-/> อยู่เป็นไทย

หน้า: [1]   ลงล่าง
 
ผู้เขียน หัวข้อ: อยู่เป็นไทย  (อ่าน 4933 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
คะแนนน้ำใจ 3119
เหรียญรางวัล:
นักอ่านยอดเยี่ยมมีความคิดสร้างสรรค์นักโพสดีเด่น
กระทู้: 190
ออฟไลน์ ออฟไลน์
   
« เมื่อ: 21 สิงหาคม 2564, 04:48:20 PM »

Permalink: อยู่เป็นไทย
    

    
            อยู่เป็นไทย งามนุ่มนวลแบบไทย
  

วันที่ 17 ตุลาคม 2562 เพจสำนักงานเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช ได้โพสต์ภาพและข้อความว่า "วันพฤหัสบดี ที่ ๑๗ ตุลาคม ๒๕๖๒ เจ้าพระคุณ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เสด็จลงพระวิหาร วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ประทานพระวโรกาสให้ นางมารีอา อาลีเซีย กุซโซนี เด โซนเชน เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอาร์เจนตินาประจำประเทศไทยเฝ้าถวายสักการะ เนื่องในโอกาสเข้ารับตำแหน่งหน้าที่เป็นเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐอาร์เจนตินาประจำประเทศไทย
อาร์เจนตินาเป็นประเทศที่ประชากรส่วนใหญ่นับถือศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก แต่ก็มีประชากรที่นับถือศาสนาอื่นด้วย รวมทั้งเอกอัครราชทูตท่านนี้ ซึ่งนับถือพระพุทธศาสนามานานกว่าสิบห้าปี จึงมีความรู้ความเข้าใจเรื่องพระพุทธศาสนาทั้งนิกายมหายานและเถรวาทพอสมควร เอกอัครราชทูตอาร์เจนตินากราบทูลว่าในฐานะพุทธศาสนิกชน การได้มาประจำการในประเทศไทย และการได้เฝ้าเจ้าพระคุณ สมเด็จพระสังฆราชในวันนี้ จึงยังให้บังเกิดปีติสุขเป็นอย่างยิ่ง

.....ข่าว นสพบ้านเมือง วันพฤหัสบดี ที่ 17 ตุลาคม พ.ศ.2562, 23.50 น

              

ผัดกะเพรา
แบบไทย สูตรสอง ปรุงรสเพียงน้ำปลา
                
                



อร่อยสะเด๊ดเผ็ดชมัดผัดกะเพรา
ขวางใจเจ้าขัดใจทอดใส่ไข่
ทนไม่พอยอไม่หยุดจึงจุดไฟ
ไหม้ลามไปร้อนกลิ่นเพียงดินแดง

กะเพราหมูดูดีนี่แหละไทย
เหยียดหรือไรลองเล่นเช่นแสลง
เด็กก็ชอบลรอบกองไฟไม่ระแวง
ไมกลั่่นแกล้งกะเพราเด็ดเผ็ดของจริง
บันทึกการเข้า

คะแนนน้ำใจ 3119
เหรียญรางวัล:
นักอ่านยอดเยี่ยมมีความคิดสร้างสรรค์นักโพสดีเด่น
กระทู้: 190
ออฟไลน์ ออฟไลน์
   
« ตอบ #1 เมื่อ: 24 สิงหาคม 2564, 09:48:43 AM »

Permalink: Re: อยู่เป็นไทย
     

     
https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=10220039407998990&id=1337643342&sfnsn=mo

           
         

         




พ่อแม่นำทำทางสร้างรกราก
รวย-จนมากหมวยตี๋ดีไม่หยิ่ง
ชาติเชื้อสายหายหากรากเหง้าทิ้ง
หมายมุ้งมิ้งใจเย็นไม่เป็นไร

รักเคารพนบนอบมอบในหลวง
ประชาปวงราชาสมาสัย
มาจากจีนปีนป่ายย้ายมาไกล
จิตเป็นไทยประจักษ์รักแผ่นดิน

บันทึกการเข้า

คะแนนน้ำใจ 3119
เหรียญรางวัล:
นักอ่านยอดเยี่ยมมีความคิดสร้างสรรค์นักโพสดีเด่น
กระทู้: 190
ออฟไลน์ ออฟไลน์
   
« ตอบ #2 เมื่อ: 25 สิงหาคม 2564, 07:57:30 AM »

Permalink: Re: อยู่เป็นไทย
        
https://vt.tiktok.com/ZSJv5SPE6/

วัน
กล้องถ่ายรูป แผนที่ และดินสอ
ล้วนเกิดก่อ ประโยชน์สุข ทุกถิ่นฐาน
กลางดงดอย แดนดิน ถิ่นกันดาร
ธ ทรงงาน ทุกแห่งหน เพื่อคนไทย...

อภิชาติ ดำดี
๒๔ สค. ๒๕๖๔



บางส่วนจากfb  " ป้าอร เอมอร คชเสนี " ขออณุุญาต ป้าอร ครับ อ่านแล้วาักคนมอญ
……………...
ช่วงหนึ่งของการทำงาน ป้าเคยจัดรายการวิทยุเกี่ยวกับพระราชวงศ์จักรี
 ตอนนั้นเองที่ต้องค้นข้อมูลอย่างหนักเพื่อเอามาทำรายการ
แต่ละพระองค์ก็มีบุญคุณต่อชาติไทยเราแตกต่างกันไป แล้วแต่ยุคสมัยในตอนนั้น
 ทำวนไปหลายร้อยตอน เล่ากันเป็นปีๆ
ยังไม่จบเลยหลานเอ๊ย ถ้าของเขาไม่ดีจริง จะเอาอะไรที่ไหนมาเล่า

ต้นตระกูลป้าเป็นคนมอญ ลุกขึ้นมาเป็นหัวหน้ากบฏ เพราะโดนพม่ารังแก
 สู้เขาไม่ได้ เลยหนีมาพึ่งพระเจ้าตาก
 แล้วช่วยไทยรบมาเรื่อยจนถึงสมัย ร.1 พม่าเห็นรบเก่งส่งจดหมายมาขู่ไทย
 ให้ส่งตัวคืนให้พม่า แต่ท่านไม่คืนให้
 ก็รับราชการกันรุ่นต่อรุ่นเรื่อยมา จนถึงสมัย ร.6 ท่านเมตตาพระราชทานนามสกุลให้
 ที่บ้านใส่กรอบเก็บไว้
เห็นมาตั้งแต่เด็ก จากต้นตระกูลก็ออกลูกออกหลาน จนมาเป็นป้า
 มารบกับพวกเอ็งนี่แหละ รบเก่งมาตั้งแต่ต้นตระกูลเลยนะเฟร้ย งุงิงุงิ

ป้าเชื่อว่าหลานๆ หลายคนก็คงมีเชื้อลูกครึ่งเหมือนป้านี่แหละ ลองให้ปู่ย่าตายายเล่าให้ฟัง
สมัยที่หอบเสื่อผืนหมอนใบมาอยู่เมืองไทย ทุกชาติ ทุกศาสนา
กษัตริย์ไทยเราอุปถัมภ์ค้ำชูเหมือนๆ กันหมด

,.............

          






จิตเป็นไทยประจักษ์รักแผ่นดิน

สมสมัยวัยวารสานเสมอ
เสมือนเธอก่อการสมานถิ่น
ดุจเยื่อใยใฝ่ฟังดังยลยิน
ชนเชื้อดินแดนดาษเช่นชาติเดียว

บันทึกสืบคืบคัดค้ดบรรทัดสอน
เอื้อแน่นอนภูมิแผ่นอันแน่นเหนียว
เพียงกล้ำกลืนฝืนเฟื้อเพื่อกลมเกลียว
ฉลองพระเชี่ยวราษฎร์เริ่มเฉลิมพระชนม์

บันทึกการเข้า

ผู้บริหารเว็บ
คะแนนน้ำใจ 65535
เหรียญรางวัล:
PJ ดีเด่นนักอ่านยอดเยี่ยมผู้ดูแลเว็บ
กระทู้: 18,135
ออนไลน์ ออนไลน์
"สาวหวาน กับ ความฝันไม่รู้จบ "
   
« ตอบ #3 เมื่อ: 25 สิงหาคม 2564, 10:08:56 AM »

Permalink: Re: อยู่เป็นไทย
แก้ไขให้ค่ะ
บันทึกการเข้า


♪♪♪ รวมบทกลอนน้องจ๋า คลิกค่ะ ...

ขอบคุณทุกภาพจาก Internet และเพลงจากYouTube
คะแนนน้ำใจ 3119
เหรียญรางวัล:
นักอ่านยอดเยี่ยมมีความคิดสร้างสรรค์นักโพสดีเด่น
กระทู้: 190
ออฟไลน์ ออฟไลน์
   
« ตอบ #4 เมื่อ: 25 สิงหาคม 2564, 03:26:53 PM »

Permalink: Re: อยู่เป็นไทย
แก้ไขให้ค่ะ


                


                


    ขอบคุณช่างกุญแจมาแก้ไข
    ขอบน้ำใจหมอด้วยช่วยแก้ไข้
    แต่คุณหมอขอโทษ ผมผิดอะไร
    ผิดมากไหมบอกแน แก้น้อยใจ        


บันทึกการเข้า

ผู้บริหารเว็บ
คะแนนน้ำใจ 65535
เหรียญรางวัล:
PJ ดีเด่นนักอ่านยอดเยี่ยมผู้ดูแลเว็บ
กระทู้: 18,135
ออนไลน์ ออนไลน์
"สาวหวาน กับ ความฝันไม่รู้จบ "
   
« ตอบ #5 เมื่อ: 26 สิงหาคม 2564, 10:14:43 AM »

Permalink: Re: อยู่เป็นไทย
แก้ไข  ขนาดตัวหนังสือให้ค่ะ 55555
บันทึกการเข้า


♪♪♪ รวมบทกลอนน้องจ๋า คลิกค่ะ ...

ขอบคุณทุกภาพจาก Internet และเพลงจากYouTube
คะแนนน้ำใจ 3119
เหรียญรางวัล:
นักอ่านยอดเยี่ยมมีความคิดสร้างสรรค์นักโพสดีเด่น
กระทู้: 190
ออฟไลน์ ออฟไลน์
   
« ตอบ #6 เมื่อ: 28 สิงหาคม 2564, 05:10:49 PM »

Permalink: Re: อยู่เป็นไทย
      
   
                    ไทย  เป็นไทย ได้

          



          
        
            

ไกลสุดทางสางส่องกล้องแสนเที่ยง......(สางคือ สว่างแจ้ง)
แผนที่เพียงกิจก่อพ่อถึงผล
ทุกสกุลวุ่นวาดหวังทั้งสากล
ขอเพียงตนน้อมนำคำพ่อเตือน

.......
อ่อนซ้อม ยังไม่ดีพอ รอหน่อยจะค่อยดี
บันทึกการเข้า

คะแนนน้ำใจ 3119
เหรียญรางวัล:
นักอ่านยอดเยี่ยมมีความคิดสร้างสรรค์นักโพสดีเด่น
กระทู้: 190
ออฟไลน์ ออฟไลน์
   
« ตอบ #7 เมื่อ: 30 สิงหาคม 2564, 08:02:32 PM »

Permalink: Re: อยู่เป็นไทย
        

                        

ที่ว่า พระมหากษัตริย์  ทรงสร้างชาติ
.......


เอาว่าก่อนปี 2500 ประเทศไทยจนมาก..........

จากปี 2475-2500 ไม่มีประวัติศาสตร์ความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจ มีเพียงประวัติบุคคล ใครทะเลาะกับใคร
.
ประเทศเสียเวลา เสียโอกาสมาก
.
ยุ่งอยู่กับการชำระหนี้ต่างชาติ
.
 พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ ขึ้นครองราชย์ในปี 2489 ในสถานการณ์ที่อันตรายมาก
.
อันตรายจากคนในรัฐบาล บ้างก็แนวฮิตเลอร์ บ้างก็แนวบอลเชวิก
.
ทรัพย์สิน เช่น ที่ดินของพระมหากษัตริย์แถวรอบวังสวนจิตร, สามเสน, ศาลาแดง, สีลม ถูกเอาไปขายแบ่งกัน
.
สถิติปี 2503 ที่ฝรั่งมาสำรวจให้ UN Escap ไทยมีรายได้ต่อหัวต่ำสุดในเอเซีย ต่ำกว่า มาเลย์ 4 เท่า ต่ำกว่าเวียดนาม กัมพูชา ลาว พม่า อินเดีย ฟิลิปปินส์
.
แค่ 2,000 บาทต่อคนต่อปี!!
.
ต่ำกว่าญี่ปุ่น 8 เท่า (ญี่ปุ่นสร้างเครื่องบิน เรือรบ เหล็ก เป็นตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 1 แล้ว)​
.
>> รัชกาลที่ ๙ ในหลวงของเรา ทรงพลิกฟื้นสถานะไทยกับต่างประเทศ...
.
สถานการณ์ยุคนั้นคือ...
.
ไทยต้องการมิตรประเทศเพื่อมาป้องกันอันตรายจากภัยคุกคามรอบบ้าน
.
ไทยต้องการเงินเพื่อมาลงทุนสร้างถนน, น้ำ, ไฟฟ้า, เขื่อนกันน้ำท่วม, การศึกษา, โรงพยาบาล
.
ไทยต้องการให้มีการลงทุนสร้างอุตสาหกรรม และบริการ ขยายการเกษตร สร้างงานให้คน
.
ไทยต้องการการยอมรับนับถือจากต่างชาติ ให้คนลืมสงครามโลกครั้งที่สอง
.
ไทยต้องการพัฒนาให้เท่าเทียมประเทศเพื่อนบ้าน...
.
ในหลวงเสด็จประพาสประเทศในตะวันตก 14 ประเทศ หกเดือนเต็ม พร้อมพระราชินี มี ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช เป็นแม่กองจัดการ (ท่านผู้นี้เป็นแม่กองจัดการเสด็จต่างจังหวัดด้วย)​
.
โชคดีของคนไทย...
.
พระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ ตรัสได้หลายภาษา อย่างดีมาก ทั้งอังกฤษ, ฝรั่งเศส, เยอรมัน เข้าใจขนบธรรมเนียม วัฒนธรรม และทรง Witty แบบฝรั่ง ทั้งความสง่างาม ทุกสิ่งทุกอย่างไม่แพ้ใครในโลก
.
ทรงน่าเกรงขาม แต่นุ่มนวล และเป็นมิตร ไม่มีคนไทยคนไหนทำได้ขนาดนั้น
.
การที่ทรงศึกษาที่สวิตเซอร์แลนด์นั้น คนยุโรปและอเมริกาถือว่าเป็นสุดยอดแห่งอารยธรรม เป็นสังคมที่สร้างคนที่เข้าใจอารยธรรมหลากหลาย
.
ทั้งสองพระองค์มีพระบุคลิกภาพที่เป็นที่ชื่นชมของคนในทุกประเทศ สมเด็จพระนางเจ้านั้น ได้ชื่อว่าเป็นพระราชินีที่สวยที่สุดในโลก รูปถ่ายลงปกหนังสือพิมพ์ ออกทีวีกันมากมาย ตอนนั้นผมเป็นเด็กภูมิใจมาก
.
ทั้งสองพระองค์นั้น​ ทรงเป็นนักการต่างประเทศ และนักการทูตที่ยอดเยี่ยมมากที่สุด (มาจากประสบการณ์นะครับ)​
.
ทรงมีพระ Nobility มาก การเสด็จเยือนจึงได้ความเคารพนับถือจากประมุขประเทศ หัวหน้ารัฐบาล รัฐบาลต่างประเทศ
.
และที่สำคัญประชาชนของประเทศนั้นๆ ออกมารอรับกันเนืองแน่น ต้อนรับใหญ่โตมากๆ ข่าวกระจายจากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่ง
.
ในยุคนั้นสถาบันกษัตริย์ในยุโรปสูงส่งมาก นี่เป็นคุณต่อประเทศไทยที่มีสถาบันกษัตริย์
.
จากการเสด็จเยือนของทั้งสองพระองค์ ต่อมาประมุขและหัวหน้ารัฐบาลเหล่านั้นก็มาเยือนประเทศไทยอีก ชื่อประเทศไทยปักสง่างามบนแผนที่โลก
.
ต่อมา ทรงเสด็จเยือนประเทศในเอเซีย เมื่อทรงได้รับมาตรฐานระดับสูงลิ่วนั่น แถวเอเซียก็ต้อนรับยิ่งใหญ่มาก เชิงแข่งนิดๆ
.
>> คนไทยภูมิใจกันสุดๆ เพราะนี่คือการทูตที่ดีที่สุดของไทย
.
ยุคโลกสองขั้ว พระองค์ท่านช่วยให้ประเทศไทยยืนถูกข้าง...ไม่ล้ม!!
.
สมัยพวกผมเรียนมหาวิทยาลัย ประธานาธิบดี กษัตริย์ หัวหน้ารัฐบาลต่างๆ จะมา เมืองไทยกันถี่ยิบ สมเด็จพระนางเจ้าจะทรงตรัสในหอประชุมว่า...
.
"ข้าพเจ้าจะมีแขกมาเยือน ช่วยกันหน่อยนะ"
.
พวกผมก็ได้ทำประโยชน์เช่นไปยืนเข้าแถวรับบ้าง แปรอักษรบ้าง นั่งปรบมือในหอประชุมบ้าง
ใครมากล่าวหาพระราชกรณียกิจของพระองค์ท่านแบบไม่รู้เรื่อง  คนไทยโกรธ เพราะพวกเราถือว่าเป็นงานของเราคนไทยทั้งชาติที่ช่วยกันทำ
.
>> ประเทศไทยได้อะไร?
.
ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก เรื่องไทยเป็นประเทศแพ้สงครามโลกครั้งที่สองร่วมกับญี่ปุ่น เยอรมัน อิตาลี่ หายไป
.
มีเงินช่วยเหลือหลั่งไหลเข้ามา พร้อมเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ เขื่อนเจ้าพระยายุคนั้น 3,500 ล้านเอง ทุนเรียนนอกเยอะมาก
.
 ตลาดสินค้าเปิด มีการลงทุนเข้ามามาก ตั้งแต่นั้น
.
 การท่องเที่ยวก็เริ่มจากราว 1 ล้านคนมาจนปัจจุบัน
.
 เป็นยุคของการฟื้นฟูอารยธรรม วัฒนธรรม อวดแขกเมือง แพร่ไปทั่วโลก
.
เป็นยุคที่ประมุขต่างประเทศเสด็จเยือนต่างจังหวัด เช่นเชียงใหม่ จนกลายเป็นเมืองระดับโลก
.
เป็นจุดเริ่มต้นของการมาทำข่าวประเทศไทยไปทั่วโลกครับ
........
ความลับ...
.
ที่ไทยมีความสัมพันธ์ที่ดี เกิดอาเซียน 10 มั่นคงมานาน เพราะในหลวงครับ
.
จีนบอกว่าทรงเป็นผู้สร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นระหว่างสองแผ่นดิน
.
พระจักรพรรดิญี่ปุ่นนั้น ใกล้ชิดกับพระราชวงศ์ไทยมาก การลงทุนญี่ปุ่นจึงมากันเพียบ
.
ประธานบริษัทใหญ่ๆ​ ของญี่ปุ่นตัดสินใจลงทุนทันทีที่ได้เข้าเฝ้าฯ
.
ทรงปิดทองหลังพระให้คนไทยมากมายจริงๆ
.
ที่น่าประหลาด คือ ทั้งสองพระองค์ไม่เคยพูดว่าทรงทำอะไรให้ประเทศมากมายมหาศาลขนาดไหน
.
 ทรงปิดทองหลังพระ...
.
พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ กับการต่างประเทศ บุญวาสนาของคนไทยและประเทศไทย ในสถานการณ์ยุคหลังสงครามโลกครั้งที่ 2
.
เมื่อนักข่าวต่างชาติถามในหลวงว่า ทำไมจึงไม่ค่อยยิ้ม
.
ทรงชี้ไปที่สมเด็จพระนางเจ้า แล้วบอกว่า...
.
"She is my Smile"
.
เขียนโดย ดร.สมเกียรติ โอสถสภา


        

          






ขอเพียงตนน้อมนำคำพ่อเตือน
……..

เห็นจงครวญล้วนหลากหากจะคิด
ประจวบมิตรยามยากปากใจเหมือน
เมื่อมีเหย้าเขาคิดมิตรมาเยือน
เพื่อนชวนเพื่อนร่วมเรือเพื่อช่วยพาย

เสมือนชิดคิดขานสมานฉันท์
ประสงค์มั่นเจือจิตประสิทธิ์หมาย
หนักพระวรกิจอิดเอื่อยเหนื่อยพระวรกาย
เทิดเถลิงพรายพระเกียรติก้อง"ทองหลังพระ"
…….

ไม่ดีพอ ขออภัยครับ โพสหน้าจะให้ดีกว่ทนี้


บันทึกการเข้า

คะแนนน้ำใจ 3119
เหรียญรางวัล:
นักอ่านยอดเยี่ยมมีความคิดสร้างสรรค์นักโพสดีเด่น
กระทู้: 190
ออฟไลน์ ออฟไลน์
   
« ตอบ #8 เมื่อ: 14 กันยายน 2564, 11:53:15 AM »

Permalink: Re: อยู่เป็นไทย
       

     
       
              ย่างพระบาทแห่งยาตรา

                     


นภันต์ เสวิกุล' ผู้บันทึกย่างพระบาทที่ยาตรา
เรื่องเล่าจากหัวใจช่างภาพผู้ถวายงานการบันทึกภาพพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
......
.........   
เมื่อถามถึงเบื้องหลังภาพพระบรมฉายาลักษณ์ที่พระองค์ประทับยืนถือแผนที่โดยมีฉากหลังเป็นภูเขา (ภาพปกเสาร์สวัสดีฉบับนี้) ซึ่งมีการแชร์กันเป็นจำนวนมาก นภันต์เล่าถึงเหตุการณ์ในวันนั้นว่า

“รูปนั้นเป็นวันเสด็จฯ บ้านแกน้อย ที่จริงอยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองเชียงใหม่เลย ขับรถชั่วโมงกว่าๆ ก็ถึงแล้ว แต่วันนั้นเราขับรถไปสี่ห้าชั่วโมงกว่าจะถึง พระองค์เสด็จฯ มากับเฮลิคอปเตอร์ เราไปยืนรอก่อน โอ้โห...ตัวละลาย เพราะว่าข้างหน้าคือฝุ่นแดงอันมหาศาล ทั้งภูเขาไม่มีต้นไม้เลย มีแต่ความแห้งแล้ง ตรงที่พระองค์เสด็จฯ เป็นบ้านมูเซอแดง แล้วก็เป็นโรงเรียน แล้วระหว่างที่พระองค์ท่านประทับกับราษฎร ผมยืนอยู่ห่างสักประมาณสิบเมตร ถ่ายรูปพระองค์เสร็จก็ยืนคอยอยู่เฉยๆ ปรากฏว่ามีลมหมุน ฟรืด…ดินแดงก็วนขึ้นมาแล้วก็ไปคลุมพระองค์ท่านจนกระทั่งแผนที่หลุดไปจากพระหัตถ์ข้างหนึ่ง พระองค์ก็ทรงตะปบ ก็เห็นว่าฝุ่นเข้าพระพักตร์ ทุกคนก็ตกใจ พอฝุ่นจางหน่อย ตอนนั้นพระองค์ท่านทรงถอดฉลองพระเนตรออกแล้วทรงเช็ดพระเนตร แล้วทรงกางแผนที่ใหม่ ทรงงานต่อ เราร้องไห้เลย ร้องไห้เพราะว่าพระองค์ไม่ต้องมาอย่างนี้ก็ได้ ก็เป็นภาพที่ตัวเองประทับใจมากๆ

หลังจากนั้นอีกสามสิบปีถัดมา ผมไปที่นั่นอีกครั้ง มันเป็นอะไรที่ช็อค เพราะว่าจากภูเขาหลายลูกที่เป็นทะเลทรายในวันนั้น วันนี้มันเขียวไปหมด บ้านแกน้อยก็เป็นโครงการหลวงที่ทำรายได้สูงมาก

......



มีหลายครั้งที่ผมไปถ่ายภาพพระองค์ท่านแล้วเห็นพระองค์ประทับราบอยู่กับพื้น หัวเข่าเปื้อนทรายเต็มไปหมด ผมเคยยกกล้องขึ้นถ่ายรูปเมื่อพระองค์ประทับบนบัลลังก์ในวันฉัตรมงคล พอเห็นภาพอย่างนี้เมื่อไหร่ผมก็น้ำตาไหล คือทำไมพระองค์ต้องมาทำอย่างนี้ ทรงงานทุกวัน ตีสามตีสี่ พระองค์ก็ยังทรงงาน พระองค์เสด็จฯ เยี่ยมราษฎรทุกวัน 11 โมงเช้า กลับมาได้เสวยพระกระยาหารค่ำตอนสี่ทุ่ม เป็นเราก็อยู่ไม่ได้ ไม่มีทาง แต่พระองค์ทรงทำได้ด้วยความเต็มพระราชหฤทัย

.....

ในฐานะช่างภาพบางครั้งก็สงสัยว่าพระองค์ท่านทรงถ่ายอะไร บางทีแอบ แอบเลยล่ะ แอบไปยืนข้างหลังว่าพระองค์ทรงถ่ายอะไร คือพระองค์ท่านทรงยกกล้องมาแต่ละครั้งทรงถ่ายของไม่ดีทั้งนั้น ดินแดงแห้งผาก รากไม้ ต้นไม้ล้ม พระองค์ทรงถ่ายภาพเหล่านี้ แต่อีกสิบปีกลับไปดูสิ ตรงนั้นจะกลายเป็นอ่างเก็บน้ำใหญ่ พระองค์ท่านทรงถ่ายไปต้องคิดไปด้วยแน่ๆ ว่าจะเอาไปทำอะไร เพราะฉะนั้นสิ่งที่ได้มาจากรูปของพระองค์ก็คือชีวิต”

......

“เราต้องมีพระเจ้าอยู่หัวอยู่ในหัวใจ อยู่ในจิตวิญญาณของความเป็นคนไทย คนไทยกับสถาบันพระมหากษัตริย์ไม่สามารถแยกออกจากกันได้ ไม่ต้องพระองค์ไหน ไม่ต้องอะไร ขอให้มีสถาบันพระมหากษัตริย์อยู่กับคนไทย เราก็จะเป็นคนไทย ถ้าเราคิดว่าเรารักประเทศเรา เราก็ต้องเคารพเทิดทูนพระมหากษัตริย์โดยไม่ต้องมีเงื่อนไข รักแล้วไม่ต้องถาม ไม่ต้องสงสัย ผมไม่เคยสงสัยอะไรเลย...ผมรัก”



https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=10224174792776539&id=1203068694&sfnsn=mo

มา .. ผมอธิบายเอง
คือ อย่างที่เล่าว่า  โครงการตามพระราชดำรินั้น มักเป็นโครงการขนาดเล็ก พระองค์ท่านพระราชทานพระราชทรัพย์สร้างขึ้น  อาจเพื่อชุมชนเดียว หมู่บ้านเดียวที่อยู่บนลำธารสายนั้น ... แต่อย่างที่เราเห็น ว่า  เสด็จฯไหนๆ พระองค์ท่านก็จะมีแผนที่ไปด้วย  และจะทรง “บูรณาการ” งานต่างๆ อย่างเป็นระบบ .. อาจจะทรงเห็นว่า  ทำอย่างนี้ ตรงนี้ ได้ประโยชน์หมู่บ้านเดียว .. แต่ถ้าทำเพิ่มที่ตรงโน้น  จะช่วยได้ทีเดียว 20 หมู่บ้าน  .. อย่างนี้ งานก็จะต้องใหญ่โตขึ้น เกินกำลังพระราชทรัพย์  ก็อาจจะทรงแนะนำให้หน่วยงานที่จะมีบทบาทมากที่สุด อย่างเช่น ถ้าเกี่ยวกับน้ำ ก็น่าจะเป็นกรมชลประทาน .. กรมชลประทาน ซึ่งมีหน้าที่อยู่แล้ว ก็รับพระราชดำริ ไปตั้งเป็นโครงการในหน่วยงานของตัวเอง  เพื่อนำงบประมาณมาสร้างโครงการนี้
(คนช่างนินทา ก็อาจจะยกข้อนี้มาตำหนิว่า เป็นความยุ่งเหยิง - ก็ต้องเข้าใจไว้ด้วยว่า  ในเวลาที่เกิดขึ้นนั้น  คนไทยทุกคน รับทราบแก่ใจว่า "เป็นพระมหากรุณาธิคุณ - เพราะโครงการเหล่านั้นๆ ก็เพื่อประโยชน์ของคนในพื้นที่ทุกคน  ไม่ว่าจะเป็นคนไทย หรือใครที่เข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภาร)​ 


พระองค์ท่านไม่ได้ทำโครงการเดียว .. แต่ละปี เสด็จฯอยู่ต่างจังหวัด 7-8 เดือน โครงการฯ ตอนจึงมากขึ้น เพิ่มขึ้น บางโครงการ มีขนาดใหญ่ เกี่ยวข้องกับหลายหน่วยงานของรัฐ
เจ้าของโครงการ จึงไม่ใช่ “โครงการตามพระราชดำริ”  แต่กลายเป็น .. โครงการ ”อันเนื่องมาจาก” พระราชดำริ.. 


เข้าใจความหมายของ “ชื่อ” ในภาษาไทยก่อน  เดี๋ยวค่อยตามไปเข้าใจถึงโครงงาน


เอาไว้แค่นี้อีกที .. แล้วเดี๋ยวจะไปอีก 2 หน่วยงาน
 


         

     เทิดเถลิงพรายพระเกียรติก้อง"ทองหลังพระ"
…….

       กล้องแผนที่ที่ท้าวกล่าวพันถึง
ท่านคนึงสร้างสุขทุกขณะ
เมื่อเลื่อนลาดบาทบทมิลดละ
ทรงสมถะพอพาสร้างสมาธิ


เลี่ยงปะทะฉะฉีกหลีกปะทุ
เชี่ยวเช่นสะตุฟืนไฟชาญใช้สติ
มืรั้งรอต่อเติมเมื่อเริ่มริ
แรกชำนินานเนาเราชำนาญ

บันทึกการเข้า

คะแนนน้ำใจ 3119
เหรียญรางวัล:
นักอ่านยอดเยี่ยมมีความคิดสร้างสรรค์นักโพสดีเด่น
กระทู้: 190
ออฟไลน์ ออฟไลน์
   
« ตอบ #9 เมื่อ: 16 กันยายน 2564, 09:52:57 PM »

Permalink: Re: อยู่เป็นไทย
สน
     

     ขออนุญาตพาดพิงอ้างอิงถึง
เป็นเสียงหนึ่งรับได้"ไทย"ประยุกต์

ขอบคุณ ทุกท่านที่ปรากฏ
ภาพะและนาม ความเป็นไทย

https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=10225393521645826&id=1257897431&sfnsn=mo
…...

ก่อนค่ำคืนยืนกินลูกชิ้นปิ้ง
ช่างเธอทิ้งจากไกลไปเกาหลี
หมดไม้ชิมอิ่มมากจากด้วยดี
สถานีรอใครคนใหม่เเยือน

พูดออกโฟนตะโกนดังยังรักเธอ
จำเสมอชื่อนี้ไม่มีเหมือน
ลามะลิลาน่ากลัวจริงยิงก่อนเตือน
หรือลืมเพื่อนลูกชิ้นปิ้งยิงแบมแบม

เสียงปืนแรงแปงปังไม่ดังเท่า
ล้านแล้วเล่าล้านซ้ำ
กระหน่ำแถม
เสียงรักเธอเพ้อทั่วชั่วคืนแรม
 ดำกลายแกมชมพูดูเข้มจริง

ชุดไทยทองต้องความงามตลอด
รัดเกล้ายอดสวมนั่งบัลลังก์หญิง
บอกโลกรู้ดูไว้ได้อ้างอิง
"ไทย"คือนิ่่งใจสงบพบสุุขพอ
.,......

ว่าไม่ได้ นี่ก็ไทย ในความหมายหนึ่งบ้าง    

        
        
 
บันทึกการเข้า

คะแนนน้ำใจ 3119
เหรียญรางวัล:
นักอ่านยอดเยี่ยมมีความคิดสร้างสรรค์นักโพสดีเด่น
กระทู้: 190
ออฟไลน์ ออฟไลน์
   
« ตอบ #10 เมื่อ: 23 กันยายน 2564, 10:57:52 AM »

Permalink: Re: อยู่เป็นไทย
     

     
ก็ใช่ว่าไทยแท้แล้วคนไทยจะชอบ กระนั้น
ทันที่อ้างเป็นไทยมจะเกิดทันที4ไทย คือ  ไม่เชื่อว่าไทย ไม่ใช่ไทย ไม่ชอบแบบไทย  ที่สุดไม่มีร้อกไทย
คือ เชื่อ ใช่ ชอบ มี
ปราสาทขอม ปี่ชวา อิฐมอญ  ยาหม่อง โสร่งพม่า ก๋วยจั๊บ แหนมญวน แคนลาว ขนมจีน  มัสมั่น โรตี กล้วยแขก บาลีสันสดฤตอินเดีย ลอดช่่องสิงคโปร์ โจอี้กาน่า สังขยาโปรตุเกส กระทั่งที่คนหย้่งผมยังไม่รู้ว่าเขามีดีอะไร  หยั่ง  สเปน  ตุรกี ฝรั่งเศส กับอีกสารพัดประเทศ ทั้งนั้น โน้น ไหน   ใช่ เชื่อ ชอบ ว่ามีอยู่

ลองไปถามเหล่านั้นสิ รู้จักมั้ยบอลไทย

แต่ ผมจะเตือนว่าไทยมีอยู่จริง จับต้องได้ ผมจะยกตัวอย่างซึ่งเข้าใจง่ายๆไม่ต้องเถียง ของอะไรมีอยู่ของนั้นเป็นของเรา คือ
เพราะ เมียเราสวย เราจึงมีน้องเมีย
เพราะ เมียเราไม่สวย เราจึงมีน้องเมีย
อยู่บ้านเรา กินข้าว ใช้เงินเรา
จะยกใหัลาวได้งัย ไม่ใช่แคน
ฉะนั้น ใครไม่รับว่ามีน้องเมีย เอ๊ย มีไทย ถือว่า พลาด

ไทยงาม    คนดีสี่ภาค
         

ไทยต้นตำรับ   แม่ครัวหัวป่าก์
           




แรกชำนินานเนาเราชำนาญ



ไผทเขตประเทศชาติ
ประวัติศาสตร์สิกล่าวขาน
ประสิทธิ์ซ้ำชิ!รำคาญ
ระคายสุดก็หยุดสอน

มิรู้ผิดจะคิดคาด
ประเมินพลาดละขั้นตอน
มิรู้ค่าอุทาหรณ์
จะอยู่ดีวิถีใด

เกิดย่างเดินเเดนดืนกินอยู่ดี
เห็นซื้อมีทีท่าหาสิ่งใหม่
ต่างก็ชิมลิ้มลองต้องกินใช้
งานจ้างใหม่ทั่วถึงเงินจึงมี

เชื่อแต่แรกแตกต่างช่างตนเล่น
ใช่หรือเส้นแนวถน้ดชัดแล้วสี
สื่อที่ชวนควรข้องสองทางชี้
เคลื่อนวิถีเทถ่ายคล้ายว่าทวน



บันทึกการเข้า

คะแนนน้ำใจ 3119
เหรียญรางวัล:
นักอ่านยอดเยี่ยมมีความคิดสร้างสรรค์นักโพสดีเด่น
กระทู้: 190
ออฟไลน์ ออฟไลน์
   
« ตอบ #11 เมื่อ: 13 ตุลาคม 2564, 11:02:48 AM »

Permalink: Re: อยู่เป็นไทย
       

     

(4 ไหนๆ ก็ไหนๆ ไปเสียอีกหน่อยจะได้สิ้นความ
…….

สำนักงาน กปร.
……….
การดำเนินงานเป็นไปอย่างสอดคล้องสนับสนุนซึ่งกันและกัน และเป็นประโยชน์สูงสุดบรรลุผลตามแนวพระราชดำริที่ได้พระราชทานไว้ รัฐบาลจึงได้หามาตรการแก้ปัญหานี้ โดยการจัดระบบสนองพระราชดำริขึ้นในปี พ.ศ. ๒๕๒๔ โดยการริเริ่มของ ฯพณฯ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น ในการจัดระบบเพื่อรองรับการดำเนินงานสนองพระราชดำริทั้งหลาย
รัฐบาลได้ดำเนินการออก “ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ พ.ศ. ๒๕๒๔” และ มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ ๙ กันยายน ๒๕๒๔ โดยกำหนดให้มีองค์กรระดับชาติ ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบต่อการดำเนินงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เรียกว่า "คณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ" หรือเรียกโดยย่อว่า "กปร."



(5)---------------------------------
 
ขณะเดียวกัน  พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระราชดำริให้จัดตั้ง "มูลนิธิชัยพัฒนา" ขึ้น โดยทรงดำรงตำแหน่งเป็นนายกกิตติมศักดิ์ และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เป็นองค์ประธาน เพื่อสนับสนุนช่วยเหลือประชาชนในลักษณะของการดำเนินงานพัฒนาต่างๆ ในกรณีที่ต้องถูกจำกัดด้วยเงื่อนไขของกฎเกณฑ์ ระเบียบ หรืองบประมาณที่ระบบราชการไม่สามารถดำเนินการได้ทันที จนเป็นเหตุให้การแก้ไขปัญหาไม่สอดคล้อง หรือทันกับสถานการณ์ที่จำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องกระทำโดยเร็ว การที่มูลนิธิชัยพัฒนาเข้ามาดำเนินการเช่นนี้ ส่งผลให้ประชาชนได้รับประโยชน์อย่างแท้จริง รวดเร็วฉับพลัน โดยไม่ตกอยู่ภายใต้ข้อจำกัดใดๆ ทั้งสิ้น อาจกล่าวได้ว่าการดำเนินงานของมูลนิธิชัยพัฒนาเป็นการช่วยให้กระบวนการพัฒนา เกิดความสมบูรณ์ขึ้น


พระองค์ท่านทรงงานเพื่อคนไทย เพื่อพสกนิกรของท่าน  พระองค์ท่านจะต้องการชื่อเสียงไปทำไม? .. และอยากจะถามต่อว่าทีนี้  รู้หรือยังว่าทำไมท่านถึงอยู่ในหัวใจคนไทย
..........



ศิลปะ วัฒนธรรม ทุกแขนงทุกด้าน
ประเพณี วิถีชีวิต จิตวิญญาณ
รวมทุกอย่างที้เรียกว่าเป็น เอกลักษณ์ไทย
พบเห็นได้ใน ศิลปาชีพ
โดยเฉพาาะยิ่ง
สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง
นี่แหละ คือ
เอกลักษณ์ไทย

           

           

เคลื่อนวิถีเทถ่ายคล้ายว่าทวน




เจริญรัฐสวัสดิ์ศรี ประเพณีมิผันผวน
ประเสริฐศิลป์ระบิลมวล ระบือลักษณ์ประจักษ์ไทย
 
ประสิทธิ์ศาสตร์ ธ ปราดเปรื่อง สดับเรื่อง ณ ถิ่นไหน
พิสูน์เสร็จเสด็จไป ระลึกหนอพระพ่อหลวง

เอกลักษณ์ศักด์เสกเอกราช
จวบชนชาติรุ่งโรจน์จึงโชติช่วง
อวดหนี่ง่เป็นเห็นห่างอ้างเหนือปวง
รู้จักหน่วงปกปักรักษ์จงนำ

ประมวลสร้างช่างเชิญประเมินศิลป์
ฝ่าเรื่อยรินรำลึกฝีกเรียนร่ำ
โขนละครวอนว่าค่าล้วนคำ
เอกลักษณ์ทำชนชาติเอกราชไทย




บันทึกการเข้า

คะแนนน้ำใจ 3119
เหรียญรางวัล:
นักอ่านยอดเยี่ยมมีความคิดสร้างสรรค์นักโพสดีเด่น
กระทู้: 190
ออฟไลน์ ออฟไลน์
   
« ตอบ #12 เมื่อ: 29 ตุลาคม 2564, 08:55:49 PM »

Permalink: Re: อยู่เป็นไทย
       

เป็นไทย ไทยงาม ฝรั่งก็เป็น

3ขวบ เธอก็รู้จักโขน
เขาว่าเธอเป็นไทย




ดูขนบ ให้ดูโขน

ดูโขน ให้ดูขนบ

ชวนท่านดู หากดูไม่จบ แนะนำให้ข้ามไปนาทีที่ 18สุดท้าย โดยเฉพาะนาทีทั5สุดท้ายจนจบ
จะเห็นความ
สุดยอดบรมครูโขนไทย
เขาว่าศิลปไทยเกิดจากพุทธศาสนาเป็นหลัก
บรรดาละครสวมหน้ากาก ศิลปินแสดงอารมณ์รัก โกรธ สุข เศร้า ด้วย กริยา ท่ารำ เสียง หน้ากากสวมไว้ก็เท่านั้น
แข็งๆบื้อๆซะเปล่าๆ

แต่ในโขนไทยออกแบบได้ยังไง เหมือนหน้ากากมีชีวิต
สำคัญที่สุดยากที่สุดคืออารมณ์อาย เหมือน หน้ากากไม่อาจปกปิด
หลักพุทธศาสน์คือเกรงกลัว และ ละอาย ผมเห็นทศกัณฐ์อายต่อความตายมากกว่ากลัวตาย
ใครเห็นก็น้ากากสีหน้าอาย เหมือนผมบ้าง




เอกลักษณ์ทำชนชาติเอกราชไทย





จะรับรบ ขนบสอน    วิถีก่อน ก็ขานไข
ประวัติชาติ ประกาศไกล   นิรันดร์นิจ สถิตยัง

หะ หัวโขน ทะโมนหมาย   จะปกอาย มิอาจหวัง
ตะแบงจิต ตะบิดบัง    โละรากเก่า ละเหง้ารือ

สงวนศรีทีท่าสง่าศักดิ์
คนนึกทักชี้ชวนควรนับถือ
คนหลายบ้านย่านเหย้าเขาระบือ
เสนอชื่อยกย่องสนองชม

แค่คิดต่างห่างหนคนควรต้อง
เสนอสนองจานจิตสนิทสนม
เอื้ออารียียิ้มอิ่มอารมณ์
ชื่นคำคมนุ่มนวลชวนคุ้นเคย



เอาน่ะ ดีกว่านี้เขาก็มีแล้ว
บันทึกการเข้า

หน้า: [1]   ขึ้นบน
 
 
กระโดดไป: