ซึ่งก็เป็นธรรมดาของทุก ๆ คน ทุกเชื้อชาติ ศาสนา และเผ่าพันธุ์ เป็นเหมือนกันหมดค่ะ
หากช่วงเวลานั้นเกิดขึ้นมาในใจของเรา เราจะทำยังไงกับมันดีน๊า ดิฉันมีคำแนะนำดี ๆ
สำหรับทุก ๆ คนเลยนะคะ เป็นวิธีการง่าย ๆ
•ไม่ว่า เราจะยืน หรือนั่ง หรือนอน เราก็ทำได้ แต่ถ้าเรามีเวลามากก็ควรจะนั่งบนเก้าอี้หย่อนขา
หรือนั่งขัดสมาธิกับพื้น หรือจะนั่งเอนหลังบนเก้าอี้ปรับได้ก็ได้ นั่งในท่าที่สบาย ๆ ก็จะทำได้นานกว่าการยืน
หรือ นอน เพราะท่ายืนก็จะเมื่อย ท่านอนก็จะเผลอหลับ
•ผ่อนคลายร่างกายของเราให้สบาย สบ๊ายสบาย แล้วเราก็ค่อย ๆ หลับตาเบา ๆ เหมือนกับตอนที่เราใกล้จะหลับ
•หลังจากนั้นก็ค่อย ๆ หายใจเข้าลึก ๆ อย่างช้า ๆ และค่อย ๆ หายใจออก ช้า ๆ ทำอย่างนี้สัก 3 ครั้งนะคะ
•ถัดมา ให้เรานึกถึงภาพหยดน้ำค้าง หรือ จะเป็นท้องฟ้า หรือ ชายทะเล หรือ บรรยากาศธรรมชาติที่เราชอบ
ให้นึกเบา ๆ ไม่หยีตา ไม่เพ่ง ไม่จ้อง ให้เหมือนกับเรานึกถึงอะไรสักอย่าง นึกปั๊บภาพก็ปรากฏขึ้นทันที
แต่ควรจะนึกถึงสิ่งดี ๆ ดีกว่านะคะ เพราะเรากำลังเพิ่มพลังใจให้กับตัวของเราเอง
•ให้นึกถึงภาพนั้นนิ่ง ๆ สัก 10-15 นาที ถ้าเราฟุ้งไปคิดอย่างอื่น เราก็นึกใหม่ เริ่มนับ 1 ใหม่ ทำอย่างนี้ให้ได้นาน ๆ
อย่างน้อย สัก 10 นาที ถ้าใครทำได้นานกว่านี้ เราก็จะปลอดโปร่งมากขึ้นไปเรื่อย ๆ ตามช่วงเวลาที่เราทำได้
ไม่ยากเลยใช่ไหมคะ ทำได้ง่าย ๆ ได้ทุกคน ทุกอิริยาบถ ทุกเวลา หากเป็นขณะกำลังทำงานเราอาจจะทำสัก 2-3 นาที
หรือ 5 นาที ก็ได้ เราจะสัมผัสได้ด้วยตัวเองเลยค่ะว่า ในตัวของเรามีพลังมากมายมหาศาลที่จะให้กำลังใจกับตัวของเราเอง
โดยไม่ต้องไปหาจากที่อื่นเลยค่ะ ความหดหู่ ท้อแท้ ซึมเศร้าทั้งหลายก็จะมลายหายสูญไปเลยล่ะค่ะ
ลองดูนะคะ แม้เพียงแค่ 1 นาที เราก็ยังสัมผัสได้
ขอบคุณ ข้อความจาก คุณณัฐภัสสร อัครชวัลวัฒน์
จริง ๆ แล้วสาเหตุของความตายในคนกลุ่มนี้คือ โรคซึมเศร้า
ซึ่งคนในกลุ่มนี้จะมีความรู้สึกว่า “โรคไม่สดใสจิตใจหดหู่” ตลอดเวลา.
หมวดสุขภาพ
