หน้า: [1]   ลงล่าง
 
ผู้เขียน หัวข้อ: เด็กที่ครูไม่ต้องการ  (อ่าน 1762 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
คะแนนน้ำใจ 2654
เหรียญรางวัล:
มีความคิดสร้างสรรค์นักโพสดีเด่น
กระทู้: 139
ออฟไลน์ ออฟไลน์
อีเมล์
   
« เมื่อ: 25 กรกฎาคม 2565, 09:55:53 AM »

Permalink: เด็กที่ครูไม่ต้องการ




·
เรื่องสั้นหน้าเดียว ชุดมือเปื้อนชอล์ก
๑๕. เด็กที่ครูไม่ต้องการ
โดย...เบิก ประชาบาล
          ครูนวลฉวี มาบรรจุที่โรงเรียนบ้านโคกอีแร้งไล่เลี่ยกับผม เธอได้รับมอบหมายจากครูใหญ่
ให้เป็นครูประจำชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ ซึ่งมีนักเรียนสามสิบกว่าคน ในจำนวนนักเรียนทั้งหมด
ที่เธอรับผิดชอบ มีเด็กชายสุมิตร ที่มีปัญหาหนักกว่าใคร ขาดเรียนบ่อย อาทิตย์หนึ่งมาเรียนไม่ถึงสามวัน
 และเป็นที่รังเกียจของเพื่อน ๆ ครูหลาย ๆคนก็เอื่อมระอา มาโรงเรียนทีไร มักจะถูกเพื่อน ๆ ล้อเลียน
และฟ้องเรื่องนั้นเรื่องนี้บ่อย ๆ เรื่องที่ถูกเพื่อนฟ้องร้องมากที่สุด คือเรื่องลักขโมย
            “ทำไมเธอถึงเป็นคนแบบนี้นะ” ครูใหญ่เรียกไปสอบสวนที่ห้องพักวันหนึ่ง
“รู้ไหมการลักขโมยมันผิดกฎหมาย เป็นเรื่องที่เลวร้ายไม่สมควรทำอย่างยิ่ง
ครูเสียใจจริงๆ ที่เธอมีความประพฤติเช่นนี้”
            สุมิตรยืนก้มหน้านิ่ง ฟังครูใหญ่ต่อว่าด้วยน้ำตาที่ไหลพราก ถึงเขาจะบอกครูใหญ่ว่า
 เขาไม่ได้ขโมย ถูกเพื่อนกลั่นแกล้งใส่ร้ายมากกว่า แต่ก็ไม่มีใครเชื่อเขาสักคน
           เด็กชายสุมิตรเป็นเด็กที่มีปัญหาครอบครัว พ่อแม่หย่าร้าง แยกทางกันไปคนละทิศละทาง
 ปล่อยให้เขาอยู่กับยายตั้งแต่อายุสองขวบ ยายอุ้มชูเลี้ยงดูเขาด้วยความรัก ความเอ็นดู
ตอนนี้ยายอายุมากขึ้น ร่างกายทรุดโทรม แถมยังป่วยกระเสาะกระแสะ ไม่สามารถออกไปทำงานได้
เหมือนเมื่อก่อน แม่ก็ไม่เคยมาเหลียวแล พ่อไม่ต้องพูดถึง ปล่อยให้สองยายหลาน
อยู่อย่างอดอยากปากหมอง สุมิตรต้องขาดเรียนบ่อย ๆเพื่อออกตระเวนขอข้าวชาวบ้าน
โดยเอาพริก มะเขือ และผัก ที่เขาปลูกไว้ไปแลกข้าว พอได้ประทังชีวิต
ไปวัน ๆ เด็กขนาดนี้ต้องรับผิดชอบงานหนัก แต่ไม่เคยมีใครเห็นใจและยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ
           “คุณครูคะ เมื่อวานหนูเห็นสุมิตรขโมยยาที่ห้องพยาบาลค่ะ” เด็กหญิงอ้อมนที
 มาฟ้องครูนวลฉวีในเช้าวันหนึ่ง ซึ่งวันนี้สุมิตรไม่ได้มาโรงเรียน
          “เอาอีกแล้ว ครูใหญ่อบรมยังไม่หลาบจำอีก เห็นทีเย็นนี้ครูจะไปตามถึงบ้านเสียแล้ว
ใครจะไปเป็นเพื่อนครูบ้าง”
          “หนูค่ะ ผมครับ” นักเรียนสามสี่คนรับปากขันอาสา
          หลังเลิกเรียนตอนเย็น ครูนวลฉวี กับเด็กนักเรียนสามสี่คน รีบตรงไปที่บ้านของสุมิตร
 เดินข้ามทุ่งไปทางทิศใต้เกือบ ๑ กิโลเมตร บ้านของสุมิตรตั้งอยู่บนเนินเตี้ยๆ ริมทุ่ง
ที่จริงจะว่าบ้านก็ไม่เชิง เพราะเป็นเหมือนเถียงนาที่มุงด้วยหญ้าแฝก ฝาทำด้วยไม้ไผ่สานขัดลายสาม
 พื้นก็ปูด้วยฟากไม้ไผ่ เถียงนาดูโย้เย้ จะล้มแหล่มิล้มแหล่ ไม่รู้วันดีคืนดีมันจะพังลงทับเอาเมื่อไร
          ที่บ้านเงียบเชียบ ครูนวลฉวีจึงป้องปากตะโกนเรียก
         “สวัสดีค่ะ มีใครอยู่หรือเปล่า?”
         “ออกไปดูสิลูก ใครมา” เสียงอู้อี้แหบพร่า ซึ่งนอนซมด้วยพิษไข้ บนที่นอนเก่าคร่ำคร่า
 มีผ้าห่มผืนบางๆ คลุมไว้ บอกให้หลานออกมาดู ชั่วครู่ประตูก็เปิดออก
สุมิตรนั่นเอง พอเขาเห็นครูนวลฉวี รีบยกมือไหว้ทันที
         “สวัสดีครับคุณครู” ครูนวลฉวีรับไหว้ ก่อนเอ่ย
         “ครูกับเพื่อน ๆ มาเยี่ยมเธอ เห็นเธอไม่ไปโรงเรียน ครูและเพื่อน ๆ เป็นห่วง
 ครูขึ้นข้างบนได้ไหม”
            “ได้ครับครู แต่ระวังหน่อยนะครับ” สุมิตรเชิญครูนวลฉวีขึ้นบนบ้าน ส่วนเด็ก ๆ
 ที่มากับครูนวลฉวี นั่งรออยู่ด้านล่าง
          ครูนวลฉวีค่อนข้างน้ำหนักเยอะ พอเหยียบพื้นบ้าน มันก็ยุบยวบยาบส่งเสียงเอี๊ยดอ๊าด!
 ต้องค่อย ๆ เดินอย่างระมัดรัง
            ภาพที่ครูนวลฉวีเห็นคือ ยายแก่คนหนึ่งที่นอนหนาวสั่นงก ๆ อยู่บนฟูกเก่าคร่ำครึ
            “ยายผมไม่สบายครับ เมื่อเย็นวานผมว่าจะขอยากับครูพยาบาล แต่ครูกลับบ้านไปแล้ว
 จึงถือโอกาสหยิบเอายาแก้ไข้สามสี่เม็ด มาให้ยายกินครับ” สุมิตรบอกครูด้วยน้ำตานองหน้า
            “ครูจะทำโทษผมอย่างไรก็ได้ครับ ผมยอมทุกอย่าง เพราะความจำเป็น
 ไม่มีเงินจะซื้อยา ผมสงสารยายครับ”
            ครูนวลฉวีได้ฟังลูกศิษย์ตัวน้อยพูดเช่นนี้ ถึงกับมีก้อนแข็ง ๆ วิ่งขึ้นมาจุกที่ลำคอ
 รู้สึกร้อนผ่าวที่ขอบตา น้ำใส ๆ ไหลออกมาคลอเบ้า ด้วยความสงสารสุมิตร
 ที่ใคร ๆ ต่างเข้าใจเขาผิด และพากันรังเกียจเขา
         “ครูผิดเอง ที่ไม่ได้ดูแลพวกเธออย่างทั่วถึง ไม่เคยมาเยี่ยมบ้าน
จึงไม่รู้สภาพชีวิตความเป็นอยู่ของลูกศิษย์ตัวเอง ครูขอโทษ”  น้ำเสียงของครูนวลฉวีสั่นเครือ
 โผเข้าโอบกอดสุมิตรด้วยความรัก ความเอ็นดูและคิดหาทางช่วยเหลือสุมิตรให้เร็วที่สุด
           -
                                               เบิก ประชาบาล
บันทึกการเข้า

หน้า: [1]   ขึ้นบน
 
 
กระโดดไป: