-/> #รถหาย !...จำเป็นต้องส่งค่างวดรถต่อหรือไม่ ?

You are here: Khonphutorn.com - แหล่งข้อมูลของคนไทยหมวดอาชีพรู้กฎหมาย คลายปัญหา (ผู้ดูแล: พรหมพิพัฒน์)#รถหาย !...จำเป็นต้องส่งค่างวดรถต่อหรือไม่ ?
หน้า: [1]   ลงล่าง
 
ผู้เขียน หัวข้อ: #รถหาย !...จำเป็นต้องส่งค่างวดรถต่อหรือไม่ ?  (อ่าน 2422 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ดูแลเรื่องกฏหมายของเว็บ
คะแนนน้ำใจ 1009
กระทู้: 130
ออฟไลน์ ออฟไลน์
อีเมล์
   
« เมื่อ: 29 พฤษภาคม 2559, 01:45:42 PM »

Permalink: #รถหาย !...จำเป็นต้องส่งค่างวดรถต่อหรือไม่ ?
#รถหาย !...จำเป็นต้องส่งค่างวดรถต่อหรือไม่ ?

การเช่าซื้อเป็นที่นิยมแพร่หลาย เนื่องจากหลายคนที่มีความต้องการซื้อสินค้าราคาสูง เช่น รถยนต์ รถจักรยานยนต์ และอื่น ๆ แต่มีเงินไม่เพียงพอที่จะซื้อได้ทันที จึงต้องทำสัญญาเช่าซื้อ เพื่อผ่อนชำระราคาเป็นงวด ๆ พร้อมดอกเบี้ยจนครบกำหนดตามสัญญาที่ตกลงกัน จึงจะได้กรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินหลังจากชำระครบ

#เช่าซื้อ คือ

การให้เช่า + คำมั่นว่าจะขาย

สัญญาเช่าซื้อ เป็นสัญญาเช่าชนิดหนึ่งตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ซึ่งเกี่ยวกับการเช่า ตามมาตรา ๕๖๗ บัญญัติว่า

"ถ้าทรัพย์สินซึ่งให้เช่าสูญหายไปทั้งหมดไซร้ ท่านว่าสัญญาเช่าก็ย่อม ระงับไปด้วย"

สรุปว่า

ถ้ารถยนต์ รถจักรยานยนต์ และอื่น ๆ ที่เช่าซื้อไปนั้นสูญหาย

#โดยไม่ใช่ความผิดของผู้เช่าซื้อ

"สัญญาเช่าซื้อย่อมระงับไปตามกฎหมาย คู่สัญญาสิ้นความผูกพันธ์เสมือนไม่ได้ทำสัญญาเช่าซื้อต่อกันอีกต่อไป"

"หากการเช่าซื้อยังคงผ่อนชำระไม่หมดผู้เช่าซื้อก็ไม่ต้องผ่อนชำระงวดที่เหลือในอนาคต"

แต่การที่สัญญาจะระงับตามกฎหมายนั้น ต้องปรากฎว่า เหตุที่รถสูญหายไปนั้น ไม่ใช่ความผิดของผู้เช่าซื้อ

และที่สำคัญ

#ผู้เช่าซื้อต้องแสดงให้เห็นว่า

"ตนได้ใช้ความระมัดระวังในการดูแลรักษาทรัพย์สินเหมือนเช่นวิญญูชนจะพึงรักษาทรัพย์สินของตนเองหรือไม่"

เพราะโจทก์ (ผู้ให้เช่าซื้อ) ไม่อาจทราบได้เองว่า ขณะรถยนต์สูญหาย จำเลยได้ใช้ความระมัดระวังเพียงใด

คำพิพากษาฎีกาที่ ๖๕๓๑/๒๕๕๘

จำเลยทั้งสองขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณาคดี ไม่สืบพยาน (คือจำเลยไม่มาศาลเพิ่อสู้คดี) จึงไม่มีพยานหลักฐานให้ศาลพิจารณาได้ว่า จำเลยที่ ๑ ใช้ความระมัดระวังในการดูแลทรัพย์สินหรือไม่

ศาลจึงต้องฟังว่า

#เหตุที่รถที่เช่าซื้อสูญหายเป็นความผิดของจำเลยที่๑

จำเลยทั้งสองต้องร่วมกันรับผิดใช้ราคาค่าเช่าซื้อแก่โจทก์ สัญญาเช่าซื้อไม่ระงับไปตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๕๖๗

ดังนั้นเมื่อทรัพย์ที่เช่าซื้อสูญหาย สัญญาย่อมระงับ ผู้เช่าซื้อจึงไม่ต้องส่งค่าเช่าให้แก่ผู้ให้เช่าซื้อ (ไม่ต้องผ่อนต่อ) แต่คงต้องรับผิดในงวดที่ค้างชำระเท่านั้น เช่น ผ่อนมาแล้ว ๕ งวด รถหายในช่วงเวลาระหว่างงวดที่ ๕ - ๖ ต้องชำระค่างวดที่ค้างในงวดที่ ๓ และตั้งแต่งวดที่ ๖ ไม่ต้องผ่อนต่อ

แต่ก่อนนี้ เมื่อไปแจ้งความเราคงทราบดีว่ารถที่หายดังกล่าวเป็นกรรมสิทธิของไฟแนนซ์ ตำรวจจะต้องให้ไฟแนนซ์เป็นคนมาแจ้งความ หรือให้ทางไฟแนนซ์มอบอำนาจมาเรามาดำเนินการเอง

ซึ่งปัจจุบันนี้ได้มี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ ๘๙๘๐/๒๕๕๕

ได้วางบรรทัดฐานไว้ว่า

"ผู้เช่าซื้อย่อมมีสิทธิครอบครองใช้ประโยชน์จากรถที่เช่าซื้อ เมื่อมีผู้ยักยอกรถนั้นไป โจทก์ร่วมย่อมได้รับความเสียหาย โจทก์ร่วมจึงเป็นผู้เสียหายมีอำนาจร้องทุกข์และขอเข้าร่วมเป็นโจทก์กับพนักงานอัยการได้โดยไม่จำต้องได้รับมอบอำนาจจากผู้ให้เช่าซื้อ"

ดังนั้นจึงไม่ต้องดำเนินการเหมือนอย่างแต่ก่อน ดำเนินการร้องทุกข์แจ้งความได้ทันที

เมื่อแจ้งความเป็นหลักฐานกับตำรวจแล้ว นำสำเนาการแจ้งความไปมอบให้ บ.ประกันภัย และไฟแนนซ์ ไฟแนนซ์จะดำเนินการเคลมประกัน

เราควรตรวจสอบว่า บริษัทประกันเคลมให้ตามวงเงินที่กรมธรรม์ระบุไว้หรือไม่ เคลมเท่าไหร่ ?

ประเด็นจึงเหลือประเด็นเดียว คือ ค่าเสียหายมีเท่าไหร่ ?

เรื่องนี้ศาลฎีกาเคยวางบรรทัดฐานว่าถ้ารถที่เช่าซื้อสูญหายก็ต้องมาคำนวณว่า รถราคาเท่าใด ผู้เช่าซื้อจ่ายเงินค่างวดมาแล้วเป็นเงินเท่าใด บริษัทประกันได้จ่ายค่าสินไหมทดแทนให้แก่บริษัทลิสซิ่งเนื่องจากรถหายเป็นเงินเท่าใด

ถ้า ๒ จำนวนนี้รวมกันแล้วเกินกว่าราคารถที่บริษัทลิสซิ่งซื้อมา อย่างนี้ผู้เช่าซื้อก็ไม่ต้องจ่ายค่าเสียหาย

แต่กรณีกลับกันถ้าไม่พอกับความเสียหายที่ผู้ให้เช่าซื้อได้รับ

#ศาลก็จะกำหนดความเสียหายให้ตามสมควร
แต่มิใช่ให้ชำระค่าเช่าซื้อจนครบเต็มตามสัญญาแต่อย่างใด

ดังนั้นด้วยเหตุผลที่ว่ามา ผู้เช่าซื้อจึงไม่ต้องผ่อน (กุญแจ) ต่อไปจนครบกำหนดตามสัญญาแต่อย่างใด

ในกรณีไฟแนนซ์ หรือ ลิสซิ่ง ที่ให้เช่าซื้อ ทำสัญญาบังคับให้ผู้เช่าซื้อ ต้องรับผิดชอบชดใช้ค่าเช่าซื้อต่อไป แม้ว่ารถยนต์นั้นจะสูญหายไปตาม
สัญญาฉบับนั้น ก็ตาม (ข้อกำหนดในสัญญา) ก็ไม่สามารถบังคับได้ เพราะขัดต่อประกาศคณะกรรมการว่าด้วยสัญญา เรื่อง ให้สัญญาธุรกิจให้เช่าซื้อรถยนต์และรถจักรยานยนต์เป็นธุรกิจควบคุมสัญญา พ.ศ. ๒๕๕๕ ในข้อ ๕(๔)

ข้อ ๕ ข้อสัญญาที่ผู้ประกอบธุรกิจทำกับผู้บริโภคต้องไม่ใช้ข้อสัญญาที่มีลักษณะหรือมีความหมายทำนองเดียวกัน ดังต่อไปนี้....

(๔) ข้อสัญญาที่กำหนดให้ผู้เช่าซื้อต้องรับผิดชำระค่าเช่าซื้อให้ครบถ้วนตามสัญญา ในกรณีรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์ที่เช่าซื้อสูญหาย ถูกทำลาย ถูกยึด ถูกอายัด หรือถูกริบ โดยมิใช่ความผิดของผู้เช่าซื้อ เว้นแต่ค่าเสียหาย หรือเบี้ยปรับ หรือค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการทวงถาม การติดตามรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์ที่เช่าซื้อ ค่าทนายความหรือค่าอื่นใด เพียงเท่าที่ผู้ให้เช่าซื้อได้ใช้จ่ายไปจริง โดยประหยัดตามความจำเป็นและมีเหตุผลอันสมควร

: daily.rabbit.co.th



ขอบคุณภาพจาก
บันทึกการเข้า

ใช้ชีวิตแบบสบายๆ ปล่อยวางบ้าง
ผู้บริหารเว็บ
คะแนนน้ำใจ 65535
เหรียญรางวัล:
PJ ดีเด่นนักอ่านยอดเยี่ยมผู้ดูแลเว็บ
กระทู้: 18,127
ออฟไลน์ ออฟไลน์
"สาวหวาน กับ ความฝันไม่รู้จบ "
   
« ตอบ #1 เมื่อ: 10 สิงหาคม 2564, 10:56:53 AM »

Permalink: Re: #รถหาย !...จำเป็นต้องส่งค่างวดรถต่อหรือไม่ ?
851
บันทึกการเข้า


♪♪♪ รวมบทกลอนน้องจ๋า คลิกค่ะ ...

ขอบคุณทุกภาพจาก Internet และเพลงจากYouTube
หน้า: [1]   ขึ้นบน
 
 
กระโดดไป: