคลอย่าเหยียบย่ำ
 ได้แก่ผู้สิ้นตัณหาสภาวธรรม
 เพราะเรียนร่ำปฏิบัติด้วยศรัทธา
 
 ** “นรกเบ็ด” สูตรสำเร็จการลงโทษ
 จะว่าโหดก็โหดเป็นหนักหนา
 เอาเหล็กแดงเกี่ยวลิ้นด้วยเจตนา
 ลากออกมาทรมานผลาญผจญ
 
 ** ให้นอนบนแผ่นเหล็กแดงร้อนแรงมาก
 แล้วจึงลากขอเหล็กสับยับปี่ป่น
 ได้รับทุกข์เวทนาสุดจะทน
 กรรมเวียนวนให้ชดใช้เมื่อปลายมือ
 
 ** กรรมที่สร้างในปางก่อนย้อนส่งผล
 เพราะค้าขายฉ้อฉลคนไม่ซื่อ
 ด้วยกลโกงหลากหลายได้ฝึกปรือ
 คิดเอาเปรียบคนซื้อไม่ซื่อตรง
 
 | 
 | 
 | 
สมพงศ์  ชูสุวรรณบ้านกัลปังหา
 ข้อมูล : พระเจ้าสิบชาติ  สำนักพิมพ์ธรรมสภา
 ภาพประกอบเรื่อง : ไพบุลย์  อินทศรี
 บรรยายภาพ : บรรจบ  บรรณรุจิ
 
 |  
						| 
								|  |  
								|  |  บันทึกการเข้า | 
 
 |  |  | 
	| 
			| 
					
						| 
							
				                  นักกลอนตลาด  ที่ผิดพลาดเรื่องสัมผัสเป็นนิสัย คะแนนน้ำใจ 1625 เหรียญรางวัล:  กระทู้: 246  ออฟไลน์"สร้างความฝันอันละไมในบทกลอน" | 
								|    | « ตอบ #11 เมื่อ: 23 มกราคม 2560, 09:12:29 PM » |  | 
 Permalink: Re: *** พระเจ้าสิบชาติคำกลอน  พระชาติที่ ๔  พระเนมิราช ***
 
 พระเจ้าสิบชาติ  พระชาติที่ ๔  พระเนมิราช  ตอนที่ ๑๑  เล่าเรื่องนรก (๕) | | | ** “นรกภูเขาเหล็กแดง” สุดแรงร้อนไม่ลดหย่อนความโหดร้ายหมายประสงค์
 ลงโทษสัตว์นรกโดยเจาะจง
 ให้ดำรงทุกข์ยากทรมาน
 
 ** มีภูเขาคอยบี้บดสะกดสัตว์ฯ
 ผู้กิเลสร้อยรัดมาเผาผลาญ
 บดให้แหลกละเอียดจนวายปราณ
 แล้วฟื้นใหม่มาประจานความชั่วตน
 
 ** ต้องวิ่งหนีภูเขาบนเหล็กแดง
 ที่ร้อนแรงเพราะไฟใจหมองหม่น
 แสนทรมานปวดร้าวเฝ้าทุกข์ทน
 ต้องดิ้นรนใช้กรรมจนหนำใจ
 
 ** ครั้นไม่นานเกิดภูเขาใหม่สามลูก
 มาล้อมสัตว์ฯ เฝ้าพันผูกสามลูกใหญ่
 เข้าบดบี้เหล่าสัตว์ฯ โดยเร็วไว
 ให้ละเอียดลงไปในพริบตา
 
 ** บาปที่ทำกรรมที่สร้างในปางก่อน
 มันจึงย้อนมาชดใช้ใหญ่หนักหนา
 นอกใจผัวทำชั่วมั่วกามา
 มีชายชู้คูขาร่วมหลับนอน
 
 ** อีก “นรกบ่อไฟ” กว้างใหญ่มาก
 ไฟลุกจากก้นบ่อไม่ย่อหย่อน
 เต็มไปด้วยถ่านเพลิงในกองฟอน
 ที่จะสร้างความเร่าร้อนทั่วกายา
 
 ** นิรยบาลไล่จับสัตว์นรก
 โยนให้ตกในบ่อตามปรารถนา
 สัตว์ฯ ได้รับความทุกข์ทรมา
 แสนสาหัสเกินกว่าจะบรรยาย
 
 ** ในชาติก่อนสร้างกรรมอย่างมหันต์
 จึงต้องรับโทษทัณฑ์ใหญ่เหลือหลาย
 ลอบเป็นชู้ภรรยาเขาหลงงมงาย
 กิเลสตัณหาตัวร้ายได้รัดรึง
 
 ** “นรกสัตว์น่าเกลียด” ควรเหยียดหยาม
 ล้วนแต่สัตว์รูปทรามคิดไม่ถึง
 มีร่างกายน่าเกลียดชวนพรั่นพรึง
 ส่งเสียงอึงคะนึงจึงน่ากลัว
 
 ** ในนรกขุมนี้น่าอนาถ
 มีแต่สัตว์ประหลาดเพราะทำชั่ว
 กายเป็นคนหัวเป็นสัตว์เช่นควายวัว
 เป็นกาไก่นกกระตั้วนกขุนทอง
 
 ** สารพัดหลากหลายนานาสัตว์
 เป็นเพราะการอุบัติต้องหม่นหมอง
 แต่ละคนน่ากลัวมากไม่อยากมอง
 ชวนขนลุกขนพองต้องหนีไกล
 
 ** เป็นเพราะเคยหลงผิดมิจฉาทิฐิ
 คอยตำหนิบุญบาปว่าเหลวไหล
 คนทำชั่วได้ดีมีถมไป
 คนทำดีแต่ไม่เคยได้ดี  (สัมผัสซ้ำด้วยความตั้งใจ)
 
 ** ไม่ยอมเชื่อในเรื่องของกุศล
 ใจชั่วร้ายปี้ป่นคล้ายยักษี
 ทำแต่บาปปล่อยใจใฝ่ราคี
 จึงกลายเป็นผู้ต้องมีกรรมนิรันดร์
 
 | 
 | 
 | 
สมพงศ์  ชูสุวรรณบ้านกัลปังหา
 ข้อมูล : พระเจ้าสิบชาติ  สำนักพิมพ์ธรรมสภา
 ภาพประกอบเรื่อง : ไพบุลย์  อินทศรี
 บรรยายภาพ : บรรจบ  บรรณรุจิ
 
 |  
						| 
								|  |  
								|  |  บันทึกการเข้า | 
 
 |  |  | 
	| 
			| 
					
						| 
							
				                  นักกลอนตลาด  ที่ผิดพลาดเรื่องสัมผัสเป็นนิสัย คะแนนน้ำใจ 1625 เหรียญรางวัล:  กระทู้: 246  ออฟไลน์"สร้างความฝันอันละไมในบทกลอน" | 
								|    | « ตอบ #12 เมื่อ: 23 มกราคม 2560, 09:15:45 PM » |  | 
 Permalink: Re: *** พระเจ้าสิบชาติคำกลอน  พระชาติที่ ๔  พระเนมิราช ***
 
 พระเจ้าสิบชาติ  พระชาติที่ ๔  พระเนมิราช  ตอนที่ ๑๒  เล่าเรื่องสวรรค์ (๑) | | | ** เนมิราชเล่าจบเรื่องนรกก็หยิบยกเอาเรื่องราวชาวสวรรค์
 มาบอกกล่าวประชาทั่วหน้ากัน
 ด้วยมุ่งมั่นหวังให้ได้รื่นรมย์
 
 ** วิมานหนึ่งทำด้วยทองผ่องใสนัก
 ผู้เข้าพักสดใสใจสุขสม
 ช่างสวยงามหนักหนาน่าชื่นชม
 เพราะเจ้าของได้อบรมสั่งสมบุญ
 
 ** โสณเทพบุตรเป็นเจ้าของ
 เข้าครอบครองเต็มไปด้วยไออุ่น
 ทำความดีเอาไว้ได้เป็นทุน
 คอยเจือจุนส่งให้ได้วิมาน
 
 ** ผลบุญที่ทำไว้ได้สมบัติ
 เพราะเคร่งครัดถือศีลห้าเป็นพื้นฐาน
 ทั้งยึดมั่นในศีลแปดตลอดกาล
 มีจิตใจเบิกบานเกินพรรณนา
 
 ** ได้ถวายเสนาสนะแก่พระสงฆ์
 ผู้มั่นคงเลื่อมใสในศาสนา
 ทั้งเป็นเนื้อนาบุญหนุนโลกา
 ได้พึ่งพาอาศัยไม่กังวล
 
 ** แห่งที่สองทำด้วยแก้วผลึก
 สมใจนึกได้พบเห็นเป็นกุศล
 สูงได้ยี่สิบห้าโยชน์ชวนให้ยล
 กระดิ่งห้อยรอบบนริมเชิงชาย
 
 ** ยอดมณฑปสูงค่าสง่าศรี
 ช่างงดงามสวยดีมีหลากหลาย
 อีกธงทิวปลิวไสวตามพระพาย
 เมื่อถูกแสงจันทร์ฉายละลานตา
 
 ** ที่รอบรอบอาคารก็มีสวน
 กลิ่นดอกไม้อบอวลชื่นนาสา
 มีสีสันสดใสบาดนัยน์ตา
 ภุมราบินว่อนหลังสอนมวย
 
 ** เฝ้าเคลียคลอหวังรอรสน้ำหวาน
 เกิดซาบซ่านหลงใหลดอกไม้สวย
 ครั้นผ่านไปมาลีเกิดงงงวย
 ระทดระทวยปล่อยให้ได้เชยชม
 
 ** มีสระโบกขรณีที่น้ำใส
 บัวชูดอกไสวสวยเหลือข่ม
 ฝูงปลาว่ายขวักไขว่กินโคลนตม
 ผิวน้ำถูกแรงลมพัดกระจาย
 
 ** เทพธิดาฟ้อนรำและขับร้อง
 ประโคมดนตรีเสียงก้องคืนเดือนหงาย
 ฟ้าสดใสมองเห็นเป็นประกาย
 เหล่านางต่างรำร่ายเริงระบำ
 
 ** ผลที่ทำให้เกิดในวิมานนี้
 พวกเหล่าเทพนารีผู้งามขำ
 ได้ให้ทานรักษาศีลเป็นประจำ
 ด้วยกุศลที่เธอทำสุขสำราญ
 
 ** สถานที่แห่งใหม่วิไลศรี
 ทำด้วยแก้วมณีอัครฐาน
 มองด้านไหนไฉไลงามตระการ
 วิมานฝาทำด้วย แก้วไพฑูรย์
 
 ** อึกทึกครึกครื้นด้วยเสียงดนตรี
 เทพบุตรมากมีที่ไอศูรย์
 มีสมบัติเพียบพร้อมบริบูรณ์
 เพราะเพิ่มพูนสร้างบุญอุดหนุนมา
 
 ** ในปางก่อนเทพบุตรได้สั่งสม
 เรื่องอุดมมงคลที่ใฝ่หา
 มีให้ทานรักษาศีลด้วยเจตนา
 สร้างบุญไว้เพื่อชาติหน้าจะสบาย
 
 | 
 | 
 | 
สมพงศ์  ชูสุวรรณบ้านกัลปังหา
 ข้อมูล : พระเจ้าสิบชาติ  สำนักพิมพ์ธรรมสภา
 ภาพประกอบเรื่อง : ไพบุลย์  อินทศรี
 บรรยายภาพ : บรรจบ  บรรณรุจิ
 
 |  
						| 
								|  |  
								|  |  บันทึกการเข้า | 
 
 |  |  | 
	| 
			| 
					
						| 
							
				                  นักกลอนตลาด  ที่ผิดพลาดเรื่องสัมผัสเป็นนิสัย คะแนนน้ำใจ 1625 เหรียญรางวัล:  กระทู้: 246  ออฟไลน์"สร้างความฝันอันละไมในบทกลอน" | 
								|    | « ตอบ #13 เมื่อ: 23 มกราคม 2560, 09:19:45 PM » |  | 
 Permalink: Re: *** พระเจ้าสิบชาติคำกลอน  พระชาติที่ ๔  พระเนมิราช ***
 
 พระเจ้าสิบชาติ  พระชาติที่ ๔  พระเนมิราช  ตอนที่ ๑๓  เล่าเรื่องสวรรค์ (๒) | | | ** พบวิมานสร้างด้วยแก้วผลึกในใจนึกประหลาดไม่คาดหมาย
 ช่างสวยงามมองเพลินเกินบรรยาย
 ดูเรียงรายด้วยปราสาทสวยบาดตา
 
 ** รอบวิมานมีสวนมวลไม้ดอก
 แข่งกันออกช่องามตามประสา
 กลิ่นหอมฟุ้งจรุงใจไม่สร่างซา
 ชื่นอุราฉ่ำฤดีทุกวี่วัน
 
 ** ในสถานที่แห่งนี้มีนางฟ้า
 เลิศเลอค่าสมเป็นสาวสวรรค์
 เทพธิดาแต่ละนางช่างผ่องพรรณ
 ดังจะเย้ยดวงจันทร์ให้อายดาว
 
 ** เมื่อครั้งเป็นมนุษย์สุดประเสริฐ
 มีจิตใจเลอเลิศไม่อื้อฉาว
 บริสุทธิ์ข้างในใสแวววาว
 ดุจผ้าขาวไร้ราคีที่เจือปน
 
 ** ได้ถวายปัจจัยสี่ มีบิณฑบาต
 ที่อาศัย ไม่ขาดใฝ่กุศล
 จีวร ยารักษาโรค โดยแยบยล
 แก่พระอรหัตตผลด้วยศรัทธา
 
 ** พบวิมานแก้วไพฑูรย์จำรูญศักดิ์
 ที่พำนักเทพบุตรสุดสง่า
 วิมานแก้วเต็มไปด้วยเทพธิดา
 งามโสภาเลิศล้ำกว่าคำชม
 
 ** เสียงขับกล่อมมโหรีดีดสีเป่า
 คอยเร่งเร้าให้หลงใหลใจสุขสม
 ต่างเริงรื่นชื่นใจในอารมณ์
 ไม่เคยร้าวระทมทุกข์ไม่มี
 
 ** ในชาติก่อนพวกเธอไม่เผลอพลั้ง
 มีสติยับยั้งในทุกที่
 ระลึกได้ว่าควรสร้างความดี
 ละกรรมชั่วไม่รอรีสร้างแต่บุญ
 
 ** สร้าง สะพาน บ่อน้ำ และสร้างสวน
 เพื่อประชาชนทั้งมวลไม่ว้าวุ่น
 อีกทั้งสระน้ำใส ใจเจือจุน
 เป็นผู้มีการุณแก่ฝูงชน
 
 ** อีกแห่งหนึ่งที่จะกล่าวให้รับรู้
 เพื่อเป็นผู้มีใจไม่หมองหม่น
 ได้ศึกษาตัวอย่างเสริมสร้างตน
 เหมือนถนนที่สร้างไว้ให้คนเดิน
 
 ** เป็นปราสาททำด้วยทองมองงามเด่น
 สีดังเช่นแสงอาทิตย์คิดสรรเสริญ
 ส่องแสงยามแรกอุทัยสดใสเกิน
 มองแล้วเพลินติดตาประทับใจ
 
 ** มีเทพบุตรองค์หนึ่งเป็นเจ้าของ
 เข้าครอบครองเพราะบารมีที่ยิ่งใหญ่
 สร้างสาธารณประโยชน์อันเกรียงไกร
 เหมือนเทพไทในวิมานที่ผ่านมา
 
 | 
 | 
 | 
สมพงศ์  ชูสุวรรณบ้านกัลปังหา
 ข้อมูล : พระเจ้าสิบชาติ  สำนักพิมพ์ธรรมสภา
 ภาพประกอบเรื่อง : ไพบุลย์  อินทศรี
 บรรยายภาพ : บรรจบ  บรรณรุจิ
 
 |  
						| 
								|  |  
								|  |  บันทึกการเข้า | 
 
 |  |  | 
	| 
			| 
					
						| 
							
				                  นักกลอนตลาด  ที่ผิดพลาดเรื่องสัมผัสเป็นนิสัย คะแนนน้ำใจ 1625 เหรียญรางวัล:  กระทู้: 246  ออฟไลน์"สร้างความฝันอันละไมในบทกลอน" | 
								|    | « ตอบ #14 เมื่อ: 23 มกราคม 2560, 09:22:40 PM » |  | 
 Permalink: Re: *** พระเจ้าสิบชาติคำกลอน  พระชาติที่ ๔  พระเนมิราช ***
 
 พระเจ้าสิบชาติ  พระชาติที่ ๔  พระเนมิราช  ตอนที่ ๑๔  ออกบวช | | | ** ฝ่ายเหล่าปวงประชาพฤฒามาตย์ทั้งข้าราชบริพารทั่วถ้วนหน้า
 ฟังเรื่องนรกสวรรค์ที่พรรณนา
 ต่างมีใจศรัทธาในบาปบุญ
 
 ** ตั้งใจว่าจะสร้างแต่กุศล
 เพื่อหวังผลอานิสงส์จงช่วยหนุน
 ทำความดีได้กำไรไม่ขาดทุน
 ได้เจือจุนเป็นเสบียงเลี้ยงชีวัน
 
 ** รักษาศีลให้ทานกันไม่เว้น
 หวังได้เป็นที่อาศัยในสวรรค์
 ละโลกนี้จะไม่ไปโลกันต์
 จะสุขสันต์เริงรื่นชื่นอุรา
 
 ** เนมิราชทรงครอบครองราชสมบัติ
 สุขสวัสดิ์เปรมปรีดิ์ดีหนักหนา
 ประชาราษฎร์ต่างมีสุขทุกเวลา
 ต่างศรัทธาศีลทานทั่วบ้านเมือง
 
 ** จนกระทั่งย่างเข้าปัจฉิมวัย
 ทรงสลดพระทัยเมื่อรู้เรื่อง
 ว่าเกิดมีผมหงอกงอกเนืองเนือง
 เพราะฟันเฟืองวัฏฏะมาเวียนวน
 
 ** ธรรมชาติสังขารไม่หยุดนิ่ง
 ย่อมแปรเปลี่ยนทุกสิ่งตามเหตุผล
 มีเกิดขึ้นตั้งอยู่ไม่คงทน
 และดับไปหนีไม่พ้นพึงสังวร
 
 ** เหล่าราชาราชวงศ์มฆะเทวะ
 ใฝ่ใจในธัมมะคำสั่งสอน
 ปฏิบัติเพื่อความสุขทุกขั้นตอน
 เมื่อม้วยมรณ์มีสวรรค์อันรื่นรมย์
 
 ** เมื่อถึงวัยชราจะออกบวช
 แล้วพร่ำสวดบริกรรมเพื่อจะข่ม
 ทั้งตัณหากิเลสเหตุให้ตรม
 หวังสะสมบุญกิริยาพาสุขใจ
 
 ** เนมิราชเชื้อชาติหน่อกษัตริย์
 หวังขจัดกิเลสมารตัวการใหญ่
 เพื่อสำเร็จโพธิญาณมองการณ์ไกล
 จะต้องไปบำเพ็ญเพียรภาวนา
 
 ** จึงได้อภิเษกราชโอรส
 ผู้งดงามหมดจดสมยศฐาฯ
 ให้เป็นผู้ครอบครองพระพารา
 แล้วจึงได้มุ่งหน้ามาอุทยาน
 
 ** สวนมะม่วงเป็นที่บำเพ็ญพรต
 ได้กำหนดตั้งจิตอธิษฐาน
 ครองผ้าฝาดพาดหนังเสือบำเพ็ญฌาน
 แล้วเจริญพรหมวิหารตามครรลอง
 
 ** สำเร็จฌานสมาบัติตัดตัณหา
 อันเป็นเหตุที่พาให้เศร้าหมอง
 มีความสุขทุกข์ใดไม่เข้าครอง
 ใจผุดผ่องจิตสดใสไร้ราคี
 
 ** ครั้นสิ้นบุญถึงกาลสวรรคต
 ไปตามกฎของสังขารไม่อาจหนี
 ได้เกิดในพรหมโลกช่างโชคดี
 จากการที่สั่งสมบุญคุณอนันต์
 
 | 
 | 
 | 
สมพงศ์  ชูสุวรรณบ้านกัลปังหา
 ข้อมูล : พระเจ้าสิบชาติ  สำนักพิมพ์ธรรมสภา
 ภาพประกอบเรื่อง : ไพบุลย์  อินทศรี
 บรรยายภาพ : บรรจบ  บรรณรุจิ
 
 |  
						| 
								|  |  
								|  |  บันทึกการเข้า | 
 
 |  |  | 
	|  |