หน้า: [1]   ลงล่าง
 
ผู้เขียน หัวข้อ: อย่าให้อายวัว อายควาย (นะน้อง)  (อ่าน 3912 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ผู้ดูแลบอร์ด
คะแนนน้ำใจ 7753
เหรียญรางวัล:
นักอ่านยอดเยี่ยมนักโพสดีเด่นมีความคิดสร้างสรรค์ผู้ดูแลบอร์ด
กระทู้: 658
ออฟไลน์ ออฟไลน์
   
« เมื่อ: 27 มีนาคม 2559, 06:15:52 PM »

Permalink: อย่าให้อายวัว อายควาย (นะน้อง)


อย่าให้อายวัว อายควาย (นะน้อง)



..เจ้าจากบ้าน ไปหลายปี พี่คิดถึง
เฝ้ารำพึง คอยฟังข่าว เฝ้าห่วงหา
ก่อนเคยสนุก ทุกเช้าเย็น เห็นขวัญตา
กลับทิ้งนา เจ้าหมายมุ่ง เข้ากรุงไกล

..ถึงหลายปี ก็ผ่านเลย มิเคยกลับ
เจ้าหายลับ แม่ไม่รู้ น้องอยู่ไหน
วันสงกรานต์ พ่อแม่ห่วง ดั่งดวงใจ
เจ้าอยู่ไหน ไยเพลินกรุง ทิ้งทุ่งทอง

..เข้าพรรษา งานบุญเลย ก่อนเคยเห็น
คืนจันทร์เพ็ญ ไร้ตัวเจ้า เหงาคูณสอง
ออกพรรษา ทอดกฐิน ถวิลมอง
ไร้เงาน้อง งานแข่งเรือ ไม่เหลือใคร

..รู้หรือเปล่า ยามมีข่าว สาวถูกฆ่า
ทุกคนพา เช็คข่าวเจ้า เฝ้าหวั่นไหว
ขออย่ามี ชื่อของเจ้า เศร้าฤทัย
เจ้ารู้ไหม แม่ท่านเพ้อ ชะเง้อมอง

..หวังใจเพียง อย่าเชื่อง่าย ชายรุมล้อม
มารุมตอม หมายปองเฝ้า เป็นเจ้าของ
หว่านคำหวาน ตรองดีก่อน วอนเนื้อทอง
คิดถูกต้อง พ่อแม่ชื่น ระรื่นใจ

..อันหมูหมา ทั้งเป็ดไก่ ใครก็รู้
ขายได้อยู่ มีราคา มาแต่ไหน
อีกวัวควาย กินแต่หญ้า มาแต่ใด
ยังขายได้ คนมากมี ตีราคา

..แล้วตัวเจ้า เป็นสาวนา มาจากทุ่ง
หากหลงกรุง วางตนผิด คิดบ้างหนา
ทำหัวสูง แจกรักไป ไร้ราคา
“หากต่ำค่า ถูกกว่าควาย” พี่อายแทน

....TOP GUN...





(วันนี้ขับรถออกไปต่างจังหวัดเห็นทุ่งนา 2 ข้างทาง ขาดน้ำ ก็อดคิดถึงความรักของหนุ่มสาวชาวนา
ประมาณว่า "ขวัญ กับ เรียม" ไม่ได้....เพราะเวลานาแล้ง ไม่มีน้ำ..หนุ่มสาว ก็เข้ากรุง เพื่อหางาน
หาเงิน เพื่อจะได้หาเงินส่งกลับไปให้พ่อแม่ทางบ้าน แต่บางคนมาแล้วก็เพลินกรุง หลงแสงสี กู่ไม่กลับ
คือไม่ยอมกลับไปบ้านก็มี เพราะไม่อยากกลับไปทำนาเพราะลำบาก ปล่อยให้พ่อแม่ พี่ๆ น้องๆ ทางบ้าน
คอยฟังข่าวด้วยใจจดจ่อ บางทีมีข่าวฆ่าข่มขืน ก็ตามข่าวอย่างทุกข์ใจว่า จะมีชื่อลูกของตัวหรือไม่
รอว่าเมื่อไหร่จะกลับ งานบุญประเพณีประจำปี ก็ไม่กลับ ..เลยเกิดแรงบันดาลใจแต่งกลอนนี้ขึ้นมา
ทำนองว่า อัน หมู หมา กา ไก่ อีก วัว ควาย ล้วนมีราคาทั้งนั้น คนเรา เมื่อเกิดเป็นผู้หญิง
แน่นอนต้องมีคุณค่า มีราคา อย่าไปแอบมีแฟน มีสามี โดยพ่อ แม่ ไม่ได้ "ค่าสินสอด" เพราะถ้าเป็นอย่างนั้น
"จะอายวัว  อายควาย"...ประมาณนี้ ครับ เพราะควายบางตัวมีราคา ตัวละเป็นแสนๆบาท แล้วทำไมจึงหนีตาม
ไปอยู่กับผู้ชายฟรีๆ แบบไม่มีราคา จึงตั้งชื่อบทกลอนนี้ว่า "อย่าให้อาย ควาย (นะน้อง)"  เหมือนเป็นคำเตือนจาก
 "หนุ่มนา คอยแฟน" ครับ)
บันทึกการเข้า

ผู้บริหารเว็บ
คะแนนน้ำใจ 65535
เหรียญรางวัล:
PJ ดีเด่นนักอ่านยอดเยี่ยมผู้ดูแลเว็บ
กระทู้: 18,135
ออฟไลน์ ออฟไลน์
"สาวหวาน กับ ความฝันไม่รู้จบ "
   
« ตอบ #1 เมื่อ: 28 มีนาคม 2559, 08:56:13 AM »

Permalink: Re: อย่าให้อายวัว อายควาย (นะน้อง)







http://www.oknation.net/blog/nongjar/2016/03/28/entry-1


31
บันทึกการเข้า


♪♪♪ รวมบทกลอนน้องจ๋า คลิกค่ะ ...

ขอบคุณทุกภาพจาก Internet และเพลงจากYouTube
ผู้ดูแลบอร์ด
คะแนนน้ำใจ 7753
เหรียญรางวัล:
นักอ่านยอดเยี่ยมนักโพสดีเด่นมีความคิดสร้างสรรค์ผู้ดูแลบอร์ด
กระทู้: 658
ออฟไลน์ ออฟไลน์
   
« ตอบ #2 เมื่อ: 28 มีนาคม 2559, 05:27:17 PM »

Permalink: Re: อย่าให้อายวัว อายควาย (นะน้อง)



ความเป็นมาของสินสอด ทองหมั้น ตามประเพณีไทย


******************************

     เรื่องสินสอดตามประเพณีไทยนั้นเกิดขึ้นจากกุศโลบายของคนเฒ่าคนแก่ในสมัยโบราณ เนื่องจากแต่เดิมนั้นฝ่ายหญิงและฝ่ายชายไม่มีโอกาสได้พบเจอกันมากนักการแต่งงานในสมัยก่อนมักจะเกิดจากการคลุมถุงชนเป็นหลัก ดังนั้นเพื่อเป็นหลักประกันไม่ให้ว่าที่เจ้าสาวเป็นหม้ายขันหมาก จึงมีการเรียก สินสอดทองหมั้น เป็นการป้องกันไม่ให้ฝ่ายชายทอดทิ้งการแต่งงาน การเรียกค่าสินสอดเกิดขึ้นหลังจากที่มีการทาบทามตกลงสู่ขอกันเรียบร้อยแล้วทางส่วนมากทางผู้ใหญ่ฝ่ายหญิงจะมีการบอกกล่าวว่า "ขอเรียกค่าสินสอดตามความเหมาะสม"  ในความหมายของคำว่าตามความเหมาะสมทางผู้ใหญ่ที่เป็นฝ่ายเจ้าบ่าวจะเข้าใจได้เองว่าควรเป็นเงินเท่าไหร่ และที่สำคัญเรื่องเงินสินสอดควรจะจบลงเมื่อมีการเปิดพานขันหมากในการสู่ขอกันแล้ว



