-/> รู้แล้วอย่าเก็บไว้คนเดียว

You are here: Khonphutorn.com - แหล่งข้อมูลของคนไทยหมวดความบันเทิงสาระน่าอ่าน (ผู้ดูแล: Top Gun)รู้แล้วอย่าเก็บไว้คนเดียว
หน้า: [1]   ลงล่าง
 
ผู้เขียน หัวข้อ: รู้แล้วอย่าเก็บไว้คนเดียว  (อ่าน 994 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ผู้บริหารเว็บ
คะแนนน้ำใจ 65535
เหรียญรางวัล:
PJ ดีเด่นนักอ่านยอดเยี่ยมผู้ดูแลเว็บ
กระทู้: 18,127
ออฟไลน์ ออฟไลน์
"สาวหวาน กับ ความฝันไม่รู้จบ "
   
« เมื่อ: 27 ตุลาคม 2563, 07:57:55 PM »

Permalink: รู้แล้วอย่าเก็บไว้คนเดียว
นพ.ดำรง มีคำแนะนำดีๆ มาฝากค่ะ

สำหรับการป้องกันโรคหัวใจคือ
ให้ทานวิตามิน B 1
หรือ B 6
หรือ B 12 และ
กับ B 9
เพียง 2 อย่างนี้
อย่างละเม็ด ก่อนนอนเป็นประจำ
คุณหมอรับประกันว่าจะไม่เป็นโรคหัวใจเลย...

สำหรับเรื่องคอเลสเตอรอลสูง และไตรกลีเซอไรด์สูงนั้น คุณหมอยืนยันว่าเป็นเรื่องทางธุรกิจการแพทย์และเรื่องผลประโยชน์ทางการค้าที่มหาศาล
โดยกำหนดให้คนปกติมีระดับคอเลสเตอรอลไม่เกิน 200 และไตรกลีเซอไรด์ไม่เกิน 150
ซึ่งยาที่ให้ทานหากคอเลสเตอรอลสูงกว่าเกณฑ์นั้น มีผลเสียต่อร่างกายอย่างมาก
ไขมันไม่ได้ถูกขับออกจากร่างกายแต่จะย้ายไขมันไปไว้ที่ตับแทน และยังเป็นสาเหตุสำคัญของโรคหัวใจกับผู้ที่ทานยาลดคอเลสเตอรอล
ในที่สุดก็เป็นโรคหัวใจกันเป็นแถวๆ

คุณหมอบอกว่าจากการวิจัยที่บอสตัน 30 ปีที่แล้วยังคงเป็นจริงคือ
คนเราจะมีคอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์ได้มากเท่าไรนั้น
ขึ้นอยู่กับไขมันตัวดี
ที่เรียกว่า HDL หากเรามี HDL สูง แม้ว่าคอเลสเตอรอลสูงและไตรกลีเซอไรด์สูง เราก็ปลอดภัย ไม่ต้องทานยา
วิธีดูระดับปลอดภัยให้คำนวณดังนี้
คอเลสเตอรอล:  ให้เอาค่าคอเลสเตอรอลตั้งหารด้วยค่า HDL
หากได้ผลลัพท์ ไม่เกิน 4 จัดว่าอยู่ในเกณฑ์ดี ไม่ต้องทานยาแม้ว่าคอเลสเตอรอลจะสูงถึง 300 ก็ตาม

ไตรกลีเซอไรด์:
ให้เอาค่าไตรกลีเซอไรด์ ตั้ง หารด้วยค่า HDL
หากได้ผลลัพท์ ไม่เกิน 3 จัดว่าอยู่ในเกณฑ์ดี ไม่ต้องทานยาแม้ว่าไตรกลีเซอไรด์จะสูงเกิน 150 ก็ตาม

ทั้งคอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์ล้วนมีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างมากมาย   

การทำเมมโมแกรม : เป็นอันตรายและเป็นสาเหตุของโรคมะเร็งเต้านมที่เราไม่รู้กันเลยว่า การบีบอย่างแรงและสมทบด้วยรังสี...… 

ตอนนี้อัตราการเป็นมะเร็งเต้านมของเมืองไทยพุ่งสูงติดอันดับของโลกแล้ว…
คุณหมอบอกว่า ในต่างประเทศเขาเลิกใช้เครื่องเมมโมแกรมกันนานแล้ว........

ดื่มน้ำเย็นเป็นต้นเหตุของอาการปวดหลัง

ใครจะไปเชื่อว่าการดื่มน้ำเย็นจะมีพิษมีภัยและให้โทษได้ถึงขนาดนี้

หมอได้พบผู้ป่วยที่มีอาการแขนขาอ่อนแรงหรือที่เรียกกันว่าโรคอัมพฤกษ์
ซึ่งสืบค้นต้นตอไปๆมาๆ ก็พบว่า
สาเหตุมาจากพฤติกรรมการดื่มน้ำเย็นหรือน้ำแข็งเป็นประจำนั่นเอง

ผู้ป่วยเล่าให้ฟังว่าไม่กินผักมาตั้งแต่เล็กๆรับประทานแต่เนื้อสัตว์ที่สำคัญคือชอบดื่มน้ำเย็นเป็นประจำมาตั้งแต่เด็กและต้องเป็นน้ำเย็นจากตู้เย็นเท่านั้นก่อนที่จะมีอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรงนั้นร่างกายผู้ป่วยได้ส่งสัญญาณเตือนมาหลายครั้ง...
เช่น มึนเวียนศีรษะง่าย
(tulip)เห็นเหมือนแสงไฟแวบๆขณะกระพริบตา
การพูดเริ่มติดๆขัดๆ สุดท้ายเกิดอาการวูบกะทันหัน ต้องนำส่งโรงพยาบาล
เมื่อรู้สึกตัวอีกครั้งผู้ป่วยก็ไม่สามารถขยับร่างกายซีกซ้ายได้แล้ว....
นี่คืออาการของโรคเส้นเลือดตีบที่สมองในวัยเพียง 40 ปี ที่ชอบทานแต่น้ำเย็นมาตลอดเวลา
 
การดื่มน้ำเย็นสำหรับคนไทยนั้น.ทำให้ไตต้องรับกำจัดความเย็นออกจากร่างกายอย่างรวดเร็ว ขับน้ำเย็นมากักเก็บไว้ที่กระเพาะปัสสาวะเตรียมขับออกเป็นน้ำปัสสาวะ
ทำให้ผู้ที่ชอบทานน้ำเย็นก็ยิ่งขาดน้ำ จนเลือดข้นหนืดไปหมด

ประกอบกับหลอดเลือดที่เริ่มแข็งกระด้างไม่ยืดหยุ่น ทำให้มีคราบไขมันและของเสียไปยึดเกาะตามผนังหลอดเลือดจนเกิดการพอกพูนกลายเป็นโรคหลอดเลือดตีบก็เพราะน้ำเย็นที่ชอบทานเป็นประจำนั่นเอง

ไตของเราเปรียบเสมือนเครื่องกรองน้ำอันน่าอัศจรรย์
ทำหน้าที่ช่วยกรองของเสียออกจากเลือดแล้วขับออกทางปัสสาวะการทำหน้าที่ตลอด 24 ชม.ไม่มีวันหยุดของไตนั้น
ถ้าเราไปซ้ำเติมด้วยการรับประทานสิ่งที่เป็นพิษต่อร่างกายรวมทั้งน้ำเย็นด้วยก็จะทำให้เกิดภาวะไตอ่อนแอและจะส่งสัญญาณร้องให้เราทราบดังนี้

1.ปัสสาวะบ่อยขึ้น อั้นปัสสาวะไม่ได้นาน ดื่มน้ำเข้าไปแล้วต้องวิ่งเข้าห้องน้ำบ่อยๆกลางคืนก็ต้องลุกขึ้นเข้าห้องน้ำหลายเที่ยว

2.มีอาการปวดหลังปวดเอวบ่อยๆ โดยเฉพาะเวลานั่งนานๆ

3.ปวดเมื่อยตามข้อและร่างกายง่าย เช่น ปวดข้อเข่า ปวดต้นคอ

4.หลอดเลือดตีบตันหรือหลอดเลือดแข็งได้ง่ายหากใครยังทานน้ำเย็น นมเย็น กาแฟเย็น น้ำอัดลม น้ำหวานเย็น
ชาเย็น อยู่เป็นประจำ มีอาการปวดหลังแน่ๆ


ต้องดูแลตนเองง่ายๆ ดังนี้

1.ปรับเลือดที่หนืดข้นให้หายข้นด้วยการเพิ่มน้ำเข้ากระแสเลือด โดยทานน้ำอุ่นให้ได้ 8-10 แก้ว ทุกวัน

2.ทำให้เลือดไหลเวียนสะดวกอย่างต่อเนื่องด้วยการออกกำลังเป็นประจำที่สามารถทำได้
หรืออาจใช้การจัดกระดูกช่วยให้เลือดไหลเวียนสม่ำเสมอ

3.ไม่กินอาหารเนื้อสัตว์ ของทอด ของหวานจัด เพราะทำให้เกิดอนุมูลอิสระปริมาณมากจนทำให้หลอดเลือดแข็ง หรือ ตีบตันได้ง่าย

4.งดการทานน้ำเย็นเด็ดขาด                 

รู้แล้วอย่าเฉยเมยนะปฎิบัติด้วย และรู้แล้ว อย่าเก็บไว้คนเดียวนะ

โปรดแบ่งปันให้คนรอบข้าง
บันทึกการเข้า


♪♪♪ รวมบทกลอนน้องจ๋า คลิกค่ะ ...

ขอบคุณทุกภาพจาก Internet และเพลงจากYouTube
หน้า: [1]   ขึ้นบน
 
 
กระโดดไป: