Kiss Kiss จูบนั้นมีประโยชน์แค่ไหน

รู้ไหมคะ ว่า “จูบ“ นั้นไม่ได้เป็นการแสดงออกของ ความรัก หรือ รอยสัมผัส
ที่นำไปสู่ความเสน่หา เท่านั้นนะ แต่ผู้เชี่ยวชาญจากเมืองนอก ยังบอกอีกว่าการจูบยังมีประโยนชน์
และดีต่อร่างกายในหลายๆด้านด้วย .. อยากรู้ไหม ตาม ไปหาคำตอบกัน

DR. Peter Gorden จากสมาคมทันตกรรมของอังกฤษบอกว่า จูบช่วยป้องกันฟันผุได้ เป็นอย่างดี
เพราะตอนที่กำลังจูบนั้น ต่อมน้ำลายจะถูกกระตุ้นให้ทำงานมากกว่าปกติ
ทำให้ระดับของน้ำตาลและความเป็นกรดของน้ำลายลดลงสู่ภาวะปกติ ช่วยลดการเกิดพลัคได้
อย่างนี้เห็นทีว่าหมอฟันต้องสอน?วิธีจูบแทนวิธีการแปรงฟันเสียแล้ว

Michelle Kay Mcnabb ที่ปรึกษาในการลดความเครียดก็มีข้อดีของการจูบมาฝากเหมือนกัน
เธอบอกว่าจูบเป็นเทคนิคอย่างนึงในการลดความเครียด(ยกเว้นไปจูบแฟนคนอื่น!)
เพราะตำแหน่งของปากในขณะที่จูบนั้น จะอยู่ในตำแหน่งใกล้จะยิ้ม
ซึ่งในภาวะอย่างนี้จะพลอยทำให้คุณรู้สึกผ่อนคลายไปด้วย
นอกจากนี้ลมหายใจของคุณจะลึกขึ้นและมักจะหลับตาพริ้ม ลืมโลกภายนอกไปเลย
อย่างนี้แล้วความเครียดเป็นต้องกระเจิงเลยล่ะ

Claire Potter?บอกว่าจูบยังช่วยลดความอ้วนด้วย! จูบจะช่วยเผาผลาญแคลอรี่ได้นาทีละ 1 แคลอรี่
หรือประมาณว่าถ้าคุณจะลดน้ำหนักสักครึ่งกิโลกรัม ก็ต้องรวมเวลาจูบให้ได้สักสองวัน (โอย.. จะไหวหรือเนี่ย)
ยิ่งกว่านั้น เธอยังบอกว่าจูบช่วยชะลอการเกิดรอยย่นบนใบหน้าได้ (ข้อนี้สิสำคัญ)
เพราะการจูบจะช่วยบริหารกล้ามเนื้อแก้มให้เต่งตึงไม่เหี่ยวย่นง่ายๆ

“จูบช่วยทำให้คุณฟิตขึ้น”
DR Susan Hotchkies บอกมาว่าอย่างนั้น(น่าสนใจ..เอาล่ะ เริ่มฟิตกันซะตอนนี้ก่อนเป็นไง)
แล้วยังบอกอีกว่าการจูบทำให้ร่างกายหลั่งสารอะดรีนาลีนที่จะเพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจและเพิ่มการสูบฉีดเลือด
ร่างกายจึงฟิตมากขึ้น

และสุดท้าย Paul Zeal นักจิตวิทยาก็ชี้ว่า การจูบทำให้คุณนับถือตัวเองมากขึ้น
เพราะเมื่อคุณถูกจูบคุณจะรู้สึกเป็นสุขและรู้ว่ามีใครสักคนต้องการคุณ และนั่นทำให้คุณรู้สึกดีๆกับตัวเอง

เห็นข้อดีของการจูบไปแล้ว แต่อยากจะฝากนิดนึงว่า
ถึงแม้ว่าการจูบจะส่งผลดีทั้งต่อร่างกายและจิตใจ
แต่วัยรุ่นก็ควรจะรู้ขอบเขตของมันด้วยนะคะ ..
อย่าชิงสุกก่อนห่าม จะมีแต่เรื่องที่ทำให้เสียใจ เราเสียใคนเดียวไม่พอ
พ่อกับแม่เราอีกนะจ๊ะ !!

ที่มา narak.com