หน้า: [1] 2   ลงล่าง
 
ผู้เขียน หัวข้อ: *** พระเจ้าสิบชาติคำกลอน พระชาติที่ ๔ พระเนมิราช ***  (อ่าน 8671 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
นักกลอนตลาด ที่ผิดพลาดเรื่องสัมผัสเป็นนิสัย
คะแนนน้ำใจ 1621
เหรียญรางวัล:
มีความคิดสร้างสรรค์นักโพสดีเด่น
กระทู้: 246
ออฟไลน์ ออฟไลน์
"สร้างความฝันอันละไมในบทกลอน"
อีเมล์
   
« เมื่อ: 23 มกราคม 2560, 06:23:38 PM »

Permalink: *** พระเจ้าสิบชาติคำกลอน พระชาติที่ ๔ พระเนมิราช ***




พระเจ้าสิบชาติ  พระชาติที่ ๔  พระเนมิราช
บทนำ

** ในชาตินี้พระองค์เสวยพระชาติ
เป็นพระเจ้าเนมิราชครองกรุงใหญ่
มิถิลาระบือเลื่องลือไกล
เป็นหนึ่งในบรรดามหานคร

** ทรงบำเพ็ญบารมีอธิษฐาน
ก็คือการแน่วแน่ไม่ทอดถอน
ไม่โอนเอนไม่ไหวหวั่นไม่สั่นคลอน
ช่างแน่นอนมั่นคงไม่หลงตน

** ทรงปฏิเสธความหวังดีที่มีให้
ของเทพไท้เทวดาในเวหน
ในคราวที่เสด็จจรดล
สู่มณฑลชั้นวิมานตระการตา

** ท้าวสักกะอัญเชิญให้สถิต
บนวิมานโสภิตอันสูงค่า
ไม่ทรงรับไมตรีของเทวา
ขอกลับมาบำเพ็ญบารมี

สมพงศ์  ชูสุวรรณ
บ้านกัลปังหา
ข้อมูล : พระเจ้าสิบชาติ  สำนักพิมพ์ธรรมสภา  
ภาพประกอบเรื่อง : ไพบุลย์  อินทศรี
บรรยายภาพ : บรรจบ  บรรณรุจิ

บันทึกการเข้า

นักกลอนตลาด ที่ผิดพลาดเรื่องสัมผัสเป็นนิสัย
คะแนนน้ำใจ 1621
เหรียญรางวัล:
มีความคิดสร้างสรรค์นักโพสดีเด่น
กระทู้: 246
ออฟไลน์ ออฟไลน์
"สร้างความฝันอันละไมในบทกลอน"
อีเมล์
   
« ตอบ #1 เมื่อ: 23 มกราคม 2560, 06:28:46 PM »

Permalink: Re: *** พระเจ้าสิบชาติคำกลอน พระชาติที่ ๔ พระเนมิราช ***




พระเจ้าสิบชาติ  พระชาติที่ ๔  พระเนมิราช
ตอนที่ ๑  ครูของชาวเมือง

** จะขอกล่าวเล่าเรื่องจอมกษัตริย์
แคว้นวิเทหะรัฐเกษมศรี
มิถิลานครราชธานี
เนมิราชจอมบดีครองพารา

** เป็นเชื้อสายพระเจ้ามฆเทวะ
จอมราชะผู้ตั้งมั่นในศาสนา
ครั้นเติบโตเจริญวัยใจศรัทธา
การรักษาศีลห้าและให้ทาน

** เมื่อพระราชบิดาทรงเบื่อหน่าย
เกิดเสื่อมคลายในลาภยศมหาศาล
สละราชสมบัติและบริวาร
หวังนิพพานออกบวชอยู่ป่าไพร

** เนมิราชจึงทรงสถาปนา
เป็นราชาครอบครองนครใหญ่
ทรงเปลื้องทุกข์ให้ประชาพาสุขใจ
คนทั่วไปสรรเสริญเจริญคุณ

** โปรดให้สร้างโรงทานขึ้นห้าแห่ง
เพื่อเป็นแหล่งสงเคราะห์สนับสนุน
ให้ประชาหน้าใสพึ่งใบบุญ
เพื่อเป็นทุนเลี้ยงชีวีให้มีกิน

** ที่ประตูเมืองเข้าออกทั้งสี่ด้าน
เพื่อผู้ผ่านไปมาดังถวิล
จะได้มีข้าวปลาเลี้ยงชีวิน
เป็นอาจิณไม่อดอยากหากต้องการ

** อีกแห่งหนึ่งที่กลางเมืองเรื่องอาหาร
เป็นโรงทานเป็นที่พึ่งพึงประสาน
แก่คนจนและคนที่ตกงาน
ได้เบิกบานมีความสุขทุกทุกวัน

** ทรงสละราชทรัพย์ส่วนพระองค์
ด้วยประสงค์เป็นประตูสู่สวรรค์
เมื่อถึงคราวที่จะละชีวัน
มวลทรัพย์สินนับอนันต์ดุจก้อนดิน

** สมาทานศีลห้าพาให้สุข
ศีลแปดทำให้ทุกข์มลายสิ้น
จิตผ่องใสและใจไร้ราคิน
ปราศจากมลทินสิ้นกังวล

** ทรงสั่งสอนธัมมะประชาราษฏร์
ให้มุ่งมาดใฝ่ใจในกุศล
มีคุณธรรมนำให้เกิดมงคล
จักสุขล้นเพราะทำกรรมที่ดี

** เมื่อตายแล้วไปเกิดในสวรรค์
กล่าวขานกันถึงองค์พระทรงศรี
เนมิราชเจ้าผู้ครองบุรี
มิถิลาธานีที่พบมา

** ให้เหล่าเทวดาได้รับรู้
เพื่อเชิดชูคุณความดีที่สูงค่า
ของพระเจ้าเนมิราชจอมราชา
ผู้มีธรรมสัมมาสารพัน

สมพงศ์  ชูสุวรรณ
บ้านกัลปังหา
ข้อมูล : พระเจ้าสิบชาติ  สำนักพิมพ์ธรรมสภา  
ภาพประกอบเรื่อง : ไพบุลย์  อินทศรี
บรรยายภาพ : บรรจบ  บรรณรุจิ

บันทึกการเข้า

นักกลอนตลาด ที่ผิดพลาดเรื่องสัมผัสเป็นนิสัย
คะแนนน้ำใจ 1621
เหรียญรางวัล:
มีความคิดสร้างสรรค์นักโพสดีเด่น
กระทู้: 246
ออฟไลน์ ออฟไลน์
"สร้างความฝันอันละไมในบทกลอน"
อีเมล์
   
« ตอบ #2 เมื่อ: 23 มกราคม 2560, 06:31:31 PM »

Permalink: Re: *** พระเจ้าสิบชาติคำกลอน พระชาติที่ ๔ พระเนมิราช ***




พระเจ้าสิบชาติ  พระชาติที่ ๔  พระเนมิราช
ตอนที่ ๒  ข้อสงสัย

** พระเจ้าเนมิราชทรงสงสัย
ซึ่งความนัยทานศีลที่ลดหลั่น
ว่าอย่างไหนมีผลมากกว่ากัน
ที่ทรงธรรม์ทรงบำเพ็ญไม่เว้นเลย

** จึงคิดอยากไต่ถามหาความรู้
จากท่านผู้เต็มใจจะเปิดเผย
เราควรจะกระทำอย่างไรเอย
มัวนิ่งเฉยไม่ได้การถ้านานไป

** ครั้นเมื่อถึงวันพระสิบห้าค่ำ
เวลาย่ำสว่างจันทร์ไสว
ท้าวมัฆวานผู้หัวหน้าของเทพไท
ได้ครรไลมาหาจอมธานี

** แล้วตรัสถามราชาผู้ยิ่งใหญ่
มีอะไรบอกมาอย่างเร็วรี่
เราจะช่วยสงเคราะห์ในทันที
โปรดจงเผยวจีเจรจา

** เนมิราชกราบทูลท้าวโกสี
ตัวข้ามีเรื่องราวที่กังขา
ทานกับศีลสิ่งใดที่กล่าวมา
จะมีผลมากกว่าจงสาธยาย

** ท้าวสักกะเทวราชประกาศว่า
รักษาศีลดีกว่าอย่างเหลือหลาย
มีผลมากกว่าทานตั้งมากมาย
เมื่อชีพวายไปดีสู่วิมาน

** การให้ทานได้เกิดแค่สวรรค์
รักษาศีลผลอนันต์ขอกล่าวขาน
ได้เกิดในพรหมโลกนานแสนนาน
ตลอดกาลเสวยสุขทุกข์ไม่มี

** อันความจริงสิ่งที่ควรหวนระลึก
คำนึงนึกทุกกระบวนให้ถ้วนถี่
อันทานศีลคู่กันนั้นสิ่งดี
จะต้องมีศีลทานการมงคล

** ควรจะทำคู่กันทั้งสองอย่าง
และตั้งใจรีบสร้างทางกุศล
ดังพระองค์กระทำมาอย่างแยบยล
ย่อมเกิดผลสูงค่าน่านิยม

** เนมิราชปิติโสมนัส
ที่ขจัดความกังขาพาสุขสม
ฝ่ายพระอินทร์กลับสวรรค์อันรื่นรมย์
ทรงชื่นชมราชาว่ายอดคน

** ได้ตรัสเล่าเรื่องราวเนมิราช
กษัตริย์ชาติผู้ยิ่งใหญ่ไม่ตกหล่น
ให้เหล่าเทวดาทั่วมณฑล
ฟากฟ้าบนดาวดึงส์พึงร้บรู้

สมพงศ์  ชูสุวรรณ
บ้านกัลปังหา
ข้อมูล : พระเจ้าสิบชาติ  สำนักพิมพ์ธรรมสภา  
ภาพประกอบเรื่อง : ไพบุลย์  อินทศรี
บรรยายภาพ : บรรจบ  บรรณรุจิ

บันทึกการเข้า

นักกลอนตลาด ที่ผิดพลาดเรื่องสัมผัสเป็นนิสัย
คะแนนน้ำใจ 1621
เหรียญรางวัล:
มีความคิดสร้างสรรค์นักโพสดีเด่น
กระทู้: 246
ออฟไลน์ ออฟไลน์
"สร้างความฝันอันละไมในบทกลอน"
อีเมล์
   
« ตอบ #3 เมื่อ: 23 มกราคม 2560, 06:36:10 PM »

Permalink: Re: *** พระเจ้าสิบชาติคำกลอน พระชาติที่ ๔ พระเนมิราช ***




พระเจ้าสิบชาติ  พระชาติที่ ๔  พระเนมิราช
ตอนที่ ๓  รถจากสวรรค์

** ครั้นเมื่อเหล่าเทวดาได้ฟังแล้ว
ก็ชอบใจในแนวการเป็นอยู่
ของพระเจ้าเนมิราชผู้เชิดชู
คุณธรรมควบคู่การปกครอง

** จึงกราบทูลท้าวสักกะเทวราช
ผู้ประทับราชอาสน์ไม่หม่นหมอง
ให้อัญเชิญจอมราชัยใสเรืองรอง
มาเที่ยวท่องสวรรค์ชั้นดาวดึงษ์

** องค์อัมรินทร์จึงตรัสสั่งเทพบุตร
มาตลีรีบรุดไปให้ถึง
เจ้าผู้ครองมิถิลาดังคำนึง
อัญเชิญมาไตรตรึงตามต้องการ

** มาตลีเทพบุตรไม่รอช้า
ขับรถเวชยันตราอย่างกล้าหาญ
ไปรับเนมิราชไม่ทันนาน
ตรงไปยังป้อมปราการในทันที

** เนมิราชประทับยังปราสาท
ท่ามกลางหมู่อำมาตย์อย่างสุขี
ทรงปรึกษาหารือกิจที่มี
อย่างเปรมปรีดิ์ชื่นบานสำราญใจ

** ขณะนั้นเวชยันตราราชรถ
ก็ปรากฏให้เห็นสว่างไสว
เมื่อกระทบกับแสงจันทร์อันอำไพ
ระยิบระยับไกลงามโสภา

** จอมราชาพร้อมข้าราชบริพาร
เห็นราชรถสวยตระการเป็นหนักหนา
มองส่วนไหนเลิศหรูดูตื่นตา
อลังการเกินกว่าจะบรรยาย

** ครั้นเมื่อลอยมาเทียบพระบัญชร
เพื่อที่จะอ้อนวอนดังมุ่งหมาย
ให้พระเจ้าเนมิราชได้เยื้องกราย
สู่ดาวดึงส์พรรณรายดังต้องการ

** มาตลีได้กราบทูลองค์ราชา
ท้าวสักกะสั่งมาเป็นพื้นฐาน
ให้อัญเชิญพระองค์ผู้เชี่ยวชาญ
รักษาศีลบำเพ็ญทานอย่างอุดม

** ได้เสด็จดาวดึงส์สรวงสวรรค์
ให้เทวดายลโฉมกันอย่างเหมาะสม
เพราะพวกเราฟังข่าวแล้วชื่นชม
นึกนิยมในพระองค์จงไคลคลา

** เนมิราชจึงเอ่ยเผยวจี
เมื่อต้องการอย่างนี้รอก่อนหนา
เราจะมอบหมายงานก่อนอำลา
แก่อำมาตย์พราหมณ์พฤฒาทั่วหน้ากัน

สมพงศ์  ชูสุวรรณ
บ้านกัลปังหา
ข้อมูล : พระเจ้าสิบชาติ  สำนักพิมพ์ธรรมสภา  
ภาพประกอบเรื่อง : ไพบุลย์  อินทศรี
บรรยายภาพ : บรรจบ  บรรณรุจิ

บันทึกการเข้า

นักกลอนตลาด ที่ผิดพลาดเรื่องสัมผัสเป็นนิสัย
คะแนนน้ำใจ 1621
เหรียญรางวัล:
มีความคิดสร้างสรรค์นักโพสดีเด่น
กระทู้: 246
ออฟไลน์ ออฟไลน์
"สร้างความฝันอันละไมในบทกลอน"
อีเมล์
   
« ตอบ #4 เมื่อ: 23 มกราคม 2560, 06:41:14 PM »

Permalink: Re: *** พระเจ้าสิบชาติคำกลอน พระชาติที่ ๔ พระเนมิราช ***




พระเจ้าสิบชาติ  พระชาติที่ ๔  พระเนมิราช
ตอนที่ ๔  ชมนรก

** ก่อนจะถึงดาวดึงส์เทวโลก
มาตลีมอบโชคที่เลือกสรร
ให้แก่เนมิราชจอมราชัน
คือขับรถพากันชมอเวจี

** นรกที่พาชมสิบห้าขุม
เป็นแหล่งสัตว์ฯร้อนรุ่มคล้ายไฟจี้   
เพราะผลของบาปกรรมมาย่ำยี
ใช้ชีวีอย่างประมาทชาติผ่านมา
(เหล่าสัตว์ฯ = สัตว์นรก)

** “เวตรณีนรก” ยกให้เห็น
อีกขุมเป็น “นรกสุนัข” จักฉุดคร่า
ให้คนบาปทั้งหลายได้ลงมา
ชดใช้กรรมจนกว่าจะสิ้นไป

** “นรกทองแดง” เป็นแหล่งของคนชั่ว
ที่เกลือกกลั้วสิ่งเลวด้วยเหลวไหล
“นรกถ่านเพลิง” ร้อนเหลือด้วยเชื้อไฟ
ที่เผาไหม้จากกิเลสเหตุสร้างกรรม

** “นรกหม้อทองแดง” ใช่แกล้งว่า
ถูกต้มเคี่ยวเป็นผักปลาร้องครวญคร่ำ
“นรกโซ่ทองแดง” แหล่งจองจำ
พวกชอบทำเรื่องชั่วไม่กลัวเกรง

** “นรกแม่น้ำแกลบ” แสบดีแท้
ต้องลงแช่หลีกไม่พ้นโดนข่มเหง
“นรกหลาวและแหลน” แดนวังเวง
สร้างกรรมเองชดใช้เองไม่เกรงใคร

** “นรกถูกทุบตี” ที่โหดร้าย
ทรมานร่างกายกันขวักไขว่
“นรกคูถ” กลิ่นเหม็นโชยลอยไกล
ต้องฝืนใจกลืนกินจนชินชา

** “นรกน้ำเลือดและน้ำหนอง”
สัตว์ฯจะต้องดื่มกลืนยืนผวา
“นรกเบ็ด” น่ากลัวชั่วชีวา
ลากลิ้นมาเกี่ยวเล่นไม่เว้นวัน

** “นรกบ่อไฟ” เป็นเชื้อคอยเผาไหม้
ทั้งจิตใจร่างกายคล้ายกับฝัน
“นรกสัตว์น่าเกลียด” เสนียดครัน
คอยหลอกหลอนเขย่าขวัญทุกวันคืน

** ท้าวสักกะสถิตบรรลังอาสน์
คอยท้าวเนมิราชอย่างสดชื่น
ผู้ยึดมั่นศีลทานอันยั่งยืน
ไม่แปรเปลี่ยนเป็นอื่นตลอดกาล

** จึงสงสัยเหตุใดจึงช้า นัก
หรือหยุดพักเถลไถลไม่กล่าวขาน
มัวแต่เพลินเดินเล่นอย่างสำราญ
จะเสียการต้องส่องทิพยเนตรดู

** ในที่สุดทราบว่าชมนรก
ดังหยิบยกกล่าวมาน่าหดหู่
จึงรีบบอกมาตลีเพื่อให้รู้
เวลาที่มีอยู่น้อยเต็มที

** ดูนรกให้หมดคงไม่ได้
แค่เพียงเพื่อพอให้เป็นสักขี
จงบริหารเวลาเท่าที่มี
นำราชาเร็วรี่มาวิมาน

** มาตลีจึงบันดาลอิทธิฤทธิ์
เนรมิตนรกเป็นมาตรฐาน
ให้พระองค์ทรงเห็นไม่ช้านาน
ปรากฏการณ์ทั้งหมดได้จดจำ

** เนมิราชราชันทรงหวั่นหวาด
ทรงขยาดนรกอกระส่ำ
ตั้งพระทัยแน่วแน่ไม่สร้างกรรม
และจะนำไปบอกกล่าวชาวประชา

** เพื่อตั้งมั่นไม่ประมาทอาจพลาดผิด
ไปหลงคิดทำชั่วมั่วตัณหา
อีกกิเลสหลากหลายจะบีทา
สิ้นชีวาตกนรกหมกไหม้ตน

สมพงศ์  ชูสุวรรณ
บ้านกัลปังหา
ข้อมูล : พระเจ้าสิบชาติ  สำนักพิมพ์ธรรมสภา  
ภาพประกอบเรื่อง : ไพบุลย์  อินทศรี
บรรยายภาพ : บรรจบ  บรรณรุจิ

บันทึกการเข้า

นักกลอนตลาด ที่ผิดพลาดเรื่องสัมผัสเป็นนิสัย
คะแนนน้ำใจ 1621
เหรียญรางวัล:
มีความคิดสร้างสรรค์นักโพสดีเด่น
กระทู้: 246
ออฟไลน์ ออฟไลน์
"สร้างความฝันอันละไมในบทกลอน"
อีเมล์
   
« ตอบ #5 เมื่อ: 23 มกราคม 2560, 06:44:27 PM »

Permalink: Re: *** พระเจ้าสิบชาติคำกลอน พระชาติที่ ๔ พระเนมิราช ***




พระเจ้าสิบชาติ  พระชาติที่ ๔  พระเนมิราช
ตอนที่ ๕  ชมสวรรค์

** หลังจากชมนรกยกให้เห็น
เป็นประเด็นต้องใส่ใจในกุศล
ถ้าทำชั่วต้องรับกรรมช้ำกมล
จงฝึกฝนใฝ่ธัมมะจะได้บุญ

** มาตลีได้ขับราชรถ
ไปปรากฏบนสวรรค์อันอบอุ่น
มองทางไหนวิไลหรูดูละมุน
ไม่ว้าวุ่นเหมือนมนุษย์สุดสมปอง

** พบวิมานโสภาสง่าศรี
เทพธิดาวารุณีเป็นเจ้าของ
กว้างใหญ่สิบสองโยชน์ช่างชวนมอง
เหตุคือบุญได้สนองคุณความดี

** รอบบริเวณมีสวนล้วนร่มรื่น
แสนสดชื่นระรวยด้วยพฤกษี
กลิ่นหอมกรุ่นรื่นนาสามวลมาลี
ที่มากมีในสวนชวนให้ยล

** สระโบกขรณีสวยงามยามคืนค่ำ
ดวงจันทราสวยล้ำกลางเวหน
สาดแสงส่องสดใสในมณฑล
น้ำพลิ้วล้นมองเห็นเป็นดังทอง

** เนมิราชตรัสถามความใคร่รู้
เธอเป็นอยู่อย่างไรไม่เศร้าหมอง
มาเกิดบนสวรรค์อันเรืองรอง
ได้ครอบครองทิพย์วิมานตระกานตา

** มาตลีเทพบุตรหยุดนั่งคิด
ถึงชีวิตแต่หนหลังดังปรารถนา
ของวารุณีจอมนางเทพธิดา
ได้กระทำสิ่งใดมาก็แจ้งใจ

** ในสมัยพระพุทธเจ้ากัสสปะ
มุมานะทำอาหารด้วยเลื่อมใส
ถวายพระเป็นประจำทุกวันไป
ตามคำสั่งผู้ใหญ่คนเป็นนาย

** อานิสงส์บันดาลให้มาเกิด
ในที่อันประเสริฐเลิศเหลือหลาย
เนรมิตวิมานทองผ่องพรรณราย
ให้พักกายรื่นรมย์อุดมคุณ

** มาตลีพาชมวิมานมาศ
ของเหล่าเทวราชอย่างอบอุ่น
เจ้าของคอยต้อนรับนับเป็นบุญ
เกื้อการุณเอ่ยวาจากล่าวพาที

** เมื่อชาติก่อนเคยทำอะไรบ้าง
ยกมาอ้างให้เห็นเป็นสักขี
จึงเล่าความให้เห็นเหตุเป็นดี
ในชาตินี้มีสุขทุกวันคืน

** ท้าวสักกะตรัสเตือนห้ามเชื่องช้า
รีบนำเนมิราชมาอย่าขัดขืน
เวลาน้อยผ่านไปเหมือนถูกกลืน
กาลเวลาไม่ยั่งยืนรอคอยใคร

** มาตลีจึงบันดาลเพื่อสานฝัน
เปิดสวรรค์ทุกชั้นทั้งน้อยใหญ่
มาปรากฏตรงหน้าก่อนคลาไคล
แล้วจึงนำราชาไปเฝ้าองค์อินทร์

สมพงศ์  ชูสุวรรณ
บ้านกัลปังหา
ข้อมูล : พระเจ้าสิบชาติ  สำนักพิมพ์ธรรมสภา  
ภาพประกอบเรื่อง : ไพบุลย์  อินทศรี
บรรยายภาพ : บรรจบ  บรรณรุจิ

บันทึกการเข้า

นักกลอนตลาด ที่ผิดพลาดเรื่องสัมผัสเป็นนิสัย
คะแนนน้ำใจ 1621
เหรียญรางวัล:
มีความคิดสร้างสรรค์นักโพสดีเด่น
กระทู้: 246
ออฟไลน์ ออฟไลน์
"สร้างความฝันอันละไมในบทกลอน"
อีเมล์
   
« ตอบ #6 เมื่อ: 23 มกราคม 2560, 08:56:03 PM »

Permalink: Re: *** พระเจ้าสิบชาติคำกลอน พระชาติที่ ๔ พระเนมิราช ***




พระเจ้าสิบชาติ  พระชาติที่ ๔  พระเนมิราช
ตอนที่ ๖  ท่ามกลางสภา

** ณ สุธรรมาเทวะสภาใหญ่
ที่สวยสุดอำไพใจถวิล
บรรยากาศอบอุ่นละมุนจินต์
จอมนรินทร์ประทับนั่งบัลลังก์ทอง

** จึงเชิญชวนราชาประทับนั่ง
ที่บัลลังก์ข้างหน้าอย่าหม่นหมอง
เคียงคู่กับพระองค์ผู้ทรงครอง
จักรวาลทั้งผองให้สุขใจ

** เบื้องหน้าองค์สักกะเจ้าสวรรค์
เทวดาพากันนั่งขวักไขว่
หมอบกราบอยู่แทบพระบาทองค์ท้าวไท
และองค์ภูวไนยจอมราชา

** ท้าวโกสีห์จึงมีถ้อยดำรัส
กับพระมหากษัตริย์เสน่หา
ขออัญเชิญพระผู้ผ่านพารา
เสด็จมาเป็นใหญ่ในดาวดึงส์

** ไม่ต้องย้อนกลับไปมนุษย์โลก
ถือเป็นโชคที่ใครนึกไม่ถึง
เพื่อเทิดทูนคุณความดีที่ตราตรึง
เป็นที่พึ่งของชาวโลกโชคอำนวย

** พระราชาได้ฟังก็นั่งนิ่ง
รับไม่ได้จริงจริงใช่โลกสวย
สมบัติเฉพาะคนจนหรือรวย
เขาได้ด้วยผลบุญบุญหนุนให้มา

** ถ้ายอมรับก็เท่ากับยืมของเขา
ไม่ใช่สิทธิ์ของเราน่าขายหน้า
จะขอรับเท่าที่บุญอุดหนุนพา
คือนครมิถิลาที่ร่มเย็น

** เพราะเป็นผลกุศลที่ทำไว้
ส่งผลให้ถึงฝั่งดังที่เห็น
จะครอบครองด้วยธรรมไม่ลำเค็ญ
เพราะมันเป็นของเราชั่วชีวา

** ต่อจากนั้นจึงบรรยายขยายอรรถ
ถึงธัมมะปรมัตถ์ดีหนักหนา
ตลอดคืนตลอดวันจำนรรจา
เป็นเวลาเจ็ดราตรีมิเบื่อเลย

** ก่อนอำลามุ่งหน้าโลกมนุษย์
มันแสนสุดวุ่นวายใคร่เปิดเผย
พระองค์ทรงอวยพรย้อนภิเปรย
สรรเสริญคุณผู้คุ้นเคยด้วยศรัทธา

** ครั้นถึงมิถิลาคราใกล้รุ่ง
ดวงอาทิตย์พวยพุ่งแสงอุษา
เนมิราชจากไตรตรึงษ์ถึงนครา
ชาวประชาต่างปิติมิเสื่อมคลาย

สมพงศ์  ชูสุวรรณ
บ้านกัลปังหา
ข้อมูล : พระเจ้าสิบชาติ  สำนักพิมพ์ธรรมสภา  
ภาพประกอบเรื่อง : ไพบุลย์  อินทศรี
บรรยายภาพ : บรรจบ  บรรณรุจิ

บันทึกการเข้า

นักกลอนตลาด ที่ผิดพลาดเรื่องสัมผัสเป็นนิสัย
คะแนนน้ำใจ 1621
เหรียญรางวัล:
มีความคิดสร้างสรรค์นักโพสดีเด่น
กระทู้: 246
ออฟไลน์ ออฟไลน์
"สร้างความฝันอันละไมในบทกลอน"
อีเมล์
   
« ตอบ #7 เมื่อ: 23 มกราคม 2560, 08:59:46 PM »

Permalink: Re: *** พระเจ้าสิบชาติคำกลอน พระชาติที่ ๔ พระเนมิราช ***




พระเจ้าสิบชาติ  พระชาติที่ ๔  พระเนมิราช
ตอนที่ ๗  เล่าเรื่องนรก (๑)

** หมู่ข้าราชบริพารและอำมาตย์
พร้อมทวยราษฎร์ปวงประชาต่างมุ่งหมาย
อยากจะรู้เรื่องราวทั้งหญิงชาย
ที่ราชาเยื้องกรายยังวิมาน

** จึงกราบทูลไต่ถามความทั้งหมด
ขอร้องพระทรงยศให้เล่าขาน
ถึงเรื่องราวที่ผ่านพบประสบการณ์
ในสถานฟากฟ้ามาให้ฟัง

** ครานั้นเนมิราชชาติกษัตริย์
มีดำรัสตรัสเล่าคราวหนหลัง
การเยี่ยมชมสวรรค์อย่างจริงจัง
มาตลีพานั่งไม่เศร้าตรม

** เริ่มต้นที่นรกแดนหมกไหม้
ทรงจำได้ติดพระเนตรเขตขื่นขม
เสียงโหยหวนเพราะปวดร้าวเคล้าระบม
เสียงดังขรมทั่วทั้งนรกกานต์

** “เวตรณีนรก” ยกมากล่าว
เป็นเรื่องราวยิ่งใหญ่ไฟคอยผลาญ
ทั้งน้ำแสบน้ำเค็มเต็มบาดาล
มีไฟกาฬลุกโหมคอยโรมรัน

** ในน้ำแสบน้ำเค็มมีกอหวาย
หนามก็คมมากมายคอยห้ำหั่น
สัตว์นรกถูกนิรบาลไล่ฟาดฟัน
ตกน้ำแสบเจ็บและคันหนามทิ่มแทง

** ขาดออกเป็นท่อนท่อนซับซ้อนมาก
โดนไฟจากบ่อน้ำมันกำแหง
คอยเผาผลาญให้เร่าร้อนอ่อนเรี่ยวแรง
เพราะผลแห่งเวรกรรมที่ทำมา

** สาเหตุที่ต้องตกนรกนี้
เพราะเหตุที่เบียดเบียนผู้ด้อยกว่า
ในเรื่องของกำลังและวังชา
เพียงเพื่อว่าหวังผลประโยชน์ตน

** ต่อไป “นรกสุนัข” จักเอ่ยอ้าง
แสนวังเวงอ้างว้างช่างหมองหม่น
สัตว์นรกถูกทรมานเกินจะทน
เพราะบาปกรรมส่งผลต้องทนไป

** สุนัขแดงสุนัขด่างต่างแย่งกัด
อีกแร้งกาสารพัดแย่งกันใหญ่
เพื่อขบกัดจิกตีอยู่ร่ำไป
เขี้ยวเป็นเหล็กปากเป็นไฟคอยกัดกิน

** แสนเจ็บปวดทรมานร้าวรานนัก
กายแทบจักสลายมลายสิ้น
สุนัขกัดแร้งกาจิกพลิกชีวิน
ให้ด่าวดิ้นแล้วฟื้นใหม่ไปใช้กรรม

** ต้องวนเวียนอย่างนี้มิสิ้นสุด
ไม่มีวันได้หยุดถ้าถลำ
เห็นกงจักรเป็นดอกบัวชั่วระยำ
เพราะใจต่ำเกลือกกลั้วมั่วอบาย

** ตอนที่มีชีวิตจิตตระหนี่
ขาดน้ำใจไมตรีอย่างเหลือหลาย
ไม่เคยมีเมตตาน่าละอาย
ถึงคราวตายสิ้นใจไปโลกันต์

** หรือโกรธเคืองด่าว่าสมณะ
ผู้เป็นพระทรงศีลอย่างกวดขัน
อีกทั้งพราหมณ์พฤฒาสารพัน
ผลของมันต้องตกอเวจี

สมพงศ์  ชูสุวรรณ
บ้านกัลปังหา
ข้อมูล : พระเจ้าสิบชาติ  สำนักพิมพ์ธรรมสภา  
ภาพประกอบเรื่อง : ไพบุลย์  อินทศรี
บรรยายภาพ : บรรจบ  บรรณรุจิ

บันทึกการเข้า

นักกลอนตลาด ที่ผิดพลาดเรื่องสัมผัสเป็นนิสัย
คะแนนน้ำใจ 1621
เหรียญรางวัล:
มีความคิดสร้างสรรค์นักโพสดีเด่น
กระทู้: 246
ออฟไลน์ ออฟไลน์
"สร้างความฝันอันละไมในบทกลอน"
อีเมล์
   
« ตอบ #8 เมื่อ: 23 มกราคม 2560, 09:02:32 PM »

Permalink: Re: *** พระเจ้าสิบชาติคำกลอน พระชาติที่ ๔ พระเนมิราช ***




พระเจ้าสิบชาติ  พระชาติที่ ๔  พระเนมิราช
ตอนที่ ๘  เล่าเรื่องนรก (๒)

** “นรกแผ่นเหล็กแดง” แหล่งโหดร้าย
ต่อคนชั่วที่ตายไปเป็นผี
แล้วต้องตกนรกอเวจี
ด้วยกรรมชั่วมากมีล้วนเลวทราม

** ที่นรกแห่งนี้มีเหล็กหนา
ไฟลุกแรงแดงจ้าพาวาบหวาม
ความร้อนแผ่กระจายหมายคุกคาม
คอยเผาไหม้ทุกยามไร้ปรานี

** นิรยบาลไล่ต้อนตีสัตว์นรก
บนเหล็กแดงโดนหมกไฟร้อนจี้
บ้างหกล้มกายขาดไม่มีดี
เปลวไฟเผาอีกทีจนไหม้เกรียม

** เพราะพวกเขามีกรรมที่ทำไว้
จึงต้องมาชดใช้อย่างโหดเหี้ยม
ตอนที่มีชีวิตไม่คิดเจียม
ปล่อยตัณหาโลมเลียมทุกวี่วัน

** เพราะจิตใจเจือด้วยอกุศล
เบียดเบียนคนมีศีลให้โศกศัลย์
ด้วยใจกายวาจาสารพัน
ต้องทนทุกข์มหันต์เกินบรรยาย

** ส่วน “นรกถ่านเพลิง” ยุ่งเหยิงนัก
สัตว์นรกทุกข์หนักเช้าค่ำสาย
นิรยบาลตักถ่านเพลิงไฟกระจาย
ใส่ตะกร้ามุ่งหมายทรมาน

** แล้วนำไปเทลงบนศีรษะ
สัตว์ฯ ผู้ขาดธัมมะละสังขาร
ได้รับทุกข์เวทนาพาร้าวราน
ร้องครวญครางกังวานดังไปไกล

** สัตว์ฯ พวกนี้เคยทำกรรมชั่วมาก
ยักยอกเงินบริจาคที่เขาให้
เพื่อประโยชน์ของวัดวาเอามาใช้
มิเกรงกลัวเวรกรรมใดในโลกา

** รับจ้างเป็นพยานเท็จไม่เข็ดขาม
หากินด้วยคดีความชั่วหนักหนา
ครั้นสิ้นลมวายปราณมรณา
ต้องเกิดมามีกรรมตามรังควาญ

** “นรกหม้อทองแดง” ร้อนแรงแน่
เป็นแหล่งให้สัตว์ฯ แช่น่าสงสาร
น้ำทองแดงมีเปลวไฟลุกชั่วกาล
ทรมานผู้มีบาปใจหยาบคาย

** ต้องลอยคอตั้งแต่เช้าจนยันค่ำ
ให้ไฟลวกจนระกำชอกช้ำหลาย
ชดใช้กันให้สาสมที่งมงาย
เสวยกรรมในอบายให้สาใจ

** สมัยเป็นมนุษย์สุดหยาบช้า
เที่ยวด่าว่าทุบตีจนหม่นไหม้
ซึ่งสมณะชีพราหมณ์ทั่วทั่วไป
ผู้ทรงศีลก็ไม่งดเว้นเลย

สมพงศ์  ชูสุวรรณ
บ้านกัลปังหา
ข้อมูล : พระเจ้าสิบชาติ  สำนักพิมพ์ธรรมสภา  
ภาพประกอบเรื่อง : ไพบุลย์  อินทศรี
บรรยายภาพ : บรรจบ  บรรณรุจิ

บันทึกการเข้า

นักกลอนตลาด ที่ผิดพลาดเรื่องสัมผัสเป็นนิสัย
คะแนนน้ำใจ 1621
เหรียญรางวัล:
มีความคิดสร้างสรรค์นักโพสดีเด่น
กระทู้: 246
ออฟไลน์ ออฟไลน์
"สร้างความฝันอันละไมในบทกลอน"
อีเมล์
   
« ตอบ #9 เมื่อ: 23 มกราคม 2560, 09:05:43 PM »

Permalink: Re: *** พระเจ้าสิบชาติคำกลอน พระชาติที่ ๔ พระเนมิราช ***




พระเจ้าสิบชาติ  พระชาติที่ ๔  พระเนมิราช
ตอนที่ ๙  เล่าเรื่องนรก (๓)

** “นรกโซ่ทองแดง” แอบแฝงโทษ
ที่แสนโหดหนักหนาจะเปิดเผย
น่ากลัวจังนรกนี่เหมือนที่เคย
ได้เอื้อนเอ่ยเฉลยมาคราก่อนนี้

** นายนิรยบาลไล่ต้อนสัตว์ ฯ
ใช้โซ่คล้องคอผูกมัดร้อนเหลือที่
กดศีรษะลงไปในทันทันที
แล้วรีบดึงเร็วรี่มาบิดคอ

** รดด้วยน้ำทองแดงแล้วโบยซ้ำ
แสนเจ็บปวดชอกช้ำจริงจริงหนอ
ทำครั้งแล้วครั้งเล่าไม่รู้พอ
บาปที่ก่อทำไว้ชดใช้คืน

** ในมนุษย์สัตว์ฯ เหล่านี้อำมหิต
ได้ทำลายชีวิตของสัตว์อื่น
เคยเป็นพรานล่านกอย่างยั่งยืน
แล้วบิดคอหยิบยื่นซึ่งความตาย

** เพื่อจะนำเอามาทำอาหาร
เลี้ยงคนภายในบ้านและเอาขาย
ได้ทำบาปทำกรรมไว้มากมาย
ครั้นตอนปลายมาตกนรกกาฬ

** “นรกแม่น้ำแกลบ” แยบคายแท้
เมื่อมองแลแต่ไกลใสมาตรฐาน
น่ารื่นรมย์ยิ่งเหลือเหนือจักรวาล
ชวนเหล่าสัตว์ฯ ให้ทะยานลงอาบกิน

** สัตว์นรกทั้งหลายกระหายน้ำ
อยากว่ายดำลอยคอเล่นกระแสสินธุ
กระโดดลงไม่รอรั้งสมดังจินต์
กลับแปรเปลี่ยนไปสิ้นเป็นแกลบฟาง

** แถมมีไฟลุกโชนดูโซติช่วง
กลายเป็นดวงไฟลุกสุกสว่าง
คอยเผาไหม้เหล่าสัตว์ฯ ให้วายวาง
แล้วกลับฟื้นคืนร่างคอยรับทัณฑ์

** ในชาติก่อนพวกนี้เคยขายค้า
ได้นำเอาข้าวเปลือกมาแล้วจัดสรร
เอาข้าวลีบหรือแกลบมาปนกัน
หลังจากนั้นเอาไปขายหมายโกงกิน

** ด้วยความโลภครอบงำกรรมส่งผล
เมื่อละจากความเป็นคนชีพสูญสิ้น
มาเกิดในนรกเพราะมลทิน
ได้รับทุกข์เป็นอาจิณในแกลบเพลิง

** “นรกแหลนและหลาว” ขอกล่าวขาน
ถึงผลกรรมที่บันดาลเพราะความเหลิง
เกลือกกลั้วอกุศลจนกระเจิง
ตกนรกหมดเชิงถูกทรมาน

** นรกนี้มีทั้งหลาวและแหลน
เป็นดินแดนโหดร้ายหมายสังหาร
นิรบาลทิ่มแทงให้วายปราณ
ดิ้นไปมาเพื่อประจานผลกรรมมัน

** เหตุที่ทำให้ตกนรกร้าย
เพราะฆ่าสัตว์ไปขายไม่ไหวหวั่น
ในชาติเป็นมนุษย์สุดจาบัลย์
ต้องโศกศัลย์อนาถเพราะทาสกรรม

สมพงศ์  ชูสุวรรณ
บ้านกัลปังหา
ข้อมูล : พระเจ้าสิบชาติ  สำนักพิมพ์ธรรมสภา  
ภาพประกอบเรื่อง : ไพบุลย์  อินทศรี
บรรยายภาพ : บรรจบ  บรรณรุจิ

บันทึกการเข้า

นักกลอนตลาด ที่ผิดพลาดเรื่องสัมผัสเป็นนิสัย
คะแนนน้ำใจ 1621
เหรียญรางวัล:
มีความคิดสร้างสรรค์นักโพสดีเด่น
กระทู้: 246
ออฟไลน์ ออฟไลน์
"สร้างความฝันอันละไมในบทกลอน"
อีเมล์
   
« ตอบ #10 เมื่อ: 23 มกราคม 2560, 09:09:12 PM »

Permalink: Re: *** พระเจ้าสิบชาติคำกลอน พระชาติที่ ๔ พระเนมิราช ***




พระเจ้าสิบชาติ  พระชาติที่ ๔  พระเนมิราช
ตอนที่ ๑๐  เล่าเรื่องนรก (๔)

** “นรกทุบตี” เป็นที่ทรมานสัตว์ฯ
เป็นการดัดนิสัยไม่ถลำ
ไปทำบาปอกุศลที่เคยทำ
เป็นประจำในกาลที่ผ่าน

** นายนิรยบาลทุบตีไม่สงสาร
หวังให้ทุกข์ทรมานจนผวา
ให้สาสมกับเวรกรรมหวังนำพา
เพื่อให้รู้คุณค่าการทำดี

** ในชาติก่อนเคยปล้นสะดมเขา
เพื่อหวังเอาทรัพย์สินแล้วบินหนี
แล้วทิ้งความเศร้าโศกอันมากมี
ให้เจ้าทรัพย์เป็นผู้ที่ต้องทุกข์ใจ

** “นรกคูถ” เต็มด้วยของบูดเน่า
มีกลิ่นเหม็นคลุกเคล้าเกินแก้ไข
จะย่างเท้าก้าวเดินตรงที่ใด
ส่งกลิ่นเหม็นทั่วไปจนอาเจียน

** สัตว์นรกต้องเคี้ยวกินอุจจาระ
อีกทั้งปัสสาวะชวนคลื่นเหียน
เป็นอาหารประจำซ้ำวนเวียน
ต้องพากเพียรยอมทนจนวางวาย

** เวรกรรมที่เคยสร้างชาติปางปกก่อน
ได้ยอกย้อนหักหลังมิตรสหาย
นี่คือกรรมทำไว้อย่างมากมาย
เมื่อตัวตายนรกนี้ที่พึ่งตน

** “นรกน้ำเลือดและน้ำหนอง”
น่าสยองหนักหนาพาหมองหม่น
สัตว์นรกต้องดื่มกินสิ้นทุกคน
เป็นอาหารที่ดีล้นเกินรำพัน

** ด้วยกรรมหนักที่สร้างไว้ช่างร้ายกาจ
มาตุฆาตปิตุฆาตโทษมหันต์
สัตว์นรกเหล่านี้ได้ฆ่าฟัน
พ่อแม่สิ้นชีวัน “อนันตริยกรรม” 

** หรือฆ่าผู้บรรลุอรหัตตผล
เป็นอเสขะบุคคลอย่าเหยียบย่ำ
ได้แก่ผู้สิ้นตัณหาสภาวธรรม
เพราะเรียนร่ำปฏิบัติด้วยศรัทธา

** “นรกเบ็ด” สูตรสำเร็จการลงโทษ
จะว่าโหดก็โหดเป็นหนักหนา
เอาเหล็กแดงเกี่ยวลิ้นด้วยเจตนา
ลากออกมาทรมานผลาญผจญ

** ให้นอนบนแผ่นเหล็กแดงร้อนแรงมาก
แล้วจึงลากขอเหล็กสับยับปี่ป่น
ได้รับทุกข์เวทนาสุดจะทน
กรรมเวียนวนให้ชดใช้เมื่อปลายมือ

** กรรมที่สร้างในปางก่อนย้อนส่งผล
เพราะค้าขายฉ้อฉลคนไม่ซื่อ
ด้วยกลโกงหลากหลายได้ฝึกปรือ
คิดเอาเปรียบคนซื้อไม่ซื่อตรง

สมพงศ์  ชูสุวรรณ
บ้านกัลปังหา
ข้อมูล : พระเจ้าสิบชาติ  สำนักพิมพ์ธรรมสภา  
ภาพประกอบเรื่อง : ไพบุลย์  อินทศรี
บรรยายภาพ : บรรจบ  บรรณรุจิ

บันทึกการเข้า

นักกลอนตลาด ที่ผิดพลาดเรื่องสัมผัสเป็นนิสัย
คะแนนน้ำใจ 1621
เหรียญรางวัล:
มีความคิดสร้างสรรค์นักโพสดีเด่น
กระทู้: 246
ออฟไลน์ ออฟไลน์
"สร้างความฝันอันละไมในบทกลอน"
อีเมล์
   
« ตอบ #11 เมื่อ: 23 มกราคม 2560, 09:12:29 PM »

Permalink: Re: *** พระเจ้าสิบชาติคำกลอน พระชาติที่ ๔ พระเนมิราช ***




พระเจ้าสิบชาติ  พระชาติที่ ๔  พระเนมิราช
ตอนที่ ๑๑  เล่าเรื่องนรก (๕)

** “นรกภูเขาเหล็กแดง” สุดแรงร้อน
ไม่ลดหย่อนความโหดร้ายหมายประสงค์
ลงโทษสัตว์นรกโดยเจาะจง
ให้ดำรงทุกข์ยากทรมาน

** มีภูเขาคอยบี้บดสะกดสัตว์ฯ
ผู้กิเลสร้อยรัดมาเผาผลาญ
บดให้แหลกละเอียดจนวายปราณ
แล้วฟื้นใหม่มาประจานความชั่วตน

** ต้องวิ่งหนีภูเขาบนเหล็กแดง
ที่ร้อนแรงเพราะไฟใจหมองหม่น
แสนทรมานปวดร้าวเฝ้าทุกข์ทน
ต้องดิ้นรนใช้กรรมจนหนำใจ

** ครั้นไม่นานเกิดภูเขาใหม่สามลูก
มาล้อมสัตว์ฯ เฝ้าพันผูกสามลูกใหญ่
เข้าบดบี้เหล่าสัตว์ฯ โดยเร็วไว
ให้ละเอียดลงไปในพริบตา

** บาปที่ทำกรรมที่สร้างในปางก่อน
มันจึงย้อนมาชดใช้ใหญ่หนักหนา
นอกใจผัวทำชั่วมั่วกามา
มีชายชู้คูขาร่วมหลับนอน

** อีก “นรกบ่อไฟ” กว้างใหญ่มาก
ไฟลุกจากก้นบ่อไม่ย่อหย่อน
เต็มไปด้วยถ่านเพลิงในกองฟอน
ที่จะสร้างความเร่าร้อนทั่วกายา

** นิรยบาลไล่จับสัตว์นรก
โยนให้ตกในบ่อตามปรารถนา
สัตว์ฯ ได้รับความทุกข์ทรมา
แสนสาหัสเกินกว่าจะบรรยาย

** ในชาติก่อนสร้างกรรมอย่างมหันต์
จึงต้องรับโทษทัณฑ์ใหญ่เหลือหลาย
ลอบเป็นชู้ภรรยาเขาหลงงมงาย
กิเลสตัณหาตัวร้ายได้รัดรึง

** “นรกสัตว์น่าเกลียด” ควรเหยียดหยาม
ล้วนแต่สัตว์รูปทรามคิดไม่ถึง
มีร่างกายน่าเกลียดชวนพรั่นพรึง
ส่งเสียงอึงคะนึงจึงน่ากลัว

** ในนรกขุมนี้น่าอนาถ
มีแต่สัตว์ประหลาดเพราะทำชั่ว
กายเป็นคนหัวเป็นสัตว์เช่นควายวัว
เป็นกาไก่นกกระตั้วนกขุนทอง

** สารพัดหลากหลายนานาสัตว์
เป็นเพราะการอุบัติต้องหม่นหมอง
แต่ละคนน่ากลัวมากไม่อยากมอง
ชวนขนลุกขนพองต้องหนีไกล

** เป็นเพราะเคยหลงผิดมิจฉาทิฐิ
คอยตำหนิบุญบาปว่าเหลวไหล
คนทำชั่วได้ดีมีถมไป
คนทำดีแต่ไม่เคยได้ดี  (สัมผัสซ้ำด้วยความตั้งใจ)

** ไม่ยอมเชื่อในเรื่องของกุศล
ใจชั่วร้ายปี้ป่นคล้ายยักษี
ทำแต่บาปปล่อยใจใฝ่ราคี
จึงกลายเป็นผู้ต้องมีกรรมนิรันดร์

สมพงศ์  ชูสุวรรณ
บ้านกัลปังหา
ข้อมูล : พระเจ้าสิบชาติ  สำนักพิมพ์ธรรมสภา  
ภาพประกอบเรื่อง : ไพบุลย์  อินทศรี
บรรยายภาพ : บรรจบ  บรรณรุจิ

บันทึกการเข้า

นักกลอนตลาด ที่ผิดพลาดเรื่องสัมผัสเป็นนิสัย
คะแนนน้ำใจ 1621
เหรียญรางวัล:
มีความคิดสร้างสรรค์นักโพสดีเด่น
กระทู้: 246
ออฟไลน์ ออฟไลน์
"สร้างความฝันอันละไมในบทกลอน"
อีเมล์
   
« ตอบ #12 เมื่อ: 23 มกราคม 2560, 09:15:45 PM »

Permalink: Re: *** พระเจ้าสิบชาติคำกลอน พระชาติที่ ๔ พระเนมิราช ***




พระเจ้าสิบชาติ  พระชาติที่ ๔  พระเนมิราช
ตอนที่ ๑๒  เล่าเรื่องสวรรค์ (๑)

** เนมิราชเล่าจบเรื่องนรก
ก็หยิบยกเอาเรื่องราวชาวสวรรค์
มาบอกกล่าวประชาทั่วหน้ากัน
ด้วยมุ่งมั่นหวังให้ได้รื่นรมย์

** วิมานหนึ่งทำด้วยทองผ่องใสนัก
ผู้เข้าพักสดใสใจสุขสม
ช่างสวยงามหนักหนาน่าชื่นชม
เพราะเจ้าของได้อบรมสั่งสมบุญ

** โสณเทพบุตรเป็นเจ้าของ
เข้าครอบครองเต็มไปด้วยไออุ่น
ทำความดีเอาไว้ได้เป็นทุน
คอยเจือจุนส่งให้ได้วิมาน

** ผลบุญที่ทำไว้ได้สมบัติ
เพราะเคร่งครัดถือศีลห้าเป็นพื้นฐาน
ทั้งยึดมั่นในศีลแปดตลอดกาล
มีจิตใจเบิกบานเกินพรรณนา

** ได้ถวายเสนาสนะแก่พระสงฆ์
ผู้มั่นคงเลื่อมใสในศาสนา
ทั้งเป็นเนื้อนาบุญหนุนโลกา
ได้พึ่งพาอาศัยไม่กังวล

** แห่งที่สองทำด้วยแก้วผลึก
สมใจนึกได้พบเห็นเป็นกุศล
สูงได้ยี่สิบห้าโยชน์ชวนให้ยล
กระดิ่งห้อยรอบบนริมเชิงชาย

** ยอดมณฑปสูงค่าสง่าศรี
ช่างงดงามสวยดีมีหลากหลาย
อีกธงทิวปลิวไสวตามพระพาย
เมื่อถูกแสงจันทร์ฉายละลานตา

** ที่รอบรอบอาคารก็มีสวน
กลิ่นดอกไม้อบอวลชื่นนาสา
มีสีสันสดใสบาดนัยน์ตา
ภุมราบินว่อนหลังสอนมวย

** เฝ้าเคลียคลอหวังรอรสน้ำหวาน
เกิดซาบซ่านหลงใหลดอกไม้สวย
ครั้นผ่านไปมาลีเกิดงงงวย
ระทดระทวยปล่อยให้ได้เชยชม

** มีสระโบกขรณีที่น้ำใส
บัวชูดอกไสวสวยเหลือข่ม
ฝูงปลาว่ายขวักไขว่กินโคลนตม
ผิวน้ำถูกแรงลมพัดกระจาย

** เทพธิดาฟ้อนรำและขับร้อง
ประโคมดนตรีเสียงก้องคืนเดือนหงาย
ฟ้าสดใสมองเห็นเป็นประกาย
เหล่านางต่างรำร่ายเริงระบำ

** ผลที่ทำให้เกิดในวิมานนี้
พวกเหล่าเทพนารีผู้งามขำ
ได้ให้ทานรักษาศีลเป็นประจำ
ด้วยกุศลที่เธอทำสุขสำราญ

** สถานที่แห่งใหม่วิไลศรี
ทำด้วยแก้วมณีอัครฐาน
มองด้านไหนไฉไลงามตระการ
วิมานฝาทำด้วย แก้วไพฑูรย์

** อึกทึกครึกครื้นด้วยเสียงดนตรี
เทพบุตรมากมีที่ไอศูรย์
มีสมบัติเพียบพร้อมบริบูรณ์
เพราะเพิ่มพูนสร้างบุญอุดหนุนมา

** ในปางก่อนเทพบุตรได้สั่งสม
เรื่องอุดมมงคลที่ใฝ่หา
มีให้ทานรักษาศีลด้วยเจตนา
สร้างบุญไว้เพื่อชาติหน้าจะสบาย

สมพงศ์  ชูสุวรรณ
บ้านกัลปังหา
ข้อมูล : พระเจ้าสิบชาติ  สำนักพิมพ์ธรรมสภา  
ภาพประกอบเรื่อง : ไพบุลย์  อินทศรี
บรรยายภาพ : บรรจบ  บรรณรุจิ

บันทึกการเข้า

นักกลอนตลาด ที่ผิดพลาดเรื่องสัมผัสเป็นนิสัย
คะแนนน้ำใจ 1621
เหรียญรางวัล:
มีความคิดสร้างสรรค์นักโพสดีเด่น
กระทู้: 246
ออฟไลน์ ออฟไลน์
"สร้างความฝันอันละไมในบทกลอน"
อีเมล์
   
« ตอบ #13 เมื่อ: 23 มกราคม 2560, 09:19:45 PM »

Permalink: Re: *** พระเจ้าสิบชาติคำกลอน พระชาติที่ ๔ พระเนมิราช ***




พระเจ้าสิบชาติ  พระชาติที่ ๔  พระเนมิราช
ตอนที่ ๑๓  เล่าเรื่องสวรรค์ (๒)

** พบวิมานสร้างด้วยแก้วผลึก
ในใจนึกประหลาดไม่คาดหมาย
ช่างสวยงามมองเพลินเกินบรรยาย
ดูเรียงรายด้วยปราสาทสวยบาดตา

** รอบวิมานมีสวนมวลไม้ดอก
แข่งกันออกช่องามตามประสา
กลิ่นหอมฟุ้งจรุงใจไม่สร่างซา
ชื่นอุราฉ่ำฤดีทุกวี่วัน

** ในสถานที่แห่งนี้มีนางฟ้า
เลิศเลอค่าสมเป็นสาวสวรรค์
เทพธิดาแต่ละนางช่างผ่องพรรณ
ดังจะเย้ยดวงจันทร์ให้อายดาว

** เมื่อครั้งเป็นมนุษย์สุดประเสริฐ
มีจิตใจเลอเลิศไม่อื้อฉาว
บริสุทธิ์ข้างในใสแวววาว
ดุจผ้าขาวไร้ราคีที่เจือปน

** ได้ถวายปัจจัยสี่ มีบิณฑบาต
ที่อาศัย ไม่ขาดใฝ่กุศล
จีวร ยารักษาโรค โดยแยบยล
แก่พระอรหัตตผลด้วยศรัทธา

** พบวิมานแก้วไพฑูรย์จำรูญศักดิ์
ที่พำนักเทพบุตรสุดสง่า
วิมานแก้วเต็มไปด้วยเทพธิดา
งามโสภาเลิศล้ำกว่าคำชม

** เสียงขับกล่อมมโหรีดีดสีเป่า
คอยเร่งเร้าให้หลงใหลใจสุขสม
ต่างเริงรื่นชื่นใจในอารมณ์
ไม่เคยร้าวระทมทุกข์ไม่มี

** ในชาติก่อนพวกเธอไม่เผลอพลั้ง
มีสติยับยั้งในทุกที่
ระลึกได้ว่าควรสร้างความดี
ละกรรมชั่วไม่รอรีสร้างแต่บุญ

** สร้าง สะพาน บ่อน้ำ และสร้างสวน
เพื่อประชาชนทั้งมวลไม่ว้าวุ่น
อีกทั้งสระน้ำใส ใจเจือจุน
เป็นผู้มีการุณแก่ฝูงชน

** อีกแห่งหนึ่งที่จะกล่าวให้รับรู้
เพื่อเป็นผู้มีใจไม่หมองหม่น
ได้ศึกษาตัวอย่างเสริมสร้างตน
เหมือนถนนที่สร้างไว้ให้คนเดิน

** เป็นปราสาททำด้วยทองมองงามเด่น
สีดังเช่นแสงอาทิตย์คิดสรรเสริญ
ส่องแสงยามแรกอุทัยสดใสเกิน
มองแล้วเพลินติดตาประทับใจ

** มีเทพบุตรองค์หนึ่งเป็นเจ้าของ
เข้าครอบครองเพราะบารมีที่ยิ่งใหญ่
สร้างสาธารณประโยชน์อันเกรียงไกร
เหมือนเทพไทในวิมานที่ผ่านมา

สมพงศ์  ชูสุวรรณ
บ้านกัลปังหา
ข้อมูล : พระเจ้าสิบชาติ  สำนักพิมพ์ธรรมสภา  
ภาพประกอบเรื่อง : ไพบุลย์  อินทศรี
บรรยายภาพ : บรรจบ  บรรณรุจิ

บันทึกการเข้า

นักกลอนตลาด ที่ผิดพลาดเรื่องสัมผัสเป็นนิสัย
คะแนนน้ำใจ 1621
เหรียญรางวัล:
มีความคิดสร้างสรรค์นักโพสดีเด่น
กระทู้: 246
ออฟไลน์ ออฟไลน์
"สร้างความฝันอันละไมในบทกลอน"
อีเมล์
   
« ตอบ #14 เมื่อ: 23 มกราคม 2560, 09:22:40 PM »

Permalink: Re: *** พระเจ้าสิบชาติคำกลอน พระชาติที่ ๔ พระเนมิราช ***




พระเจ้าสิบชาติ  พระชาติที่ ๔  พระเนมิราช
ตอนที่ ๑๔  ออกบวช

** ฝ่ายเหล่าปวงประชาพฤฒามาตย์
ทั้งข้าราชบริพารทั่วถ้วนหน้า
ฟังเรื่องนรกสวรรค์ที่พรรณนา
ต่างมีใจศรัทธาในบาปบุญ

** ตั้งใจว่าจะสร้างแต่กุศล
เพื่อหวังผลอานิสงส์จงช่วยหนุน
ทำความดีได้กำไรไม่ขาดทุน
ได้เจือจุนเป็นเสบียงเลี้ยงชีวัน

** รักษาศีลให้ทานกันไม่เว้น
หวังได้เป็นที่อาศัยในสวรรค์
ละโลกนี้จะไม่ไปโลกันต์
จะสุขสันต์เริงรื่นชื่นอุรา

** เนมิราชทรงครอบครองราชสมบัติ
สุขสวัสดิ์เปรมปรีดิ์ดีหนักหนา
ประชาราษฎร์ต่างมีสุขทุกเวลา
ต่างศรัทธาศีลทานทั่วบ้านเมือง

** จนกระทั่งย่างเข้าปัจฉิมวัย
ทรงสลดพระทัยเมื่อรู้เรื่อง
ว่าเกิดมีผมหงอกงอกเนืองเนือง
เพราะฟันเฟืองวัฏฏะมาเวียนวน

** ธรรมชาติสังขารไม่หยุดนิ่ง
ย่อมแปรเปลี่ยนทุกสิ่งตามเหตุผล
มีเกิดขึ้นตั้งอยู่ไม่คงทน
และดับไปหนีไม่พ้นพึงสังวร

** เหล่าราชาราชวงศ์มฆะเทวะ
ใฝ่ใจในธัมมะคำสั่งสอน
ปฏิบัติเพื่อความสุขทุกขั้นตอน
เมื่อม้วยมรณ์มีสวรรค์อันรื่นรมย์

** เมื่อถึงวัยชราจะออกบวช
แล้วพร่ำสวดบริกรรมเพื่อจะข่ม
ทั้งตัณหากิเลสเหตุให้ตรม
หวังสะสมบุญกิริยาพาสุขใจ

** เนมิราชเชื้อชาติหน่อกษัตริย์
หวังขจัดกิเลสมารตัวการใหญ่
เพื่อสำเร็จโพธิญาณมองการณ์ไกล
จะต้องไปบำเพ็ญเพียรภาวนา

** จึงได้อภิเษกราชโอรส
ผู้งดงามหมดจดสมยศฐาฯ
ให้เป็นผู้ครอบครองพระพารา
แล้วจึงได้มุ่งหน้ามาอุทยาน

** สวนมะม่วงเป็นที่บำเพ็ญพรต
ได้กำหนดตั้งจิตอธิษฐาน
ครองผ้าฝาดพาดหนังเสือบำเพ็ญฌาน
แล้วเจริญพรหมวิหารตามครรลอง

** สำเร็จฌานสมาบัติตัดตัณหา
อันเป็นเหตุที่พาให้เศร้าหมอง
มีความสุขทุกข์ใดไม่เข้าครอง
ใจผุดผ่องจิตสดใสไร้ราคี

** ครั้นสิ้นบุญถึงกาลสวรรคต
ไปตามกฎของสังขารไม่อาจหนี
ได้เกิดในพรหมโลกช่างโชคดี
จากการที่สั่งสมบุญคุณอนันต์

สมพงศ์  ชูสุวรรณ
บ้านกัลปังหา
ข้อมูล : พระเจ้าสิบชาติ  สำนักพิมพ์ธรรมสภา  
ภาพประกอบเรื่อง : ไพบุลย์  อินทศรี
บรรยายภาพ : บรรจบ  บรรณรุจิ


บันทึกการเข้า

หน้า: [1] 2   ขึ้นบน
 
 
กระโดดไป: