-/> ความลับในครีมเทียม

หน้า: [1]   ลงล่าง
 
ผู้เขียน หัวข้อ: ความลับในครีมเทียม  (อ่าน 5820 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ผู้บริหารเว็บ
คะแนนน้ำใจ 65535
เหรียญรางวัล:
PJ ดีเด่นนักอ่านยอดเยี่ยมผู้ดูแลเว็บ
กระทู้: 18,135
ออฟไลน์ ออฟไลน์
"สาวหวาน กับ ความฝันไม่รู้จบ "
   
« เมื่อ: 28 มกราคม 2557, 09:18:50 AM »

Permalink: ความลับในครีมเทียม






ความลับในครีมเทียม



ส่วนผสมที่อยู่ในกาแฟทุกแก้วทุกเช้า เพิ่มความข้น มัน ให้กับกาแฟแก้วโปรดอย่างครีมเทียมนี้ไม่มีส่วนประกอบของนมและครีมเลย
 และผู้ที่มีโคเลสเตอรอลควรพิจารณาด้วย พบเรื่องราวที่ไม่น่าเชื่อของครีมเทียมได้ที่นี่ที่เดียว

ครีมเทียมเป็นส่วนหนึ่งของ กาแฟ โดยเฉพาะกาแฟที่มิกซ์ หรือ 3 อิน 1 มักมีครีมเทียมเป็นส่วนผสมหลักที่ขาดไม่ได้
 เมื่อผงกาแฟให้ความเข้มข้น ผสมกับน้ำตาลให้ความหวาน และใส่ครีมเทียมที่เพิ่มรสชาติให้ความเข้มข้น หอม มัน
ช่วยให้กาแฟกลายเป็นแก้วโปรดของใครหลายคน แต่รู้หรือไม่ว่าครีมเทียมนี้ไม่มีส่วนประกอบของนมเลย
นี่เป็นแค่ความลับอันดับแรกเท่านั้นเองค่ะ

เหตุที่รู้ว่าไม่มีส่วนประกอบของนม เนื่องจากประกาศของกระทรวงสาธารณสุข
 ครีมเทียมถูกจัดเป็นอาหารประเภทควบคุมเฉพาะในพระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ. 2522
 และกฎหมายได้ระบุคำจำกัดความของครีมเทียมไว้ดังนี้

“ผลิตภัณฑ์ที่มิได้ทำจากนมและมีไขมันอื่นนอกจากมันเนยเป็นส่วนประกอบที่สำคัญ
หรือครีมที่มีมันเนยผสมอยู่น้อยกว่าร้อยละ 30 ของไขมันทั้งหมด”

ถ้าไม่มีนม แล้วครีมเทียมประกอบด้วยอะไร? ก่อนไปถึงส่วนประกอบของครีมเทียม ลองมาดูพัฒนาการของครีมเทียมกันค่ะ
 เริ่มแรกฝรั่งนิยมเติมครีมลงในเครื่องดื่มจำพวกโกโก้และกาแฟ แล้วพบว่าครีมชนิดพาสเจอไรซ์จำเป็นต้องเก็บรักษาไว้ในตู้เย็น
ส่วนครีมกระป๋องก็มีใช้บ้าง แต่กลิ่นรสสู้ครีมพาสเจอไรซ์ไม่ได้ แถมสียังออกเหลืองหรือน้ำตาลอ่อนๆ อีกด้วย
 ครีมเทียมจึงเกิดขึ้นเพื่อความสะดวกและประหยัด เนื่องจากวัตถุดิบมีราคาถูกกว่า
 นอกจากนี้การขนย้ายในรูปผงแห้งทำให้ประหยัดค่าขนส่งได้มาก ครีมเทียมจึงแพร่หลายไปทั่วโลกอย่างที่เราเห็นกัน

อะไรที่ทำให้ครีมเทียมมีความหอมมันไม่แพ้ครีมแท้แต่ราคาถูกกว่ามาก?
 นั่นคือสิ่งที่ผู้ผลิตครีมเทียมต้องการอธิบายง่ายๆ คือ ผู้ผลิตต้องการให้ครีมเทียมช่วยเติมความรู้สึกที่ขาดหายไป
 เมื่อดื่มนมสดพร่องมันเนยเปรียบเทียบกับนมสดธรรมดา แต่มีมาตรฐานด้านราคาต่ำเป็นเกณฑ์ในการผลิต
ความหอมมันราคาถูกของครีมเทียม จึงเกิดจากไขมันเนยหรือไขมันที่มีคุณสมบัติใกล้เคียงคือ
 มีกรดไขมันประเภทอิ่มตัวในปริมาณสูง กล่าวง่ายๆ คือ เป็นไขมันประเภทที่ใส่ตู้เย็นแล้วเป็นไขนั่นเอง

หากใช้ราคาเป็นตัวตั้ง ไขมันที่ใช้เป็นครีมเทียมจึงมักเป็นไขมันพืชเพราะมีราคาถูก
 ที่นิยมคือไขมันมะพร้าวเนื่องจากประกอบด้วยกรดไขมันอิ่มตัวในปริมาณค่อนข้างสูงอยู่แล้ว
นอกจากนี้ยังมีน้ำมันปาล์มหรือน้ำมันจากเมล็ดปาล์ม ซึ่งถ้าเราดูเผินๆ จะเห็นว่า
ยี่ห้อที่ระบุว่าใช้น้ำมันถั่วเหลืองและไขมันจากเมล็ดปาล์ม น่าจะไม่เป็นพิษภัยกับผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับโรคไขมันอุดตันในเส้นเลือด
เนื่องจากชนิดของกรดไขมันในน้ำมันถั่วเหลืองไม่มีผลต่อการเพิ่ม หากยังลดการสร้างสารโคเลสเตอรอลในกระแสเลือดด้วย
 ส่วนกรดไขมันในน้ำมันจากเมล็ดปาล์มก็ไม่ได้มีผลต่อการเพิ่มโคเลสเตอรอลในกระแสเลือด
 เหมือนเช่นกรดไขมันอิ่มตัวที่พบในไขมันเนยและมะพร้าวที่ก่อปัญหา






ดูแล้วเหมือนจะดี แต่หากพลิกดูด้านข้างบรรจุภัณฑ์
จะเห็นว่ามีรายละเอียดเพิ่มเติมคือ “Partially hydrogenated” หรือ “Hydrogenated” อยู่ข้างหน้าคำว่า “น้ำมันถั่วเหลือง”
 หรือน้ำมันจากเมล็ดปาล์ม ซึ่งคำภาษาอังกฤษดังกล่าวหมายความว่า กรดไขมันในน้ำมันเหล่านั้นได้ผ่านกระบวนการทำให้อิ่มตัว
แล้วกระบวนการนี้ทำให้รสชาติของครีมเทียมมีความมัน แต่ก็มีผลเสียต่อผู้มีปัญหาในเรื่องโคเลสเตอรอลสูงในกระแสเลือด
จึงเน้นว่าขอให้ศึกษาฉลากให้รอบคอบก่อนซื้อ และครีมเทียมในท้องตลาดส่วนใหญ่แทบทุกยี่ห้อ
ไม่เหมาะสมกับผู้ที่กำลังควบคุมปริมาณโคเลสเตอรอลในกระแสเลือด

ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว ความลับที่ไม่ลับคือ ส่วนผสมที่มีการเติมในครีมเทียมเกือบทุกยี่ห้อคือ น้ำตาลข้าวโพด
โดยบางยี่ห้อก็ระบุว่า กลูโคส แต่เมื่อได้อ่านคำบรรยายภาษาอังกฤษแล้วจึงทำให้ทราบว่า ไม่ได้มีการเติมน้ำตาลลงไปโดยตรง
 เป็นการเติมสารที่เรียกว่า กลูโคสไซรัป (glucose syrup) หรือแบะแซ นั่นเอง แบะแซที่บ้านเราทำจากแป้งมันสำปะหลัง
ส่วนน้ำตาลข้าวโพดทำจากแป้งข้าวโพด แต่ไม่ใช่แบบตรงๆ ซะทีเดียวนะคะ
 เนื่องจากการผลิตไซรัปดังกล่าวทำโดยการย่อยโมเลกุลของแป้งเพียงบางส่วน

คนเขียนยังปวดหัวแทนเลยค่ะ เอาเป็นว่าการเติมไซรัปลงไปก็ช่วยให้มีความข้นนิดหน่อยเวลาเติมในกาแฟ
 และยังใช้เป็นตัวกลางที่ใช้จับน้ำมันในช่วงการผลิตทำเป็นผงด้วย นอกจากนี้ครีมเทียมยังมีส่วนผสมอื่นๆ
เช่น เคซีน (โดยภาษาอังกฤษก็ระบุว่าเป็น sodium caseinate) ซึ่งเป็นโปรตีนที่สกัดจากน้ำนม
 หรือบางยี่ห้อก็ใช้ โปรตีนพืชซึ่งก็คาดว่าคงเป็นโปรตีนจากถั่วเหลือง
 ปริมาณการผสมเคซีนในรูปโซเดียมเคซิเนตในครีมเทียมบางยี่ห้ออาจไม่สูงนัก
 แต่ก็เป็นจุดที่ผู้ซึ่งมีปัญหาเกี่ยวกับความดันเลือดสูงและต้องการควบคุม ปริมาณโซเดียมควรระวังไว้หน่อย

เมื่อพิจารณาในส่วนฉลากภาษาอังกฤษ จะเห็นความลับของครีมเทียมในส่วนผสมมากยิ่งขึ้น เช่น
สารโมโน, ไดกลีเซอร์ไรด์ (Mono, di-glycerides) ซึ่งเป็นตัวช่วยให้น้ำและน้ำมันรวมตัวกันได้เนียนขึ้น
สารไดเค-ออร์โทฟอสเฟต (di-k-orthophosphate) ช่วยในการปรับปรุงคุณภาพในแง่ความเป็นกรดด่าง
สารเอ็นเอ ซิลิโคอะลูมิเนต (Na Silico aluminate) ช่วยทำให้ผงครีมเทียมไม่เกาะติดกันเป็นก้อน และเทง่าย
กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ด้านอาหารเป็นเช่นดังที่กล่าวมา
 ซึ่งคุณผู้อ่านคงเข้าใจถึงชนิดและประโยชน์ของส่วนผสมที่ใช้เติมลงในครีมเทียมพอสังเขปนะคะ
 ที่จริงแล้วครีมเทียมเป็นผลิตภัณฑ์ที่สะดวกใช้แต่อยากจะย้ำกับผู้ที่มีปัญหาสุขภาพเกี่ยวกับโคเลสเตอรอล
ความดันเลือดสูง ไม่ควรบริโภคมากเกินไป เพราะอาจมีผลต่อสุขภาพได้

แต่แม้จะไม่มีปัญหาสุขภาพใดๆ ก็สามารถป้องกันไว้ก่อนด้วยการลดปริมาณครีมเทียมลงในการชงกาแฟคราวหน้าก็ดีนะคะ
 เพื่อสุขภาพที่ดีจะได้อยู่กับเรานานๆ ค่ะ

แล้วครีมแท้ล่ะ เป็นอย่างไร?
ครีมแท้มี 5 ชนิดคือ
 ชนิดพร่องมันเนย
ชนิดธรรมดา
ชนิดวิปปิ้งครีม
 ดับเบิ้ลครีม
 และครีมเปรี้ยว
โดยมาตรฐานของครีมแท้คือ
 ต้องทำจากนมและมีมันเนยไม่น้อยกว่า ร้อยละ 10 ของน้ำหนักทั้งหมดเป็นอย่างน้อย




KBeautifullife


บันทึกการเข้า


♪♪♪ รวมบทกลอนน้องจ๋า คลิกค่ะ ...

ขอบคุณทุกภาพจาก Internet และเพลงจากYouTube
ผู้บริหารเว็บ
คะแนนน้ำใจ 65535
เหรียญรางวัล:
PJ ดีเด่นนักอ่านยอดเยี่ยมผู้ดูแลเว็บ
กระทู้: 18,135
ออฟไลน์ ออฟไลน์
"สาวหวาน กับ ความฝันไม่รู้จบ "
   
« ตอบ #1 เมื่อ: 05 กุมภาพันธ์ 2566, 05:35:53 AM »

Permalink: Re: ความลับในครีมเทียม
5038
บันทึกการเข้า


♪♪♪ รวมบทกลอนน้องจ๋า คลิกค่ะ ...

ขอบคุณทุกภาพจาก Internet และเพลงจากYouTube
หน้า: [1]   ขึ้นบน
 
 
กระโดดไป: