| 
			| 
					
						| 
							
				                  นักกลอนตลาด  ที่ผิดพลาดเรื่องสัมผัสเป็นนิสัย คะแนนน้ำใจ 1625 เหรียญรางวัล:  กระทู้: 246  ออฟไลน์"สร้างความฝันอันละไมในบทกลอน" | 
								|    | «  เมื่อ: 22 มกราคม 2560, 02:23:31 PM » |  | 
 Permalink: *** พระเจ้าสิบชาติคำกลอน  พระชาติที่ ๑  พระเตมีย์ ***
 
 พระเจ้าสิบชาติ  พระชาติที่ ๑  พระเตมีย์  บทนำ | | |  ** จะขอกล่าวถึงเรื่องพระโพธิสัตว์ทรงอุบัติในเมืองพาราณสี
 เสวยพระชาติเป็นพระเตมีย์
 เพื่อบำเพ็ญบุญให้ดีอย่างอุดม
 
 ** พระชาตินี้ทรงบำเพ็ญเนกขัมมะ
 เพื่อลดละโลกีย์ให้สุขสม
 ปณิธานแน่วแน่น่าชื่นชม
 จะออกบวชให้รื่นรมย์ตลอดกาล
 
 ** เนกขัมมะคือการออกจากกาม
 สิ่งชั่วช้าเลวทรามที่หยาบกร้าน
 เพื่อป้องกันนิวรณ์ห้ามารุกราน
 และป้องกันกิเลสมารมารบกวน
 
 ** ตั้งมั่นรักษาศีลและให้ทาน
 เจริญสมถะกัมมัฏฐานเป็นสัดส่วน
 มีสันโดษรู้จักพอรู้จักควร
 มุ่งกระบวนโพธิญาณเบิกบานใจ
 
 | 
 | 
 | 
สมพงศ์  ชูสุวรรณบ้านกัลปังหา
 ข้อมูล : พระเจ้าสิบชาติ  สำนักพิมพ์ธรรมสภา
 ภาพประกอบเรื่อง : ไพบุลย์  อินทศรี
 บรรยายภาพ : บรรจบ  บรรณรุจิ
 
 |  
						| 
								|  |  
								|  |  บันทึกการเข้า | 
 
 |  |  | 
	| 
			| 
					
						| 
							
				                  นักกลอนตลาด  ที่ผิดพลาดเรื่องสัมผัสเป็นนิสัย คะแนนน้ำใจ 1625 เหรียญรางวัล:  กระทู้: 246  ออฟไลน์"สร้างความฝันอันละไมในบทกลอน" | 
								|    | « ตอบ #1 เมื่อ: 22 มกราคม 2560, 02:32:29 PM » |  | 
 Permalink: Re: *** พระเจ้าสิบชาติคำกลอน ***
 
 พระเจ้าสิบชาติ  พระชาติที่ ๑  พระเตมีย์  ตอนที่ ๑  จุติจากสวรรค์ | | | ** ขอเริ่มเรื่อง ณ เมืองพาราณสีเจ้าผู้ครองบุรีสุขสดใส
 ทรงพระนามกาสีผู้ทรงไชย
 มีหน้าใยมเหสีคู่ชีวา
 
 ** ทรงพระนามจันทาเทวีนาถ
 คู่พระทัยจอมราชเสน่หา
 ไม่มีพระโอรสพระธิดา
 เพื่อจะมาสืบสันตติวงศ์
 
 ** พวกชาวเมืองพากันปริวิตก
 จนรุ่มร้อนในอกแทบเป็นผง
 บ้านเมืองคงระส่ำระสายเป็นมั่นคง
 ถ้าขาดองค์ผู้สืบราชบัลลังก์
 
 ** จึงพากันเข้าเฝ้าเพื่อกราบทูล
 จอมไอสูรย์ผู้เป็นซึ่งความหวัง
 ขอให้มีราชบุตรคู่เวียงวัง
 จงให้ได้สมดังความต้องการ
 
 ** ในคืนนั้นท้าวเธอทรงปรึกษา
 กับเอกอัครชายาอย่างฉาดฉาน
 เรามามีลูกกันเถอะเยาวมาลย์
 ให้ประชากรสุขสำราญชื่นอารมณ์
 
 ** พระนางก็เห็นด้วยเป็นยิ่งนัก
 เพื่อประชาชนที่รักจักสุขสม
 แต่ทรงเกรงจะเป็นเพียงดังลม
 ไม่สร้างความชื่นชมชาวพารา
 
 ** พระนางจึงทรงขอให้บุญช่วย
 ขอสวรรค์โปรดอำนวยตามปรารถนา
 ครั้นเมื่อถึงวันพระตามเวลา
 ทรงรักษาศีลอุโบสถอย่างที่เคย
 
 ** แล้วทรงตั้งสัตยาธิษฐาน
 ขอให้บุญบันดาลอย่านิ่งเฉย
 ให้มีราชโอรสไว้ชมเชย
 ดังคำที่ได้เอ่ยขออ้อนวอน
 
 ** ในกาลนั้นทิพยอาสน์ท้าวโกสินทร์
 แข็งกระด้างดุจหินเป็นก้อนก้อน
 ด้วยแรงอธิษฐานของบังอร
 ทิพยอาสน์จึงเร่าร้อนนอนไม่ลง
 
 ** จึงสอดส่องทิพยเนตรดูเหตุการณ์
 ที่เกิดขึ้นในจักรวาลไม่ลืมหลง
 ก็ทรงทราบเรื่องราวโดยเจาะจง
 รีบช่วยเหลือโฉมยงตามขอมา
 
 ** ได้อ้อนวอนเทพบุตรที่สำคัญ
 จะจุติจากสวรรค์ดาวดึงษา
 ให้เกิดเป็นราชโอรสของราชา
 กับพระนางจันทาจอมนารี
 
 | 
 | 
 | 
สมพงศ์  ชูสุวรรณบ้านกัลปังหา
 ข้อมูล : พระเจ้าสิบชาติ  สำนักพิมพ์ธรรมสภา
 ภาพประกอบเรื่อง : ไพบุลย์  อินทศรี
 บรรยายภาพ : บรรจบ  บรรณรุจิ
 
 |  
						| 
								|  |  
								|  |  บันทึกการเข้า | 
 
 |  |  | 
	| 
			| 
					
						| 
							
				                  นักกลอนตลาด  ที่ผิดพลาดเรื่องสัมผัสเป็นนิสัย คะแนนน้ำใจ 1625 เหรียญรางวัล:  กระทู้: 246  ออฟไลน์"สร้างความฝันอันละไมในบทกลอน" | 
								|    | « ตอบ #2 เมื่อ: 22 มกราคม 2560, 03:01:20 PM » |  | 
 Permalink: Re: *** พระเจ้าสิบชาติคำกลอน ***
 
 พระเจ้าสิบชาติ  พระชาติที่ ๑  พระเตมีย์  ตอนที่ ๒  ประสูติ | | | ** ตามปกติเทพบุตรพระองค์นั้นที่บังเกิดในครรภ์มเหสี
 จะต้องไปเกิดในชั้นสูงกว่านี้
 กว่าสวรรค์ชั้นที่จุติมา
 
 ** แต่เพราะคำอ้อนวอนขององค์อินทร์
 คำพิษฐานของยุพินขนิษฐา
 ทั้งอำนาจศีลที่ตัวนางจันทา
 ได้สั่งสมบุญญาอันยาวนาน
 
 ** ประกอบกับความต้องการของเทพบุตร
 จะเกิดในโลกมนุษย์เป็นพื้นฐาน
 เพื่อบำเพ็ญบารมีตามต้องการ
 จึงรับคำองค์มัฆวานในทันที
 
 ** ถึงวาระที่ประชาชนจะมีสุข
 องค์ราชาปลอดทุกข์เป็นสุขี
 เป็นเพราะพระนางจันทาเทวี
 เธอทรงมีพระครรภ์อันอำไพ
 
 ** พระนางทรงถนอมพระครรภา
 ทรงระวังรักษาไม่ไปไหน
 งดอาหารรสจัดจนเกินไป
 เอาใจใส่สุขภาพของพระนาง
 ** นับตั้งแต่พระนางทรงตั้งครรภ์
 บังเกิดเหตุอัศจรรย์หลายหลายอย่าง
 ชาวเมืองเกิดปิติใจไม่จืดจาง
 มีความสุขไม่เลือนรางทั่วหน้ากัน
 
 ** ครั้นเมื่อครบกำหนดทศมาส
 พระนางนาถได้ประสูติอย่างสุขสันต์
 ความเจ็บไม่มากมายสบายครัน
 นับเป็นสิ่งอัศจรรย์ในปฐพี
 
 ** อีกบันดาลให้ฝนตกจนทั่วแคว้น
 ตลอดทั้งดินแดนพาราณสี
 เพื่อขจัดความแห้งแล้งที่เคยมี
 ต้นไม้เขียวขจีผลิดอกใบ
 
 ** ชาวประชาเริงรื่นชื่นหรรษา
 สมโภชโอรสาอย่างยิ่งใหญ่
 ต่างยินดีปรีดาพาสุขใจ
 ส่งเสียงโห่ร้องไปทั่วนคร
 
 | 
 | 
 | 
สมพงศ์  ชูสุวรรณบ้านกัลปังหา
 ข้อมูล : พระเจ้าสิบชาติ  สำนักพิมพ์ธรรมสภา
 ภาพประกอบเรื่อง : ไพบุลย์  อินทศรี
 บรรยายภาพ : บรรจบ  บรรณรุจิ
 
 |  
						| 
								|  |  
								|  |  บันทึกการเข้า | 
 
 |  |  | 
	| 
			| 
					
						| 
							
				                  นักกลอนตลาด  ที่ผิดพลาดเรื่องสัมผัสเป็นนิสัย คะแนนน้ำใจ 1625 เหรียญรางวัล:  กระทู้: 246  ออฟไลน์"สร้างความฝันอันละไมในบทกลอน" | 
								|    | « ตอบ #3 เมื่อ: 22 มกราคม 2560, 03:06:02 PM » |  | 
 Permalink: Re: *** พระเจ้าสิบชาติคำกลอน ***
 
 พระเจ้าสิบชาติ  พระชาติที่ ๑  พระเตมีย์  ตอนที่ ๓  แม่นม | | | ** โหรหลวงได้ตรวจดูพระลักษณะขององค์พระโอรสามหิศร
 มีบุญญาธิการไม่ร้าวรอน
 ประชากรต่างยินดีแสนปรีดา
 
 ** ทั้งเกิดฝนประชาชนก็ชุ่มชื่น
 แสนระรื่นเลิศล้ำสุขหรรษา
 จึงถวายพระนามกุมารา
 พระเตมีย์จอมจักรายอดกุมาร
 
 ** พระองค์ทรงเป็นเด็กที่น่ารัก
 มีผิวพรรณงามนักเกินกล่าวขาน
 ไม่ขี้อ้อนโยเยอันธพาล
 มีจิตใจเบิกบานนิสัยดี
 
 ** พระบิดาทรงห่วงใยเป็นที่ยิ่ง
 ทรงตั้งหญิงเป็นแม่นมหกสิบสี่
 แต่ละนางคัดเลือกยอดนารี
 มีรูปร่างโสภีบุคลิกงาม
 
 ** และยังมีลักษณะที่พิเศษ
 คัดเลือกเกรดชั้นเลิศไม่ต้องห้าม
 ถูกต้องตามตำราที่ลือนาม
 เพื่อจะบังเกิดความเป็นมงคล
 
 ** หนึ่ง “รูปร่างไม่สูงจนเกินไป”
 เพราะความสูงก็ทำให้บังเกิดผล
 คอของเด็กจะยาวดูชอบกล
 ผิดธรรมชาติของคนไม่น่ามอง
 
 ** ด้วยเด็กต้องยืดคอขึ้นดูดนม
 แม่จะก้มลงมาก็ไม่คล่อง
 เพราะความหิวมากมายเป็นก่ายกอง
 ลูกจึงต้องจำนนทนยืดมัน
 
 ** สอง “รูปร่างไม่เตี้ยจนเกินไป”
 ความเตี้ยเป็นเหตุให้เด็กคอสั้น
 ต้องหดคอดูดนมทุกทุกวัน
 เป็นเรื่องที่สำคัญควรคำนึง
 
 ** สาม “รูปร่างไม่ผอมจนเกินไป”
 จะทำให้เด็กเจ็บคิดไม่ถึง
 เพราะดูดนมในท่าที่รัดรึง
 ไม่ถนัดเลยจึงเกิดเจ็บตัว
 
 ** สี่ “รูปร่างไม่อ้วนจนเกินไป”
 จะทำให้เด็กปวดเมื่อยจนเจ็บหัว
 เกิดอึดอัดตอนดูดนมช่างน่ากลัว
 จึงเจ็บปวดไปทั่วสรรพางค์
 
 ** ห้า “สีผิวไม่ดำจนเกินไป”
 จะเป็นเหตุทำให้เกิดขัดขวาง
 ความเจริญเติบโตตามแนวทาง
 เพราะน้ำนมของนางเย็นชืดจัง
 
 ** หก “สีผิวไม่ขาวจนเกินไป”
 เพราะน้ำนมที่ได้น่าผิดหวัง
 มันร้อนมากจริงจริงน่าชิงชัง
 เป็นพลังทำให้เด็กไม่สมบูรณ์
 
 ** เจ็ด “แม่นมที่มีเต้านมยาน”
 เด็กจะทรมานไม่สิ้นสูญ
 นมจะทับจมูกแบนแสนอาดูร
 จะเพิ่มพูนปมด้อยน่าน้อยใจ
 
 ** แปด “แม่นมที่เป็นโรคหืดหอบ”
 ตามระบอบของร่างกายคงไม่ไหว
 เพราะน้ำนมจะเปรี้ยวเสียกระไร
 ไม่ชื่นอกชื่นใจชวนให้กิน
 
 ** เก้า “แม่นมที่เป็นโรคมองคร่อ”
 ใคร่จะขออธิบายให้จบสิ้น
 คือโรคไอเรื้อรังที่เคยชิน
 เราได้ยินได้เห็นเป็นประจำ
 
 ** น้ำนมของแม่นมประเภทนี้
 มันจะมีรสเผ็ดไม่ชื่นฉ่ำ
 เวลาดื่มแต่ละครั้งสุดระกำ
 เป็นเหตุทำให้อาหารไม่พอเพียง
 
 ** แม่นมหกสิบสี่คนของโอรส
 เธอทั้งหมดปลอดภัยไม่ต้องเสี่ยง
 เพราะทุกคนสมบูรณ์พร้อมไม่ใกล้เคียง
 เก้าประการที่ไล่เลียงมาให้ฟัง
 
 | 
 | 
 | 
สมพงศ์  ชูสุวรรณบ้านกัลปังหา
 ข้อมูล : พระเจ้าสิบชาติ  สำนักพิมพ์ธรรมสภา
 ภาพประกอบเรื่อง : ไพบุลย์  อินทศรี
 บรรยายภาพ : บรรจบ  บรรณรุจิ
 
 |  
						| 
								|  |  
								|  |  บันทึกการเข้า | 
 
 |  |  | 
	| 
			| 
					
						| 
							
				                  นักกลอนตลาด  ที่ผิดพลาดเรื่องสัมผัสเป็นนิสัย คะแนนน้ำใจ 1625 เหรียญรางวัล:  กระทู้: 246  ออฟไลน์"สร้างความฝันอันละไมในบทกลอน" | 
								|    | « ตอบ #4 เมื่อ: 22 มกราคม 2560, 03:09:31 PM » |  | 
 Permalink: Re: *** พระเจ้าสิบชาติคำกลอน ***
 
 พระเจ้าสิบชาติ  พระชาติที่ ๑  พระเตมีย์  ตอนที่ ๔  ระลึกชาติได้ | | | ** เมื่อมีพระชนมายุได้หนึ่งเดือนความอัศจรรย์ก็มาเยือนเตือนความหลัง
 ขณะที่พระราชบิดานั่งบัลลังก์
 พิพากษาโจรโอหังทั้งสี่คน
 
 ** พระโอรสทรงบรรทมอยู่บนตัก
 ไม่นานนักทุกคนคงทราบผล
 ท้าวกาสีทรงตัดสินอย่างแยบยล
 ตามทัณฑ์บนที่เหมาะสมกับคดี
 
 ** คนที่หนึ่งซึ่งมีความผิดน้อย
 โทษเบาหน่อยโบยเฆี่ยนอย่างเต็มที่
 คนที่สองผิดมากกว่าชอบราวี
 ให้คุมขังทันทีมิรอนาน
 
 ** คนที่สามมีความผิดมากกว่าอีก
 ทำให้หลีกไม่พ้นต้องประหาร
 คนที่สี่เสียบหลาวปักประจาน
 ตามโทษฐานความผิดที่คิดทำ
 
 ** พระกุมารทรงระลึกชาติก่อนได้
 ว่าสร้างกรรมเอาไว้จนถลำ
 สู่นรกหมกไหม้ชดใช้กรรม
 ถูกเหยียบย่ำไม่เบาเผาด้วยไฟ
 ** ในอดีตเกิดเป็นพระมหากษัตริย์
 ครอบครองเศวตฉัตรนครใหญ่
 สั่งประหารชีวิตชาวเมืองไป
 นับจำนวนเห็นจะได้หลายร้อยพัน
 
 ** เมื่อถึงคราวที่ต้องละโลกนี้
 กรรมที่มีส่งผลต้องโศกศัลย์
 ตกนรกชดใช้หลายร้อยกัลป์
 หลายแสนวันนับดูแล้วแปดหมื่นปี
 
 ** ใช้กรรมในนรกจนหมดสิ้น
 บุญส่งให้จอมบดินทร์ปิ่นกรุงศรี
 ไปเกิดในสวรรค์ชั้นที่ดี
 ดาวดึงส์เป็นที่พำนักกาย
 
 ** หลังจากนั้นมาเกิดเป็นมนุษย์
 เลิศล้ำสุดบารมีที่ปองหมาย
 ไม่ใช่ใครที่ไหนคือองค์ชาย
 ผู้เป็นเจ้านายเมืองนี้เอง
 
 ** พระกุมาไม่ปรารถนาจะครองราชย์
 กลัวอำนาจหน้าที่มาข่มเหง
 ให้ต้องตกนรกน่ายำเกรง
 บาปบานเบ่งอีกคราจะร้อนรน
 ** ไม่มีความทุกข์อะไรจะใหญ่กว่า
 ความทุกข์ทรมาน่าพองขน
 เหมือนทุกข์ในนรกหมกไหม้ตน
 จะดั้นด้นหลีกหนีสุดชีวา
 
 ** กุมารน้อยจึงใคร่ครวญเฝ้าหวนคิด
 นึกอนาถชีวิตเป็นหนักหนา
 อยากจะไปให้พ้นนครา
 ภาวนาบำเพ็ญธรรมสุขสำราญ
 
 | 
 | 
 | 
สมพงศ์  ชูสุวรรณบ้านกัลปังหา
 ข้อมูล : พระเจ้าสิบชาติ  สำนักพิมพ์ธรรมสภา
 ภาพประกอบเรื่อง : ไพบุลย์  อินทศรี
 บรรยายภาพ : บรรจบ  บรรณรุจิ
 
 |  
						| 
								|  |  
								|  |  บันทึกการเข้า | 
 
 |  |  | 
	| 
			| 
					
						| 
							
				                  นักกลอนตลาด  ที่ผิดพลาดเรื่องสัมผัสเป็นนิสัย คะแนนน้ำใจ 1625 เหรียญรางวัล:  กระทู้: 246  ออฟไลน์"สร้างความฝันอันละไมในบทกลอน" | 
								|    | « ตอบ #5 เมื่อ: 22 มกราคม 2560, 03:20:23 PM » |  | 
 Permalink: Re: *** พระเจ้าสิบชาติคำกลอน ***
 
 พระเจ้าสิบชาติ  พระชาติที่ ๑  พระเตมีย์  ตอนที่ ๕  เทพธิดาบอกอุบาย | | | ** ในครั้งนั้นยังมีเทพธิดาคิดช่วยเหลือโอรสาผู้ห้าวหาญ
 เพราะนางเป็นมารดาในก่อนกาล
 ตามรักษายอดชายชาญทุกเวลา
 
 ** จึงเข้าไปกระซิบบอกอุบาย
 ให้อดีตลูกชายดังปรารถนา
 เพื่อได้พ้นตำแหน่งกษัตรา
 สมดังเจตนาพระกุมาร
 
 ** จงทำเป็นง่อยเปลี้ยเสียแขนขา
 เป็นใบ้บ้าตาบอดสอดประสาน
 อีกหูหนวกเป็นคนพิกลพิการ
 แม้จะทรมานต้องยอมทน
 
 ** นับตั้งแต่วันนั้นพระโอรส
 ได้จำจดถ้อยความตามนุสนธิ์
 จึงทำใจแล้วจึงปฏิบัติตน
 เริ่มเป็นคนผิดแผกแปลกจากเดิม
 
 ** ไม่มีการตอบโต้ทางสัมผัส
 ปรากฏชัดผิดปกติเข้ามาเสริม
 ไม่ยินดียินร้ายได้มาเติม
 เพื่อพูนเพิ่มให้สำเร็จเจตนา
 
 ** เมื่อพระเจ้ากาสีทรงทราบเรื่อง
 ที่เกิดขึ้นในเมืองมีปัญหา
 พระโอรสผิดปกติทางปัญญา
 ไม่สบายอุราทรงพะวง
 
 ** ทรงปรึกษาหารือพระเทวี
 ถึงวิธีรักษาดังประสงค์
 ให้หายไปหรือว่าทุเลาลง
 แล้วก็ทรงรับสั่งให้ทดลอง
 
 ** เริ่มต้นให้นมผิดเวลา
 หรือบางคราให้อดเป็นซ้ำสอง
 เพื่อดูผลที่เกิดดังใจปอง
 เมื่อตอนที่ฉลองครบหนึ่งปี
 
 ** เมื่อพระชนมายุสองพรรษา
 ทดลองกุมาราอย่างเต็มที่
 ให้เด็กเด็กห้าร้อยในธานี
 กินขนมอวดภูมีให้ร้าวราน
 
 ** เมื่อพระชนมายุสามพรรษา
 ก็ทดลองอีกคราตามมาตรฐาน
 ให้เด็กเด็กห้าร้อยรับประทาน
 ผลไม้หน้าภูบาลอย่างตั้งใจ
 
 ** เมื่อพระชนมายุสี่พรรษา
 เปลี่ยนวิธีเพื่อพาให้หวั่นไหว
 ให้เด็กเล่นของเล่นอวดทรงไชย
 ก็ไม่สนใจเหมือนก่อนนั้น
 
 ** เมื่อพระชนมายุห้าพรรษา
 ทดลองหยั่งดูว่ามีใจมั่น
 ให้เด็กกินอาหารอวดเช่นกัน
 แต่ผลลัพธ์ของมันไม่เปลี่ยนแปลง
 
 ** เมื่อพระชนมายุหกพรรษา
 ไม่รอช้าทดลองแบบแผลงแผลง
 จุดไฟเผาที่ประทับอย่างรุนแรง
 พระโอรสไม่แสดงอาการเลย
 
 ** เมื่อพระชนมายุเจ็ดพรรษา
 ช้างตกมันมีงาไล่ยังเฉย
 ไม่แสดงอาการกลัวกลับเฉยเมย
 อนิจจาลูกเอ๋ยช่างเวรกรรม
 
 ** เมื่อพระชนมายุแปดพรรษา
 ปล่อยให้งูออกมาไม่น่าขำ
 มาพันรัดร่างกายพระทรงธรรม
 ก็เงียบงำไม่แสดงอาการกลัว
 
 ** เมื่อพระชนมายุเก้าพรรษา
 มหรสพเฮฮาไม่ยิ้มหัว
 ก็ยังคงนิ่งเฉยไม่ลืมตัว
 ไปเกลือกกลั้วตามอุบายที่หมายลวง
 
 ** เมื่อพระชนมายุสิบพรรษา
 เพชฌฆาตจ้องตาก็ไม่ห่วง
 ทำท่าจะฟาดฟันไม่ใช่ลวง
 ก็ยังคงปล่อยให้ล่วงผ่านดังลม
 
 ** พอพระชนมายุสิบเอ็ดพรรษา
 ได้ส่งเสียงพูดจาดังกันขรม
 เพื่อทำลายความเงียบตอนบรรทม
 องค์บรมนิ่งเฉยเหมือนหุ่นฟาง
 
 ** พอพระชนมายุสิบสองพรรษา
 ทำให้เกิดแสงจ้าส่องสว่าง
 ในขณะที่หลับใหลไม่อำพราง
 ตื่นบรรทมมองอย่างไม่ใยดี
 
 ** พอพระชนมายุสิบสามพรรษา
 เอาน้ำอ้อยชโลมทาพิถันพิถี
 จนกระทั่งเยิ้มไปทั้งอินทรีย์
 ก็ไม่มีปฏิกิริยาจากพระองค์
 
 ** พอพระชนมายุสิบสี่พรรษา
 ให้ยุวกษัตราผู้เป็นหงส์
 นอนจมอุจจาระดังจำนง
 ก็ยังคงไม่เอื้อนเอ่ยเผยท่าที
 
 ** พอพระชนมายุสิบห้าพรรษา
 ได้ทดลองรุนแรงกว่าไม่หน่ายหนี
 ให้นอนบนความร้อนใช่ย่ำยี
 แต่ให้เผยวจีว่าร้อนรน
 
 ** พอพระชนมายุสิบหกพรรษา
 ให้หญิงสาวโสภาไม่หมองหม่น
 มาเล้าโลมโอรสให้สุดทน
 ปรากฏผลยังนิ่งเฉยเหมือนเคยมา
 
 ** ความพยายามของจอมเกล้าท้าวกาสี
 ต้องเป็นหมันทุกทีเกินสรรหา
 ยุวกษัติย์ตั้งมั่นด้วยศรัทธา
 เพื่อจะพาตนเองให้พ้นภัย
 
 | 
 | 
 | 
สมพงศ์  ชูสุวรรณบ้านกัลปังหา
 ข้อมูล : พระเจ้าสิบชาติ  สำนักพิมพ์ธรรมสภา
 ภาพประกอบเรื่อง : ไพบุลย์  อินทศรี
 บรรยายภาพ : บรรจบ  บรรณรุจิ
 
 |  
						| 
								|  |  
								|  |  บันทึกการเข้า | 
 
 |  |  | 
	| 
			| 
					
						| 
							
				                  นักกลอนตลาด  ที่ผิดพลาดเรื่องสัมผัสเป็นนิสัย คะแนนน้ำใจ 1625 เหรียญรางวัล:  กระทู้: 246  ออฟไลน์"สร้างความฝันอันละไมในบทกลอน" | 
								|    | « ตอบ #6 เมื่อ: 22 มกราคม 2560, 05:36:19 PM » |  | 
 Permalink: Re: *** พระเจ้าสิบชาติคำกลอน ***
 
 พระเจ้าสิบชาติ  พระชาติที่ ๑  พระเตมีย์  ตอนที่ ๖  น้ำตาพระมารดา | | | ** พระโอรสแสนทรมานเป็นหนักหนากับวิธีการนานาตลอดสมัย
 แต่ในที่สุดก็มีชัย
 ไม่อาลัยโลกีย์ที่เมามัน
 
 ** พระบิดามารดาก็ทุกข์มาก
 ใจไม่อยากให้ลูกต้องโศกศัลย์
 ด้วยวิธีทดลองนับอนันค์
 ต้องจาบัลย์เพราะสงสารปานขาดใจ
 
 ** ฝ่ายพระนางจันทาทรงกรรแสง
 หมดเรี่ยวแรงเพราะสุดจะทนไหว
 ทรงโอบกอดพระโอรสโดยเร็วไว
 แล้วคร่ำครวญหวนไห้พร่ำรำพัน
 
 ** โอ้ลูกเอ๋ยคนดีดวงใจแม่
 อย่าเอาแต่แกลังทำแม่ไม่ขัน
 ใจรอนรอนจะขาดอยู่ทุกวัน
 แม่รู้นะเจ้านั้นไม่พิการ
 
 ** เห็นใจแม่สงสารแม่เถิดทูนหัว
 เลิกทำตัวเป็นคนที่วิตถาร
 จงเป็นอยู่ปกติสุขสำราญ
 พ่อแม่จะเบิกบานในกมล
 
 ** บรรดาโหรได้เปลี่ยนคำพยากรณ์
 จากเคยดีเป็นเดือดร้อนน่าฉงน
 เป็นเสนียดจัญไรดูชอบกล
 ถ้าเลี้ยงไว้อัปมงคลอย่างแน่นอน
 
 ** จะบังเกิดอาเพศเหตุอัปยศ
 พระราชาต้องสวรรคตไม่หลอกหลอน
 หรือพระมเหสีต้องม้วยมรณ์
 ราชบัลลังก์สั่นคลอนด้วยศัตรู
 
 ** จะต้องเอาไปฝังเสียทั้งเป็น
 ช่างเป็นเรื่องเลือดเย็นน่าอดสู
 พระมารดาได้ฟังน้ำตาพรู
 พระบิดาก็หดหู่ไม่แพ้กัน
 
 ** พระเจ้ากาสีจำยอมตามโหรหลวง
 ไม่ทักท้วงยอมรับในอาถรรพ์
 เพื่อความสงบสุขชั่วนิรันดร์
 บ้านเมืองต้องสำคัญและมั่นคง
 
 ** ฝ่ายพระนางจันทามเหสี
 ดวงฤดีแทบสลายเป็นผุยผง
 เฝ้ากราบทูลทั้งน้ำตาที่ไหลลง
 อาบสองแก้มอนงค์จนท่วมนอง
 
 | 
 | 
 | 
สมพงศ์  ชูสุวรรณบ้านกัลปังหา
 ข้อมูล : พระเจ้าสิบชาติ  สำนักพิมพ์ธรรมสภา
 ภาพประกอบเรื่อง : ไพบุลย์  อินทศรี
 บรรยายภาพ : บรรจบ  บรรณรุจิ
 
 |  
						| 
								|  |  
								|  |  บันทึกการเข้า | 
 
 |  |  | 
	| 
			| 
					
						| 
							
				                  นักกลอนตลาด  ที่ผิดพลาดเรื่องสัมผัสเป็นนิสัย คะแนนน้ำใจ 1625 เหรียญรางวัล:  กระทู้: 246  ออฟไลน์"สร้างความฝันอันละไมในบทกลอน" | 
								|    | « ตอบ #7 เมื่อ: 22 มกราคม 2560, 05:39:07 PM » |  | 
 Permalink: Re: *** พระเจ้าสิบชาติคำกลอน ***
 
 พระเจ้าสิบชาติ  พระชาติที่ ๑  พระเตมีย์  ตอนที่ ๗  ข้อต่อรอง | | | ** โอ้ว่าทูลกระหม่อมของน้องเอ๋ยอย่าทำลายลูกเราเลยแม้บกพร่อง
 ทูลกระหม่อมไม่รักไม่อยากมอง
 แต่ตัวน้องรักมากเหนือสิ่งใด
 
 ** ท้าวกาสีบอกว่าพี่ก็รัก
 แต่เราจักขัดขวางย่อมไม่ได้
 พระโอรสเกิดเป็นตัวจัญไร
 ต้องตัดอกตัดใจเพื่อปวงชน
 
 ** แต่พระนางจันทายังขอร้อง
 เพื่อต่อรองสวามีให้ได้ผล
 น้องจะเลี้ยงดูเองอย่ากังวล
 ไม่ระคายเบื้องยุคลของพระองค์
 
 ** ท้าวกาสีไม่ยอมอนุญาต
 ตามที่พระนางนาถมีประสงค์
 พระนางจึงได้เริ่มอ่อนข้อลง
 อยู่กับองค์กุมารสักเจ็ดปี
 
 ** ท้าวเธอก็ยังไม่อ่อนตาม
 แม่โฉมงามจันทามารศรี
 พยายามอ้อนวอนใหม่ไม่รอรี
 ไม่ยอมให้เจ็ดปีขอเจ็ดวัน
 
 ** ท้าวกาสีเห็นว่าไม่นานนัก
 จึงอนุญาตให้เมียรักสมใจฝัน
 พระนางจึงก้มลงอภิวันท์
 จอมราชันสวามีที่เมตตา
 
 ** พระนางเจ้าเทวีศรีสมร
 จึงขอพรอภิเษกโอรสา
 ให้ขึ้นเป็นกษัตริย์ครองพารา
 โปรดให้เชิญกษัตราเลียบนคร
 
 ** เสร็จแล้วเชิญเสด็จแท่นบรรทม
 ในหัวอกนางตรมเฝ้าทอดถอน
 จึงตรงเข้าสวมกอดแล้วอ้อนวอน
 จงสงสารมารดรที่โศกตรม
 
 ** ลูกจงทำเป็นเช่นคนปกติ
 อย่าอุตริให้แม่ต้องขื่นขม
 จงพูดจาพาทีได้ชื่นชม
 อย่าให้จมอยู่กับทุกข์เลยพ่อคุณ
 
 ** เฝ้าอ้อนวอนวันแล้วและวันเล่า
 ขอให้เจ้ารู้ว่าแม่ว้าวุ่น
 ใจแม่นั้นเร่าร้อนแทบเป็นจุณ
 ถ้าเจ้าไม่การุณแม่คงตาย
 
 ** ครบเจ็ดวันโอรสยังเฉยนิ่ง
 หมดเวลาจะประวิงแม่ใจหาย
 นับแต่นี้ไม่มีแล้วลูกชาย
 เจ้าจะต้องวอดวายจากแม่ไป
 
 ** พระนางทรงกรรแสงหมดแรงเรี่ยว
 ต่อแต่นี้แม่จะเหลียวไปทางไหน
 จะมองซ้ายมองขวาไปหาใคร
 เหตุไฉนจึงต้องเป็นเช่นนี้
 
 | 
 | 
 | 
สมพงศ์  ชูสุวรรณบ้านกัลปังหา
 ข้อมูล : พระเจ้าสิบชาติ  สำนักพิมพ์ธรรมสภา
 ภาพประกอบเรื่อง : ไพบุลย์  อินทศรี
 บรรยายภาพ : บรรจบ  บรรณรุจิ
 
 |  
						| 
								|  |  
								|  |  บันทึกการเข้า | 
 
 |  |  | 
	| 
			| 
					
						| 
							
				                  นักกลอนตลาด  ที่ผิดพลาดเรื่องสัมผัสเป็นนิสัย คะแนนน้ำใจ 1625 เหรียญรางวัล:  กระทู้: 246  ออฟไลน์"สร้างความฝันอันละไมในบทกลอน" | 
								|    | « ตอบ #8 เมื่อ: 22 มกราคม 2560, 05:42:49 PM » |  | 
 Permalink: Re: *** พระเจ้าสิบชาติคำกลอน ***
 
 พระเจ้าสิบชาติ  พระชาติที่ ๑  พระเตมีย์  ตอนที่ ๘  สงสารพระมารดา | | | ** ในช่วงของเวลาผ่านมาแล้วพระโอรสฉัตรแก้วผู้ทรงศรี
 ได้ทรงรู้ถึงเหตุการณ์ที่เกิดมี
 ในนครพาราณสีบุรีรมย์
 
 ** พระโอรสสงสารพระชนนี
 จนบางทีเกือบเผลอไปติดหล่ม
 ของความรักความสงสารพาลระทม
 พอนึกได้ต้องข่มอารมณ์นั้น
 
 ** ตัวของเรามีจุดหมายในชีวิต
 จะให้พังเพราะความคิดอย่าพึงฝัน
 เราต้องสู้ต่อไปไม่แพ้มัน
 ต้องฝ่าฟันให้ถึงซึ่งปลายทาง
 
 ** จึงระงับความสงสารที่ล้นอก
 พยายามหยิบยกออกให้ห่าง
 ทรงทำจิตให้แจ่มใสไม่จืดจาง
 ยึดเอาทางโพธิญาณเบิกบานใจ
 
 ** ครบเจ็ดวันสุนันทะสารถี
 อัญเชิญองค์ภูมีจากปรางค์ใหญ่
 เพื่อจะนำไปฝังในราวไพร
 นอกกรุงไกรตามบัญชาองค์ราชัน
 
 ** พระนางจันทาเทวีใจแทบขาด
 พระนางนาถอาลัยเฝ้าโศกศัลย์
 ถึงเวลาลูกพรากมาจากกัน
 ใจแม่นั้นจะขาดพินาศแล้ว
 
 ** ต่อไปนี้แม่คงจะเงียบเหงา
 ไม่มีเจ้าที่เปรียบดังดวงแก้ว
 ชีวิตแม่นี้คงไม่คลาดแคล้ว
 ต้องดับดิ้นสิ้นแววความชื่นบาน
 
 ** เฝ้าชะแง้แลหาขวัญตาแม่
 เวรกรรมใดกันแน่คอยล้างผลาญ
 ลูกจากแม่แม่จากลูกทุกข์ทรมาน
 สุดร้าวรานในดวงแดอกแม่ตรม
 
 ** สะอื้นให้ร่ำหาอาลัยลูก
 พ่อบุญปลูกลูกเอ๋ยแม่ขื่นขม
 น้ำตานองแทบเป็นเลือดเดือดระบม
 อกของแม่ระทมสุดทนทาน
 
 ** พระโอรสสุดแสนจะเศร้าโศก
 แสนวิโยคโศกเศร้าเกินกล่าวขาน
 สุดสงสารพระมารดาพาร้าวราน
 กลัวว่าท่านจะขาดใจในบัดดล
 
 ** ใจเริ่มอ่อนคำวอนแม่ก้องในโสต
 ลูกนี้โฉดหนักหนาอุราหม่น
 ทำร้ายแม่ไม่สงสารสุดทานทน
 ลูกจะเลิกทำตนเหมือนแล้วมา
 
 ** อย่านะเจ้าเตมีย์อย่าใจอ่อน
 เจ้าได้ทนเดือดร้อนนานหนักหนา
 วันนี้วันสุดท้ายอย่ารั้งรา
 จงเดินหน้าเพื่อความหวังดังใจปอง
 
 ** พระโอรสได้สติเตือนพระองค์
 ให้มั่นคงเอาไว้อย่าได้หมอง
 เมื่อรถม้าวิ่งไปตามครรลอง
 ก่อนผ่านช่องประตูพ้นจากวัง
 
 ** ทิ้งให้เสียงกรรแสงแห่งมารดา
 คร่ำครวญหาโหยหวนอยู่เบื้องหลัง
 ส่วนม้าได้วิ่งไปเต็มพลัง
 ตามคำสั่งสารถีมิเลือนราง
 
 | 
 | 
 | 
สมพงศ์  ชูสุวรรณบ้านกัลปังหา
 ข้อมูล : พระเจ้าสิบชาติ  สำนักพิมพ์ธรรมสภา
 ภาพประกอบเรื่อง : ไพบุลย์  อินทศรี
 บรรยายภาพ : บรรจบ  บรรณรุจิ
 
 |  
						| 
								|  |  
								|  |  บันทึกการเข้า | 
 
 |  |  | 
	| 
			| 
					
						| 
							
				                  นักกลอนตลาด  ที่ผิดพลาดเรื่องสัมผัสเป็นนิสัย คะแนนน้ำใจ 1625 เหรียญรางวัล:  กระทู้: 246  ออฟไลน์"สร้างความฝันอันละไมในบทกลอน" | 
								|    | « ตอบ #9 เมื่อ: 22 มกราคม 2560, 05:45:43 PM » |  | 
 Permalink: Re: *** พระเจ้าสิบชาติคำกลอน ***
 
 พระเจ้าสิบชาติ  พระชาติที่ ๑  พระเตมีย์  ตอนที่ ๙  ความจริงปรากฏ | | | ** เกิดเหตุอัศจรรย์ขึ้นอีกคราเมื่อสารถีบังคับม้าให้เยื้องย่าง
 ทางประตูตะวันออกนอกเส้นทาง
 ที่ได้วางเป้าหมายเอาไว้ไกล
 
 ** ตามกำหนดต้องเป็นตะวันตก
 กลับเวียนวกผิดทางอย่างยิ่งใหญ่
 สารถีก็เหมือนถูกสิ่งใด
 มาดลให้ปล่อยม้าไม่ทัดทาน
 
 ** ครั้นถึงป่าแห่งหนึ่งจึงหยุดม้า
 โดยคิดว่าที่นี่เป็นสุสาน
 เปลื้องเครื่องทรงพระโอรสมิช้านาน
 แล้วเริ่มการขุดหลุมฝังภูมี
 
 ** พอพ้นประตูเมืองออกมาได้
 พระโอรสโล่งใจอย่างเหลือที่
 สมความปรารถนากันเสียที
 เราปลอดภัยครั้งนี้เพราะอดทน
 
 ** จึงเสด็จลุกขึ้นประทับนั่ง
 เพื่อยับยั้งความปวดเมื่อยทุกขุมขน
 เอาพระหัตถ์ถูกันหมดกังวล
 นวดพระบาทที่ผจญทรมาน
 
 ** สักครู่หนึ่งจึงเสด็จลงจากรถ
 เพื่อกำหนดการย่างก้าวอย่างห้าวหาญ
 ทรงทดสอบสมรรถนะการทำงาน
 ของร่างกายพระองค์ท่านที่ผ่านมา
 
 ** ทรงเดินไปเดินกลับสองสามรอบ
 หลังทดสอบความสามารถพลังขา
 เมื่อเห็นเป็นปกติชื่นอุรา
 ไม่ผิดแปลกไปกว่าคนทั่วไป
 
 ** จึงหันมาทดลองพลังแขน
 ยังแข็งแรงเหนียวแน่นสักแค่ไหน
 ใช้พระหัตถ์ยกรถม้าอย่างเร็วไว
 เหวี่ยงค้างไว้เหนือเศียรอย่างชำนาญ
 
 ** เมื่อทรงแน่พระทัยว่าเข้มแข็ง
 มีเรี่ยวแรงทรงพลังมาตรฐาน
 เดินไปหาสารถีบริวาร
 ทรงรื่นเริงสำราญในพระทัย
 
 ** สารถีสุนันทะหันมาเห็น
 ยืนตะลึงตัวเย็นเพราะสงสัย
 ครั้นรู้แน่พระองค์ผู้ทรงชัย
 ผู้มีวัยงดงามอร่ามตา
 
 ** แสนยินดีที่เห็นพระโอรส
 ไม่พิการงามงดเกินจักหา
 จึงกราบทูลเสด็จกลับนัครา
 เฝ้าราชามเหสีพร้อมกับตน
 
 | 
 | 
 | 
สมพงศ์  ชูสุวรรณบ้านกัลปังหา
 ข้อมูล : พระเจ้าสิบชาติ  สำนักพิมพ์ธรรมสภา
 ภาพประกอบเรื่อง : ไพบุลย์  อินทศรี
 บรรยายภาพ : บรรจบ  บรรณรุจิ
 
 |  
						| 
								|  |  
								|  |  บันทึกการเข้า | 
 
 |  |  | 
	| 
			| 
					
						| 
							
				                  นักกลอนตลาด  ที่ผิดพลาดเรื่องสัมผัสเป็นนิสัย คะแนนน้ำใจ 1625 เหรียญรางวัล:  กระทู้: 246  ออฟไลน์"สร้างความฝันอันละไมในบทกลอน" | 
								|    | « ตอบ #10 เมื่อ: 22 มกราคม 2560, 08:06:23 PM » |  | 
 Permalink: Re: *** พระเจ้าสิบชาติคำกลอน ***
 
 พระเจ้าสิบชาติ  พระชาติที่ ๑  พระเตมีย์ ตอนที่ ๑๐  ไม่เสด็จกลับ | | | ** พระโอรสตรัสตอบสารถีอยู่ที่นี่ตัวเราไม่สับสน
 ไม่กลับไปสู่สภาพที่มืดมน
 คอยกังวลเพราะตัณหามาครอบงำ
 
 ** บัดนี้ตัวของเราไม่มีแล้ว
 จะบ้านเรือนเพริดแพรวหรือขนำ
 ไม่มีทรัพย์สมบัติเงินทองคำ
 แม้วัวควายจะนำไปไถนา
 
 ** ทั้งพ่อแม่เครือญาติก็ทอดทิ้ง
 หมดตัวแล้วจริงจริงใช่แกล้งว่า
 จะขอบวชถือศีลภาวนา
 อยู่กลางป่าไม่กลับไปเวียงวัง
 
 ** สุนันทะจึงกราบทูลท่านเจ้าขา
 อยู่ในป่าอันตรายไร้ที่หวัง
 ทั้งเสือสิงห์กระทิงเปลี่ยวดุร้ายจัง
 มีพลังเหลือหลายหมายกัดกิน
 
 ** องค์โอรสตรัสตอบไม่หรอกท่าน
 อันตรายไม่แผ้วพานใช่หยามหมิ่น
 ผู้ทรงศีลย่อมปลอดภัยเป็นอาจิณ
 สัตว์ทั้งปวงไม่ถวิลมากล้ำกราย
 
 ** อันคนที่บวชแล้วเสียสละ
 เพราะได้ละผลประโยชน์ที่หลากหลาย
 จึงไม่มีศัตรูคอยทำลาย
 มุ่งมาดร้ายให้เดือดร้อนผู้ทรงธรรม
 
 ** สุนันทะสารถีมิย่อท้อ
 อ้อนวอนขอพระโอรสหวังชื่นฉ่ำ
 ให้คิดถึงประชาชนตาดำดำ
 พยายามน้อมนำให้เห็นดี
 
 ** พระโอรสก็ทรงไม่ใจอ่อน
 ยังยืนกรานไม่ย้อนกลับกรุงศรี
 พอพระทัยใช้ชีวิตในพงพี
 ขอบำเพ็ญบารมีที่ป่าไพร
 
 ** สุนนันทะกราบทูลโอรสา
 ตัวของข้าฯ ขอบวชด้วยได้ไหม
 เพื่อรับใช้ดูแลตลอดไป
 จะไม่ให้มีภัยมาแผ้วพาน
 
 ** พระโอรสตรัสตอบว่าไม่ได้
 ท่านจะต้องกลับไปส่งข่าวสาร
 ให้มารดาบิดาข้าบริพาร
 ทรงทราบถึงเหตุการณ์หมดกังวล
 
 ** สารถีรับคำก่อนอำลา
 ขออนุญาตกลับมาอีกสักหน
 นำราชามเหสีและหมู่ชน
 มาเฝ้าเบื้องยุคลในไม่นาน
 
 ** พระโอรสอนุญาตตามที่ขอ
 อย่ารีรอรีบกลับพระราชฐาน
 จงโชคดีมีชัยสุขสำราญ
 ให้ปลอดภัยเบิกบานตลอดทาง
 
 | 
 | 
 | 
สมพงศ์  ชูสุวรรณบ้านกัลปังหา
 ข้อมูล : พระเจ้าสิบชาติ  สำนักพิมพ์ธรรมสภา
 ภาพประกอบเรื่อง : ไพบุลย์  อินทศรี
 บรรยายภาพ : บรรจบ  บรรณรุจิ
 
 |  
						| 
								|  |  
								|  |  บันทึกการเข้า | 
 
 |  |  | 
	| 
			| 
					
						| 
							
				                  นักกลอนตลาด  ที่ผิดพลาดเรื่องสัมผัสเป็นนิสัย คะแนนน้ำใจ 1625 เหรียญรางวัล:  กระทู้: 246  ออฟไลน์"สร้างความฝันอันละไมในบทกลอน" | 
								|    | « ตอบ #11 เมื่อ: 22 มกราคม 2560, 08:11:12 PM » |  | 
 Permalink: Re: *** พระเจ้าสิบชาติคำกลอน ***
 
 พระเจ้าสิบชาติ  พระชาติที่ ๑  พระเตมีย์ ตอนที่ ๑๑  ทรงบวชเป็นฤๅษี | | | ** ขอกล่าวถึงท้าวสักกะเทวราชประทับอาสน์กัมพลไม่หม่นหมาง
 ทราบว่าพระเตมีย์ได้ปล่อยวาง
 ซึงกิเลสต่างต่างบวชกายา
 
 ** จึงสั่งให้วิสสุกรรมเทพบุตร
 จงรีบรุดเดินทางไปกลางป่า
 เนรมิตอาศรมและศาลา
 ไว้รอท่าเตมีย์ฤๅษีไพร
 
 ** พร้อมทั้งสระน้ำที่ร่มรื่น
 มีดอกบัวดาษดื่นบานไสว
 ส่งกลิ่นหอมอบอวลกระจายไกล
 เมื่อต้องลมดอกใบไหวตามลม
 
 ** พร้อมทั้งเนรมิตบริขาร
 สำหรับท่านฤๅษีที่เหมาะสม
 ผ้าเปลือกไม้สีแดงน่าชื่นชม
 ไว้นุ่งห่มยามประพฤติพรหมจรรย์
 
 ** อีกหนังเสือสำหรับไว้พาดบ่า
 ทั้งมีหาบในคราเข้าไพรสัณฑ์
 เก็บผลไม้มาเสวยทุกทุกวัน
 และไม้เท้าค้ำยันตอนเดินดง
 
 ** ส่วนหน่อเนื้อเตมีย์โอรสราช
 ยุรยาตรเรื่อยไปดังประสงค์
 พบอาศรมสวยงามและมั่นคง
 รู้ว่าเจตจำนงองค์เทวัญ
 
 ** จึงเสด็จเข้าไปในอาศรม
 ก็พบที่บรรทมช่างเสกสรร
 พร้อมทั้งบริขารอย่างครบครัน
 ทรงอธิษฐานใจพลันบวชทันที
 
 ** จึงได้เปลื้องเครื่องทรงออกเร็วไว
 แล้วครองผ้าเปลือกไม้เป็นฤๅษี
 หยิบหนังเสือพาดบ่าช่างดูดี
 จึงรีบเกล้าเมาลีเป็นผมมวย
 
 ** ถือไม้เท้ายกหาบขึ้นใสบ่า
 ก้าวออกมาจากอาศรมที่แสนสวย
 ทดลองเดินไปมากระชุ่มกระชวย
 ได้อุทานออกมาด้วยความสุขใจ
 
 ** การบวชนี้เราพบความสุขแท้
 จะเหลียวแลมองหาไปทางไหน
 ช่างสดชื่นเสียจริงยิ่งกว่าใคร
 สุขภายในมีค่ากว่าเงินทอง
 
 ** พระฤๅษีจึงเดินเข้าที่พัก
 บำเพ็ญธรรมนำชักไม่ให้หมอง
 เจริญพรหมวิหารดังใจปอง
 เฝ้าหมั่นท่องภาวนาอย่างจริงจัง
 
 ** บรรลุฌานสมาบัติในวันนั้น
 ทำความฝันเป็นจริงได้สมใจหวัง
 คุ้มเหลือเกินกับการไม่กลับวัง
 การออกบวชเป็นรังโพธิญาณ
 
 | 
 | 
 | 
สมพงศ์  ชูสุวรรณบ้านกัลปังหา
 ข้อมูล : พระเจ้าสิบชาติ  สำนักพิมพ์ธรรมสภา
 ภาพประกอบเรื่อง : ไพบุลย์  อินทศรี
 บรรยายภาพ : บรรจบ  บรรณรุจิ
 
 |  
						| 
								|  |  
								|  |  บันทึกการเข้า | 
 
 |  |  | 
	| 
			| 
					
						| 
							
				                  นักกลอนตลาด  ที่ผิดพลาดเรื่องสัมผัสเป็นนิสัย คะแนนน้ำใจ 1625 เหรียญรางวัล:  กระทู้: 246  ออฟไลน์"สร้างความฝันอันละไมในบทกลอน" | 
								|    | « ตอบ #12 เมื่อ: 22 มกราคม 2560, 08:22:13 PM » |  | 
 Permalink: Re: *** พระเจ้าสิบชาติคำกลอน ***
 
 พระเจ้าสิบชาติ  พระชาติที่ ๑  พระเตมีย์ ตอนที่ ๑๒  ดีใจกันทั่วหน้า | | | ** พระบิดาพระมารดาทรงทราบเรื่องจากสารถีกลับเมืองมาส่งสาร
 จึงสั่งให้เจ้าหน้าที่รีบจัดการ
 จัดขบวนบริวารเพื่อเดินทาง
 
 ** ไปเยี่ยมพระฤๅษีที่บรรพต
 ใจจ่อจดเฝ้าคิดถึงอยู่ไม่สร่าง
 เฝ้าเป็นห่วงสายใยไม่จืดจาง
 คอยฟังข่าวอยู่ห่างห่างตลอดมา
 
 ** เปิดโอกาสให้ชาวเมืองร่วมขบวน
 จึงประกาศเชิญชวนกันถ้วนหน้า
 พวกชาวเมืองร่วมใจกันไคลคลา
 ได้มุ่งตรงไปหาองค์เตมีย์
 
 ** แต่ก่อนนั้นพระนครดูคึกคัก
 มีผู้คนทายทักเสียงอึงมี่
 ต่างทำมาค้าขายด้วยไมตรี
 แต่บัดนี้เงียบเหงาไร้ผู้คน
 
 ** ท้าวกาสีมิห่วงใยราชสมบัติ
 ใจประหวัดแต่โอรสไม่หมองหม่น
 แม้พระนางจันทาไม่กังวล
 ทั้งสองคนเบิกบานในหทัย
 
 ** ฝ่ายชาวเมืองอิ่มเอิบในใจยิ่ง
 นับเป็นสิ่งดีเลิศในสมัย
 เหมือนดอกไม้ได้รับแสงยามอุทัย
 ไร้พิษภัยงดงามตระการตา
 
 ** เมื่อทุกคนได้พบกันดังมั่นหมาย
 ช่างรู้สึกใจสบายเป็นหนักหนา
 เหมือนได้วางสิ่งที่หนักอุรา
 ให้ออกมาจากก้นบึ้งอยู่ภายใน
 
 ** พระฤๅษีจึงได้บรรยายธรรม
 ให้ทุกคนชื่นฉ่ำและสดใส
 ความเร่าร้อนที่สุมอกเหมือนดังไฟ
 ไม่มีเหลือเยื่อใยมาเผากาย
 
 ** ทั้งบิดามารดาและชาวเมือง
 ต่างเลื่อมใสความปราดเปรื่องอย่างเหลือหลาย
 จึงขอบวชในสำนักกันทุกราย
 บำเพ็ญบุญหลีกอบายกันทุกคน
 
 ** ทั้งฤๅษีฤๅษิณีบรรลุฌาน
 เดินตามอย่างอาจารย์สร้างกุศล
 ครั้นเมื่อถึงเวลาต้องวายชนม์
 ความดีได้ส่งผลให้ไปดี
 
 **เกิดเป็นพรหมอยู่ในพรหมโลก
 ไม่มีทุกข์ไม่มีโศกต่างสุขี
 รอเวลาจะจุติใหม่อีกที
 เชิญน้องพี่ติดตามกันต่อไป
 
 | 
 | 
 | 
สมพงศ์  ชูสุวรรณบ้านกัลปังหา
 ข้อมูล : พระเจ้าสิบชาติ  สำนักพิมพ์ธรรมสภา
 ภาพประกอบเรื่อง : ไพบุลย์  อินทศรี
 บรรยายภาพ : บรรจบ  บรรณรุจิ
 
 |  
						| 
								|  |  
								|  |  บันทึกการเข้า | 
 
 |  |  | 
	| 
			| 
					
						| 
							
				                  นักกลอนตลาด  ที่ผิดพลาดเรื่องสัมผัสเป็นนิสัย คะแนนน้ำใจ 1625 เหรียญรางวัล:  กระทู้: 246  ออฟไลน์"สร้างความฝันอันละไมในบทกลอน" | 
								|    | « ตอบ #13 เมื่อ: 22 มกราคม 2560, 08:28:52 PM » |  | 
 Permalink: Re: *** พระเจ้าสิบชาติคำกลอน ***
 
 พระเจ้าสิบชาติ  พระชาติที่ ๑  พระเตมีย์ บทส่งท้าย | | | ** เนกขัมมะก็คือการถือบวชจักเกิดสุขยิ่งยวดจะหาไหน
 ออกจากกามเป็นเรื่องที่ใครใคร
 หากทำได้สุขยิ่งในโลกา
 
 ** จุดประสงค์เพื่อละซึ่งนิวรณ์
 ที่ทำให้เดือดร้อนรวมเป็นห้า
 ทั้งรูปรสกลิ้นเสียงล้วนจะพา
 ให้เกิดโทษตามมาอีกมากมาย
 
 ** ทุกทุกสิ่งล้วนแต่อนิจจัง
 ให้จีรังยั่งยืนอย่าพึงหมาย
 เมือเกิดแล้วต้องสิ้นไปอย่างมงาย
 รีบทำลายได้ชื่อว่าเข้าถึงธรรม
 
 ** เนกขัมมะก็คือการบวชใจ
 เพื่อทำให้จิตสงบไม่ถลำ
 สู่อำนาจของตัณหาที่ครอบงำ
 สมาธิจะน้อมนำให้สุขใจ
 
 | 
 | 
 | 
สมพงศ์  ชูสุวรรณบ้านกัลปังหา
 ข้อมูล : พระเจ้าสิบชาติ  สำนักพิมพ์ธรรมสภา
 ภาพประกอบเรื่อง : ไพบุลย์  อินทศรี
 บรรยายภาพ : บรรจบ  บรรณรุจิ
 
                         น้องจ๋า  น้องจ๋าจ้า , เริงอักษร , , ผู้พัน ใหม่  ไม่หวานแล้ว (จืดสนิท) , หมอกริชครับ...คมกริช... คมกริช , , น้องขวัญ  น้องขวัญ  น้องขวัญนะจ๊ะ , สาครินทร์  หิรัญเดช , น้องมีน  น้องมีน  น้องมีนนะจ๊ะ , หมอจุ๋ม  จุ๋มจิ๋ม  จิ๋มจุ๋ม , ญิบสลิล ณ นคร |  
						| 
								|  |  
								|  |  บันทึกการเข้า | 
 
 |  |  | 
	|  |