หน้า: [1]   ลงล่าง
 
ผู้เขียน หัวข้อ: เริ่มที่สนธิจบที่สนธิ  (อ่าน 2125 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
คะแนนน้ำใจ 7
กระทู้: 5
ออฟไลน์ ออฟไลน์
อีเมล์
   
« เมื่อ: 22 พฤศจิกายน 2555, 08:06:18 AM »

Permalink: เริ่มที่สนธิจบที่สนธิ
     
             


เริ่มที่สนธิลิ้มลุกขึ้นสู้

กู่ก้องร้องชูกำปั้นท้า

ตั้งเวทีเมืองไทยรายสัปดาห์

แฉแหลกนานาพิสดาร



โกงบ้างกินบ้างหลีกเลี่ยงบ้าง

เล่ห์กลต่างต่างอย่างอาจหาญ

ที่หนักหนาสากรรจ์อันธพาล

คือจาบจ้วงพระองค์ท่านเกินอภัย



นายกฯงัดวิทยุเข้าสู้

ฟ้องประชาชนคนดูว่าไม่ไหว

คนล้มบนฟูกไปเชื่อใย

บ้านเมืองมีกลไกคอยตรวจทาน



ประชาชนหันเหไขว้เขวเหลือ

ไม่รู้จะเชื่อใครในหลักฐาน

เฮ้วไปเฮ้วมาพอประมาณ

จนถึงสถานสุดท้ายขายชินคอร์ป



เงินตั้งเจ็ดหมื่นล้านบานบะเร่อเท่อ

ไม่เคยเจอะเจออยากสลบ

รวยไม่ว่าแต่ภาษีเสียให้ครบ

จะบรรจบมือไหว้โมทนา



เหมือนฟ้าผ่าเปรี้ยงปร้างกลางหัวใจ

เมื่อสนธิปราศรัยเอาซึ่งหน้า

ไม่ได้เสียสักบาทเดียวเข้าพารา

หมู่ประชาก็รวมเป็นพันธมิตร



จำลองสนธิบวกสมศักดิ์

สมเกียรติก็เข้าพรรคอำมหิต

ครป.หมอจุฬามาใกล้ชิด

เริ่มส่งเสียงปลิดชีวิตท่านนายกฯ



ออกไปออกไปไอ้หน้าเหลี่ยม

จัดเตรียมปากกล้ามาปาฐก

ด่าแหลกแหกกฎไม่หมดยก

ลานพระรูปดื่นดกด้วยผู้คน



ทักษิณทนไม่ไหวยุบสภา

หวังจะมาหาทางออกกันอีกหน

ประชาธิปัตย์ชาติไทยก็ซ้อนกล

ไม่สมัครไม่สนจะเลือกตั้ง



แถมเรียกร้องเสียโก้ให้โนโหวต

ชาวประชากำลังโกรธโหวตไม่ยั้ง

ไม่เลือกใครไม่เลือกใครเต็มกำลัง

ผลคือพังทั้ง “ชาติ” “ไทยรักไทย"



คนไม่พอจะขอเชิดเปิดสภา

กกต.เร่งเวลาหาให้ได้

ไม่คำนึงถูกผิดจะบิดไป

ประชาธิปไตยของไทยก็เริ่มเอียง



ประชาธิปัตย์กล่าวหาไทยรักไทย

จ้างพรรคเล็กลงให้หวังได้เสียง

ไทยรักไทยศอกกลับหวังให้เดี้ยง

ทั้งภาพเสียงวีดิโอโชว์มวลชน



ประชาธิปัตย์นั่นแหละตัวการคิด

จ้างพรรคเล็กหวังบิดให้เกิดผล

ชุลมุนชุลเกอลวน

ประชาชนก็แยกข้างอย่างชัดเจน



ข้างหนึ่งว่าออกไปจงออกไป

ข้างหนึ่งให้สู้สู้ อย่าได้เว้น

ทักษิณดีใจจนเนื้อเต้น

บอกให้เล่นตามกติกาอย่าตีรวน



มิใยในหลวงทรงห่วงชาติ

มีพระราชดำรัสอย่างถี่ถ้วน

ให้หันหน้าเข้าหากันตามสมควร

ปรับกระบวนสมานฉันท์สามัคคี



ทุกคนขานรับเหมือนยับยั้ง

แต่กลับนั่งตีความตามใจพี่

ว่าในหลวงเข้าข้างฉันแล้วซี

ให้หันหน้าพาทีเลยเลิกกัน



เป็นหันหน้าเข้าหาสาวหมัดชก

เตะเข้ากกหูซ้ายดังสนั่น

อัปเปอร์คัทอัดเข้าอย่างเมามัน

ประเทศไทยของฉันน่าเศร้าใจ



รัฐบาลรักษาการนานเป็นปี

ไม่รู้วันจะมีเลือกตั้งไหม

กกต.ก็ถูกขังอย่างทันใจ

หากันใหม่เอาจนได้ กกต.



ยังไม่ทันทำงานได้สักเดือน

เสียงสะเทือนคาร์บอมบ์ก็วิ่งห้อ

คาร์บ๊องหรือเปล่าคนเขารอ

โอ้ละหนอมายเลิฟไม่ทันรู้



จู่จู่ช่องห้าก็พาเหรด

เปิดเพลงเรตรักชาติกันสุดกู่

เดี๋ยวสักพักช่องเก้าก็วิ่งกรู

เคียงคู่เสียงนายกฯจากนิวยอร์ค



ออกประกาศฉุกเฉินปลดสนธิ

ไม่กี่วิมีคลื่นอีกระลอก

กระหน่ำโหมโครมใหญ่ร้องไม่ออก

ปากกระบอกรถถังก็ทิ่มคอ



รัฐสยามก็สยายด้วยทหาร

คปค.เป็นฐานชื่อย่อ

ดอกไม้น้อยใหญ่ห้อยคล้องคอ

โอ้ละหนอประชาธิปไตยไทยแลนด์



รัฐธรรมนูญขว้างทิ้งว่าหาใหม่

ไอ้ทีร่างกว่าจะได้เหนื่อยแสน

ร่างใหม่เพื่อได้ใช้และถูกแบน

เป็นวัฏจักรสุดแสนจะเศร้าใจ



ที่ยุ่งยุ่งวุ่นวายมาทั้งหมด

เพราะกำหนดกฎหมายฤาไฉน

ไหนว่าเพราะระบอบทักษิณอันเกรียงไกร

ใยต้องทิ้งรัฐธรรมนูญประชาชน



เริ่มที่สนธิลิ้มลุกขึ้นท้า

ปลุกประชาออกมาเต็มถนน

จบที่สนธิบุณระดมพล

ปืนกลรถถังเต็มธานี



จะเกิดเป็นวัฏจักรอีกกี่หน

กว่าที่คนจะเบื่อหน่ายวิธีนี้

ฤาว่าตลอดชั่วนาตาปี

เคียงคู่เป็น “ศรี”ประเทศไทย.


.......เป๊ปซี่..........


......28 กันยายน 2549...


 
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]   ขึ้นบน
 
 
กระโดดไป: