You are here: Khonphutorn.com - แหล่งข้อมูลของคนไทยกระทู้เมื่อเร็วๆ นี้
หน้า: [1] 2 3 ... 10
 1 
 เมื่อ: 13 มิถุนายน 2568, 07:00:52 AM 
เริ่มโดย share - กระทู้ล่าสุด โดย share

กลอนเจ็ด บังคับ ครุ ทุกคำ
(เลียนแบบ วิชชุมมาลา ฉันท์)
หลายหลากแบบ ได้ครับ


มอง นึก ลึก กว้าง

@ มอง เมฆขาว พราวฟ้า น่าคิด
นึก ก่อกิจ แต่งภาพ อาบฝัน
ลึก ล้ำเรื่อง เรืองค่า "ควร"ครัน
กว้าง แบ่งปัน เฉกฝน ฝากดิน





 2 
 เมื่อ: 10 มิถุนายน 2568, 09:33:43 PM 
เริ่มโดย share - กระทู้ล่าสุด โดย share


แบบ 1-4 ครับ


อย่า หยุดคิดต่อสู้
อยู่ รอวันตายซาก
อย่าง ถูกฅนจูงลาก
อยาก แค่โลกโลกีย์



 3 
 เมื่อ: 10 มิถุนายน 2568, 04:16:12 AM 
เริ่มโดย เริงอักษร - กระทู้ล่าสุด โดย เริงอักษร
5018

 4 
 เมื่อ: 09 มิถุนายน 2568, 03:05:32 PM 
เริ่มโดย share - กระทู้ล่าสุด โดย share
หรือ

กลอนห้า บังคับ ครุ ทุกคำ
(เลียนแบบ วิชชุมมาลา ฉันท์)
หลายหลากแบบ ได้ครับ คือ
2-3 / 3-2 / 1-2-2 / 2-1-2 / 2-2-1


@ ฝันหรือ คือกำลัง
คือหวัง อันสดใส
เปิดกว้าง หน้าต่างไว้
พร้อมให้ รักเมตตา

@ แม้มืด ไร้ดาวเดือน
สร้างเพื่อน ในมรรคา
ร่วมใจ กายแขนขา
แสงหล้า ของผองชน




 5 
 เมื่อ: 08 มิถุนายน 2568, 07:24:33 PM 
เริ่มโดย share - กระทู้ล่าสุด โดย share
ร่ายสุภาพ

@ วันใหม่มี พระสัญญา...ทุกเวลา มีหวัง
มืดบดบัง มีแสง...สิ้นเรี่ยวแรง มีพระพร
ทรงอาทร ทุกเมื่อ...ข้าฯเชื่อแน่ โปรดให้
กลับสู่ "บ้านแท้" ไซร้...เมื่อสิ้นเสร็จงาน


ฉันท์ไสว ๓
ผัง : ค ล ค ... ค ล ค

@ ฉันมิเก่ง...แต่ก็หาญ
มั่นมุกานท์...แกร่งกระทำ

@ ฉันท์ไสว....ใจจะนำ
"รัก"ผลิค้ำ...ทุกสถาน


กาพย์โกสุม ๒๔   
ริเริ่ม : คมทวน คันธนู
(ประสาทพร ภูสุศิลป์ธร)

@ รักเมตตา การุญผอง
ธรรมครรลอง รับ-เจือจาน
หล้าสันติ ผลิเบิกบาน
จำเริญฉาน สวรรค์แดนดิน


โคลง หนึ่งคำสุภาพ (บาทแรก ของโคลงสี่)
(ส่ง-รับสัมผัส แบบ ลิลิต)

@ ธรรม นำถวิล! เช้าค่ำ.....ปฏิบัติ
@ ชัด ณ กาลสว่างหล้า.....หฤหรรษ์
@ ผู้ทุกข์ มั่น! รอดพ้น.......พาล! พลัน
@ สุขสันต์ใน"รัก" แจ้ง......"แบ่งปัน"


กลอนเจ็ด (๒-๓-๒)

@ คืนวัน หมั่นพิเคราะห์ เจาะจิต
ถูกผิด คิดปรับแก้ กรองฝัน
มิตรแท้ แน่แนะชี้ ช่วยพลัน
เธอฉัน มั่น!เขยื้อนหล้า สู่ธรรม



 6 
 เมื่อ: 04 มิถุนายน 2568, 05:09:05 PM 
เริ่มโดย share - กระทู้ล่าสุด โดย share

ร่าย ดั้น

@ เทพไท้ข้าฯน้อมนบ
กราบเคารพโปรดพร
ซึ่งสอนให้รู้ใช้
ปัญญาได้เกิดผล
ดล ร่ายดั้น ไพเราะ
เหมาะควรแก่กาลสถาน
...แลบุค- คลเฮย
วอนมุ่งหวังให้ได้...ดั่งประสงค์


อินทรลิลาตฉันท์ ๑๑

@ จง"รัก" มิเลือกข้าง......."อำนาจ"อ้าง อ๊ะ"คนดี"
แท้จัก สมัครพลี................ผลิอารี มุแบ่งปัน


โคลงสี่สุภาพ

@ "ฅน"พลันเป็น"มนุษย์"นั้น
.....ด้วยกระทำ
ถือ"รัก เมตตา"นำ
.....ประจักษ์แจ้ง
อำนาจ เกียรติ รวย ชำ
.....เพาะกิเลส  เภทเฮย
ตระหนัก"เหตุ"ไยยังแล้ง
.....ไป่สร้าง"รัก"ฉาน


กาพย์ สิงห์ริมถนน ๑๑
(กาพย์ยานี ๑๑ เพิ่ม
- สัมผัสอักษรของคำที่ ๒ คำที่ ๕ และคำที่ ๖
- สัมผัสอักษรของคำที่ ๘ คำที่ ๑๑)

@ เมตตา เลิศล้ำเติม...แต่งแต้มเสริม "รัก"สืบสาน
"รัก"ก้อง กังวาลกาล....ก่อเจือจาน "ให้อภัย" จง


กลอนห้า ๑-๒-๒
อย่า เขลา หู เบา

@ อย่า ขาดสติ ปัญญา
เขลา อวิชชา ชั่วหลง
หู ตาสอง ตรอง"ตรง"
เบา อบาย"ธง" ยงเสมอ



 7 
 เมื่อ: 03 มิถุนายน 2568, 11:40:34 AM 
เริ่มโดย share - กระทู้ล่าสุด โดย share

สติ ปัญญา


โคลงสี่สุภาพ

@ ผองข้าฯ ประณตน้อม...ภูมี
โปรดสติปัญญาดี..............เพื่อรู้
เข้าใจเชี่ยวชาญคดี..........ไขกระจ่าง
ประโยชน์แก่ชาวชนผู้........ทุกข์ท้นพ้นเข็ญ


ร่ายสุภาพ

@ หนุ่มสาว วาดหวังใด
"พระ" อวยชัย ประจักษ์ "เห็น"
"เย็น" มั่น ในธรรมา
สติปัญญา ดาวใจ
ไปเถอะ ! ไปนำทาง
แผ้วถาง รัก-รับใช้
ผู้เจ็บ ผู้หมองไหม้
สุขถ้วนทั่วกัน..นั้นนา


วรรษาชุ่มชื่นฉันท์ ๑๕ (ลหุ ๑๖)
​คค ลคค ลลลค .. ลลลค ลค

@ ปัญญา ฝึกฝน พละประสิทธิ์
....ผลิระอุจิต ระรื่น
มรรคา พิสิฐธรรม นำมน(ะ)ฟื้น
....สติ สว่าง ไสว

@ ปัญญา ตระหนักซึ่ง พิริยะไซร้
....สติ ชะภัย กิเลส
ตัดตน ขจัดพ้น มรณะเหตุ
...มน(ะ)ระรื่น สราญ


กาพย์กลอนฉบัง ๑๖

@ ทุกวาร ทุกสถาน ขณะนี้...ธ โปรด ปรานี.........ตระหนักรู้ รักพลี ตอบแทน
กายใจ จักไม่ ผูกแขวน.........ยึดติด โลกย์แดน.....ตัวตน "กู"แกน แสนหวง
บั่นสะบั้น กิเลส ตัณหา.........โลภหลง โกรธา........สติปัญญา เบากลวง
แท้"รัก" สรรพสิ่ง ทั้งปวง.......รวยเกียรติ ผลพวง.....มอบสิ้น ดั่งดวง สุริยา


กลอนห้า ๓-๒

อย่าหูเบา เชื่อง่าย
อย่าดูดาย สืบ! หนา
กาลามสูตร วิชชา
สติปัญญา จงปอง



 8 
 เมื่อ: 31 พฤษภาคม 2568, 08:36:50 PM 
เริ่มโดย share - กระทู้ล่าสุด โดย share



โคลงดั้น ตรีพิธพรรณ *

...."กลอนด้น"นามชื่อใช้........กานท์กลอน
ชื่อเช่นอาการหนอน..............เจาะไซ้
ด้นดั้น รุดมุดจร....................บ หยุด
สะดุดขวากฉลาดรู้ให้..............รอดเสมอ

....ปราชญ์ผู้รู้ฉลาดใช้...........ปฏิภาณ
ด้นสดเจอหลักการ................เลี่ยงรู้
ดั้นจวบจบจิตหาญ...............มิท้อสลัด...หลุดนา
โคลงร่าย"ดั้น"ด้วยสู้.............สุดแรง


ดั้น ก. ฝ่าไป มุดด้นไป.
     น. ชื่อโคลงและร่ายประเภทหนึ่ง เรียกว่า โคลงดั้น และ ร่ายดั้น.
ด้น มุ่งหน้าเดาไป มุ่งหน้าฝ่าไป ด้นดั้น ก็ว่า.
      น. เรียกกลอนชนิดหนึ่งที่ว่าดะไปไม่คำนึงถึงหลักสัมผัสว่า กลอนด้น


* สัมผัสระหว่างบท (โคลงดั้น ต้องแต่ง อย่างน้อย ๒ บท)
รับสัมผัส บทถัดไป  ณ บาทที่สอง คำที่ ๓


*** ระวัง! อย่าสับสนกับ โคลง ตรีพิธพรรณ ครับ




 9 
 เมื่อ: 29 พฤษภาคม 2568, 05:15:06 AM 
เริ่มโดย น้องจ๋า น้องจ๋าจ้า - กระทู้ล่าสุด โดย น้องจ๋า น้องจ๋าจ้า




 เ มื่ อ ส า ย ฝ น หล่นมาครารุ่งสาง

..เมื่อลมฝน หล่นมา จากฟ้ากว้าง
แล-สล้าง ผกาแย้ม แซมกอไหว
หยาดน้ำห่ม บ่มดอก ตามซอกใบ
กลอกกลิ้งไป แรงโยน เมื่อโดนลม

..อยากอิงแอบ แนบกาย ชายในฝัน
ตาพราวพลัน เร้ารุก แสนสุขสม
ระยิบยับ วับวาว พราวอารมณ์
เกินจะข่ม อุ่นกาย หายร้าวราน

..รู้ไหมว่า หน้าฝน ในหนนี้
ซ่านฤดี วับหวิว พลิ้วผสาน
ดั่งว่าเหตุ สังเกตุได้ คล้ายวันวาน
จริงแล้วผ่าน ขวบปี มิลืมเลือน

..ยังคิดถึง ซึ้งไหม ห่างไกลนัก
วันนี้จัก หนักแน่น มิแคลนเคลื่อน
จะรออยู่ คู่พี่ แม้กี่เดือน
ลมฝนเยือน กี่เพลา ก็...จะคอย

                   ..............น้องจ๋า



 10 
 เมื่อ: 28 พฤษภาคม 2568, 10:53:26 AM 
เริ่มโดย share - กระทู้ล่าสุด โดย share



กลอนฉันท์
เกณฑ์ : อย่างน้อยมี ลหุ ๑ คำ ในทุกวรรค

กลอนฉันท์สาม

@ ข้าจะมั่น....มุสรรค์สร้าง
"ระทม"สร่าง....พิบัติ, พาล

@ ละลด"กู....ลุรู้ขาน
ผลิผ่องฌาณ...หาญ! สินำ

@ "รัก" ริเริ่ม...สันติธรรม
ไป่ถลำ.......โลกย์ระเริง


กลอนฉันท์ห้า  1 3 1

เชิญ เพื่อน รัก ปัน

เชิญ ชวนสหาย ใฝ่
เพื่อน กลอนไสว ฉันท์
รัก มั่นมุธรรม ครัน
ปัน สันติสุข เทอญ


กลอนฉันท์เก้า

@ อ่านหนังสือ...จะเข้าใจ......ขอไขหน่อย
อย่าริคอย..........ใครมาโปรด....นะสหาย
เธอต้องมั่น........หมั่นมุจริง......มิดูดาย
จากเช้าสาย......ลุบ่ายเย็น......จวบจะนอน




หน้า: [1] 2 3 ... 10