-/> อกหัก ไม่ใช่เสียใจ...งอน...เ...ว่.....

หน้า: [1]   ลงล่าง
 
ผู้เขียน หัวข้อ: อกหัก ไม่ใช่เสียใจ...งอน...เ...ว่.....  (อ่าน 7121 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
คะแนนน้ำใจ 3119
เหรียญรางวัล:
นักอ่านยอดเยี่ยมมีความคิดสร้างสรรค์นักโพสดีเด่น
กระทู้: 190
ออฟไลน์ ออฟไลน์
   
« เมื่อ: 13 ธันวาคม 2565, 03:50:17 PM »

Permalink: อกหัก ไม่ใช่เสียใจ...งอน...เ...ว่.....

    


        ร้องสีนวล
รูปร้ายกลายกลับเป็นสาวน้อย              
แช่มช้อยนวลละอองผ่องใส
งามโฉมประโลมละลานใจ                  
แอบต้นกล้วยใหญ๋แล้วถามหา
พ่อหนุ่มน้อยคนนี้อยู่ที่ไหน                  
แต่คนเดียวเดินไปที่ในป่า
มีธุระสิ่งใดไปไหนมา                      
เมตตาบอกความแต่ตามจริง
              
    
    
       สูง ต่ำ ห่างกัน พระจันทร์ใต้ฟ้า


 เพราะขำไม่ออก จะบอกหรือสั่ง
ก็ไม่อยากฟัง   หะชัง ห่างกัน
มิเดินร่วมหน    จะด้นไพรสัณฑ์
ระอาชนชั้น   ประชาชาติชน

เจอะหนึ่ง นรี ณ ที่นี้น    
กระจ่าง พระจ้นทร์ ณ เวหน
จะว่า มนุษย์ ก็งามล้น    
ฤผี ฤคน ฤนางฟ้า

จะเคียงสู่ เหมาะคู่สม
เพราะอารมณ์ เสน่หา
จะเลี้ยงดู และบูชา
ฉวีทอง นะน้องนี

บันทึกการเข้า

คะแนนน้ำใจ 3119
เหรียญรางวัล:
นักอ่านยอดเยี่ยมมีความคิดสร้างสรรค์นักโพสดีเด่น
กระทู้: 190
ออฟไลน์ ออฟไลน์
   
« ตอบ #1 เมื่อ: 17 ธันวาคม 2565, 08:53:11 PM »

Permalink: Re: อกหัก ไม่ใช่เสียใจ...งอน...โ...ว่ ย
         

     



อเมริกา ตั๋วไป    ไม่ต้องกลับมา
       Maid of culmore
       
         ขอบคุณYuTube



เนื้อเพลง The Maid of Culmore สิทธิ์ในเนื้อเพลงยังคงเป็นของผู้ประพันธ์หรือผู้ถือสิทธิ์เช่นเดิม



กำลังจะจากเมืองลอนดอนแดรี่ที่สวยงาม
ไม่มีท่าเรือใดที่สวยเสมอเหมือน
ที่ทุกเย็นวัยรุ่นจะมายังชายหาด
แล้วระฆังแห่งความสุขส่งเสียงดังกังวาลแด่สาวน้อยแห่งคูลมอร์

ครั้งแรกเห็นเธอเดินผ่านฉันไป
และครั้งต่อมาเห็นเธอโบกว่าไปละ
แต่ครั้งสุดท้ายหัวใจฉันดั่งถูกกรีด
เพราะเธอลงเรือจากคูลมอร์ไปล็อกโฟเยิล

หากฉันมีพลังบันดาลให้เกิดพายุได้
ฉันจะให้ลมพัดและท้องฟ้ามืดครึ้ม
ฉันจะให้ลมพัดแรงและท้องทะเลปั่นป่วน
จนถึงวันที่ที่รักของฉันแล่นเรือไปจากคูลมอร์

ที่รักฉันจะไปยังอเมริกาที่ไม่เคยเห็น
ที่นั่นฉันไม่รู้จักใคร และ ไม่มีใครรู้จัก
หากฉันไม่เจอเธอฉันจะไม่กลับบ้าน
เหมือนดั่งนักบุญ ฉันก็ท่องเที่ยวเสาะหาสาวน้อยจากคูลมอร์

….ขออณุญาต และขอบคุณ     tuk-tuk@korat
จาก เพจ    https://www.bloggang.com/m/mainblog.php?id=tuk-tukatkorat&month=20-09-2012&group=22&gblog=308


บันทึกการเข้า

คะแนนน้ำใจ 3119
เหรียญรางวัล:
นักอ่านยอดเยี่ยมมีความคิดสร้างสรรค์นักโพสดีเด่น
กระทู้: 190
ออฟไลน์ ออฟไลน์
   
« ตอบ #2 เมื่อ: 25 ธันวาคม 2565, 08:31:23 PM »

Permalink: Re: อกหัก ไม่ใช่เสียใจ...งอน...โ...ว่ ย
   

       
             


              ร้อง ร่าย

            เมื่อนั้น                   
พลายบัวตรองตรึกให้นึกกริ่ง
เห็นตานีมีฤทธิ์ศักสิทธิ์จริง                     
จึงวอนวิงด้วยสุนทรวาจา

                 ร้อง ทองย่อน

   เจ้านางตานีทองน้องแก้ว                   
เป็นคนแล้วพี่จะรักให้หนักหนา
พี่ขอเชิญนวลแก้วแววตา                     
ไปเป็นเพื่อนพี่ยาจนวันตาย
พี่มุ่งมาหวังว่าจะเชิญน้อง                     
เจ้านางตานีทองละอองฉาย
ไปเป็นเพื่อนคู่ยากลำบากกาย                   
แล้วเจ้าพลายเป่ามนต์เสน่ห์จันทร์เอย
.....

จะเลี้ยงดูและบูชา  ฉวีทองนะน้องนี




ระรินกลิ่นหอม  พยอมเกลื่อนไกล
ขจีเขียวไพล     สไบสดสี
จะแปลงทั้งตัว   และหัว ยันฮี
ณ รอพอ.นี้       เหมาะใจเจ้าพลาย

โปะแป้งประน้อง ฉลองฤทธิ์
ประสงค์ประสิทธ์ ประมาณหมาย
จะขัดสระสี ฉวีกาย
เสาะเลขผิว์ง่าย กะสองตัว

โอะแม่คุณ ละมุนแป้ง
ละเลงแข้ง ตลอดหัว
อ๊ะพรายไพร ก็ไม่กลัว
เพราะแค่ไหน ก็ไค่แน

บันทึกการเข้า

คะแนนน้ำใจ 3119
เหรียญรางวัล:
นักอ่านยอดเยี่ยมมีความคิดสร้างสรรค์นักโพสดีเด่น
กระทู้: 190
ออฟไลน์ ออฟไลน์
   
« ตอบ #3 เมื่อ: 26 ธันวาคม 2565, 12:59:38 PM »

Permalink: Re: อกหัก ไม่ใช่เสียใจ...งอน...โ...ว่ ย
      

    


    
  
ที่รักบอกกับฉัน
แม่ของฉันจะไม่รังเกียจ
และพ่อฉันจะไม่ทำให้คุณเล็กน้อย
เพราะคุณไม่มีความเมตตา
จากนั้นเธอก็ก้าวออกไปจากฉัน
และสิ่งนี้เธอก็พูดว่า
"ไม่นานความรัก
จนถึงวันแต่งงานของเรา "
เธอก้าวออกไปจากฉัน
และเธอย้ายผ่านงานออกร้าน
และฉันดูเธอด้วยความรัก ย้ายที่นี่และย้ายไปที่นั่น
และเธอก็เดินทางกลับบ้าน
ด้วยการตื่นขึ้นหนึ่งดาว
เหมือนหงส์ในตอนเย็น
เลื่อนข้ามทะเลสาบ
ผู้คนพูดว่า ไม่มีคนสองคนแต่งงานกัน
แต่ใครมีความเศร้า
ที่ไม่เคยพูด
และเธอยิ้มเมื่อเธอผ่านฉันไป
ด้วยสินค้าและอุปกรณ์ของเธอ
และนั่นก็เป็นเกมสุดท้าย ที่ฉันเห็นจากที่รักของฉัน
ฉันฝันว่ามันเมื่อคืนนี้
ว่าความรักที่แท้จริงของฉันเข้ามาใน
ดังนั้นเธอจึงป้อน
เท้าของเธอไม่ทำอะไรเลย
เธอเข้ามาใกล้ข้างฉัน
และสิ่งนี้เธอก็พูดว่า
"ไม่นานความรัก
จนถึงวันแต่งงานของเรา "

เครดิตผู้แปล
https://flowlez.com/th/songs/she-moved-through-the-fair-948895/
  ขอขอบคุณ และขออณุุญาต แชร์โดยมิได้หวังปลประโยชน์ ทางธุรกิจ

      

เครดิต YouTube
ขอ  อณุญาต แชร์ ด้วยความขอบคุณ

บันทึกการเข้า

คะแนนน้ำใจ 3119
เหรียญรางวัล:
นักอ่านยอดเยี่ยมมีความคิดสร้างสรรค์นักโพสดีเด่น
กระทู้: 190
ออฟไลน์ ออฟไลน์
   
« ตอบ #4 เมื่อ: 19 มกราคม 2566, 04:59:47 PM »

Permalink: Re: อกหัก ไม่ใช่เสียใจ...งอน...โ...ว่ ย
     

         
     
พระมากลัวผู้หญิงด้วยสิ่งใด

แม่เจ้าเอ๋ยคิดมาน่าหัวร่อ 
เห็นเขาง้อแล้วยิ่งว่าไม่ปราศรัย
พลางแกล้งทำสะบัดสะบิ้งทิ้งสไบ     
ร้อนเหมือนใจจะขาดประหลาดนัก
……..

แม้นโว้เว้เนรคุณพระทูนหัว      อันเป็นผัวเพื่อนรักสมัครสมาน
ขอทุกเทพเทวัญจงบันดาล      ประหารผลาญชีวาตม์ให้ขาดรอน

จนสุดสิ้นดินฟ้าสุธาทวีป      ไม่สิ้นชีพก็ไม่เสื่อมสโมสร
พอให้สัตย์เสร็จคำทำฉะอ้อน      ระทวยอ่อนเอนทับลงกับเพลา


เปษณนาทฉันท์ ๑๖

ดนูนิ่งนึกตริตรึกในใจ           ประพันธ์ฉันท์ใหม่เถอะได้บังเอิญ
ผิพลาดท้วงเถิดประเสริฐสรรเสริญ  เสนอปราชญ์เชิญวินิจฉัยฉันท์
                                                                  (สุภร  ผลชีวิน)

มุทิงคนาทฉันท์ ๑๔

ป๊ะโท่น  ป๊ะโท่น  ป๊ะโท่นโท่น               
สำเนียงตะโพนนะพิษสง
ยุใจบุรุษและนุชลงง                                        สนามจำนงจะนาดกร

พระจันทร์กระจ่างโพยมหน                 
นิกรชนสโมสร
มุทิงคนาทประนังกร                                       สดับเถอะผ่อนฤทัยเพลิน
                                                                             (สุภร  ผลชีวิน )

ภุชงคประยาตฉันท์ ๑๒

ระบำโบกและโยกคลอน                ขยอกย้อนขย้อนโครม
สวรรค์ไทยสมัยโทรม                     ก็ใครคุยล่ะชุ่ยเหลือ!
                                                                         (ขอบฟ้าขลิบทอง : อุชเชนี)

   


   

                                                           
   แค่สะบัด อย่าทำแม่รำคาญ
         


      เพราะแค่ไหน ก็ไค่แน
……………..

สะบั้นรักขาด    มิอาจคิดแก้
มนุษย์คดแท้    ก็แค่เลิกกัน
"สมุทรนารี"       สตรีอวบอั๋น
แตะนี่ต้องนั่น   ก็เต่งเต็มมือ

สมองละเมอเพราะเพ้อรัก
สมานสมัครมิเหิมหือ
สนิทสนองจะลองยื้อ
ก็ควรแหละตื๊อมิเสียทรัพย์

เถอะน้องนีนะพี่ขอ
จะเที่ยวพอประเดี๋ยวกลับ
ทะเลผ่านมินานนับ
เถอะเนื้อทองมิต้องรอ

บันทึกการเข้า

คะแนนน้ำใจ 3119
เหรียญรางวัล:
นักอ่านยอดเยี่ยมมีความคิดสร้างสรรค์นักโพสดีเด่น
กระทู้: 190
ออฟไลน์ ออฟไลน์
   
« ตอบ #5 เมื่อ: 21 มกราคม 2566, 02:19:38 PM »

Permalink: Re: อกหัก ไม่ใช่เสียใจ...งอน...โ...ว่ ย
       

     


     

 

โดย ยอน บอนนี่ แบงค์ส และ ยอน บอนนี่ เบรส
By yon bonnie banks and by yon bonnie braes

ที่ซึ่งพระอาทิตย์ส่องแสงบนทะเลสาบโลมอนด์
Where the sun shines bright on Loch Lomond

ที่ซึ่งฉันและรักแท้จะไม่มีวันได้พบกันอีก
Where me and my true love will never meet again

บนบอนนี่ บอนนี่ริมฝั่งทะเลสาบโลมอนด์
On the bonnie, bonnie banks of Loch Lomond
เจ้าใช้ทางสูง ข้าจะไปตามทางต่ำ
O you take the high road, and I'll take the low road

และฉันจะอยู่ในสกอตแลนด์ก่อนคุณ
And I'll be in Scotland afore ye

แต่ฉันและรักแท้จะไม่มีวันได้พบกันอีก
But me and my true love will never meet again

บนบอนนี่ บอนนี่ริมฝั่งทะเลสาบโลมอนด์
On the bonnie, bonnie banks of Loch Lomond
'ที่นั่นเราแยกจากกันในหุบเขาอันร่มรื่น
'Twas there that we parted, in yon shady glen

บนทางชันและสูงชันของ Ben Lomond
On the steep, steep side of Ben Lomond

ที่ซึ่งในเฉดสีม่วงอ่อน เรามองเห็นเนินเขาที่ไฮแลนด์
Where in soft purple hue, the hieland hills we view

และพระจันทร์ก็ลอยเด่นออกมา
And the moon coming out in the gloaming
เจ้าใช้ทางสูง ข้าจะไปตามทางต่ำ
O you take the high road, and I'll take the low road

และฉันจะอยู่ในสกอตแลนด์ก่อนคุณ
And I'll be in Scotland afore ye

แต่ฉันและรักแท้จะไม่มีวันได้พบกันอีก
But me and my true love will never meet again

บนบอนนี่ บอนนี่ริมฝั่งทะเลสาบโลมอนด์
On the bonnie, bonnie banks of Loch Lomond
นกร้องเพลงและดอกไม้ป่าผลิบาน
The wee bird sing and the wildflowers spring

และในแสงแดดน้ำกำลังหลับใหล
And in sunshine the waters are sleeping

แต่ใจที่แตกสลายก็เคว้งคว้างฤดูใบไม้ผลิอีกครั้ง
But the broken heart it kens, nae second spring again

แม้ว่าผู้เศร้าโศกจะเลิกเศร้าโศกได้
Though the woeful may cease from their grieving
เจ้าใช้ทางสูง ข้าจะไปตามทางต่ำ
O you take the high road, and I'll take the low road

และฉันจะอยู่ในสกอตแลนด์ก่อนคุณ
And I'll be in Scotland afore ye

แต่ฉันและรักแท้จะไม่มีวันได้พบกันอีก
But me and my true love will never meet again

บนบอนนี่ บอนนี่ริมฝั่งทะเลสาบโลมอนด์
On the bonnie, bonnie banks of Loch Lomond

การตีความ
นักประวัติศาสตร์Murray GH Pittockเขียนว่าเพลงนี้ "เป็นการดัดแปลงจากเพลงอีโรติกสมัยศตวรรษที่สิบแปดของJacobiteโดยที่คนรักกำลังจะตายเพื่อกษัตริย์ของเขา และนำ 'ถนนสายต่ำ' แห่งความตายกลับไปสกอตแลนด์เท่านั้น" [6]มันเป็นหนึ่งในบทกวีและเพลงมากมายที่โผล่ออกมาจากวัฒนธรรมการเมืองของ Jacobite ในสกอตแลนด์ [6]

Andrew Lang
ประมาณปี 1876 แอนดรูว์ แลงก์กวีและนักประพันธ์ชาวสก็อตได้เขียนบทกวีโดยใช้ชื่อเพลงว่า "The Bonnie Banks o' Loch Lomond" [7] [8]ชื่อเรื่องบางครั้งมีวันที่ "1746" ต่อท้า

   



   


บันทึกการเข้า

คะแนนน้ำใจ 3119
เหรียญรางวัล:
นักอ่านยอดเยี่ยมมีความคิดสร้างสรรค์นักโพสดีเด่น
กระทู้: 190
ออฟไลน์ ออฟไลน์
   
« ตอบ #6 เมื่อ: 30 มกราคม 2566, 05:52:54 PM »

Permalink: Re: อกหัก ไม่ใช่เสียใจ...งอน...โ...ว่ ย
       

             
         

เถอะเนื้อทองมิต้องรอ


อภัยคลื่นลม   มิสมสิ่งขอ
วิถีบิดงอ        โอ๊ะหนอคลื่นรมณ์
สมุทรผีเสื้อ     เพราะเพื่อสุขสม
ละล่องเล่นลม   ก็ชีวีวาย

สลดละอดเสน่หา
เพราะโชคชะตามิสมหมาย
ประมาทอนาถนะหญิงชาย
ริรักก็ร้ายมิอาจเดา

ทะเลลึกมินึกอ้าง   นภากว้างไศลเขา
คะเนคาดขนาดเอา   มิเทียมครึ่งคะนึงรัก
                                         
บันทึกการเข้า

คะแนนน้ำใจ 3119
เหรียญรางวัล:
นักอ่านยอดเยี่ยมมีความคิดสร้างสรรค์นักโพสดีเด่น
กระทู้: 190
ออฟไลน์ ออฟไลน์
   
« ตอบ #7 เมื่อ: 09 กุมภาพันธ์ 2566, 10:45:59 AM »

Permalink: Re: อกหัก ไม่ใช่เสียใจ...งอน...โ...ว่ ย
       

       



.     


ชีวิตที่เฉิดฉายนี้เปรียบเหมือนดาวรุ่ง
This glancing life is like a morning star

พระอาทิตย์ที่กำลังตกดินหรือเกลียวคลื่นในทะเล
A setting sun, or rolling waves at sea

สายลมเบา ๆ หรือฟ้าผ่าในพายุ
A gentle breeze or lightning in a storm

ความฝันแห่งการเต้นรำตลอดกาล
A dancing dream of all eternity
ทรายเป็นประกายระยิบระยับในยามเช้า
The sand was shimmering in the morning light

และเต้นรำออกไปไกลจากเนินทราย
And dancing off the dunes so far away

ค่ำคืนนี้จัดเพลงเพราะพริ้งยาวนาน
The night held music so sweet, so long

และเรานอนที่นั่นจนถึงรุ่งเช้า
And there we lay until the break of day
เราตื่นขึ้นในเช้าวันนั้นเมื่อสายต่อ
We woke that morning at the onward call

อูฐของเราบังเหียน อิ่มหนำสำราญ
Our camels bridled up, our howdahs full

ดวงอาทิตย์กำลังขึ้นบนท้องฟ้าทางทิศตะวันออก
The sun was rising in the eastern sky

เช่นเดียวกับที่เราออกเดินทางไปสู่เสียงร้องของทะเลทราย
Just as we set out to the desert's cry
เรียก โหยหา ดึง กลับบ้านคุณ
Calling, yearning, pulling, home to you
เต็นท์เริ่มเล็กลงเมื่อเราขี่ออกไป
The tents grew smaller as we rode away

บนโลกที่บอกวันเวลาผ่านไปมากมาย
On earth that tells of many passing days

เดือนแห่งสันติภาพและปีแห่งสงคราม
The months of peace and all the years of war

ชีวิตแห่งความรักและทุกชีวิตแห่งความกลัว
The lives of love and all the lives of fears
เรียก โหยหา ดึง กลับบ้านคุณ
Calling, yearning, pulling, home to you
เราข้ามแม่น้ำที่สลักด้วยหินทั้งหมด
We crossed the river beds all etched in stone

และขึ้นไปบนภูเขาอันยิ่งใหญ่ที่เคยรู้จัก
And up the mighty mountains ever known

เหนือหุบเขาท่ามกลางความร้อนระอุ
Beyond the valleys in the searing heat

จนกระทั่งมาถึงกองคาราวาน
Until we reached the caravanserai
เรียก โหยหา ดึง กลับบ้านคุณ
Calling, yearning, pulling, home to you

เรียก โหยหา ดึง กลับบ้านคุณ
Calling, yearning, pulling, home to you
ชีวิตนี้ดึงอะไรให้ไกล
What is this life that pulls me far away?

บ้านที่เราอาศัยอยู่ไม่ได้คืออะไร?
What is that home where we cannot reside?

อะไรคือภารกิจที่ดึงฉันไปข้างหน้า?
What is that quest that pulls me onward?

ใจฉันอิ่มเอิบเมื่อมีเธออยู่เคียงข้าง
My heart is full when you are by my side
เรียก โหยหา ดึง กลับบ้านคุณ
Calling, yearning, pulling, home to you

เรียก โหยหา ดึง กลับบ้านคุณ
Calling, yearning, pulling, home to you

แหล่งที่มา: Musixmatch
นักแต่งเพลง: Loreena Mckennitt
เนื้อเพลง Caravanserai © Quinlan Road Music Ltd.up


บันทึกการเข้า

คะแนนน้ำใจ 3119
เหรียญรางวัล:
นักอ่านยอดเยี่ยมมีความคิดสร้างสรรค์นักโพสดีเด่น
กระทู้: 190
ออฟไลน์ ออฟไลน์
   
« ตอบ #8 เมื่อ: 17 กุมภาพันธ์ 2566, 03:26:17 PM »

Permalink: Re: อกหัก ไม่ใช่เสียใจ...งอน...โ...ว่ ย
    

    

        

ซึ่งทรงฤทธิ์คิดปองจะครองคู่   แสนอดสูสารพัดจะบัดสี
วิสัยสัตว์มัจฉาอยู่วารี   จะยินดีด้วยมนุษย์นั้นสุดกลัว
เพราะต่างชาติวาสนาน้องน้อยนัก   อย่าริรักอนุกูลเลยทูนหัว
จะพลอยพาฝ่าละอองให้หมองมัว   ขอฝากตัวตามประสาเป็นข้าไท
……….
.    

ถึงต่างชาติวาสนาได้มาพบ   ก็ควรคบเคียงชมประสมสอง
เจ้าโฉมงามทรามสงวนนวลละออง   อย่าขัดข้องคิดหมางระคางใจ
ประเวณีมีทั่วทุกตัวสัตว์   ไม่จำกัดห้ามปรามตามวิสัย
นาคมนุษย์ครุฑาสุราลัย   สุดแต่ใจปรองดองจะครองกัน
เจ้ากับพี่นี้ก็เห็นเป็นกุศล   จึงหนีพ้นมารมาไม่อาสัญ
จะเคียงคู่ชูชื่นทุกคืนวัน   โอ้เจ้าขวัญนัยนาได้ปรานี
พลางอิงแอบแนบน้องประคองเคล้า   ค่อยต้องเต้าเต่งอุรามารศรี
พระเชยปรางทางฉะอ้อนอ่อนอินทรีย์   ร่วมฤดีเดือนหงายสบายใจ………….


          มิเทียมครึ่งคะนึงรัก
……….

สตรีคือเหตุ          ประเภทนางนง
สโอดทรวดทรง    สะองเอวหยัก
สบัดโบกร่าง        ศุภางค์ไกวกวัก
สะโพกงามนัก      กะชุดว่ายน้ำ

สรีระชื่น สราญสอง         เกาะกอดตระกอง ซะชื่นฉ่่ำ
สนานสมุทร เนาะผุดดำ   กระะนั้นแหละหนำ เหมาะสมกัน

จะรักเธอเสนอหน้า   เพราะน้องปลาสมานฝัน
อดีตเก่าละเขานั้น     มนุุษย์หญิงมิจริงใจ
  


บันทึกการเข้า

คะแนนน้ำใจ 3119
เหรียญรางวัล:
นักอ่านยอดเยี่ยมมีความคิดสร้างสรรค์นักโพสดีเด่น
กระทู้: 190
ออฟไลน์ ออฟไลน์
   
« ตอบ #9 เมื่อ: 28 กุมภาพันธ์ 2566, 02:39:13 PM »

Permalink: Re: อกหัก ไม่ใช่เสียใจ...งอน...โ...ว่ ย
           

       

       



      โอดมอญ     
     


โอ้ หลังจากรุ่งสางก็มีเวลาเย็นมา
Oh, after the mornin' there comes an evenin'

และหลังจากเย็น ก็อีกวันอื่น
And after the evenin' another day

และหลังจากรักจอมปลอมก็มีรักแท้ตามมา
And after a false love there comes a true love

ฉันจะให้คุณฟังสิ่งที่ฉันพูดตอนนี้
I'll have you listen now to what I say
ที่รักของฉันเขาสบายดีเหมือนชายหนุ่ม
My love he is as fine a young man

งามปานใดแสงตะวันส่องมา
As fair as any the sun shines on

แต่จะช่วยเขาได้อย่างไรฉันไม่รู้
But how to save him I do not know it

สำหรับตอนนี้เขามีประโยค โทษแขวนคอ
For now he's got a sentence to be hung
ขณะที่เขากำลังเดินไปตามถนนในเมือง Derry
As he was marchin' the streets of Derry

ฉันรู้ว่าเขาเดินขึ้นอย่างคล่องแคล่ว
I know he marched up right manfully

เป็นเหมือนผู้บังคับบัญชามากกว่า
Being much more like a commandin' officer

กว่าคนจะตายบนตะแลงแกง
Than a man to die upon the gallows tree
อะไรที่ทำให้ความรักของฉัน
What keeps my love?

เธอมานานมากแล้ว
She's so long comin'

โอ้ อะไรรั้งเธอไว้จากฉันนานนัก
Oh, what detains her so long from me?

หรือเธอคิดว่าเป็นเรื่องน่าละอายหรือเรื่องอื้อฉาว
Or does she think it's a shame or scandal

เห็นฉันตายบนต้นตะแลงแกงหรือ
To see me die upon the gallows tree?
เขามองไปรอบ ๆ และเห็นเธอกำลังมา
He looked around and he saw her comin'

ขณะที่เธอขี่เร็วกว่าลม
As she rode swifter than the wind

ฉันปล่อยให้พวกเขาเห็นว่าพวกเขาไม่กล้าแขวนคอคุณ
I let them see that they dare not hang you
(ควีนอภัยโทษ)
และฉันจะสวมมงกุฎสีเขียวให้กับความรักของฉัน
And I'll crown my love with a bunch of green
แหล่งที่มา: Musixmatch
นักแต่งเพลง: Paul Brady / Andy Irvine
เนื้อเพลง The Streets of Derry © Round Hill Songs Ii


         lumiere
         

          lrvine
         


 
บันทึกการเข้า

คะแนนน้ำใจ 3119
เหรียญรางวัล:
นักอ่านยอดเยี่ยมมีความคิดสร้างสรรค์นักโพสดีเด่น
กระทู้: 190
ออฟไลน์ ออฟไลน์
   
« ตอบ #10 เมื่อ: 10 มีนาคม 2566, 02:17:24 PM »

Permalink: Re: อกหัก ไม่ใช่เสียใจ...งอน...โ...ว่ ย
     

โอดลาว
     





เจอทุกเช้าเฝ้าดูเจ้าถูพื้น
ลางล้มลื่นพี่อาจหัวฟาดหิน
ค่อยแอบย่องมองดูอยู่อาจินต์
ได้แต่กลิ่นแต่ไกลไม่ได้ดม

เสียงเธอกรี๊ดวี้ดว้ายคล้ายไล่หมา
น้ำสาดซ่าเปียกมะล่อกเธอบอกสม
เธอชี้นิ้วคิ้วยกอกกลิ้งกลม
แค่เห็น ..ร้องอย่า อ้า พี่ เอง
     
บันทึกการเข้า

คะแนนน้ำใจ 3119
เหรียญรางวัล:
นักอ่านยอดเยี่ยมมีความคิดสร้างสรรค์นักโพสดีเด่น
กระทู้: 190
ออฟไลน์ ออฟไลน์
   
« ตอบ #11 เมื่อ: 23 มีนาคม 2566, 04:36:44 PM »

Permalink: Re: อกหัก ไม่ใช่เสียใจ...งอน...โ...ว่ ย
     

      โอดมอญ     
     

       

……ร้องอย่า อ้า พี่ เอง


ไม่ถูพื้นยืนส่ายป่ายไม้กวาด
ซ้ายขวาปาดยักโยกสะโพกเด้ง
แอบมองคุ่มซุ่มตัวมัวแต่เกรง
ได้แต่เพ่งiแต่หลบตบแต่ยุง

เธอร้องวุ้ยอุ๊ยหมาเอ๊ยตาเถร
คิดจะเผ่นเจอกวาดหวาดสะดุ้ง
ไม้ไม่พอคอยกอกตั้งตุง
แค่เห็นพุงร้องนี่พี่คนเดิม

บันทึกการเข้า

คะแนนน้ำใจ 3119
เหรียญรางวัล:
นักอ่านยอดเยี่ยมมีความคิดสร้างสรรค์นักโพสดีเด่น
กระทู้: 190
ออฟไลน์ ออฟไลน์
   
« ตอบ #12 เมื่อ: 30 มีนาคม 2566, 03:43:47 PM »

Permalink: Re: อกหัก ไม่ใช่เสียใจ...งอน...โ...ว่ ย
     

      เหตุ อกหัก เลิกรัก หญิง ไม่จริงใจ


แค่เห็นพุงร้องนี่พี่คนเดิม
……..

วันอาทิตย์ปิดหรือมาซื้อของ
ไม่เห็นน้องขาดยาอาหารเสริม
เห็นป้ายน้อยห้อยคู่อยู่ด่อเติม
ว้นจันทา์เริ่มขายบ่งลงเวลา

ป้ายใหญ่น้อยห้อยเรียงคู่เคียงชิด
คุ้นครุ่นคิดคล้ายคำธรรมปริศนา
ขอข้บสู้ผู้เหมาะเฉพาะลูกค้า
แค่ไล่หมากีดขวางทางประตู


         
         โอดมอญ     
     

บันทึกการเข้า

คะแนนน้ำใจ 3119
เหรียญรางวัล:
นักอ่านยอดเยี่ยมมีความคิดสร้างสรรค์นักโพสดีเด่น
กระทู้: 190
ออฟไลน์ ออฟไลน์
   
« ตอบ #13 เมื่อ: 29 เมษายน 2566, 01:32:15 PM »

Permalink: Re: อกหัก ไม่ใช่เสียใจ...งอน...โ...ว่ ย
    

                    

มาเหนือเนินเขา สาวไอริชผู้น่ารักของฉัน
Come over the hills, my bonny Irish lass

ข้ามเนินเขาไปหาที่รักของคุณ
Come over the hills to your darling

เธอเลือกทาง รักแล้วฉันจะให้คำสัตย์สาบาน
You choose the road, love, and I'll make the vow

และฉันจะเป็นรักแท้ของเธอตลอดไป
And I'll be your true love forever
สีแดงคือดอกกุหลาบที่ปลูกในสวนทางโน้น
Red is the rose that in yonder garden grows

ยุติธรรมคือดอกลิลลี่แห่งหุบเขา
Fair is the lily of the valley

น้ำที่ไหลจาก Boyne นั้นใสสะอาด
Clear is the water that flows from the Boyne

แต่ความรักของฉันนั้นยุติธรรมกว่าสิ่งใด
But my love is fairer than any
'ดับลงโดยป่าเขียวขจีของคิลตารนีย์ที่เราหลงทาง
'Twas down by Killarney's green woods that we strayed

เมื่อพระจันทร์และดวงดาวส่องแสง
When the moon and the stars they were shining

พระจันทร์ฉายแสงบนเรือนผมสีทองของเธอ
The moon shone its rays on her locks of golden hair

และเธอสาบานว่าเธอจะเป็นที่รักของฉันตลอดไป
And she swore she'd be my love forever
สีแดงคือดอกกุหลาบที่ปลูกในสวนทางโน้น
Red is the rose that in yonder garden grows

ยุติธรรมคือดอกลิลลี่แห่งหุบเขา
Fair is the lily of the valley

น้ำที่ไหลจาก Boyne นั้นใสสะอาด
Clear is the water that flows from the Boyne

แต่ความรักของฉันนั้นยุติธรรมกว่าสิ่งใด
But my love is fairer than any
ไม่ใช่เพราะการพรากจากกันที่น้องสาวของฉันเจ็บปวด
It's not for the parting that my sister pains

ไม่ใช่เพราะความเศร้าโศกของแม่
It's not for the grief of my mother

ทั้งหมดนี้สำหรับการสูญเสียสาวไอริชผู้น่ารักของฉัน
Tis all for the loss of my bonny Irish lass

ที่หัวใจของฉันแตกสลายไปตลอดกาล
That my heart is breaking forever
สีแดงคือดอกกุหลาบที่ปลูกในสวนทางโน้น
Red is the rose that in yonder garden grows

ยุติธรรมคือดอกลิลลี่แห่งหุบเขา
Fair is the lily of the valley

น้ำที่ไหลจาก Boyne นั้นใสสะอาด
Clear is the water that flows from the Boyne

แต่ความรักของฉันนั้นยุติธรรมกว่าสิ่งใด
But my love is fairer than any
……..
แหล่งที่มา: LyricFind
นักแต่งเพลง: Brian Joseph Dunphy / Darren Richard Holden / Ewan Martin Joel Cowley / Finbarr Cormac Robert Clancy / Mark Murphy / Martin Thomas Furey / N Unknown Writer / Unknown Writer



            

            เปล่านะ

หายากหญิงเห็นไร้กว่าใบเตย
อย่ามีคู่เสียเลยก็ดีอยู่
เธอทิ้งเรือขึ้นรถก็คอยดู
ควรจะรู้คำสอนเถรเตือนชี

ดวงตะวันโผล่พ้นดาดฟ้าตึก      ว่าพิลึกที่ห้องสี่คูณสี่    
แสงทองสาดลอดช่องช่างพอดี   โต๊ะเก้าอี้ ฉัน นั่งเพ่งหลี่ยมเพชร

เอ๊ยเปล่านะเรื่องก็ไม่อย่างนั้น     ว่าพิลั่นเหลือทนโอ๊ยเซ็งเป็ด
ไม่เห็นต้นไม่ดูใบไม่มีเม็ด
ดูเถอะเท็จไม่มีเพชรแห่งนารี

เพชรไม่เปลี่ยนเธอนะแหละเปลี่ยน
คิ้วโกนเกรียนตาโตเลิกยิบหยี
ก่อนนางกวักงอเกี่ยวแก้มเกาะนิ้วชี้
แต่วันนี้นางตวัดตวัดนิ้วแกว่งไกว

       เธอ คือ นางกวัด
    
       โอดจีน
    
    
บันทึกการเข้า

คะแนนน้ำใจ 3119
เหรียญรางวัล:
นักอ่านยอดเยี่ยมมีความคิดสร้างสรรค์นักโพสดีเด่น
กระทู้: 190
ออฟไลน์ ออฟไลน์
   
« ตอบ #14 เมื่อ: 13 พฤษภาคม 2566, 11:17:45 AM »

Permalink: Re: อกหัก ไม่ใช่เสียใจ...งอน...เ...ว่.....
           

     Thai Translated Lyrics
แปลเพลง Nancy Mulligan ของศิลปิน Ed Sheeran
 2017-05-19BY PAI 0 COMMENTS

แปลโดย  https://www.google.com/url?sa=t&source=web&rct=j&url=http://www.thaitranslatedlyrics.com/2017/05/nancy-mulligan-ed-sheeran.html&ved=2ahUKEwjjy6uVg-_-AhVezDgGHfStCWcQFnoECAgQAQ&usg=AOvVaw0p4vYMpTaQ4yqMXRSHWghJ





     

I was twenty four years old
When I met the woman I would call my own
Twenty two grand kids now growing old
In the house that your brother bought ya

ตอนฉันอายุ 24 ปี
ฉันได้พบกับผู้หญิงที่ฉันจะเรียกว่าเป็นของฉันเอง
มีหลาน 22 คน ตอนนี้เติบโตกันหมดแล้ว
อยู่ในบ้านที่พี่ชายของเธอซื้อให้

On the summer day when I proposed
I made that wedding ring from dentist gold
And I asked her father but her daddy said, “No
You can’t marry my daughter”

ในวันช่วงฤดูร้อนตอนที่ฉันขอแต่งงาน
ฉันทำแหวนแต่งงานนั้นมาจากฟันทอง
และฉันขอพ่อของเธอแต่พ่อของเธอบอกว่า ไม่
เธอแต่งงานกับลูกสาวฉันไม่ได้หรอก

She and I went on the run
Don’t care about religion
I’m gonna marry the woman I love
Down by the Wexford border
She was Nancy Mulligan
And I was William Sheeran
She took my name and then we were one
Down by the Wexford border

เธอและฉันหนีตามกันไป
ไม่สนใจเกี่ยวกับศาสนา
ฉันจะแต่งงานกับผู้หญิงที่ฉันรัก
ลงไปตามแนวเขตแดน Wexford
เธอคือ Nancy Mulligan
และฉันคือ William Sheeran
เธอใช้นามสกุลฉัน และหลังจากนั้นเราก็เป็นหนึ่งเดียว
ลงไปตามแนวเขตแดน Wexford

Well, I met her at Guy’s in the second world war
And she was working on a soldier’s ward
Never had I seen such beauty before
The moment that I saw her
Nancy was my yellow rose
And we got married wearing borrowed clothes
We got eight children now growing old
Five sons and three daughters

ฉันได้พบกับเธอที่โรงพยาบาล Guy ในสงครามโลกครั้งที่สอง
และเธอทำงานอยู่ที่ตึกคนไข้ทหาร
ไม่เคยเห็นใครสวยขนาดนี้มาก่อน
ชั่วขณะที่ฉันเห็นเธอ
Nancy เป็นดอกกุหลาบสีเหลืองของฉัน
แล้วเราก็แต่งงานกันกับสวมเสื้อผ้าที่ยืมมา
เรามีลูกกัน 8 คน ตอนนี้เติบโตกันหมดแล้ว
ลูกชาย 5 คน และลูกสาว 3 คน

From her snow white streak in her jet black hair
Over sixty years I’ve been loving her
Now we’re sat by the fire, in our old armchairs
You know Nancy I adore ya

จากที่ผมขาวของเธอแทรกอยู่ในผมดำสนิจของเธอ
กว่า 60 ปีแล้วที่ฉันได้รักเธอ
ตอนนี้เรานั่งอยู่ข้างเตาผิง อยู่ในเก้าอี้เก่าๆของเรา
เธอรู้ไหม Nancy ฉันรักเธอมากนะ

From a farm boy born near Belfast town
I never worried about the king and crown
Cause I found my heart upon the southern ground
There’s no difference, I assure ya

จากเด็กหนุ่มท้องไร่เกิดใกล้ๆกับเมือง Belfast
ฉันไม่เคยกังวลในเรื่องของกษัตริย์และก็มงกุฎเลย
เพราะฉันได้พบหัวใจของฉันอยู่บนพื้นดินทางใต้
ไม่มีความแตกต่าง ฉันให้สัญญาเธอเลย


   






 เปล่านเ    ไม่อยากพูด




คนเคยรัก เต็มใจพูดว่าใช่เเต็มปาก
และรักมาก  เธอตายยอมใจได้
ไม่เห็นหน้าโชว์แต่ก้นหมายอะไร
หรือยังไงพิสํูจน์รักคือฉันควรตายก่อนเธอ

แรกหลอกไม่เลิกฉันเชื่อตามวาจา
สองเวลาไม่แน่ครึ่งควบครึ่งคือเสมอ
สามชัดแล้วรอแก้รอคิวตามเบอร์
สี่แก้เก้อลืมไปป่วยไม่เคบพูดไม่สบาย

ทำท้าเลิกไม่คบไม่สุงสิง
ใจของหญิงทิ้งเรือก็ควรหาย
คิดจะชวนเป็นแม่พระบวชลูกชาย
พุทโธ่ท้ายกรรมการตำบลยังส่ายหน้าเลย

บันทึกการเข้า

หน้า: [1]   ขึ้นบน
 
 
กระโดดไป: