You are here: Khonphutorn.com - แหล่งข้อมูลของคนไทยหมวดความบันเทิงสาระน่าอ่าน (ผู้ดูแล: Top Gun)ประโยชน์ของน้ำผึ้ง ดีจริง รักษาได้ถึง 10 โรค
หน้า: [1]   ลงล่าง
 
ผู้เขียน หัวข้อ: ประโยชน์ของน้ำผึ้ง ดีจริง รักษาได้ถึง 10 โรค  (อ่าน 1174 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ผู้บริหารเว็บ
คะแนนน้ำใจ 65535
เหรียญรางวัล:
PJ ดีเด่นนักอ่านยอดเยี่ยมผู้ดูแลเว็บ
กระทู้: 18,135
ออฟไลน์ ออฟไลน์
"สาวหวาน กับ ความฝันไม่รู้จบ "
   
« เมื่อ: 23 สิงหาคม 2564, 08:34:00 PM »

Permalink: ประโยชน์ของน้ำผึ้ง ดีจริง รักษาได้ถึง 10 โรค




น้ำผึ้ง ความหวานจากธรรมชาติที่ใครหลายคนบอกว่าประโยชน์ของน้ำผึ้งมีดีหลายอย่าง และนอกจากน้ำผึ้งจะช่วยรักษาสิว
บำรุงผิว และบำรุงความงามได้แล้ว สรรพคุณของน้ำผึ้งยังรักษาโรคและบรรเทาได้หลายอาการตามนี้เลย


1. น้ำผึ้ง แก้ไอได้
            จากการศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสาร Pediatrics เผยว่า น้ำผึ้งมีสรรพคุณเทียบเท่ายาปฏิชีวนะเบา ๆ
 สามารถกำจัดเชื้อไวรัสที่ทำให้เกิดอาการไอได้ โดยเฉพาะคนที่ไอเรื้อรังไม่ยอมหาย ลองกินน้ำผึ้ง 2 ช้อนชา
แล้วดื่มน้ำอุ่นตาม อาการไอจะค่อย ๆ บรรเทาลง

2. น้ำผึ้ง แก้เจ็บคอก็ได้ด้วย
            ในเมื่อน้ำผึ้งแก้ไอได้ อาการไวรัสลงคอจนทำให้รู้สึกเจ็บคอก็สามารถหายได้ด้วยน้ำผึ้งเช่นกัน
ยิ่งหากจิบน้ำผึ้งผสมน้ำอุ่นที่บีบมะนาวผสมลงไปสักนิด จิบอยู่ไม่เท่าไรอาการเจ็บคอก็หายจ้อยเลยล่ะ

3. แก้ท้องผูก
            ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าในน้ำผึ้งแอบซ่อนโพรไบโอติกส์ แถมยังเป็นมิตรกับแบคทีเรียประเภทแลคโตบาซิลัส
 ดังนั้นเพียงจิบน้ำผึ้งผสมน้ำอุ่นก่อนเข้านอน ตื่นเช้ามารับรองว่าโล่งสบายท้องแน่ ๆ
 
4. น้ำผึ้ง รักษาโรคกระเพาะก็เด็ด
          เนื่องจากน้ำผึ้งมีฤทธิ์สมานแผล จึงสามารถรักษาแผลในกระเพาะอาหารของผู้ป่วยโรคกระเพาะได้
โดยเฉพาะคนที่มีอาการโรคกระเพาะในระยะเริ่มต้น ควรกินน้ำผึ้งวันละ 1 ช้อนชาเป็นประจำ

5. รักษาเชื้อรา
          ในน้ำผึ้งมีเอนไซม์ที่ผึ้งปล่อยออกมา ซึ่งเอนไซม์ที่ว่านี้ก็มีฤทธิ์คล้ายไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์
จึงสามารถรักษาเชื้อราหรืออาการติดเชื้อแบคทีเรียชนิดต่าง ๆ ได้นั่นเอง

. แก้โรคนอนไม่หลับ
          นักโภชนาการจาก  Seattle Sutton's Healthy Eating ชิคาโก แนะนำให้ผู้ที่นอนไม่หลับเป็นประจำ
กินน้ำผึ้ง 1 ช้อนชาก่อนเข้านอน 30 นาที ด้วยเหตุผลที่ว่าน้ำผึ้งให้ความหวานกับร่างกาย
ซึ่งจะไปกระตุ้นให้ร่างกายผลิตอินซูลินและหลั่งเซโรโทนิน ฮอร์โมนแห่งความสุขออกมาได้
จากนั้นเซโรโทนินจะเปลี่ยนตัวเองเป็นเมลาโทนิน ฮอร์โมนที่พาให้รู้สึกง่วงและรู้สึกอยากนอนหลับ
 
7. บรรเทาอาการโรคภูมิแพ้
          น้ำผึ้งมีฤทธิ์คล้ายสารต้านการอักเสบ อีกทั้ง Dr.Matthew Brennecke แพทย์แห่งสถาบัน
  Rocky Mountain Wellness Center ยังเผยว่า น้ำผึ้งมีอนุมูลละอองเกสรขนาดเล็กอยู่เยอะ
 ซึ่งเมื่อร่างกายเจอสิ่งนี้ก็จะกระตุ้นให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานมากขึ้น ส่งผลให้ร่างกายหลั่งสารฮีสตามีนน้อยลง
 อาการของโรคภูมิแพ้อากาศจึงบรรเทาลงได้
 
8. รักษาแผล ล้างแผลได้
          อย่างที่บอกว่าน้ำผึ้งมีฤทธิ์คล้ายยาต้านการอักเสบ อีกทั้งยังมีคุณสมบัติคล้ายไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์อ่อน ๆ
จึงสามารถนำน้ำผึ้งมารักษาแผลได้ ยืนยันจากการศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสาร  British Journal of Surgery
 ที่บันทึกสถิติของคนไข้ที่รักษาแผลด้วยน้ำผึ้งแล้วหายดี แถมไม่มีอาการแผลไหม้หรือแสบแผลอีกด้วย
          ทั้งนี้วิธีรักษาแผลด้วยน้ำผึ้งให้ผสมน้ำผึ้ง 1 ส่วน ต่อน้ำ 9 ส่วนเข้าด้วยกัน แล้วนำมาล้างแผลตามปกติ

9. น้ำผึ้ง แก้ท้องเสียก็เวิร์ก
          น้ำผึ้งสามารถฆ่าเชื้อโรคในกระเพาะอาหารและลำไส้ได้ โดยเฉพาะเหล่าอาการติดเชื้อในกระเพาะอาหาร
จนทำให้เกิดอาการท้องเสีย แค่เพียงจิบน้ำผึ้งผสมน้ำอุ่นสัก 1 แก้วกาแฟ อาการท้องเสียและปวดเสียดท้องก็จะบรรเทาลงแล้วล่ะ
 
10. เติมพลังให้ร่างกาย
          น้ำผึ้งแค่เพียง 1 ช้อนโต๊ะก็มีปริมาณคาร์โบไฮเดรตราว 17 กรัม ซึ่งก็เป็นคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน
ที่อุดมไปด้วยกลูโคสและฟรุกโตสจากธรรมชาติแท้ ๆ ดังนั้นร่างกายจึงสามารถดูดซึมพลังงานเหล่านี้
เข้าเส้นเลือดได้อย่างรวดเร็ว บูสต์พลังให้หายจากอาการเพลียหรืออาการเหนื่อยล้าหลังออกกำลังหนัก ๆ ได้ชะงัด
 
          ประโยชน์ของน้ำผึ้งช่วยรักษาโรคได้หลายอย่างดังที่บอกไป ทว่าข้อควรระวังในการบริโภคน้ำผึ้งก็มีมาแนะนำกันด้วย ดังนี้
          - ไม่ควรให้เด็กอายุต่ำกว่า 1 ขวบ กินน้ำผึ้ง เนื่องจากในน้ำผึ้งมีทั้งเอนไซม์ น้ำลายจากตัวผึ้ง
             เด็กอาจมีภูมิต้านทานไม่พอจนทำให้เกิดอาการอาเจียนหรือท้องเสียได้

         - ไม่ควรกินน้ำผึ้งเกินวันละ 10 ช้อนชา เพราะอย่าลืมว่าน้ำผึ้งก็เป็นน้ำตาลชนิดหนึ่ง
          ซึ่งอาจทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสะเทือนได้ โดยเฉพาะผู้ที่ป่วยเป็นโรคเบาหวานอยู่แล้ว

          น้ำผึ้งก็เหมือนเหรียญที่มี 2 ด้าน ด้านหนึ่งเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ
แต่ก็ควรระมัดระวังในการบริโภคกันบ้างเพื่อความปลอดภัยนะคะ

ขอบคุณข้อมูลจาก
Medical Daily
บันทึกการเข้า


♪♪♪ รวมบทกลอนน้องจ๋า คลิกค่ะ ...

ขอบคุณทุกภาพจาก Internet และเพลงจากYouTube
หน้า: [1]   ขึ้นบน
 
 
กระโดดไป: