พิฆาตต้นตอ

พิฆาตต้นตอ เหนื่อย ท้อ หมดแรง
รู้ทันตัวการดูดพลัง สร้างความเหนื่อยล้าในวันทำงาน พร้อมวิธีรับมือเพื่อคืนความสดชื่นให้ชีวิต

การรู้สึกเหนื่อยล้าเป็นเรื่องธรรมดาแต่ถ้าเหนื่อยอ่อนอยู่เสมออาจไม่ใช่เรื่องปกติ และอาจส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี ผลวิจัยพบว่ามีหลายสาเหตุที่ส่งผลกระทบต่อความกระฉับกระเฉงของร่างกาย เช่น อาหารการกิน คนที่เราติดต่อด้วย และการตัดสินใจในเรื่องต่างๆ เป็นต้น

พบตัวการดูดพลัง สร้างความเหนื่อยล้าที่อาจคาดไม่ถึง พร้อมวิธีรับมือเพื่อเรียกความสดชื่นแข็งแรงกลับคืนมา

• เผชิญกับตัวเลือกมากเกินไป
ลองสังเกตดูว่า ในแต่ละวันหากคุณมีเรื่องราวให้ต้องเลือกต้องตัดสินใจนับร้อยอย่าง เริ่มตั้งแต่เช้าคุณต้องเลือกเสื้อผ้ามาทำงาน ต้องประเมินและจัดการงานที่อยู่ตรงหน้า เลือกเพลงที่จะฟัง เลือกช่องรายการทีวีในตอนค่ำ การชั่งใจกับทุกๆ ตัวเลือกที่ผ่านเข้ามาจะทำให้คุณเหนื่อยล้า

ทริคฟื้นพลัง : หลีกเลี่ยงการตัดสินใจอย่างถี่ถ้วนไปเสียทุกเรื่อง ข้ามเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่ไม่สำคัญไปบ้าง เช่น เรื่องรายชื่อเพลงที่จะฟัง แต่สำหรับเรื่องสำคัญอย่างการซื้อบ้านหรือเลือกสถานที่เรียนต่อ ให้ลองลิสต์ข้อดีข้อเสียของแต่ละตัวเลือกออกมา แล้วค่อยๆ ให้เวลาตนเองได้ผ่านกระบวนการคิดกลั่นกรองตัดสินใจอย่างเต็มที่ แล้วสัญชาตญาณจากจิตใต้สำนึกจะชี้นำคุณเอง

• เพื่อนจอมปรับทุกข์
การฟังเพื่อนปรับทุกข์หรือบ่นวกวนจากปัญหานั้นมาปัญหานี้อย่างไม่รู้จบ หรือบ่นเรื่องเดิมๆ ซ้ำๆ ทุกวัน จะทำให้คุณตกอยู่ในวังวนของความคิดแง่ลบโดยไม่รู้ตัว และทำให้ร่างกายผลิตฮอร์โมนความเครียดออกมามากเป็นพิเศษ

ทริคฟื้นพลัง : วิธีช่วยเพื่อนจริงๆ คือ ควรดึงเพื่อนออกมาจากความรู้สึกว่าตนเองเป็นเหยื่อของปัญหา ด้วยการถามประมาณว่า 'เข้าใจและเห็นใจที่เพื่อนต้องตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ แล้วคิดจะแก้ปัญหานี้อย่างไร' หรือลองจำกัดเวลาในการปรับทุกข์ เช่น บอกเพื่อนว่าคุณกำลังจะเข้าประชุมในอีก 10 นาที ให้คุณจะช่วยอะไรเธอได้บ้าง การจำกัดเวลาทำให้เพื่อนของคุณลำดับความคิดและปรึกษาแต่เรื่องที่จำเป็นจริงๆ หรือไม่ก็โทรศัพท์หาที่ระบายหลายอื่นต่อไป

• เดินหลังงอ - นั่งห่อไหล่
รู้ไหมว่าเมื่อหลังค่อม อกของคุณจะห่อและปอดจะถูกบีบอัด ทำให้หายใจเอาอากาศเข้าปอดได้น้อยกว่าปกติ ส่งผลให้มีปริมาณออกซิเจนไปเลี้ยงสมองน้อยลงและรู้สึกวิงเวียน นอกจากนี้ การนั่ง ยืน หรือเดินหลังโกง ยังทำให้กล้ามเนื้อหลังส่วนบนและช่วงคอตึง แต่ละนิ้วที่คุณโน้มไปข้างหน้า ร่างกายต้องใช้ความพยายามเป็นสองเท่าเพื่อพยุงศีรษะไว้

ทริคฟื้นพลัง :ระหว่างวันควรเช็คท่าทางของตนเองทุก 2-3 ชั่วโมง ให้เแน่ใจว่า ไหล่ หู และสะโพกอยู่ในแนวขนานกัน (กรณียืน ศีรษะตรง ไหล่ตรง และไม่ทิ้งน้ำหนักลงสะโพกข้างใดข้างหนึ่ง) เมื่อทำไปนานๆ ท่าทางที่ถูกสุขลักษณะนี้จะกลายเป็นท่าทางธรรมชาติที่คุณไม่รู้สึกฝืนอีกต่อไป และยังเป็นท่วงท่าที่สง่าน่าชื่นชมอีกด้วย

• โต๊ะทำงานรก ชีวิตยุ่งเหยิง

โต๊ะทำงานที่รกรุงรังทำให้คนทำงานรู้สึกแย่ เนื่องจากความยุ่งเหยิงจะทำให้สมองมีปฏิกิริยาตอบสนองได้ช้าลงและขาดสมาธิ เมื่อคุณอยู่ท่ามกลางสิ่งของรกเลอะเทอะ สมองต้องใช้ความพยายามในการรับรู้และแยกแยกข้อมูลทั้งหมดที่ตาเห็นให้เหลือแต่สิ่งที่ต้องการ

ทริคฟื้นพลัง :จัดโต๊ะทำงานให้เป็นระเบียบ มองหาจุดที่รกรุงรังและทำให้คุณประสาทเสียที่สุดแล้วเคลียร์จุดนั้นให้สะอาด แล้วหาของที่ทำให้จิตใจแจ่มใสมาวางไว้แทน เช่น กระถางต้นไม้เพื่อคอยกระตุ้นเตือนให้หมั่นรักษาบริเวณนั้นให้สะอาดอยู่เสมอ จากนั้นลองหากล่องมาแยกเอกสารให้เป็นสัดส่วน เชน กล่องใส่เอกสารที่ยังไม่เปิดซอง กล่องใส่ใบแจ้งหนี้ หรือกล่องใส่เอกสารที่ต้องใช้ทำงาน ฯลฯ

ติดต่อได้ตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน
การสามารถตามตัวได้ตลอดเวลาอาจเป็นเรื่องดีของหน้าที่การงาน แต่ที่จริง การทำตัวให้ติดต่อได้ 24 ชั่วโมงทำให้คุณต้องอยู่ในภาวะเตรียมพร้อมอยู่เสมอ เป็นสาเหตุให้รางกายผลิตฮอร์โมนความเครียดออกมา หากเครียดติดต่อกันนานๆ ทำให้ระบบเผาผลาญทำงานช้าลง รวมทั้งระบบภูมิคุ้มกันก็ลดต่ำลงด้วย

ทริคฟื้นพลัง : ถ้าคุณไม่สามารถตัดการติดต่อนอกเหนือจากเวลาทำงานได้ อย่างน้อยก็ควรกำหนดช่วงเวลาปลอดโทรศัพท์และอีเมลไว้บ้าง เช่น ถ้ามีนัดกับครอบครัวหรืออยู่ในช่วงเวลาพักร้อนแจ้งเพื่อนร่วมงานไว้เลยว่าคุณจะไม่รับโทรศัพท์ เช็กข้อความ หรือเช็กอีเมลจนกว่าจะหนึ่งทุ่ม ถ้าคุณกำหนดช่วงเวลาแบบนี้เป็นประจำแล้วแจ้งให้ทุกคนทราบ คุณจะรู้สึกผ่อนคลายเพราะไม่ต้องกังวลใจว่าจะพลาดอะไรสำคัญไป

นอกจากนี้สัญญากับตนเองว่าจะลดเช็กงานจากอีเมล ไอโฟน ไอแพดในวันหยุดสัปดาห์ละ 1 วัน หรือไม่กี่ชั่วโมงก็ยังดี

ตราบใดที่ยังมีลมหายใจ เราก็ยังต้องทำงานเพื่อชีวิตของเราเอง และเมื่อรู้วิธีดีๆ อย่างนี้แล้ว แค่ปรับไลฟ์สไตล์และวิธีคิด คุณก็สดชื่นมีพลังสู้กับการงานได้ตลอดวันค่ะ

KBeautifullife