-/> ตาปลา

หน้า: [1]   ลงล่าง
 
ผู้เขียน หัวข้อ: ตาปลา  (อ่าน 3458 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ผู้บริหารเว็บ
คะแนนน้ำใจ 65535
เหรียญรางวัล:
PJ ดีเด่นนักอ่านยอดเยี่ยมผู้ดูแลเว็บ
กระทู้: 18,135
ออฟไลน์ ออฟไลน์
"สาวหวาน กับ ความฝันไม่รู้จบ "
   
« เมื่อ: 19 พฤษภาคม 2558, 07:24:28 AM »

Permalink: ตาปลา








ตาปลาคืออะไร


ตาปลา
หลายคนคงสงสัยว่ามันคืออะไร
แล้วทำไมถึงเกิดตาปลาขึ้นกับร่างกายของคนเราได้ โดยบางคนอาจเข้าใจว่าคือหูด ด้วยลักษณะที่คล้ายคลึงกัน
อาจทำให้หลายคนเข้าใจผิด ว่ากันด้วยเรื่องของตาปลานั้นใครที่เคยเป็นคงรู้สึกแหยงและไม่อยากกลับไปเป็นซ้ำอีก
เพราะจะใส่รองเท้าทีก็เจ็บ หรือจะเปลือยเท้าก็ปวดบริเวณที่เป็นตาปลาอย่างมาก และสำหรับใครที่ไม่เคยเป็นได้
รู้แล้วก็คงไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นกับตนเช่นกัน เราลองมาทำความรู้จักกับตาปลากัน…




ตาปลาคืออะไร
โรคตาปลา (Corns) มีอยู่ 2 ชนิด คือ
ตาปลาแบบตุ่มแข็ง
และตาปลาชนิดอ่อน
ซึ่งไม่ใช่โรคติดต่อแต่เกิดจากการเสียดสีบริเวณผิวหนังติดต่อกันเป็นเวลานานโดยเฉพาะที่เท้าและมือของเรา
 เมื่อเกิดการเสียดสีบ่อยๆ เข้าก็จะทำให้เนื้อเยื่อชั้นบนมีการหนาและนูนขึ้นมาเป็นตุ่มเล็กๆคล้ายตาปลา
 จึงเรียกโรคผิวหนังชนิดนี้ว่าตาปลานั่นเอง







อาการของผู้ที่เป็นตาปลา
และเมื่อบริเวณผิวที่เป็นตาปลาสัมผัสกับพื้นผิวหรือวัสดุใดก็จะเกิดอาการเจ็บปวดทรมาน สร้างความรำคาญใจ
ให้แก่ผู้ที่เป็นโรคตาปลาเป็นอย่างมาก ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับขนาดและบริเวณที่เป็นตาปลา ตลอดจนระยะเวลาของการเสียดสี
หรือรับน้ำหนักบริเวณที่เป็นตาปลา ซึ่งหากตาปลามีขนาดใหญ่มากเท่าไหร่ความเจ็บปวดก็เพิ่มขึ้นมากเท่านั้น
เพราะตุ่มแข็งๆ นี้ยิ่งถูกกดทับให้ลึกลงไปใต้ผิวของเรา และหากโชคร้ายอาจไปกดทับเส้นประสาทหรือกระดูก
ก็ยิ่งสร้างความทรมานจนอาจถึงขั้นต้องผ่าตาปลาเลยทีเดียว
โรคตาปลานี้ไม่ใช่โรคร้ายแรงหรือโรคติดต่อ จะรู้สึกเจ็บเมื่อถูกกดลงไปในตุ่ม แต่ถ้าบีบด้านข้างจะไม่รู้สึกเจ็บ
 และไม่มีเลือดออก ซึ่งดูเผินๆจะคล้ายกับหูด แต่หูดนั้นจะร้ายแรงกว่าโดยเมื่อบีบจะรู้สึกเจ็บปวดมากและมีเลือดออกบริเวณที่เป็น

สาเหตุของการเกิดตาปลา
หลายคนคงสงสัยว่าแล้วทำไมจู่ๆ ผิวหนังเราถึงเกิดเป็นตุ่มคล้ายตาปลาได้ สาเหตุนั้นก็เพราะว่าเมื่อผิวหนังเราเกิดการเสียดสี
ไปมาอย่างรุนแรงหรือบ่อยๆ เข้าเป็นระยะเวลานาน จะทำให้หนังกำพร้าของเราแยกออกมาเป็นตุ่มพองๆ และนานวันเข้า
ก็จะทำให้หนังกำพร้าเกิดการสะสมสร้างขี้ไคลขึ้นจนหนาและแข็งเป็นก้อนแหลมๆ เมื่อกดลงไปบริเวณตุ่มใสๆก็จะรู้สึกเจ็บ
โดยหลายคนอาจเข้าใจผิดคิดว่าการเป็นตาปลานั้นจะเป็นเฉพาะที่ฝ่าเท้า แต่ในความเป็นจริงตาปลานั้น
อาจเกิดขึ้นได้ทั้งระหว่างซอกนิ้วเท้า หรือด้านบนของหลังเท้าก็ได้ ไม่ได้จำกัดว่าจะต้องเป็นที่ฝ่าเท้าเสมอไป
เนื่องจากระหว่างซอกนิ้วเท้าหรือบนหลังเท้านั้นก็สามารถเกิดการเสียดสีได้ทั้งจากการสวมใส่รองเท้าหรือกระดูกเกิดการเสียดสีกัน

วิธีการรักษาโรคตาปลา
- ใช้ยากัดตาปลาวันละ 1 – 2 ครั้ง จนกว่าตาปลาจะหลุดออกไป
- ผ่าตัดหรือใช้เลเซอร์ในการจี้ตาปลาออก แม้จะเป็นวิธีที่สะดวกแต่ก็ค่อนข้างแพงกว่าการรักษาด้วยวิธีอื่นๆ
แถมยังอาจทิ้งรอยแผลเป็นไว้ให้ดูต่างหน้าอีกด้วย
- ใช้พลาสเตอร์แบบกรดซาลิไซลิก 40 เปอร์เซ็นต์ ปิดตาปลาทิ้งไว้ประมาณ 2 – 3 วัน
แล้วแช่น้ำอุ่นเพื่อให้ตาปลาหลุดออก หากตาปลายังไม่หลุดออกไปก็อาจทำซ้ำอีกครั้งหนึ่ง
- หากผู้ที่เป็นตาปลาเป็นโรคเบาหวาน ภูมิคุ้มกันบกพร่อง หรือสูญเสียประสาทรับความรู้สึก
เหล่านี้ควรรีบไปพบแพทย์แต่เนิ่นๆ เพราะเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ง่ายกว่าคนทั่วไป

การป้องกันตนเองจากโรคตาปลา
- หลีกเลี่ยงการใส่รองเท้าส้นสูง หรือหัวแหลม เนื่องจากจะเกิดการเสียดสีได้ง่าย
- ควรเลือกใส่รองเท้าให้พอดีไม่คับหรือหลวมเกินไป
- อาจหาแผ่นรองเท้ามารองในรองเท้า
- เลือกรองเท้าสวมใส่กับกิจกรรมที่เหมาะสม
- หากกระดูกเท้าของเรายื่นออกมามากกว่าปกติหรือผิดรูป ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญรักษาให้ตรงจุด
- สำหรับคนอ้วนควรลดน้ำหนักเพื่อลดแรงกดทับลงมายังฝ่าเท้า






นอกจากนี้ยังมีหลายคนที่อาจเข้าใจผิดว่าการใช้ธูปจี้ตาปลาหรือมีดเฉือนตาปลาออก
เป็นหนึ่งในวิธีการรักษา ซึ่งเป็นความคิดผิดอย่างมหันต์ เพราะนอกจากตาปลาจะไม่หายแล้วยังอาจทำให้เกิดแผลมากขึ้น
จนถึงขั้นอักเสบเรื้อรังเลยทีเดียว
ดังนั้นเมื่อเป็นตาปลาแล้วต้องรักษากันอย่างถูกวิธี แม้จะไม่ใช่โรคติดต่อร้ายแรง แต่เมื่อเป็นแล้วก็สร้างความรำคาญใจให้แก่เราไม่น้อยเลย
 พยายามระวังไม่ให้ผิวหนังของเราเกิดการเสียดสี เพียงเท่านี้ก็ห่างไกลจากโรคตาปลาแล้ว


ที่มา..ความรู้.net



บันทึกการเข้า


♪♪♪ รวมบทกลอนน้องจ๋า คลิกค่ะ ...

ขอบคุณทุกภาพจาก Internet และเพลงจากYouTube
ผู้บริหารเว็บ
คะแนนน้ำใจ 65535
เหรียญรางวัล:
PJ ดีเด่นนักอ่านยอดเยี่ยมผู้ดูแลเว็บ
กระทู้: 18,135
ออฟไลน์ ออฟไลน์
"สาวหวาน กับ ความฝันไม่รู้จบ "
   
« ตอบ #1 เมื่อ: 08 มิถุนายน 2566, 06:42:20 PM »

Permalink: Re: ตาปลา
2944
บันทึกการเข้า


♪♪♪ รวมบทกลอนน้องจ๋า คลิกค่ะ ...

ขอบคุณทุกภาพจาก Internet และเพลงจากYouTube
หน้า: [1]   ขึ้นบน
 
 
กระโดดไป: