-/> นำความสุข มามอบให้ในวันหยุดค่ะ...โปรดมารับไปด้วย

You are here: Khonphutorn.com - แหล่งข้อมูลของคนไทยหมวดความบันเทิงเรื่องเล่าดีดี (ผู้ดูแล: หนุ่มภูธร ณ ลุ่มน้ำป่าสัก)นำความสุข มามอบให้ในวันหยุดค่ะ...โปรดมารับไปด้วย
หน้า: [1]   ลงล่าง
 
ผู้เขียน หัวข้อ: นำความสุข มามอบให้ในวันหยุดค่ะ...โปรดมารับไปด้วย  (อ่าน 1875 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ผู้บริหารเว็บ
คะแนนน้ำใจ 65535
เหรียญรางวัล:
PJ ดีเด่นนักอ่านยอดเยี่ยมผู้ดูแลเว็บ
กระทู้: 18,136
ออฟไลน์ ออฟไลน์
"สาวหวาน กับ ความฝันไม่รู้จบ "
   
« เมื่อ: 09 ธันวาคม 2555, 09:59:05 AM »

Permalink: นำความสุข มามอบให้ในวันหยุดค่ะ...โปรดมารับไปด้วย
.


.
.


เริ่มจาก

•พรแห่งการงาน
 สอนให้เรียนรู้และตระหนักถึงคุณค่าและความสุขจากการทำงาน
โดยเฉพาะความสุขที่เกิดขึ้นจากน้ำพักน้ำแรงของตัวเอง ซึ่งนำมาสู่ความสุขอย่างแท้จริง
 และเมื่อใดที่เราเข้าใจ การพักผ่อนก็จะกลายเป็นรางวัลของการทำงานหนัก
ไม่ใช่การหลีกเลี่ยงการทำงาน

•พรแห่งเงินตรา
เรียนรู้ถึงค่าของเงินแม้เงินจำนวนเพียงเล็กน้อยสำหรับบางคน
 แต่ยังมีอีกหลายคนที่สำคัญและมีความหมายอย่างยิ่งในชีวิต เงินเปรียบเสมือนเครื่องมือ
เป็นได้ทั้งพลังในทางที่ดีและทางที่ชั่ว และ เงินทั้งหมดในโลกไม่สามารถซื้อเวลาได้

•พรแห่งการมีเพื่อน
คำว่า "เพื่อน" ไม่ใช่เป็นคำที่ถูกใช้อย่างง่าย ๆ และ พร่ำเพรื่อ
โดยไม่รู้ความหมาย แต่มันคือ ความผูกพัน การแบ่งปัน มิตรภาพ

•พรแห่งการเรียนรู้
 แม้คนที่ไม่มีทรัพย์สมบัติใด ๆ แต่มีไฟปรารถนาและหิวกระหายที่จะเรียนรู้นั้นเป็นคนมั่งคั่ง

•พรแห่งปัญหา
 ได้เรียนรู้ว่า อุปสรรคไม่ได้เป็นอะไรมากไปกว่าการเผชิญหน้าสิ่งท้าทาย
เมื่อใดที่มองปัญหาด้วยจิตรารมณ์แห่งความรัก ก็จะตระหนักว่ามีการออกแบบที่ยิ่งใหญ่สำหรับโลกใบนี้
 และปัญหาที่พบก็คือบทเรียนที่ออกแบบมาสำหรับสอนคุณให้เป็นคนที่ดีขึ้น
และถ้าเราไม่เคยได้เผชิญกับปัญหาเล็ก ๆ พอเจอปัญหาใหญ่ขึ้นเพียงนิดเดียวเราก็อาจล้มได้
 เมื่อใดที่เราเข้าใจข้อนี้เราก็จะใช้ชีวิตไม่หลีกหนีปัญหา แต่พร้อมที่จะเผชิญหน้าเหมือนเป็นสิ่งท้าทาย
ทำให้เราแกร่งขึ้น และสามารถเป็นผู้ชนะได้ในอนาคต

•พรแห่งครอบครัว
 ได้เรียนรู้ว่า ครอบครัวที่แท้จริงจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อมีความรัก
กลุ่มคนสามารถกลายเป็นครอบครัว เมื่อพวกเขาเติมความรักในความสัมพันธ์ระหว่างกัน
 หากปราศจากความรักครอบครัวก็เป็นเพียงกลุ่มคนที่อยู่ในสายตระกูลเดียวกันเท่านั้น

•พรแห่งการหัวเราะ
 การหัวเราะเปรียบเสมือน "ยาวิเศษ"
เมื่อไรก็ตามที่เราสามารถหัวเราะได้แม้ในยามวิกฤต ก็จะมีความสุขไปตลอดชีวิต
และจะเริ่มรู้สึกถึงความรักที่ชีวิตเสนอให้อย่างแท้จริง

•พรแห่งความฝัน
 ไฟแห่งความปรารถนา ความฝัน และเป้าหมายของเรา
ล้วนเป็นการแสดงออกมาภายนอกของความรักที่มาจากภายใน และนักฝันที่ยิ่งใหญ่
แม้พบกับอุปสรรคและความล้มเหลว ก็จะดำเนินไปไม่หยุดหย่อนเติบโตและพัฒนากว้างไกลขึ้นเรื่อย  ๆ
เมื่อบรรลุถึงความฝันอย่างหนึ่ง ความฝันอีกอย่างหนึ่งซึ่งงดงามยิ่งใหญ่กว่าเดิมก็จะผุดขึ้นมาอีก

•พรแห่งการให้
บางคนอาจคิดผิดว่า การให้บางอย่างออกไป คนที่เราให้จะเป็นเจ้าของสิ่งเหล่านั้น
และตัวเองก็อาจมีน้อยลงกว่าเดิม หรือยิ่งให้น้อยคุณยิ่งมีมาก แต่ความจริงแล้วมันตรงกันข้าม
 ยิ่งคุณให้มาก คุณก็จะมีมาก การมีมากทำให้เกิดความสามารถที่จะให้ และการให้ก็ทำให้มีมากขึ้น
 และเมื่อคุณให้ไปด้วยความรัก ทั้งผู้ให้และผู้รับก็จะมีมากกว่าเมื่อตอนเริ่มต้น

•พรแห่งความกตัญญู
สอนให้เราตระหนักและสำนึกกับชีวิตและสิ่งรอบ ๆ ข้าง
แม้สำหรับสิ่งที่เล็กน้อยหรือมากก็ตาม

•พรแห่งชีวิตประจำวัน
 ทำให้เรียนรู้ว่าเราไม่จำเป็นต้องรอจนถึงวันสุดท้ายของชีวิต
เพื่อที่จะดำเนินชีวิตแต่ละวันให้เต็มที่ และหากเราเรียนรู้ที่จะดำเนินชีวิต
ในแต่ละวันให้เต็มที่ได้ ชีวิตของเราก็จะมั่งคั่งและมีความหมาย

•พรแห่งความรัก
ความรักคือสมบัติที่เราไม่สามารถหาซื้อได้ ทางเดียวที่จะเก็บรักษาไว้
ก็คือต้องมอบความรัก และเมื่อเรารักใครจริง ๆ ความรักของเราทำให้เราเองเปลี่ยนเป็นคนละคน
และทำให้คนที่เรารักเปลี่ยนเป็นคนละคนด้วย

มนุษย์ มิอาจเลือกเกิดตามใจกำหนด
...มิอาจเลือกตายตามใจปรารถนา
...มิอาจยืดกาลเวลาตามใจต้องการ

ต่อหน้าชีวิต และ วันเวลา
เขาพบว่าตนเองตัวเล็ก และไร้อำนาจ

...มิอาจโต้แย้ง หรือต่อรอง
ชีวิต และ วันเวลา

เป็นสัจธรรมที่ยิ่งใหญ่ เกินกว่าที่จะบรรจุไว้ในมือมนุษย์
มิใช่สมบัติส่วนตัวที่มนุษย์เป็นเจ้าของ

แต่...เป็นพรประทานจากเบื้องบน

ในวันนั้นที่เขาก่อเกิดเป็นตัวตน
เขาหลับสนิทในความมืด...

ไม่รู้เรื่องราว และความเป็นมา

ลมหายใจ...
ของขวัญชิ้นแรกจากสวรรค์ ปลุกเขาให้มีชีวิต
แม้จะแตกต่าง และไม่เท่ากันในสิ่งที่มี

แต่...ไม่เคยขาดแคลนในสื่งใด
เขามั่งคั่งด้วยศักยภาพ เพียงพอที่จะก้าวไปอย่างสร้างสรรค์

ชีวิตจึงกลับเป็น "พรอันสูงสุด" ที่มนุษย์ได้รับ
พร้อมกับเสียงเรียกเชิญจากเบื้องบน ให้ก้าวเดินในกาลเวลา

...เติบโต และให้ดอกผลตามฤดูกาล แก่ผืนแผ่นดิน
จนกว่าจะถึงวันนั้น ที่ถูกกำหนดให้ต้องโบกมือลา
เพื่อกลับคืนสู่อ้อมแขนถิ่นกำเนิดของชีวิต

น.สาราจิตต์

เริ่มเรื่อง..เป็นการเล่าของตัวละคร..ที่ทำหน้าที่เป็นทนาย
ของมหาเศรษฐีที่เสียชีวิตลง..

ซี่งทนายคนนี้ ต้องเป็นผู้อ่านพินัยกรรมให้ลูกหลาน
มหาเศรษฐี...มีลูกหลานที่ไม่เคยสนใจในกิจการงานของเขา
ทุกคนมีชีวิตอย่างสุขสบายด้วยเงินทองที่เขาหาให้มาตลอด
การมอบกิจการต่างๆจีงเป็นการมอบผลประโยชน์จากกิจการ
แต่ไม่ให้ลูกหลานเหล่านั้นมาก้าวก่ายคณะกรรมการของบริษัท

จนมาถึง..หลายชายวัย24 คนสุดท้ายที่ยังไม่ได้อ่านพินัยกรรมให้
แต่มีเงื่อนไข...ให้หลานคนนี้ต้องเรียนรู้ และทำงานที่เขาได้มอบหมาย
ผ่านวิดีโอที่ถูกบันทึกภาพและเสียงของปู่ที่ล่วงลับไปแล้ว

โดยในแต่ละเดือน หลานคนนี้ต้องมารับพร..1 ข้อ
และให้ไปทำความเข้าใจ มาให้ได้ และนำคำตอบมาให้แก่ทนายคนดังกล่าวค่ะ

พรอันสูงสุดทั้ง 12 ประการ
และวิธีการสอนของปู่...เมื่อได้อ่านหรือฟังแล้ว
ช่างรู้สึกว่า..เป็นการถ่ายทอดประสบการณ์ชีวิตของผู้ที่ประสบความสำเร็จ
อย่างสูงสุดมายังหลานและผู้อ่านได้ดีมากๆ


++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
พรแห่งการงาน
สอนให้เรียนรู้และตระหนักถึงคุณค่าและความสุขจากการทำงาน โดยเฉพาะความสุขที่เกิดขึ้น
จากน้ำพักน้ำแรงของตัวเอง ซึ่งนำมาสู่ความสุขอย่างแท้จริง และเมื่อใดที่เราเข้าใจ
การพักผ่อนก็จะกลายเป็นรางวัลของการทำงานหนัก ไม่ใช่การหลีกเลี่ยงการทำงาน

ข้อนี้ในความเข้าใจส่วนตัวนะคะ

คนที่ได้ผ่านการทำงานหนัก...จะพบว่า
สิ่งที่จะต้องพบเจอในอนาคต..ไม่ใช่เรื่องใหญ่
เพราะการผ่านความยากลำบากมามากมาย ทำให้มีความอดทนต่อสิ่งต่างๆ
ที่จะต้องพบเจอ และมีความเชื่อว่าไม่มีอะไรที่จะทำไม่ได้อีก

อ่อ..และผลดีๆจากงานหนักที่ได้ทำเอง....ช่างเป็นความสุขที่แท้จริง
เพราะเกิดมาจากฝีมือตนเอง ไม่ใช่เป็นการหยิบยื่นจากคนอื่น

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
พรแห่งเงินตรา
เรียนรู้ถึงค่าของเงินแม้เงินจำนวนเพียงเล็กน้อยสำหรับบางคน แต่ยังมีอีกหลายคนที่สำคัญ
และมีความหมายอย่างยิ่งในชีวิต เงินเปรียบเสมือนเครื่องมือ เป็นได้ทั้งพลังในทางที่ดีและทางที่ชั่ว
และเงินทั้งหมดในโลกไม่สามารถซื้อเวลาได้

ชอบคำสอนปู่ที่ว่า..

การที่เธอไม่รู้ค่าของเงิน เป็นความผิดของปู่เอ ง...ปู่ขอรับผิดชอบต่อสิ่งนี้
 เพราะปู่ไม่ได้เปิดโอกาสให้เธอได้ลิ้มรสและเข้าใจการแลกเปลี่ยนอย่างยุติธรร มระหว่างเงินกับงาน

ความรุนแรง ความวิตกกังวล การหย่าร้าง การไม่ไว้วางใจกันในโลกนี้ส่วนใหญ่มีสาเหตุมาจาก
ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับเงิน มากกว่าสาเหตุอื่น....


ส่วนตัวสิ่งที่ได้จากข้อนี้

คือทำให้รู้ค่าของเงินมากขึ้น ปัญหาที่มีมากมายแก้ได้ด้วยสิ่งนี้ ไม่ได้สอนให้ว่าเงินสำคัญที่สุดแต่มี ก็ดีกว่าไม่มี
ทำให้รู้จักใช้และเก็บออม..มากขึ้นค่ะ

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
พรแห่งการมีเพื่อน
คำว่า "เพื่อน" ไม่ใช่เป็นคำที่ถูกใช้อย่างง่าย ๆ และพร่ำเพรื่อโดยไม่รู้ความหมาย
 แต่มันคือ ความผูกพัน การแบ่งปัน มิตรภาพ

ชอบประโยคที่ว่า...
คนที่ร่ำรวยจริงๆคือคนที่รวยเพื่อน ไม่ใช่รวยเงินทอง

ในข้อนี้เชื่อว่า..เพื่อนดี มิตรแท้ เพื่อนที่ซื่อสัตย์ จริงใจ ช่างมีค่ายิ่งนัก
แต่กว่าจะเจอหรือผูกพันกันถึงขั้นนั้น ก็อยู่ที่ตัวเราที่แสวงหาและปฎิบัติ
เพื่อให้มิตรภาพงอกงามโดยการเป็นเพื่อนที่ดีเช่นกัน คงต้องใช้เวลานานพอสมควรเลยนะคะ

หลังจากได้ฟังอีกครั้ง...ทำให้เข้าใจว่า.การมี.มิตรภาพที่แท้
คือขุมทรัพย์ที่จะให้ความสุขเราไปตลอดชีวิต
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

พรแห่งการเรียนรู้
ความปราถนาและความหิวกระหายการศึกษา เป็นกุญแจแห่งการเรียนรู้ที่แท้จริง

ชอบในประโยคที่ปู่กล่าวว่า...
สำหรับคนร่ำรวยที่เกียจคร้านแล้ว วิทยาลัยก็ให้อะไรได้มากกว่าสนามเด็กเล่นแค่นิดเดียวเท่านั้นเอง

องค์ประกอบส่วนหนึ่งของชีวิตปู่คือความอยากรู้อยากเรียนที่มีอยู่เสมอ
และปราถนาที่จะเรียนรู้ทุกอย่างที่ปู่สามารถหาได้เกี่ยวกับคนและโลกรอบๆตัว

แม้ปู่ไม่ได้รับการศึกษาในระบบ แต่ความสามารถในการอ่าน การคิด และการสังเกตุ ทำให้ปู่นับได้เป็นคนที่มีการศึกษาดี

การเรียนรู้เป็นกระบวนการไม่ใช่แค่ว่าเธอไปเข้าชั้นเรียน จากนั้นวันหนึ่งก็เดินรับปริญญาลงจากเวทีและอ้างตัวว่าเป็นผู้มีการศึกษาได้ แล้ว


ปู่เชื่อว่าเหตุผลที่เขาพิธีรับปริญญาว่าการเริ่มต้น(Commencement)
ก็เพราะก ระบวนการเรียนรู้เริ่มต้นตรงจุดนั้น การศึกษาในระบบ เป็นเพียงให้เครื่องมือ
และกรอบวิธีคิดสำหรับบทเรียนแท้จริงที่กำลังจะมาถึง

เมื่อเธอต้องรับผิดชอบชีวิตตัวเอง..ชีวิตก็คือครูที่เหนือกว่าครูใดๆ
ความมั่งคั่งและความสำเร็จของปุ่ทำให้เธอพลาดที่เรียนรู้สิ่งนี้

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

พรแห่งปัญหา

อุปสรรคไม่ได้เป็นอะไรมากไปกว่าการเผชิญหน้าสิ่งท้าทาย เมื่อใดที่มองปัญหาด้วยจิตรารมณ์แห่งความรัก
ก็จะตระหนักว่ามีการออกแบบที่ยิ่งใหญ่สำหรับโลกใบนี้ และปัญหาที่พบก็คือบทเรียนที่ออกแบบมา
สำหรับสอนคุณให้เป็นคนที่ดีขึ้น และถ้าเราไม่เคยได้เผชิญกับปัญหาเล็ก ๆ พอเจอปัญหาใหญ่ขึ้น
เพียงนิดเดียวเราก็อาจล้มได้ เมื่อใดที่เราเข้าใจข้อนี้เราก็จะใช้ชีวิตไม่หลีกหนีปัญหา
แต่พร้อมที่จะเผชิญหน้าเหมือนเป็นส่งท้าทายทำให้เราแกร่งขึ้น และสามารถเป็นผู้ชนะได้ในอนาคต


คำกล่าวของปู่..
แต่ละบทเรียนซึ่งอันเป็นส่วนหนึ่งของพรอันสูงสุด เป็นเรืองที่โดยทั่วไปแล้วคนเราจะได้เรียนรู้
จากชีวิตที่ต้องดิ้นรนและมีปัญ หา สิ่งท้าทายใดๆก็ตาม ถ้าเราฝ่าข้ามมาได้ มันจะทำให้แกร่งขึ้น
ความผิดพลาดอย่างใหญ่หลวงของปู่ ก็คือการป้กป้องคนมากมายรวมทั้งตัวเธอด้วย ไ
ม่ให้เผชิญกับปัญหาชีวิตทั้งหลาย ความห่วงใยอย่างผิดๆทำให้ปู่กันสิ่งเหล่านั้นออก
ไปจากลูกหลาน จนกระทั่งพวกเธอจักการกับปัญหาชีวิตไม่เป็น

ตอนนี้ปู่ทำได้เพียงสอนให้เธอรุ้คุณค่าของปัญหา การต่อสู้ดิ้นรน และอุปสรรคต่างๆ
เมื่อเราสามารถเรียนรู้จากปัญหาของเราเอง ก็จะสามารถจัดการกับชีวิตได้
และเมื่อเราสามารถเรียนรู้จากปัญหาของคนอื่น เราก็จะเป็นผู้เชี่ยวชาญการดำเนินชีวิต

และชอบบทสรุปของหลานชายหลังจากที่ออกไปพบผู้คนที่เผชิญปัญหาในชีวิตมากมาย.. .
"ความยินดีไม่ได้มาจากการหลีกหนีปัญหา หรือให้คนอื่นจัดการแทนเรา
แต่แท้จริงแล้ว..ความยินดีมาจากการเอาชนะปัญหา หรือเรียนรู้ที่จะใช้ชีวิตอยู่กับมันอย่างมีความสุข"

ส่วนตัวแล้ว..หลังจากได้ฟังพรข้อนี้
รู้สึกขอบคุณวิกฤติ ทำให้เป็นโอกาสที่ได้พัฒนาตนเอง
ก่อให้เกิดเรื่องราวดีๆสิ่งดีๆขึ้นในชีวิตอย่างมากมายเลยค่ะ

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
พรแห่งครอบครัว
ครอบครัวที่แท้จริงจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อมีความรัก กลุ่มคนสามารถกลายเป็นครอบครัว
เมื่อพวกเขาเติมความรักในความสัมพันธ์ระหว่างกัน หากปราศจากความรักครอบครัว
ก็เป็นเพียงกลุ่มคนที่อยู่ในสายตระกูลเดียวกันเท่ านั้น

คำกล่าวของปู่..
ครอบครัวให้รากเหง้า ให้มรดกตกทอดต่อกันมา และให้อดีตของเรา ครอบครัวยังเป็นฐาน
ในการก้าวไปสู่อนาคตอีกด้วย ไม่มีอะไรในโลกที่จะแข็งแกร่งไปกว่า ความสัมพันธ์ที่ครอบครัวสร้างขึ้นมา
มันเป็นความสัมพันธ์แห่งรักบริสุทธิ์ ที่สามารถยืนหยัดต่อแรงกดดันทั้งหลายตราบที่เรายังเชิดชูความรักไว้ให้มั่นค ง

คนบางคนมีบุญที่ได้อยู่ร่วมหรือผูกพันกับครอบครัวที่เขาเกิดมาไปจนตลอดชีวิต
แต่ก็บางคนก็เหมือนกับเธอ เหตุปัจจัยหลายอย่างทำให้เขาถูกทอดทิ้งโดยปราศจากครอบครัว
 จะเหลือก็แต่เพียงในนามเท่านั้น คนเหล่านั้นต้องออกไปสร้างครอบครัวใหม่

ปู่กำลังพยายามจะบอกอะไรกับเธอ
เธอจะได้ไปพบกับคนที่ดูเหมือนไม่มีครอบครัว และด้วยวิธีนี้ปู่หวังว่า
เธอจะได้เรียนรู้ถึงคุณค่าของการมีครอบครัว

สิ่งที่หลานชายได้กล่าวกับทนายหลังการไปอยู่ใบบ้านกับเด็กกำพร้าเป็นเวลาหนึ ่งเดือน
"คุณรู้ไหมอะไรที่น่าทึ่ง ไม่มีใครในเด็กชายเหล่านั้นที่มีครอบครัว แต่พวกเขากลับรู้เรื่อง
เกี่ยวกับครอบครัวมากกว่าที่ผมรู้ ผมคิดว่าครอบครัวไม่ได้มีเพียงทีความสัมพันธ์กันทางสายเลือด แต่ยังเป็นความสัมพันธ์ทางความรัก"

หลังจากได้ฟัง..ก็เห็นด้วยจริงๆค่ะ
กับความรักที่มีแก่กันกับคนในครอบครัว...ยิ่งในขณะที่เรารู้สึกเคว้งคว้าง เศร้าและหมดหวังกับชีวิต
น้ำเสียงที่แสดงความรักและห่วงใยจากคนในครอบครัว ทำให้รู้สึกอบอุ่นขึ้นได้ทันใด

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

พรแห่งการหัวเราะ


การหัวเราะเปรียบเสมือน "ยาวิเศษ" เมื่อไรก็ตามที่เราสามารถหัวเราะได้แม้ในยามวิกฤต
 ก็จะมีความสุขไปตลอดชีวิต และจะเริ่มรู้สึกถึงความรักที่ชีวิตเสนอให้อย่างแท้จริง
คำกล่าวของปู่..

พรแห่งการหัวเราะ ไม่ใช่เรื่องดาราตลกในตอนกลางคืน หรือหนังตลก แต่เป็นความสามารถในตัวเธอเอง
 ปัญหาของเธอและชีวิตโดยทั่วไป มองแล้วสามารถหัวเราะไปกับมันได้ หลายๆคนดำเนินชีวิตอย่างไม่มีความสุข
เพราะว่าพวกเขาเคร่งเครียดและจริงจังกับทุกสิ่งมากเกินไป ..

....มีบางสิ่งในชีวิตที่เราต้องเอาจริงเอาจังและรู้จักสะสม แต่ชีวิตที่ปราศจากเสียงหัวเราะ
 ก็เป็นชีวิตที่ไม่มีค่าควรจะอยู่เช่นกัน
เรื่องของคนตาบอดที่มีอารมณ์ขันอยู่เสมอที่หลานได้เจอ..
 
"เขามองไม่เห็นมาตั้งแต่เป็นเด็ก และต้องผ่านการดิ้นรนและท้าทายมากมาย
 ปัญหาไม่น้อยเกิดจากการที่คนทั่วไปปฏิบัติต่อเขาแบบแย่มาก" เขาบอกว่า
"บางเวลาในชีวิตคุณมีทางเลือกอยู่สองทางคือไม่หัวเราะก็ร้องไห้ และผมพอใจที่จะหัวเราะมากกว่า"

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

พรแห่งความฝัน

ไฟแห่งความปรารถนา ความฝัน และเป้าหมายของเรา ล้วนเป็นการแสดงออกมาภายนอกของความรักที่มาจากภายใน
 และนักฝันที่ยิ่งใหญ่ แม้พบกับอุปสรรคและความล้มเหลว ก็จะดำเนินไปไม่หยุดหย่อนเติบโต
และพัฒนากว้างไกลขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อบรรลุถึงความฝันอย่างหนึ่ง
ความฝันอีกอย่างหนึ่งซึ่งงดงามยิ่งใหญ่กว่าเดิมก็จะผุดขึ้นมาอีก
ปู่กล่าวว่า...

ความฝันเป็นส่วนประกอบที่สำคัญของชีวิต ไม่ใช่เพียงแค่ฝัน แต่ต้องเป็นการฝันในสิ่งที่เป็นไปได้
ถ้าให้เลือกพรที่สำคัญ ที่สุด ปู่เลือกพรแห่งความฝัน เพราะความฝันทำให้เราเห็นชีวิตอย่างที่น่าจะเป็นได้
ไม่ใช่อย่างที่มันกำลังเป็นอยู่ พรแห่งของฝันจึงช่วยให้เราก้าวเดินออกไปรวบรวมพรอื่นๆ ที่เราต้องการจากชีวิตนี้ได้
หลานจงทำความรู้จักกับนักฝัน มิตรภาพที่มีกับนักฝันนั้นเป็นสมบัติล้ำค่าจริงๆ
แต่ขอเตือนไว้ว่า..ความฝันสำหรับชีวิตของเธอต้องเป็นของเธอเอง จะลอกเลียนคนอื่นไม่ได้ และมันต้องเติบโต
พัฒนาไปไม่หยุดหย่อน ตามการกระทำเพื่อให้ความฝันกลายเป็นความจริง
คนๆเดียวที่ต้องมีไฟสำหรับความฝันของเธอก็คือตัวเธอเอง

ฟังจบ..แล้ว คิดว่า ก็คงเหมือนคำกล่าวที่ว่าคบคนเช่นไร ก็เป็นคนเช่นนั้น หากได้ใกล้ชิดนักฝัน
ก็คงทำให้เราช่างคิดช่างฝันไปด้วย และได้อยู่ในบรรยากาศของความขยัน
 กระตือรือล้นที่จะทำสิ่งต่างๆอยู่เสมอนั่นเอง
เชื่อว่า...แม้จะไปไม่ถึงฝันอันยิ่งใหญ่ แต่กระบวนต่างๆที่จะนำไปสู่ฝัน
มีค่ายิ่งที่จะทำให้ตัวเราได้พัฒนาความรู้ความสามารถ สรุปว่า มีความฝันดีว่าไม่มี แน่นอนค่ะ
แค่คิด..ก็มีความสุขแล้ว อิอิ


++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

พรแห่งการให้
บางคนอาจคิดผิดว่า การให้บางอย่างออกไป คนที่เราให้จะเป็นเจ้าของสิ่งเหล่านั้นและตัวเองก็อาจมีน้อยลงกว่าเดิม
 หรือยิ่งให้น้อยคุณยิ่งมีมาก แต่ความจริงแล้วมันตรงกันข้าม ยิ่งคุณให้มาก คุณก็จะมีมาก
 การมีมากทำให้เกิดความสามารถที่จะให้ และการให้ก็ทำให้มีมากขึ้น และเมื่อคุณให้ไปด้วยความรัก
 ทั้งผู้ให้และผู้รับก็จะมีมากกว่าเมื่อตอนเริ่มต้น

คำกล่าวของปู่ถึงหลาน...
การรู้จักให้และรับเป็นสิ่งสำคัญ ในด้านการเงิน ปู่ได้ให้เธออย่างเพียบพร้อม แต่ปู่ได้ละเมิด
หลักการเกี่ยวกับการให้ ปู่ได้ให้สิ่งต่างๆด้วยสำนึกของหน้าที่ ไม่ใช่ด้วยจิตตารมณ์แห่งการ
ให้ เธอเองก็รับสิ่งเหล่านั้นด้วยท่าทีของผู้มีสิทธิ และอภิสิทธิ์ที่จะได้ ไม่ใช่รับด้วยความกตัญญูรู้คุณ
ท่าทีของเราฉกชิงความสุขที่เกี่ยวกับพรแห่งการให้ไปจากเราทั้งสองฝ่าย
สิ่งสำคัญคือถ้าเธอให้อะไรแก่ใคร ต้องให้ด้วยจิตตารมณ์ที่ถูกต้อง ไม่ใช่ด้วยสำนึกว่าจำเป็นต้องให้

สำหรับข้อนี้..พยายามจะทำความเข้าใจ...ฟังดูเหมือนจะง่าย แต่การให้ด้วยจิตตารมณ์ที่ถูกต้อง

คงเหมือนการให้ปลา..แต่ไม่ได้สอนให้จับปลา
หากขาดเรา..คนที่อยู่ก็จะไม่สามารถมีชีวิตได้ ประมาณนี้นะคะ


++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

พรแห่งความกตัญญู
สอนให้เราตระหนักและสำนึกกับชีวิตและสิ่งรอบ ๆ ข้างแม้สำหรับสิ่งที่เล็กน้อยมากก็ตาม

ปู่ค้นพบอยู่เสมอว่า มันเป็นเรื่องตลกอย่างน่าเศร้า ที่คนที่มีอะไรจะต้องรู้คุณมากกลับเป็นคนที่รู้คุณน้อยที่สุด
ส่วนคนที่แทบไม่มีอะไรเลย กลับมีชีวิตที่เต็มไปด้วยความกตัญญูรู้คุณ...

การปฏิบัติโดย..ในทุกเช้าก่อนจะลุกจากที่นอน ให้จินตนาการถึง10 อย่างในชีวิต
ที่รู้สึกสำนึกคุณเป็นพิเศษ ทำให้เป็นนิสัยในทุกๆวัน จะทำให้มีจิตใจที่ดีอยู่เสมอ

เจสันเล่าถึงสิ่งที่รู้สึกขอบคุณ เขาไม่คาดคิดว่าจะมีมากมายได้ขนาดนี้..
"ขอบคุณสุขภาพที่แข็งแรง วัยหนุ่มทีทำให้เอาชนะทุกอย่างได้ บ้านที่อยู่ เพื่อน ปู่เพื่อนทั้งสองของปู่ การศึกษา
ทุกสถานที่ๆได้ไป รถ ครอบครัว เงินที่ปู่ให้ อุบายที่ปู่สอนให้ใช้เงินให้เป็น ขอบคุณทุกๆขั้นตอนในพรอันสูงสุด
สิ่งที่น่าทึ่งก็คือ การที่ผมจะสามารถขอบคุณต่อไปเรื่อยๆ มีมากมายหลายสิ่งเหลือเกินที่พวกเราควรจะรุ้คุณ
เป็นเรื่องยากที่จำหัดเพียงเท่านี้ "

ฟังจบก็เข้าใจว่า..เป็นอุบายอย่างหนึ่ง
การคิดถึงคุณค่าของสิ่งเหล่านั้น แม้เพียงเล็กน้อย ก็จะทำให้เรามีความรู้สึกดีๆ
สามารถอยู่ร่วมกับทุกสิ่ง ทุกอย่าง ทุกคน ที่อยู่รอบตัวได้อย่างมีความสุข..
นำไปสู่การปฏิบัติต่อทุกอย่าง ทุกคนไปในทางที่ดีด้วยค่ะ

วันนี้คุณขอบคุณ..สิ่งเล็กน้อยที่อยู่รอบตัวคุณบ้างหรือยังคะ

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

พรแห่งชีวิตประจำวัน

ทำให้เรียนรู้ว่าเราไม่จำเป็นต้องรอจนถึงวันสุดท้ายของชีวิต เพื่อที่จะดำเนินชีวิตแต่ละวันให้เต็มที่
 และหากเราเรียนรู้ที่จะดำเนินชีวิตในแต่ละวันให้เต็มที่ได้ ชีวิตของเราก็จะมั่งคั่งและมีความหมาย


เมื่อเราเผชิญหน้ากับการตายของตัวเอง เราจะพิจารณาถึงชีวิตที่ผ่านไป และชีวิตที่เหลืออยู่
 มันคล้ายกับทรายที่ไหลล่วงไปในนาฬิกาทราย ปู่รู้ว่าซักวันหนึ่งจะเป็นวันสุดท้ายของชีวิต
ปู่เฝ้าคิดอยู่ว่าถ้าเหลือเวลาในวันเดียว
ปู่จะใช้เวลาในวันนั้นอย่างไร หรือจะทำอะไร แล้วปู่ก็ตระหนักว่า ถ้าปู่นึกภาพออกว่า
จะใช้เวลาในวันหนึ่งให้เต็มที่ได้อย่างไร ปู่ก็เป็นผู้เชี่ยวชาญของแก่นการดำเนินชีวิต
 เพราะชีวิตก็คือเวลาทีละวันทีละวัน ที่ดำเนินต่อเนื่องไปนั่นเอง
 หากเราเรียนรู้ที่จะดำเนินชีวิตในวันหนึ่งให้เต็มที่ได้ ชีวิตของเราก็จะมั่งคั่งและมีความหมาย

ให้เธอไปวางแผนว่าจะใช้เวลาในวันสุดท้ายของชีวิตเธออย่างไร ปู่คิดว่าเธอจะสามารถ
พบว่าจะบรรจุชีวิตทั้งหมดลงมาเป็นหนึ่งวันได้อย่างไร หวังว่าจะค้นพบได้ว่า เ
ราไม่จำเป็นต้องรอจนถึงวันสุดท้ายของชีวิต เพื่อจะเริ่มดำเนินชีวิต
แต่ละวันให้เต็มที่ ขอให้เธอทำวันนี้และทุกๆวันจนตลอดชีวิตให้ดี

ฟังแล้ว..ถ้าหากลองคิดว่า พรุ่งนี้เป็นวันสุดท้าย...
เราคงจะทำทุกๆสิ่งในวันนี้อย่างดีมีคุณภาพและรวดเ ร็ว
และถ้าพรุ่งนี้ยังอยู่...(ยังอยู่ๆ) ชีวิตเราคงจะดีเลิศในทุกด้านเลยนะคะ

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

พรแห่งความรัก

ความรักคือสมบัติที่เราไม่สามารถหาซื้อได้ ทางเดียวที่จะเก็บรักษาไว้ก็คือต้องมอบความรักให้คนอื่น
 และเมื่อเรารักใครจริง ๆ ความรักของเราทำให้เราเองเปลี่ยนเป็นคนละคน และทำให้คนที่เรารักเปลี่ยนเป็นคนละคนด้วย


พรข้อสุดท้าย เป็นพรที่ครอบคลุมพรอื่นๆ รวมทั้งสิ่งดีๆทุกอย่าง ที่เธอจะทำ มีและรู้ในชีวิตของเธอ
นั่นคือ พรแห่งความรัก สิ่งใดที่ดีน่ายกย่องและน่าปราถนาในชีวิต ล้วนตั้งอยู่บนพื้นฐานแห่งความรัก
 สิ่งที่ชั่วร้ายหรือไม่ดีนั้นเป็นชีวิตที่ปราศจากความรักเข้ามาเกี่ยวข้อง
ความรักเป็นศัพท์ที่ถูกนำมาใช้อย่างผิดๆ หรือใช้อย่างฟุ่มเฟือยในสังคมของเรา มันกลายเป็นความ
ไม่จริงจังหรือการไล่ล่า แต่ความรักที่พูดถึงในพรแห่งความรักนั้น เป็นความดีภายในมนุษย์
ที่สามารถเป็นส่วนหนึ่งของทุกสิ่ง
เมื่อมีความรักเป็นศูนย์กลาง ความรักเป็นส่วนหนึ่งของพรข้ออื่นๆ

ชอบข้อนี้มากๆค่ะ ความรักในจิตใจของมนุษย์ ที่รักตัวเอง รักผู้อื่น รักทุกสิ่ง คือจุดเริ่มต้น...
.นำไปสู่การทำในสิ่งที่ดีงาม สร้างสรรค์

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

May the Gift be with you. (ขอให้พรจงอยู่คู่ตัวท่าน)
.


บันทึกการเข้า


♪♪♪ รวมบทกลอนน้องจ๋า คลิกค่ะ ...

ขอบคุณทุกภาพจาก Internet และเพลงจากYouTube
ผู้บริหารเว็บ
คะแนนน้ำใจ 65535
เหรียญรางวัล:
PJ ดีเด่นนักอ่านยอดเยี่ยมผู้ดูแลเว็บ
กระทู้: 18,136
ออฟไลน์ ออฟไลน์
"สาวหวาน กับ ความฝันไม่รู้จบ "
   
« ตอบ #1 เมื่อ: 26 เมษายน 2558, 08:49:56 AM »

Permalink: Re: นำความสุข มามอบให้ในวันหยุดค่ะ...โปรดมารับไปด้วย

บันทึกการเข้า


♪♪♪ รวมบทกลอนน้องจ๋า คลิกค่ะ ...

ขอบคุณทุกภาพจาก Internet และเพลงจากYouTube
หน้า: [1]   ขึ้นบน
 
 
กระโดดไป: