"ฟังดนตรี" ลดความดัน

"ฟังดนตรี" ลดความดัน
อย่างที่ทราบกันดีว่า โรคความดันโลหิตสูงคร่าชีวิตผู้คนในโลกไปไม่ต่ำกว่า 5 ล้านคนในแต่ละปี ในบ้านเราก็ไม่ต่างกัน
เพราะตามข้อมูลสำรวจล่าสุดพบว่าประชาชนอายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป จำนวนกว่า 50 ล้านคนทั้งประเทศ ป่วยด้วยโรคนี้มากกว่า 11 ล้านคน
และคาดว่าในอีก 16 ปีข้างหน้า จำนวนผู้ป่วยจะเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ

นอกจากโรคความดันโลหิตสูงจะทำให้บ้านเราสูญเสียทรัพยากรบุคคลที่มีค่าแล้ว
ยังทำให้ภาครัฐต้องสูญเสียงบประมาณมากมายในการช่วยเหลือ ดูแล และรณรงค์ เพื่อป้องกันการเกิดโรคนี้ในคนทุกกลุ่ม
...แต่เชื่อว่าหลังจากอ่านเรื่องนี้จบ คุณๆ น่าจะพบวิธีดูแลตัวเองให้ห่างจากโรคนี้ได้ไม่ยาก
ผลวิจัยชี้ฟังเพลงรักษาโรคได้

จากการประชุมประจำปีครั้งที่ 23 ของสมาคมแพทย์โรคความดันโลหิตสูงของสหรัฐอเมริกาเมื่อปีที่แล้ว
มีการนำเสนอรายงานการวิจัยที่น่าสนใจมากชิ้นหนึ่ง กล่าวถึงการนำเสียงดนตรีมาบำบัดผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง
ศาสตราจารย์ ดร. นพ.ปิเอโตร เอ. โมเดสติ (Prof.Pietro A. Modesti, MD, PhD) แห่งภาควิชาอายุรศาสตร์
มหาวิทยาลัยฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี หัวหน้าทีมวิจัยอธิบายว่ าเขาทดลองโดยนำอาสาสมัครผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง
ที่ต้องรับประทานยาสม่ำเสมอจำนวน 48 คน อายุระหว่าง 45 - 70 ปี มาแบ่งเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรกจำนวน 28 คน
ทีมทดลองจัดกิจกรรมฟังเพลงที่มีทำนองช้า เช่น ดนตรีคลาสสิก ดนตรีเซลติก
(มีศูนย์กลางอยู่ที่แถบตะวันตกเฉียงเหนือของสหราชอาณาจักรอังกฤษ และไอร์แลนด์) หรือดนตรีแบบตัวโน้ตอินเดีย
ติดต่อกันเป็นเวลา 30 นาทีทุกวัน เป็นเวลา 4 สัปดาห์ ในขณะที่อาสาสมัครอีกกลุ่มจำนวน 20 คนให้ทำกิจกรรมอื่นๆ
ไม่ต่างกันยกเว้นกิจกรรมฟังเพลง
ผลการทดลองพบว่า อาสาสมัครกลุ่มที่ได้ฟังเพลงทุกวันมีความรู้สึกทุกข์ทรมานจากโรค และมีความ
กังวลใจลดน้อยลง รวมถึงค่าความดันโลหิตที่วัดได้ลดต่ำลงอีกด้วย ต่างจากกลุ่มที่สองซึ่งไม่มีความเปลี่ยนแปลงใดๆ
ผลการทดลองนี้จึงจุดประกายให้วงการแพทย์ ในเรื่องการหาวิธีเพื่อช่วยลดจำนวนผู้เสียชีวิตด้วยโรคนี้ได้
...แถมการฟังเพลงยังปลอดภัย และไม่ต้องเสียเงินมากเหมือนอย่างการใช้ยาอีกด้วย

ฟังเพลงดีๆ แบบคนยุคใหม่
นอกจากมีผลวิจัยมายืนยันข้อดีของการฟังเพลงแล้ว เรายังมีวิธี "เลือกฟังเพลง" มาฝากกันด้วย
1. เลือกเพลงที่นุ่มนวล อ่อนโยน เนื่องจากแพทย์ยืนยันแล้วว่าการฟังเพลงที่มีจังหวะนุ่มนวล อ่อนโยน
แม้ไม่มีเนื้อร้อง ก็จะทำให้หลอดเลือดหัวใจขยายตัวและส่งผลดีต่อการทำงานของหัวใจค่ะ
2. เลือกเพลงที่ความหมายดี แม้หลายคนฟังแล้วอาจคิดว่าไม่น่าจะเกี่ยวข้องกัน แต่มีผลการวิจัยออกมารับรองว่า
การฟังเพลงที่มีความหมายแง่ลบ โหดร้าย ส่งผลให้จิตใจเคร่งเครียด และคิดในทางลบไปด้วย
เช่น เมื่อวัยรุ่นฟังเพลงที่พูดถึงเรื่องเพศมาก ก็มีแนวโน้มจะมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร เป็นต้น
3. ฟังเพลงในความดังที่พอเหมาะ เพราะเสียงเพลงที่ดังเกินไปอาจทำลายประสาทหูได้
4. เลือกอุปกรณ์ให้เหมาะกับสุขภาพ เช่นการเลือกหูฟังซาวนด์อะเบ๊าท์ ควรเลือกแบบครอบหู
(Around-Ears หรือ Headphones) มากกว่าแบบเสียบหู (In-Ears หรือ Earphones)
เพื่อป้องกันไม่ให้เซลล์ขนซึ่งอยู่ในหูชั้นในเสื่อม และทำให้หูหนวกได้

KBeautifullife