  
******************************

(ปล. สำหรับ TOP GUN  เป็นคนอนุรักษ์นิยม คิดเอาตามพยัญชนะ ซึ่งมี 2 คำ คือ สิน กับ สอด หมายถึง ต้องเสีย "สิน(ทรัพย์)" ก่อนถึงจะได้ "สอด" (สอดอะไรคิดเอาเอง..คิคิ) ถ้าไม่เสีย "สิน" แล้วไปแอบ "สอด" ไม่ดีๆ ผิดธรรมเนียมและประเพณีไทย ถือเป็นการไม่ให้เกียรติ์ผู้หญิง รวมทั้ง พ่อแม่ของฝ่ายหญิงด้วย...ท่านเลี้ยงของท่านมา ให้ชีวิต ให้การศึกษา ไหนเลยจะเอาฟรีๆ อีกทั้งอะไร ก็แล้วแต่ หากได้มายากๆ จะเห็นค่ามาก ส่วนอะไรที่ได้มาฟรี ก็จะไม่ถนอมรักษา บางทีพ่อแม่ฝ่ายหญิง กำหนดค่าสินสอดเพื่อลองใจฝ่ายชาย ว่ารักลูกสาวท่านจริงไหม แต่เมื่อได้รับค่าสินสอดมาจริงๆ ท่านกลับยกเงินส่วนนี้ให้ลูกสาว กับลูกเขยนำไปตั้งตัวก็มีมากมาย หาใช่มีความคิดเพื่อจะขายลูกสาวกินไม่...ส่วนใครจะคิดนออกกรอบประเพณี นอกเหนือจากนี้ ถือเป็นเรื่องเฉพาะบุคคลนะครับ)
บันทึกการเข้า

ไม่มีพิษภัย มีแต่ใจให้ทุกคน
คะแนนน้ำใจ 3164
เหรียญรางวัล:
นักอ่านยอดเยี่ยม
กระทู้: 253
ออฟไลน์ ออฟไลน์
   
« ตอบ #3 เมื่อ: 28 มีนาคม 2559, 06:05:43 PM »

Permalink: Re: อย่าให้อายวัว อายควาย (นะน้อง)
 

ฮาาาาาาาาา
บันทึกการเข้า

ขอบคุณภาพ จาก Internet  และเพลง จาก   Youtube
ผู้บริหารเว็บ
คะแนนน้ำใจ 65535
เหรียญรางวัล:
PJ ดีเด่นนักอ่านยอดเยี่ยมผู้ดูแลเว็บ
กระทู้: 18,135
ออฟไลน์ ออฟไลน์
"สาวหวาน กับ ความฝันไม่รู้จบ "
   
« ตอบ #4 เมื่อ: 28 มีนาคม 2559, 06:07:36 PM »

Permalink: Re: อย่าให้อายวัว อายควาย (นะน้อง)
 

ทะลึ่ง
บันทึกการเข้า


♪♪♪ รวมบทกลอนน้องจ๋า คลิกค่ะ ...

ขอบคุณทุกภาพจาก Internet และเพลงจากYouTube
คะแนนน้ำใจ 2980
เหรียญรางวัล:
PJ ดีเด่นนักอ่านยอดเยี่ยม
กระทู้: 260
ออฟไลน์ ออฟไลน์
   
« ตอบ #5 เมื่อ: 30 มีนาคม 2559, 11:22:54 AM »

Permalink: Re: อย่าให้อายวัว อายควาย (นะน้อง)
ทะลึ่งตรงไหนวะแก 
อ๋อ...
ตรงสินสอดหรือ  ว๊ากกกกก

 
บันทึกการเข้า
ผู้บริหารเว็บ
คะแนนน้ำใจ 65535
เหรียญรางวัล:
PJ ดีเด่นนักอ่านยอดเยี่ยมผู้ดูแลเว็บ
กระทู้: 18,135
ออฟไลน์ ออฟไลน์
"สาวหวาน กับ ความฝันไม่รู้จบ "
   
« ตอบ #6 เมื่อ: 28 กันยายน 2561, 07:52:58 AM »

Permalink: Re: อย่าให้อายวัว อายควาย (นะน้อง)
 
บันทึกการเข้า


♪♪♪ รวมบทกลอนน้องจ๋า คลิกค่ะ ...

ขอบคุณทุกภาพจาก Internet และเพลงจากYouTube
คะแนนน้ำใจ 7152
เหรียญรางวัล:
ผู้ดูแลบอร์ดนักอ่านยอดเยี่ยมนักโพสดีเด่นมีความคิดสร้างสรรค์
กระทู้: 617
ออฟไลน์ ออฟไลน์
อีเมล์
   
« ตอบ #7 เมื่อ: 28 กันยายน 2561, 08:43:08 AM »

Permalink: Re: อย่าให้อายวัว อายควาย (นะน้อง)
ถ้าเป็นเอ๋นะ ถ้ามีใครมาขอ พ่อแม่คงบอก สินสอดไม่ต้อง
...แต่เอาไปแล้ว ไม่ต้องเอามาคืน5555+
บันทึกการเข้า

หน้า: [1]   ขึ้นบน
 
 
กระโดดไป: