'อ้วน' ก่อสารพัดโรค
เป็นที่ทราบกันดีถึงโรคต่างๆ ที่มาพร้อมความอ้วน แต่อยากจะขออัพเดททั้งสถานการณ์และโรคต่างๆ เพื่อให้คุณๆ ไม่อยู่ในความประมาทกันค่ะ
แต่หลายครั้งเราก็มักจะเผลอไหลไปกับอาหารที่ยั่วตาล่อใจ
การรับรู้บ่อยๆ ก็ช่วยให้เราตระหนักถึงความสำคัญของ 'ความอ้วน' และ 'โรคต่างๆ' ที่มากับความอ้วน
เพื่อที่จะปรับปรุงเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของตัวเองให้ไม่ต้องเสี่ยงกับโรคภัยต่างๆ นั้นนะคะ
คนอ้วนกำลังครองโลก
ปัญหาโรคอ้วนของคนเราเป็นปัญหาระดับชาติและระดับโลกทีเดียว สถานการณ์โรคอ้วนในประเทศไทยมีแนวโน้มทวีความรุนแรงขึ้นอย่างรวดเร็ว
คนไทยประสบปัญหาเกี่ยวกับโรคอ้วนเพิ่มใขึ้น 29.7% ของจำนวนประชากร แลมีอัตราเพิ่มขึ้นทุกปี
ขณะที่สหรัฐอเมริกามีสัดส่วนคนที่เป็นโรคอ้วนอยู่ที่ 60%
ผลเสียที่จะตามมาจากความอ้วน
ศ.นพ.สุรัตน์ โคมินทร์ ประธานฝ่ายวิชาาการ ชมรมโรคอ้วนแห่งประเทศไทย แจกแจงให้ฟังถึงผลเสียของความอ้วน
ถ้าอ้วนแล้วจะทำให้เสี่ยงต่อการเป็นโรคอะไรได้บ้าง ลองมาดูกันค่ะ
- คนอ้วนจะมีอายุขัยสั้นกว่าคนที่มีน้ำหนักปรกติถึง 10-100%
- มีโอกาสเป็นเบาหวานมากกว่าคนปรกติ 7 เท่า
- เวลาจะผ่าตัดก็มีอัตราเสี่ยงสูงกว่าคนน้ำหนักปกติ
- ระดับฮอร์โมนลดลง อาการของผู้หญิงคือ มีประจำเดือนไม่สม่ำเสมอและมีบุตรยาก เสี่ยงต่อการเป็นมะเร็ง
ที่พบบ่อยคือ มะเร็งถุงน้ำดี มะเร็งทางเดินน้ำดี มะเร็งเต้านม มะเร็งปากมดลูก มะเร็งปีกมดลูกและรังไข่
ส่วนผู้ชายจะมีปัญหาเรื่องการสร้างเซลล์สืบพันธุ์ ส่งผลให้เป็นมะเร็งทางอวัยวะสืบพันธุ์
โดยมีโอกาสเป็นมากกว่าคนทั่วไป 1-1.5 เท่า มะเร็งที่พบบ่อยในผู้ชายอ้วน คือ มะเร็งลำไส้ใหญ่และมะเร็งต่อมลูกหมาก
นอกจากนี้ ความอ้วนยังทำให้เกิดโรคที่คาดไม่ถึง เช่น ภาวะหยุดหายใจจากทางเดินหายใจอุดตันขณะนอนหลับ
โรคนิ่วในถุงน้ำดี โรคตับอักเสบ อาการข้อกระดูกเสื่อมเร็วกว่าปรกติ
• ภาวะหยุดหายใจจากทางเดินหายใจอุดตันขณะนอนหลับ
ผู้ป่วยโรคอ้วนจะมีช่องคอแคบจากเนื้อเยื่อเพดานอ่อน ลิ้นไก่หรือลิ้นมีขนาดใหญ่และหย่อนยาน หรือมีคางสั้นมาก
เวลาหายใจขณะหลับจะมีการสั่นสะเทือนของเพดานอ่อน ลิ้นไก่ หรือโคนลิ้น ทำให้เกิดเป็นเสียงกรน ผู้ป่วยมักมีเสียงกรนไม่สม่ำเสมอ
มีลักษณะของการกลั้นหายใจหรือสำลักน้ำลาย ตามด้วยการสะดุ้งหรือหายใจอย่างแรงเหมือนขาดอากาศ
ซึ่งอาจเกิดขึ้นหลายสิบหรือหลายร้อยครั้งต่อคืน
ในขณะที่มีการหยุดหายใจ ออกซิเจนในเลือดแดงจะต่ำลง ทำให้เกิดความผิดปรกติในการทำงานของอวัยวะต่างๆ โดยเฉพาะหัวใจ
หลอดเลือด ปอด และสมอง เป็นผลให้สมองต้องถูกปลุกให้ตื่นขึ้น เพื่อเปิดทางเดินหายใจและให้ออกซิเจนสามารถผ่านเข้าไปในปอดได้อีก
คนอ้วนส่วนใหญ่จะประสบปัญหานี้ บางคนไม่สามารถนอนราบได้ ลิ้นคับปาก เพราะช่องปากมีไขมันมากจนโพรงช่องปากเล็กลง
ลิ้นจะปิดช่องหายใจ ซึ่งทำให้มีอัตราเสี่ยงสูงที่จะเป็นโรคอื่นอีกหลายโรคด้วย ได้แก่ ความดันโลหิตสูง
กล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันจากการขาดเลือด ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ โรคของหลอดเลือดสมอง ตลอดจนมีสมรรถภาพทางเพศเสื่อมลง
• โรคนิ่วในถุงน้ำดี
เนื่องจากคนอ้วนมีการสร้างและขับคอเลสเตอรอลออกทางน้ำดีมากกว่าคนปรกติ
จึงทำให้มีความเสี่ยงเป็นโรคนิ่วในถุงน้ำดีมากกว่าคนทั่วไป 3-4 เท่า โดยพบถึง 68-94 % ของคนอ้วนทั้งหมด
สำหรับอาการของผู้ป่วยที่เป็นโรคนี้ตั้งแต่น้อยไปหามากคือ อาการท้องอืด แน่นท้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังรับประทานอาหารมัน
ปวดเสียดท้องบริเวณใต้ชายโครงขวาหรือลิ้นปี่ ถุงน้ำดีอักเสบเฉียบพลันจะมีอาการปวดท้องบริเวณชายโครงขวามากขึ้น
ร่วมกับมีไข้ และอาจมีอาการคลื่นไส้อาเจียน สุดท้ายคือ อาการดีซ่านทำให้ตัวเหลือง ตาเหลือง
คนอ้วนมักจะมีความผิดปรกติในการทำงานของตับ ซึ่งเป็นผลมาจากการสะสมของไขมันในตัวมากกว่าปกติ
และร้อยละ 50 ของคนที่เป็นโรคอ้วนจะมีปัญหาตับอักเสบ
ชมรมโรคตับแห่งประเทศไทยให้ข้อมูลไว้ว่า โรคตับอักเสบมี 2 ชนิด คือ โรคตับอักเสบเฉียบพลัน
หมายถึง โรคตับอักเสบที่เป็นไม่นานก็หาย ผู้ป่วยส่วนใหญ่มีอาการ 2-3 สัปดาห์ โดยมากไม่เกิน 2 เดือน ผู้ป่วยส่วนใหญ่หายขาด
จะมีบางส่วนเป็นตับอักเสบเรื้อรัง และบางรายรุนแรงถึงกับเสียชีวิต โรคตับอักเสบเรื้อรัง หมายถึง ตับอักเสบที่เป็นนานกว่า 6 เดือน
อาการของโรคไวรัสตับอักเสบ สามารถแบ่งออกเป็นตับอักเสบเฉียบพลัน ผู้ป่วยจะมีอาการที่พบได้บ่อย คือ อ่อนเพลีย
ปวดเมื่อยตามกล้ามเนื้อ ปวดข้อ คลื่นไส้อาเจียน เบื่ออาหาร อาจจะพบผื่นตามตัว หรืออาการท้องเสีย บางรายปัสสาวะสีเข้ม
ตัวเหลือง ตาเหลือง ซึ่งอาการตัวเหลือง ตาเหลืองจะหายไปใน 1-4 สัปดาห์ แต่บางรายอาจนาน 2-3 เดือน ส่วนใหญ่จะหายเป็นปรกติ
ส่วนตับอักเสบเรื้อรัง ผู้ป่วยมักไม่มีอาการ แต่จะมีการทำลายเซลล์ตับไปเรื่อยๆ จนเกิดตับแข็งและเป็นมะเร็งตับในที่สุด
• อาการข้อกระดูกเสื่อมเร็วกว่าปรกติ ผลของการที่น้ำหนักมากขึ้นทำให้ร่างกายต้องรับภาระมากขึ้น และ 30-40% ของคนเป็นโรคอ้วนจะมีอาการข้อกระดูกเสื่อมเร็วกว่าปรกติ
ทำให้เสี่ยงต่อการเป็นโรคเกาต์ อาการข้อเสื่อมมักพบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย ซึ่งความอ้วนเป็นหนึ่งในปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ทำให้เกิดปัญหานี้
โรคข้อเสื่อมมีหลายระดับ ในช่วงแรกอาการยังไม่รุนแรง จึงแค่รู้สึกปวดเมื่อเวลาใช้ข้อ บางครั้งอาจมีเสียงดังกรอบแกรบเวลาเคลื่อนไหว
ต่อมาจะมีอาการข้อตึงและติดขัด เมื่อเป็นมากขึ้นกระดูกผิวข้อจะสึก ทำใหรู้สึกปวดมากเวลาเคลื่อนไหว นอกจากนั้นอาจพบว่ามีการผิดรูปของข้อ
เกิดข้อบวม แดง ร้อน เมื่อเวลาผ่านไปจะมีกระดูกงอกเข้าไปในข้อ พร้อมทั้งมีน้ำไขมันข้อและมีเศษกระดูกลอยอยู่ในข้อ
ซึ่งจะทำให้เกิดอาการปวดข้อมากและเคลื่อนไหวลำบาก หากเป็นมากจะไม่สามารถใช้งานข้อนั้นๆ ได้
เห็นอย่างนี้แล้ว ใครที่กำลังประสบกับโรคอ้วน ควรตระหนักในการดูแลสุขภาพของตัวเองมากขึ้น ลองตั้งใจหาวิธีลดน้ำหนักอย่างจริงจัง
ซึ่งส่วนใหญ่เราก็ทราบกันดีว่ามีอะไรบ้าง หนีไม่พ้นเรื่องออกกำลังกายและการควบคุมอาหารเป็นหลัก
ใครที่ยังใจไม่แข็งพออาจจะลองปรึกษาคุณหมอเพื่อช่วยในการควบคุมดูแล หรืออาจจะให้คนใกล้ตัวช่วยเหลือบ้างก็ได้นะคะ
เพื่อสุขภาพที่ดีของตัวคุณเองค่ะ
KBeautifullife
หมวดสุขภาพ
