หน้า: [1] 2   ลงล่าง
 
ผู้เขียน หัวข้อ: *** พระเจ้าสิบชาติคำกลอน พระชาติที่ ๓ พระสุวรรณสาม ***  (อ่าน 8624 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
นักกลอนตลาด ที่ผิดพลาดเรื่องสัมผัสเป็นนิสัย
คะแนนน้ำใจ 1621
เหรียญรางวัล:
มีความคิดสร้างสรรค์นักโพสดีเด่น
กระทู้: 246
ออฟไลน์ ออฟไลน์
"สร้างความฝันอันละไมในบทกลอน"
อีเมล์
   
« เมื่อ: 22 มกราคม 2560, 10:49:53 PM »

Permalink: *** พระเจ้าสิบชาติคำกลอน พระชาติที่ ๓ พระสุวรรณสาม ***




พระเจ้าสิบชาติ  พระชาติที่ ๓  พระสุวรรณสาม
บทนำ

** ในกาลนี้พระองค์เสวยพระชาติ
ดูทะนงองอาจเหมือนภาพเขียน
ชื่อสุวรรณสามงามสุดดุจวิเชียร
ไม่อยากจะวนเวียนวงล้อกรรม

** ทรงบำเพ็ญบารมีที่ใหญ่ยิ่ง
เพราะเป็นสิ่งทำให้ใจชุ่มฉ่ำ
คือเมตตาเป็นยอดคุณธรรม
จะน้อมนำสันติสุขสู่โลกา

** พระองค์ทรงอยู่ร่วมกับพวกสัตว์
ไม่อึดอัดรักใคร่เป็นหนักหนา
มีความสุขไม่ทุกข์ใจเพราะเมตตา
เอื้ออารีกรุณามาให้กัน

** เผื่อความรักแก่ผู้ที่ปองร้าย
เพื่อมุ่งหมายให้เขาได้สุขสันต์
เป็นเมตตาที่ยิ่งใหญ่คุณอนันต์
โลกร่มเย็นเกินรำพันด้วยคำใด

สมพงศ์  ชูสุวรรณ
บ้านกัลปังหา
ข้อมูล : พระเจ้าสิบชาติ  สำนักพิมพ์ธรรมสภา  
ภาพประกอบเรื่อง : ไพบุลย์  อินทศรี
บรรยายภาพ : บรรจบ  บรรณรุจิ

บันทึกการเข้า

นักกลอนตลาด ที่ผิดพลาดเรื่องสัมผัสเป็นนิสัย
คะแนนน้ำใจ 1621
เหรียญรางวัล:
มีความคิดสร้างสรรค์นักโพสดีเด่น
กระทู้: 246
ออฟไลน์ ออฟไลน์
"สร้างความฝันอันละไมในบทกลอน"
อีเมล์
   
« ตอบ #1 เมื่อ: 22 มกราคม 2560, 11:07:55 PM »

Permalink: Re: *** พระเจ้าสิบชาติคำกลอน พระชาติที่ ๓ พระสุวรรณสาม ***




พระเจ้าสิบชาติ  พระชาติที่ ๓  พระสุวรรณสาม
ตอนที่ ๑  ลูกฤๅษี

** ขอเริ่มต้นที่ชายหนุ่มและหญิงสาว
มีเรื่องราวให้ศึกษาน่าเลื่อมใส
หญิงสาวชื่อปาริกางามกว่าใคร
มองส่วนไหนดูดีมิเบื่อเลย

** ฝ่ายชายชื่อทุกุละงามสง่า
ทั้งสองเป็นลูกพรานป่าขอเปิดเผย
ต่างก็มีความเป็นอยู่น่าชมเชย
คือเฉยเมยเรื่องครองคู่ดูแปลกดี

** พ่อและแม่สองบ้านชื่นบานนัก
หวังวิวาห์ลูกรักเป็นสักขี
สองครอบครัวเชื่อมสัมพันธไมตรี
เพื่อให้มีความรักใคร่กลมเกลียวกัน

** สองหนุ่มสาวไม่ขัดใจผู้ใหญ่ท่าน
เข้าพิธีแต่งงานไม่ไหวหวั่น
เพียงให้พ่อและแม่สุขนิรันดร์
สัญญามั่นไม่ร่วมประเวณี

** เป็นเพื่อนที่รู้ใจไม่ทิ้งขว้าง
อยู่ร่วมกันไม่ห่างไม่หลีกหนี
จะร่วมทุกข์ร่วมสุขชั่วชีวี
ความเดือดร้อนเกิดมีช่วยดูแล

** วันหนึ่งจึงชวนกันออกสู่ป่า
บำเพ็ญศีลภาวนาไปจนแก่
สงบจิตสงบใจไม่เชือนแช
เป็นกระแสแห่งบุญอบอุ่นใจ

** กล่าวถึงท้าวสักกะเทวราช
ประทับอาสน์มณีที่ยิ่งใหญ่
ตรวจดูโลกมนุษย์สุดวิไล
ก็ทราบได้ดังที่ใจต้องการ

** มองเห็นสองฤๅษีมีเคราะห์หนัก
ด้วยเวรกรรมนำชักมาเผาผลาญ
ให้ตาบอดสองข้างช่างร้าวราน
สุดสงสารต้องช่วยเหลือเพื่อบรรเทา

** จึงได้รีบลงไปไม่รอช้า
ที่กลางป่าหิมพานต์อันเงียบเหงา
ตรงไปยังศาลาจะแบ่งเบา
ให้ความทุกข์ความเศร้ามีน้อยลง

** แล้วแนะนำให้ฤๅษีทั้งสองตน
จงมีลูกไว้สักคนยามลืมหลง
หรือป่วยไข้ได้รักษาอย่าพะวง
ครอบครัวจะมั่นคงสุขสบาย

** เพียงใช้มือลูบท้องขวัญยิหวา
แล้วตั้งจิตปรารถนาไม่เสียหาย
ไม่ผิดศีลผิดธรรมประจำกาย
จิตใจไม่วุ่นวายใฝ่โลกีย์

** สองฤๅษีหันหน้ามาปรึกษา
เพราะเห็นว่าไม่ผิดศีลต้องเสื่อมศรี
ทำตามคำแนะนำในทันที
จอมเทวาไม่รอรีกลับวิมาน

** ครั้นไม่นานฤๅษิณีก็ตั้งท้อง
คอยประคับประคองรักสงสาร
เจ้าลูกน้อยกลอยใจหาใดปาน
อีกไม่นานคงได้เห็นเป็นขวัญตา

** ครั้นครบทศสมาสไม่คลาดเคลื่อน
ครบวันเดือนเจ้าลูกน้อยที่คอยหา
ถึงฤกษ์งามยามดีได้เวลา
ก็เกิดมามองโลกช่างโชคดี

** เป็นผู้ชายผิวดังทองดูผ่องใส
ตั้งชื่อให้ “สุวรรณสาม” งามเหลือที่
ยามพ่อแม่ออกป่าก็ยังมี
กินรีเลี้ยงดูอยู่ประจำ

สมพงศ์  ชูสุวรรณ
บ้านกัลปังหา
ข้อมูล : พระเจ้าสิบชาติ  สำนักพิมพ์ธรรมสภา  
ภาพประกอบเรื่อง : ไพบุลย์  อินทศรี
บรรยายภาพ : บรรจบ  บรรณรุจิ

บันทึกการเข้า

นักกลอนตลาด ที่ผิดพลาดเรื่องสัมผัสเป็นนิสัย
คะแนนน้ำใจ 1621
เหรียญรางวัล:
มีความคิดสร้างสรรค์นักโพสดีเด่น
กระทู้: 246
ออฟไลน์ ออฟไลน์
"สร้างความฝันอันละไมในบทกลอน"
อีเมล์
   
« ตอบ #2 เมื่อ: 22 มกราคม 2560, 11:10:18 PM »

Permalink: Re: *** พระเจ้าสิบชาติคำกลอน พระชาติที่ ๓ พระสุวรรณสาม ***




พระเจ้าสิบชาติ  พระชาติที่ ๓  พระสุวรรณสาม
ตอนที่ ๒  พ่อแม่ตาบอด

** สิบหกปีผ่านไปไวหนักหนา
เด็กเติบใหญ่ขึ้นมางามคมขำ
สรีระร่างกายช่างกำยำ
ดูเลิศล้ำกว่าใครวัยเดียวกัน

** สุวรรณสามมีจิตคิดเป็นห่วง
พ่อแม่ผู้ก้าวล่วงสู่ไพรสัณฑ์
เพื่อหาผลไม้ทุกทุกวัน
สองท่านนั้นย่างเข้าวัยชรา

** เกรงจะหลงงงงวยด้วยแก่เฒ่า
การย่างก้าวไม่มั่นคงพะวงหา
อันตรายจากภัยอีกนานา
อาจตามมาทำร้ายให้ร้อนรน

** จึงได้คิดติดตามไปห่างห่าง
เพื่อจะรู้เส้นทางไม่สับสน
เกิดโพยภัยตามหาได้หายกังวล
ทั้งสองคนไม่สงสัยในลูกชาย

** ครั้นวันหนึ่งถึงคราวเคราะห์คนทั้งสอง
เกิดฝนตกเจิ่งนองเกินคาดหมาย
เป็นเพราะผลกรรมเก่าสองตายาย
จะต้องเกิดเหตุร้ายกับสองคน

** จึงรีบหลบเข้าไปในกระท่อม
ที่แวดล้อมด้วยไม้ดอกไม้กินผล
เพื่อจะใช้เป็นที่กำบังตน
ให้รอดพ้นการเปียกปอนตอนฝนปราย

** ใกล้กระท่อมยังมีจอมปลวกใหญ่
งูเห่าได้แฝงตัวด้วยมุ่งหมาย
อาศัยหาอาหารได้ง่ายดาย
จึงเร้นกายคอยจับเหยื่อเมื่อผ่านมา

** ในขณะที่ทั้งสองเข้าหลบฝน
จึงไม่ได้ระวังตนคิดเพียงว่า
รอฝนหยุดแล้วจึงค่อยไคลคลา
ออกจากป่ากลับที่พักสักครู่เดียว

** ถึงเวลาต้องใช้กรรมที่ทำไว้
บันดาลให้งูพ่นพิษจนตัวเขียว
ถูกดวงตาแสบร้อนสั่นเป็นเกลียว 
จะแลเหลียวทางไหนไม่เห็นเลย

** อนิจจาตาของเราต้องบอดแล้ว
ดังดวงแก้วไร้ค่าสุดจะเฉย
ต่างคร่ำครวญหวนไห้โอ้อกเอย
ไฉนเลยลูกน้อยเจ้ากลอยใจ

**จะรู้ว่าพ่อแม่ต้องตาบอด
สองเราจะอยู่รอดหรือไฉน
จะติดตามมาช่วยเราอย่างไร
เขาทั้งสองจึงได้แต่คร่ำครวญ

** สุวรรณสามเห็นว่าเวลาผ่าน
มาเนิ่นนานพ่อแม่ไม่คืนหวน
สู่อาศรมผิดเวลาเกินสมควร
คงไม่ชวนกันชมป่ายามราตรี

** จึงได้ออกติดตามยามใกล้ค่ำ
ตะวันคล้อยลงต่ำสิ้นแสงสี
เดินตามทางพ่อแม่เข้าพงพี
จึงได้พบฤๅษีสองผัวเมีย

สมพงศ์  ชูสุวรรณ
บ้านกัลปังหา
ข้อมูล : พระเจ้าสิบชาติ  สำนักพิมพ์ธรรมสภา  
ภาพประกอบเรื่อง : ไพบุลย์  อินทศรี
บรรยายภาพ : บรรจบ  บรรณรุจิ

บันทึกการเข้า

นักกลอนตลาด ที่ผิดพลาดเรื่องสัมผัสเป็นนิสัย
คะแนนน้ำใจ 1621
เหรียญรางวัล:
มีความคิดสร้างสรรค์นักโพสดีเด่น
กระทู้: 246
ออฟไลน์ ออฟไลน์
"สร้างความฝันอันละไมในบทกลอน"
อีเมล์
   
« ตอบ #3 เมื่อ: 22 มกราคม 2560, 11:16:15 PM »

Permalink: Re: *** พระเจ้าสิบชาติคำกลอน พระชาติที่ ๓ พระสุวรรณสาม ***




พระเจ้าสิบชาติ  พระชาติที่ ๓  พระสุวรรณสาม
ตอนที่ ๓  ร้องไห้แล้วหัวเราะ

** สุวรรณสามได้ทราบเรื่องทั้งหมด
สุดรันทัดหวั่นไหวใจละเหี่ย
สงสารท่านผู้ชราพาอ่อนเพลีย
ต้องมาเสียนัยน์ตาน่าเศร้าจัง

** จึงสุดกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหล
ร้าวรอนในอุราแทบจะคลั่ง
ร้องไห้โฮออกมาส่งเสียงดัง
พ่อแม่ฟังเสียงโหยหวนชวนเวทนา

** ครั้นอยู่อยู่ก็หัวเราะขึ้นเฉยเฉย
น่าสงสัยจริงเลยแปลกหนักหนา
ดังคนวิกลจริตอนิจจา
หรือเศร้าโศกเกินกว่าจะห้ามใจ

** พ่อและแม่จึงกล่าวว่าลูกเอ๋ย
เจ้าจงรีบเปิดเผยเป็นไฉน
จึงฟูมฟายและหัวเราะเพราะอะไร
ด้วยเหตุใดจงเฉลยเผยวาที

** สุวรรณสามจึงเอ่ยเผยคำขาน
เพราะเห็นท่านทั้งสองต้องหมองศรี
พบกับความเดือดร้อนในชีวี
เพราะไม่มีดวงตาพามืดมน

** การดำเนินชีวิตคงยุ่งยาก
ต้องลำบากยากแค้นแสนสับสน
การกินอยู่จะเขินเกินจักทน
ต้องผจญความทุกข์ทรมาน

** จึงร้องไห้คร่ำครวญรัญจวนจิต
สุดจะคิดห้ามได้เพราะสงสาร
หดหู่เพราะผลกรรมที่บันดาล
ให้ตาท่านวายวอดต้องบอดลง

**ส่วนที่ได้หัวเราะเพราะคิดว่า
โอกาสดีที่รอมาสมประสงค์
ได้เลี้ยงดูแม่พ่อดังจำนง
ตอบแทนองค์อรหันต์ของตัวเรา

** จากนั้นจึงได้นำกลับอาศรม
ปลอบให้คลายทุกข์ตรมที่แผดเผา
จะดูแลอย่างดีทุกค่ำเช้า
ไม่ต้องเศร้าจากจากเคราะห์กรรมที่เผชิญ

** ได้จัดแจงผูกเชือกเป็นราวเกาะ
เพื่อให้เหมาะกับการจับไม่ขัดเขิน
จะทำให้สะดวกในการเดิน
ไม่ขัดเขินคราต้องไปชำระกาย

** โยงเชือกไปยังที่ที่จำเป็น
เช่นเดินเล่นจงกรมได้สมหมาย
พักกลางวันและกลางคืนตามสบาย
เพื่อให้คลายวิตกอกระบม

** ฝึกจนเกิดความชำนาญการเป็นอยู่
หวังให้ผู้มีคุณได้สุขสม
เพราะท่านเป็นทั้งครูและเป็นพรหม
คอยอบรมด้วยเมตตามาเนิ่นนาน

สมพงศ์  ชูสุวรรณ
บ้านกัลปังหา
ข้อมูล : พระเจ้าสิบชาติ  สำนักพิมพ์ธรรมสภา  
ภาพประกอบเรื่อง : ไพบุลย์  อินทศรี
บรรยายภาพ : บรรจบ  บรรณรุจิ

บันทึกการเข้า

นักกลอนตลาด ที่ผิดพลาดเรื่องสัมผัสเป็นนิสัย
คะแนนน้ำใจ 1621
เหรียญรางวัล:
มีความคิดสร้างสรรค์นักโพสดีเด่น
กระทู้: 246
ออฟไลน์ ออฟไลน์
"สร้างความฝันอันละไมในบทกลอน"
อีเมล์
   
« ตอบ #4 เมื่อ: 22 มกราคม 2560, 11:19:52 PM »

Permalink: Re: *** พระเจ้าสิบชาติคำกลอน พระชาติที่ ๓ พระสุวรรณสาม ***




พระเจ้าสิบชาติ  พระชาติที่ ๓  พระสุวรรณสาม
ตอนที่ ๔  หน้าที่ของลูก

** สุวรรณสามปรนนิบัติพ่อและแม่
เริ่มตั้งแต่ตอนเช้าเป็นพื้นฐาน
เก็บที่นอนให้เรียบร้อยค่อยเริ่มงาน
แล้วจัดการน้ำล้างหน้าไม้สีฟัน

** น้ำบ้วนปากก็เตรียมไว้ให้ใช้สอย
พอสายหน่อยจัดผลไม้ได้เลือกสรร
ที่ชอบให้บริโภคพร้อมหน้ากัน
ตัวเขานั้นเอาใจใส่ไม่ห่างกาย

** หลังจากรับประทานเสร็จเรียบร้อย
เขาจึงค่อยกินที่เหลือไม่เบื่อหน่าย
พ่อแม่เริ่มมีสุขทุกข์ผ่อนคลาย
สำเร็จตามเป้าหมายสมเจตนา

** เมื่อเสร็จภารกิจในตอนเช้า
จึงเข้าไพรไปหาผลไม้ป่า
เพื่อแม่พ่อที่รักและบูชา
เพื่อใช้เลี้ยงชีวาวันต่อไป

** ในครานั้นบรรดาเหล่าฝูงสัตว์
ต่างกระจายกระจัดทั้งน้อยใหญ่
ได้ติดตามตัวเขาเข้าพงไพร
ด้วยตั้งใจช่วยเหลือเกื้อการุณ

** ลิงทโมนกระโจนขึ้นหลังช้าง
ส่วนฝูงกวางอยู่กำกับเป็นทัพหนุน
ทั้งเสือสิงห์จริงจังหวังเจือจุน
สุวรรณสามผู้มีบุญบารมี

** เหล่ากระต่ายไล่มาข้าไปด้วย
ฝูงสุนัขจะช่วยอย่างเต็มที่
บรรดานกบอกว่าข้ากับกินรี
จะอยู่เฉยกับที่ได้อย่างไร

** ต่างร่วมมือช่วยเหลืออย่างเต็มที่
พร้อมจะมอบสิ่งดีดีที่ยิ่งใหญ่
คือมิตรภาพที่มีค่ากว่าสิ่งใด
เป็นน้ำใจแสนประเสริฐเลิศโลกา

** หลังจากได้สิ่งของต้องประสงค์
ต่างก็มุ่งหน้าตรงกลับไปหา
สองผัวเมียที่แก่เฒ่าวัยชรา
ที่บรรณศาลาในทันที

** เมื่อกลับถึงไปตักน้ำไม่รอช้า
อาบให้ผู้เลี้ยงดูมาอย่างเร็วรี่
ที่มิคสัมมตาสายวารี
เสร็จแล้วมีผลไม้ให้รับประทาน

** สุวรรณสามนั่งรับใช้อย่างใกล้ชิด
ตอบแทนเจ้าชีวิตทั้งสองท่าน
ด้วยสำนึกในบุญคุณตลอดกาล
ให้มีสุขสำราญตลอดมา

** ทั้งสามคนพ่อแม่ลูกต่างสุขสันต์
ทุกคืนวันเอาใจใส่และห่วงหา
มีความรักต่อกันสุดพรรณนา
รวบรัดว่ามีความสุขทุกชีวี

สมพงศ์  ชูสุวรรณ
บ้านกัลปังหา
ข้อมูล : พระเจ้าสิบชาติ  สำนักพิมพ์ธรรมสภา  
ภาพประกอบเรื่อง : ไพบุลย์  อินทศรี
บรรยายภาพ : บรรจบ  บรรณรุจิ

บันทึกการเข้า

นักกลอนตลาด ที่ผิดพลาดเรื่องสัมผัสเป็นนิสัย
คะแนนน้ำใจ 1621
เหรียญรางวัล:
มีความคิดสร้างสรรค์นักโพสดีเด่น
กระทู้: 246
ออฟไลน์ ออฟไลน์
"สร้างความฝันอันละไมในบทกลอน"
อีเมล์
   
« ตอบ #5 เมื่อ: 22 มกราคม 2560, 11:28:58 PM »

Permalink: Re: *** พระเจ้าสิบชาติคำกลอน พระชาติที่ ๓ พระสุวรรณสาม ***




พระเจ้าสิบชาติ  พระชาติที่ ๓  พระสุวรรณสาม
ตอนที่ ๕  ถูกยิง

** จะกล่าวถึงพระเจ้าปิลยักษ์
ผู้ครองอาณาจักรพาราณสี
ชอบเสด็จประพาสพนาลี
เพื่อล่าเนื้อเป็นที่ทรงสำราญ

** มาวันหนึ่งจึงเสด็จประพาสป่า
ถึงมิคสัมมตาอย่างอาจหาญ
เห็นสุวรรณสามพร้อมด้วยบริวาร
มาตักน้ำในสายธารเช่นทุกวัน

** เห็นฝูงสัตว์ห้อมล้อมจึงสงสัย
เกิดคำถามในพระทัยเป็นใครนั่น
เป็นมนุษย์เทวดาหรือคนธรรพ์
จากสวรรค์จำแลงแปลงกายา

** มีความเป็นอยู่กับหมู่สัตว์
ในดงที่รกชัฏแปลกหนักหนา
เราต้องสืบให้รู้ความเป็นมา
แต่ปัญหาเพราะเข้าไม่ถึงตัว

** เป็นเทวันคงเหาะขึ้นฟากฟ้า
เป็นนาคามุดดินไปได้ทั่ว
เข้าไปใกล้คงจะตกใจกลัว
ช่างมืดมัวสุดจะคิดทำอย่างไร

** วิธีเดียวเห็นว่าน่าได้ผล
ใช้เล่ห์กลเอาธนูยิงเข้าใส่
แล้วเราจึงค่อยย่องเข้าชิดใกล้
สังเกตดูเพื่อแน่ใจว่าใครกัน

** สุวรรณสามตักน้ำเสร็จเรียบร้อย
จึงค่อยค่อยลงอาบอย่างสุขสันต์
แหวกว่ายสายวารีชื่นชีวัน
ไม่รู้ว่าภัยมันจะบีฑา

** ครันอาบเสร็จจัดแจงรีบแต่งร่าง
เพื่อก้าวย่างสู่อาศรมเป็นเบื้องหน้า
ยกหม้อน้ำเร็วไวรีบไคลคลา
ด้วยเกรงว่าแม่พ่อจะรอนาน

** ท้าวปิลยักษ์ได้จังหวะจะทำร้าย
จังธนูพาดสายไม่กล่าวขาน
เล็งตัวของชายหนุ่มอย่างเชี่ยวชาญ
ปล่อยพระกาฬจากแหล่งวิ่งแข่งลม

** สู่อกซ้ายสุวรรณสามตามที่หวัง
ด้วยพลังที่มีอย่างเหมาะสม
น่าสงสารคนดีดีที่ต้องตรม
ใจระทมหม่นหมองนองน้ำตา

** สุวรรณสามล้มลงที่ตรงนั้น
ดังชีพพลันจะสิ้นดิ้นผวา
แสนเจ็บปวดรวดร้าวสุดพรรณนา
หรือต้องสิ้นชีวาในป่าไพร

** สร้างความแปลกประหลาดเกินจักหา
พวกสัตว์ป่านับร้อยทั้งน้อยใหญ่
เกิดความกลัววิ่งหนีจนแสนไกล
ทิ้งสุวรรณสามเอาไว้เพียงผู้เดียว

สมพงศ์  ชูสุวรรณ
บ้านกัลปังหา
ข้อมูล : พระเจ้าสิบชาติ  สำนักพิมพ์ธรรมสภา  
ภาพประกอบเรื่อง : ไพบุลย์  อินทศรี
บรรยายภาพ : บรรจบ  บรรณรุจิ

บันทึกการเข้า

นักกลอนตลาด ที่ผิดพลาดเรื่องสัมผัสเป็นนิสัย
คะแนนน้ำใจ 1621
เหรียญรางวัล:
มีความคิดสร้างสรรค์นักโพสดีเด่น
กระทู้: 246
ออฟไลน์ ออฟไลน์
"สร้างความฝันอันละไมในบทกลอน"
อีเมล์
   
« ตอบ #6 เมื่อ: 23 มกราคม 2560, 01:56:08 PM »

Permalink: Re: *** พระเจ้าสิบชาติคำกลอน พระชาติที่ ๓ พระสุวรรณสาม ***




พระเจ้าสิบชาติ  พระชาติที่ ๓  พระสุวรรณสาม
ตอนที่ ๖  พบหน้ามือธนู

** สุวรรณสามตั้งสติไว้คงมั่น
วางหม้อน้ำลงพลันหันแลเหลียว
ใครหนอใครทำได้ร้ายจริงเจียว
จึงขับเคี่ยวมุ่งร้ายหมายชีวี

** บาดแผลเริ่มออกฤทธิ์เจ็บยิ่งนัก
จึงเอนกายหมายพักพอเป็นที่
ผ่อนคลายความเจ็บปวดในฤดี
จากแผลที่ถูกยิงด้วยธนู

** หันศีรษะไปหาแม่และพ่อ
ที่ได้ก่อเกิดมาไม่ลบหลู่
เทิดทูนพระคุณไว้หมายเชิดชู
เพราะท่านได้เลี้ยงดูอุ้มชูมา

** โอ้พ่อจ๋าแม่จ๋าโปรดช่วยด้วย
ลูกคงม้วยชีวังสิ้นสังขาร์
ลูกเจ็บปวดรวดร้าวทั้งกายา
มีคนคิดจะฆ่าให้สิ้นใจ

** ไม่มีลูกพ่อแม่คงลำบาก
ต้องยุ่งยากกว่านี้สักเพียงไหน
การกินอยู่จะทำกันอย่างไร
จะมีใครหันหน้ามาดูแล

** ในที่สุดสุวรรณสามร้องถามว่า
ใครกันนะยิงข้าใครกันแน่
หลบทำไมรีบออกมาอย่าเชือนแช
อย่าเอาแต่หลบหน้าเพราะว่ากลัว

** เชิญออกมาให้เราได้รู้จัก
เพื่อทายทักพูดคุยและยิ้มหัว
เราไม่โกรธให้ดวงจิตต้องหมองมัว
ไปเกลือกกลั้วกับอบายให้ร้อนรน

** พระเจ้าปิลยักษ์ไม่รอช้า
รีบปรากฏกายออกมาไม่ถอยร่น
ยิ่งทำให้สงสัยในกมล
เขาเป็นคนประเภทไหนอย่างไรกัน

** สุวรรณสามถามไถ่ใจอยากรู้
ชีวิตเราเป็นอยู่ในไพรสัณฑ์
ไม่เคยมีศัตรูชั่วชีวัน
เหตุใดจึงหมายมั่นชีวิตเรา

** ปิลยักษ์กษัตริย์จึงตรัสตอบ
ตัวเราชอบล่าสัตว์ป่าจะไม่เหงา
แต่ท่านทำสัตว์หนีไปช้ำไม่เบา
จึงยิงเจ้าพอเข้าใจบ้างหรือยัง

** สุวรรณสามกล่าวว่าไม่น่าใช่
เหล่าพวกสัตว์รักใคร่แต่หนหลัง
เราร่วมสุขร่วมทุกข์รวมพลัง
ด้วยความหวังสรรค์สร้างแนวทางดี

** ฝ่ายจอมคนจนปัญญาจะโต้แย้ง
จึงแถลงไม่ใส่ร้ายหรือป้ายสี
เราเห็นเจ้าจึงสงสัยในท่าที
เป็นภูตผีหรือมนุษย์ยักษ์ครุฑา

** เราจึงยิงเพื่อจะได้เข้าใกล้ท่าน
พร้อมทั้งบริวารอันมากหน้า
เป็นเรื่องจริงทั้งหมดที่พูดจา
ไม่ได้พูดมุสาจงเชื่อเรา

สมพงศ์  ชูสุวรรณ
บ้านกัลปังหา
ข้อมูล : พระเจ้าสิบชาติ  สำนักพิมพ์ธรรมสภา  
ภาพประกอบเรื่อง : ไพบุลย์  อินทศรี
บรรยายภาพ : บรรจบ  บรรณรุจิ

บันทึกการเข้า

นักกลอนตลาด ที่ผิดพลาดเรื่องสัมผัสเป็นนิสัย
คะแนนน้ำใจ 1621
เหรียญรางวัล:
มีความคิดสร้างสรรค์นักโพสดีเด่น
กระทู้: 246
ออฟไลน์ ออฟไลน์
"สร้างความฝันอันละไมในบทกลอน"
อีเมล์
   
« ตอบ #7 เมื่อ: 23 มกราคม 2560, 01:58:54 PM »

Permalink: Re: *** พระเจ้าสิบชาติคำกลอน พระชาติที่ ๓ พระสุวรรณสาม ***



พระเจ้าสิบชาติ  พระชาติที่ ๓  พระสุวรรณสาม
ตอนที่ ๗  ทุกข์ที่ยิ่งกว่า

**  สุวรรณสามจึงเอ่ยเผยวจี
ตัวข้ามีพ่อแม่ที่แก่เฒ่า
ซ้ำตาบอดสองข้างช่างซบเซา
ข้าต้องเฝ้าเลี้ยงดูอยู่ด้วยกัน

** ต้องจัดเตรียมผลไม้ไว้ให้ท่าน
เพื่อได้รับประทานอย่างสุขสันต์
ต้องตักน้ำจากที่นี่ทุกวี่วัน
ให้ท่านนั้นล้างหน้าชำระกาย

** สุวรรณสามร้องรำพันจำนรรจ์ว่า
นับแต่นี้อนิจจาน่าใจหาย
ท่านต้องพบความทุกอีกมากมาย
ไม่เสื่อมคลายต่อไปใครดูแล

** คงลำบากยากเข็ญเป็นยิ่งนัก
ใครหนอจะฟูมฟักพ่อและแม่
อาจจะมีสัตว์ร้ายมารังแก
ต้องเดือดร้อนเป็นแน่จนสุดทน

** อาหารพอมีเหลือเพื่อทั้งสอง
ได้ประคองดำรงชีพยามขัดสน
สักหกวันผันผ่านไม่ร้อนรน
แต่ไม่พ้นความตายได้แน่นอน

** เพราะน้ำที่ใช้ดื่มมาหมดสิ้น
จะเอาที่ไหนดื่มกินพาทอดถอน
คงจะถึงสิ้นชีวาพาอาวรณ์
นึกสะท้อนกลืนกล้ำช้ำในทราวง

** น้ำตาไหลใจสะอื้นฝืนเจ็บช้ำ
อกระกำตรมไหม้ไม่คลายห่วง
เป็นด้วยกรรมต้องเผชิญเกินทักท้วง
ให้ก้าวล่วงเลยได้ดังหมายปอง

** สุวรรณสามครวญคร่ำร่ำร้องกล่าว
แสนปวดร้าวกายาพาเศร้าหมอง
ด้วยพิษร้ายธนูเข้าครอบครอง
จำใจต้องข่มไว้ในดวงมาน

** ทุกข์ครั้งนี้ถือว่าใหญ่หลวงมาก
แต่มาจากธรรมชาติของสังขาร
มีเกิดแก่เจ็บไข้และวายปราณ
เกิดมาแล้วต้องพบพานกันทุกคน

** แต่ทุกข์ที่ยิ่งใหญ่มหาศาล
คอยระรานทำให้ใจหมองหม่น
คือไม่ได้เห็นพ่อแม่สุดจะทน
มันเจ็บปวดเข้าไปจนขั้วหัวใจ

** พ่อแม่คงเศร้าสร้อยละห้อยหา
คงต้องนองน้ำตาเฝ้าร้องไห้
ร่ำร้องหาลูกยาอยู่ที่ใด
คือทุกข์เหนืออะไรที่กล่าวมา

** ความเจ็บปวดเพิ่มขึ้นเกินกล่าวขาน
สุดที่จะทรมานเป็นหนักหนา
เลือดทะลักจากบาดแผลสุดเยียวยา
คอเริ่มแห้งตาเริ่มพล่าพามืดมัว

** ตั้งสติแน่วแน่ไม่แปรผัน
มีจิตใจคงมั่นรับรู้ทั่ว
จะเกิดสิ่งใดขึ้นไม่หวาดกลัว
ดีหรือชั่วรับรู้ได้เป็นอย่างดี

สมพงศ์  ชูสุวรรณ
บ้านกัลปังหา
ข้อมูล : พระเจ้าสิบชาติ  สำนักพิมพ์ธรรมสภา  
ภาพประกอบเรื่อง : ไพบุลย์  อินทศรี
บรรยายภาพ : บรรจบ  บรรณรุจิ

บันทึกการเข้า

นักกลอนตลาด ที่ผิดพลาดเรื่องสัมผัสเป็นนิสัย
คะแนนน้ำใจ 1621
เหรียญรางวัล:
มีความคิดสร้างสรรค์นักโพสดีเด่น
กระทู้: 246
ออฟไลน์ ออฟไลน์
"สร้างความฝันอันละไมในบทกลอน"
อีเมล์
   
« ตอบ #8 เมื่อ: 23 มกราคม 2560, 02:14:09 PM »

Permalink: Re: *** พระเจ้าสิบชาติคำกลอน พระชาติที่ ๓ พระสุวรรณสาม ***



พระเจ้าสิบชาติ  พระชาติที่ ๓  พระสุวรรณสาม
ตอนที่ ๘  พระเจ้าปิลยักษ์ร้อนใจ

** เสียงที่สุวรรณสามร้องครวญคร่ำ
ได้ตอกย้ำความสำนึกอย่างเต็มที่
ปิลยักษ์ร้อนเร่าเศร้าโศกี
เรากระทำครั้งนี้ผิดเหลือเกิน

** สุวรรณสามสมเป็นยอดมนุษย์
ประเสริฐสุดสมควรจะสรรเสริญ
ชีวิตควรรุ่งเรืองและจำเริญ
แต่บังเอิญโชคชะตาต้องมลาย

** แม้ตัวเองเจ็บปวดรวดร้าวเหลือ
ไม่สนใจเลือดเนื้อที่สลาย
คอยเฝ้าแต่พร่ำบ่นร้องฟูมฟาย
กลัวพ่อแม่จะตายวายชีวา

** เรานี้นับว่าทำบาปหนัก
ทำครอบครัวน่ารักต้องโหยหา
ลูกคร่ำครวญถึงพ่อแม่แก่ชรา
สองยายตาแม่พ่อก็เหมือนกัน

** เป็นเรื่องที่เราต้องรับผิดชอบ
ในกรรมที่ประกอบอย่างแม่นมั่น
รับหน้าที่เลี้ยงดูชั่วชีวัน
เพื่อให้สองท่านนั้นสุขสบาย

** จึงตรัสบอกสุวรรณสามไม่รอช้า
เราอาสาเลี้ยงท่านไม่หนีหน่าย
ท่านจงอย่าคิดกังวลให้วุ่นวาย
เราจะรักไม่เสื่อมคลายขอสัญญา

** ตัวของเราจะสละราชสมบัติ
มาอยู่กับฝูงสัตว์ที่กลางป่า
คอยบำรุงผู้แก่เฒ่าดังวาจา
ดังที่ได้กล่าวมาจงวางใจ

** เราจะรักพ่อแม่ไม่แปรผัน
ทุกทุกวันแลดูอยู่ชิดใกล้
จะออกหาอาหารที่ราวไพร
และตักน้ำเอามาไว้ได้อาบกิน

** ทั้งนี้ก็เพราะว่าจอมกษัตริย์
เชื่อมั่นว่าราชสมบัติเราทั้งสิ้น
ไม่สามารถช่วยผู้มีราคิน
ทั่วฟากฟ้าพื้นดินให้สิ้นกรรม

** จะต้องถูกไฟนรกคอยหมกไหม้
ซึ่งทรัพย์สินช่วยไม่ได้ถ้าถลำ
อันกรรมเวรต้องให้ผลเมื่อเราทำ
จะน้อมนำเราเกิดทุกข์สุขไม่มี

** พระราชาได้ตรัสถามสุวรรณสาม
เพราะอยากทราบเนื้อความให้ถ้วนถี่
โดยเฉพาะหนทางจากตรงนี้
ไปสู่ที่ศาลาของตายาย

สมพงศ์  ชูสุวรรณ
บ้านกัลปังหา
ข้อมูล : พระเจ้าสิบชาติ  สำนักพิมพ์ธรรมสภา  
ภาพประกอบเรื่อง : ไพบุลย์  อินทศรี
บรรยายภาพ : บรรจบ  บรรณรุจิ

บันทึกการเข้า

นักกลอนตลาด ที่ผิดพลาดเรื่องสัมผัสเป็นนิสัย
คะแนนน้ำใจ 1621
เหรียญรางวัล:
มีความคิดสร้างสรรค์นักโพสดีเด่น
กระทู้: 246
ออฟไลน์ ออฟไลน์
"สร้างความฝันอันละไมในบทกลอน"
อีเมล์
   
« ตอบ #9 เมื่อ: 23 มกราคม 2560, 02:16:55 PM »

Permalink: Re: *** พระเจ้าสิบชาติคำกลอน พระชาติที่ ๓ พระสุวรรณสาม ***



พระเจ้าสิบชาติ  พระชาติที่ ๓  พระสุวรรณสาม
ตอนที่ ๙  ลาตาย

** สุวรรณสามกราบทูลองค์จอมราช
เลยหัวนอนข้าพระบาทดังมาดหมาย
มีทางเดินเล็กเล็กเดินสบาย
ไม่ไกลใกล้กึ่งเสียงกู่ดูให้ดี

** มีอาศรมตั้งอยู่อย่างสงบ
จะได้พบสองยายตาอย่าหน่ายหนี
คือบิดามารดาเจ้าชีวี
ของข้าพระองค์นี้นั่งเฝ้าคอย

** รอการกลับจากป่าของลูกรัก
ด้วยห่วงนักเมื่อลูกไกลใจเหงาหงอย
ไม่มีสุขห่วงหามองตาลอย
ด้วยหวังให้ลูกน้อยรีบกลับมา

** คนถูกยิงยกมือประณมไหว้
ขอร้องให้ปิลยักษ์โปรดรักษา
ซึ่งคำสัจที่ตรัสเป็นสัญญา
จะดูแลพ่อแม่ข้าจนสิ้นใจ

** ตัวของข้าจะได้ตายอย่างเป็นสุข
ไม่ต้องทุกข์เป็นห่วงสองผู้ใหญ่
เรื่องจะจะต้องอดตายในสายไพร
เพราะว่าได้เจ้าพารามาเลี้ยงดู

** จอมกษัตริย์รับคำอย่างแม่นมั่น
เรายืนยันคำพูดเมื่อสักครู่
จะพูดจริงทำจริงสิ่งเชิดชู
วงศ์ตระกูลดำรงอยู่ไปแสนนาน

** ความเจ็บปวดทวีรุนแรงขึ้น
จนรู้สึกว่ามึนน่าสงสาร
น้ำตาไหลเพราะความปวดมารุกราน
ทรมานยิ่งนักเกินจักทน

** จึงเอ่ยกล่าวข้าแต่องค์พระทรงศรี
โปรดปรานีเมตตาข้าฯสักหน
ฝากข้อความถึงพ่อแม่ทั้งสองคน
ขอให้ท่านสุขล้นจนสิ้นลม

** ข้านี้มีบุญน้อยด้อยวาสนา
ได้เกิดมามีเคราะห์กรรมจำขื่นขม
ปล่อยให้ท่านทั้งสองต้องโศกตรม
เศร้าระทมอกกลัดหนองนองน้ำตา

** เรียนท่านว่าตัวของข้าฯขอกราบเท้า
และโปรดเล่าเรื่องให้ฟังสิ้นกังขา
พอกล่าวจบสลบไปไม่พูดจา
ปิลยักษ์ราชาคิดว่าตาย

** องค์ราชันใช้พระหัตถ์ลูบที่ผม
สุวรรณสามด้วยชื่นชมแต่ใจหาย
ที่มือตนกลายเป็นมือทำลาย
ให้คนดีต้องวอดวายสิ้นชีวา

** ตัวเจ้าเป็นมนุษย์สุดประเสริฐ
แสนดีเลิศสูงยิ่งด้วยคุณค่า
ถูกทำร้ายไม่เคยเอ่ยวาจา
ให้เราช้ำอุราสักนิดเดียว

** การกระทำครั้งนี้ผิดยิ่งนัก
สุดที่จักอภัยได้ใจห่อเหี่ยว
ต้องไถ่บาปที่ทำกรรมหนักเชียว
แทบจะหมดแรงเรี่ยวดำรงกาย

สมพงศ์  ชูสุวรรณ
บ้านกัลปังหา
ข้อมูล : พระเจ้าสิบชาติ  สำนักพิมพ์ธรรมสภา  
ภาพประกอบเรื่อง : ไพบุลย์  อินทศรี
บรรยายภาพ : บรรจบ  บรรณรุจิ

บันทึกการเข้า

นักกลอนตลาด ที่ผิดพลาดเรื่องสัมผัสเป็นนิสัย
คะแนนน้ำใจ 1621
เหรียญรางวัล:
มีความคิดสร้างสรรค์นักโพสดีเด่น
กระทู้: 246
ออฟไลน์ ออฟไลน์
"สร้างความฝันอันละไมในบทกลอน"
อีเมล์
   
« ตอบ #10 เมื่อ: 23 มกราคม 2560, 02:20:05 PM »

Permalink: Re: *** พระเจ้าสิบชาติคำกลอน พระชาติที่ ๓ พระสุวรรณสาม ***



พระเจ้าสิบชาติ  พระชาติที่ ๓  พระสุวรรณสาม
ตอนที่ ๑๐  เทพธิดาสุนทรี

** จะกล่าวถึงเทพธิดามารศรี
ชื่อว่า “สุนทรี” งามเฉิดฉาย
คอยคุ้มครองสุวรรณสามพ่อยอดชาย
ให้เป็นอยู่สุขสบายตลอดมา

** อดีตชาติเคยเป็นแม่และลูก
ต่างพันผูกรักกันนานหนักหนา
ถึงชาตินี้ยังผูกพันทุกเวลา
แต่บังเอิญอนิจจาคราใช้กรรม

** เป็นวันที่มีประชุมกันพร้อมหน้า
ของเทวสภาจนใกล้ค่ำ
สุนทรีจึงไม่ทราบการกระทำ
ที่น้อมนำทุกข์มาเกิดฆ่ากัน

** ครั้นเสร็จแล้วกลับที่พักจึงได้รู้
รีบไปศุ๋ที่เกิดเหตุในไพรสัณฑ์
กล่าวกับปิลยักษ์จอมราชัน
ที่กำลังจะผายผันไปศาลา

** พระองค์ได้ทำร้ายผู้บริสุทธิ์
เปรียบประดุจน้ำค้างกลางเวหา
พระองค์ทำบาปหนักจักอัปรา
ไฟนรกไหม้กายาคราสิ้นใจ

** จอมกษัตริย์แห่งกรุงพาราณสี
ทรงสดับเสียงสุนทรีผู้มาใหม่
มองไม่เห็นว่าเธออยู่ที่ใด
เสียงดังในอากาศก้องกังวาน

** เทพธิดาจึงเอ่ยเปิดเผยว่า
มีสวรรค์เป็นเบื้องหน้าถ้าตัวท่าน
คอยเลี้ยงดูพ่อแม่แผ่เจือจาน
ให้มีสุขสำราญเป็นอย่างดี

** เหมือนกับสุวรรณสามเลี้ยงมาก่อน
จะกินนอนใส่ใจไม่หน่ายหนี
คอยนวดเฟ้นเมื่อเมื่อยล้ายามราตรี
เฝ้าพัดวีหาน้ำท่ามาเปรอปรน

** พระเจ้าปิลยักษ์ทรงเชื่อมั่น
จะได้ไปสวรรค์ด้วยเหตุผล
เป็นตัวแทนสุวรรณสามเลี้ยงสองคน
ไม่ให้มีตกหล่นจนเสียการ

** ทรงทำการคารวะร่างของเขา
โดยนำเอาดอกไม้มาประสาน
เอาน้ำมาพรมตัวไม่ให้นาน
ทำประทักษิณเป็นการขอขมา

** ก้มกราบสุวรรณสามลุแก่โทษ
ขอจงโปรดอโหสิบาปที่หนา
ได้กระทำลงไปไม่เจตนา
ที่จะฆ่าให้ตายวายชีวัน

** ก้มลงหยิบหม้อน้ำขึ้นใส่บ่า
แล้วมุ่งหน้าสู่อาศรมดังเสกสรร
เพื่อจะทำหน้าที่มิช้าพลัน
ตามคำมั่นที่ให้ไว้ได้เป็นจริง

สมพงศ์  ชูสุวรรณ
บ้านกัลปังหา
ข้อมูล : พระเจ้าสิบชาติ  สำนักพิมพ์ธรรมสภา  
ภาพประกอบเรื่อง : ไพบุลย์  อินทศรี
บรรยายภาพ : บรรจบ  บรรณรุจิ

บันทึกการเข้า

นักกลอนตลาด ที่ผิดพลาดเรื่องสัมผัสเป็นนิสัย
คะแนนน้ำใจ 1621
เหรียญรางวัล:
มีความคิดสร้างสรรค์นักโพสดีเด่น
กระทู้: 246
ออฟไลน์ ออฟไลน์
"สร้างความฝันอันละไมในบทกลอน"
อีเมล์
   
« ตอบ #11 เมื่อ: 23 มกราคม 2560, 02:22:55 PM »

Permalink: Re: *** พระเจ้าสิบชาติคำกลอน พระชาติที่ ๓ พระสุวรรณสาม ***



พระเจ้าสิบชาติ  พระชาติที่ ๓  พระสุวรรณสาม
ตอนที่ ๑๑  แจ้งข่าวร้าย

** ฤๅษีทุกุละนั่งอยู่หน้าอาศรม
พักผ่อนอย่างรื่นรมย์สุขสมยิ่ง
ช่างโชคดีมีลูกชายได้พักพิง
ปรนนิบัติไม่ทอดทิ้งให้ร้อนรน

** ได้ยินเสียงฝีเท้าเข้ามาใกล้
ก็พาให้สงสัยใจสับสน
เป็นใครหนามุ่งหน้ามาหาตน
จะหวังผลสิ่งใดไม่รู้เลย

** จึงร้องถามออกไปเสียงใครนั่น
มีประสงค์อะไรกันจงเปิดเผย
อย่าให้เป็นเงื่อนงำทำเฉยเมย
ขอจงรีบเฉลยอย่ารีรอ

** ปิลยักษ์กษัตริย์จึงตรัสว่า
ตัวของข้าสุวรรณสามลูกของพ่อ
จำไม่ไม่ได้หรือว่าจะแกล้งล้อ
จะมีใครกันหนอพ่อคิดดู

** ทุกุละจึงตอบว่าไม่ใช่
ข้าจำลูกของข้าได้อย่าลบหลู่
เขาจะเดินเสียงไม่ดังพวกเรารู้
เพราะสังเกตกันอยู่เป็นประจำ

** ปิลยักษ์กษัตริย์ยอมจำนน
เพราะอับจนต่อเหตุผลอันคมขำ
จึงยอมรับความจริงสิ่งที่ทำ
เหมือนดังคำของชายผู้ชรา

** ข้าคือพระเจ้ากรุงพาราณสี
ออกล่าสัตว์มาถึงนี่กลางพฤกษา
เพียงผู้เดียวไม่มีใครตามมา
ขอจงเชื่อวาจาอย่าเคลือบแคลง

** ฤๅษีเฒ่าฟังวจีที่ขานไข
จึงรู้สึกดีใจไม่เสแสร้ง
กล่าวต้อนรับด้วยจิตใจไม่ระแวง
พร้อมแสดงความยินดีแสนปรีดา

** พร้อมทูลเชิญให้พระองค์ประทับนั่ง
อย่างระมัดระวังเป็นหนักหนา
นำน้ำดื่มและผลไม้เอาออกมา
ถวายองค์ราชาด้วยไมตรี

** พระเจ้าปิลยักษ์ได้ตรัสถาม
เรื่องของสุวรรณสามต่อฤๅษี
ทุกุละจึงรีบตอบในทันที
ลูกคนนี้น่าชื่นชมสมเป็นชาย

** มีรูปร่างดังว่าพญาหงส์
ดูเอวองค์สง่าน่าใจหาย
แต่ที่ดีกว่าหน้าตาและรูปกาย
คือจิตใจไม่เสื่อมคลายกตัญญู

** พระเจ้าปิลยักษ์จึงแจ้งข่าว
ให้รับรู้เรื่องราวที่หดหู่
สุวรรณสามที่น่ารักน่าเชิดชู
ได้สิ้นใจเมื่อสักครู่ริมฝั่งธาร

** ครั้นรู้ว่าลูกชายถึงตายดับ
สุดจะรับความจริงได้น่าสงสาร
ถึงกับอึ้งนิ่งเงียบไปตั้งนาน
ใจร้าวรานหน้าถอดสีมีทุกข์รุม

สมพงศ์  ชูสุวรรณ
บ้านกัลปังหา
ข้อมูล : พระเจ้าสิบชาติ  สำนักพิมพ์ธรรมสภา  
ภาพประกอบเรื่อง : ไพบุลย์  อินทศรี
บรรยายภาพ : บรรจบ  บรรณรุจิ

บันทึกการเข้า

นักกลอนตลาด ที่ผิดพลาดเรื่องสัมผัสเป็นนิสัย
คะแนนน้ำใจ 1621
เหรียญรางวัล:
มีความคิดสร้างสรรค์นักโพสดีเด่น
กระทู้: 246
ออฟไลน์ ออฟไลน์
"สร้างความฝันอันละไมในบทกลอน"
อีเมล์
   
« ตอบ #12 เมื่อ: 23 มกราคม 2560, 02:25:23 PM »

Permalink: Re: *** พระเจ้าสิบชาติคำกลอน พระชาติที่ ๓ พระสุวรรณสาม ***



พระเจ้าสิบชาติ  พระชาติที่ ๓  พระสุวรรณสาม
ตอนที่ ๑๒  ไปหาลูก

** ฤๅษิณีปาริกาผู้เป็นแม่
นางมีแต่ร้อนใจดังไฟสุม
ความวิปโยคโศกเศร้าเข้าครอบคลุม
เมื่อรู้ว่าชายหนุ่มสิ้นชีวา

** สุดที่จะอดกลั้นความทุกข์โศก
ดุจดังโลกสลายให้ห่วงหา
เจ้าทิ้งแม่จากไปไกลลับตา
ชีวิตแม่จะไร้ค่าดังธุลี

** นางครวญคร่ำร่ำไห้ใจแทบขาด
แม่มุ่งมาดฝากไข้และฝากผี
เมื่อตอนที่แม่ตายวายชีวี
หวังให้ลูกเป็นผู้ที่คอยจัดการ

** ทุกุละฤๅษีมีแต่เศร้า
แต่จะทำอย่างไรเล่าเรื่องสังขาร
มีเกิดแก้เจ็บไข้และวายปราณ
ไม่มีใครอยู่นานคู่โลกา

** คนทั้งสองจึงได้ทูลร้องขอ
อนุเคราะห์ด้วยเถิดหนอพระเจ้าข้า
จงโปรดนำเราสองคนอย่ารอช้า
รีบไปหาศพลูกชายโดยเร็วไว

** พระราชาเห็นว่ามืดค่ำแล้ว
การเดินไปในแนวแถวป่าใหญ่
มีอันตรายและเสี่ยงมากเกินไป
จึงผัดผ่อนขอให้เป็นพรุ่งนี้

** แต่ฤๅษีทั้งสองขอร้องว่า
จงเมตตาเถิดหนาโปรดด่วนจี๋
ถ้ารอช้าเราคงตายในทันที
ขอพระองค์จงมีเมตตาเรา

** พระราชาเอ่ยว่าถ้าอย่างนั้น
มาเถอะไปด้วยกันอย่าโศกเศร้า
เราจะคอยดูแลไม่ดูเบา
เปรียบดังเจ้าคือพ่อแม่ผู้แก่กาย

** พอไปถึงฤๅษีทุกุละ
ช้อนศีรษะสุวรรณสามยามเดือนหงาย
พาดบนตักด้วยรักไม่เสื่อมคลาย
แม่ยกเท้าลูกชายวางตักตน

** ทั้งสองคอยครวญคร่ำร่ำร้องไห้
เฝ้าพิร่ำพิไรแสนหมองหม่น
เห็นลูกนอนนิ่งนิ่งยิ่งสุดทน
คล้ายกับคนมีสติที่เลือนราง

** บางครั้งเผลอหันไปพูดกับลูก
ด้วยพันผูกจากใจไม่เหินห่าง
ช่างหลับใหลไม่ไหวติงยิ่งระคาง
จงลืมตาพูดบ้างช่างใจดำ

** ปิลยักษ์ทอดพระเนตรสองฤๅษี
ทรมานในฤดีที่ถลำ
สร้างความชั่วมัวหมองต้องระกำ
ที่ได้ทำลายชีวิตผิดครรลอง

สมพงศ์  ชูสุวรรณ
บ้านกัลปังหา
ข้อมูล : พระเจ้าสิบชาติ  สำนักพิมพ์ธรรมสภา  
ภาพประกอบเรื่อง : ไพบุลย์  อินทศรี
บรรยายภาพ : บรรจบ  บรรณรุจิ

บันทึกการเข้า

นักกลอนตลาด ที่ผิดพลาดเรื่องสัมผัสเป็นนิสัย
คะแนนน้ำใจ 1621
เหรียญรางวัล:
มีความคิดสร้างสรรค์นักโพสดีเด่น
กระทู้: 246
ออฟไลน์ ออฟไลน์
"สร้างความฝันอันละไมในบทกลอน"
อีเมล์
   
« ตอบ #13 เมื่อ: 23 มกราคม 2560, 02:28:45 PM »

Permalink: Re: *** พระเจ้าสิบชาติคำกลอน พระชาติที่ ๓ พระสุวรรณสาม ***



พระเจ้าสิบชาติ  พระชาติที่ ๓  พระสุวรรณสาม
ตอนที่ ๑๓  เหตุอัศจรรย์

** ฤๅษิณีวางมือทาบที่อก
เพื่อป้องปกลูกชายอย่าได้หมอง
ให้ไปดีมีแต่สุขสมใจปอง
จงครอบครองวิมานตระการตา

** รู้สึกว่าร่างกายนั้นยังอุ่น
ขอขอบคุณเทพเจ้าเป็นหนักหนา
ที่จะให้วิญญาณกลับคืนมา
กลับคืนสู่กายาอย่าเคลื่อนคลาย

** จึงตั้งสัตยาธิษฐาน
จงบันดาลให้ยาพิษจงเหือดหาย
จากร่างของสุวรรณสามหมดทั้งกาย
ขอให้ข้าสมหมายดังใจคิด

** ทุกุละได้ฟังไม่รอช้า
จึงได้ตั้งสัตยาต่อศักดิ์สิทธิ์
ให้ลูกชายกลับคืนฟื้นชีวิต
ดังใจคิดหมายปองเราสองคน

** จบคำของสองฤๅษีมีเรื่องฉาว
คำอธิษฐานที่กล่าวบังเกิดผล
สุวรรณสามพลิกกายไม่วายชนม์
ดังเทพยดาช่วยดลให้พ้นตาย

**เทพธิดาสุนทรีเห็นดังนั้น
จึงตั้งใจช่วยกันดังมั่นหมาย
ตั้งสัตยาธิษฐานแย้มยิ้มพราย
เพื่อให้อดีตลูกชายหายทันที

** ครั้นพอเทพธิดาได้กล่าวจบ
ก็ได้พบสุวรรณสามเกษมศรี
ลุกขึ้นนั่งอย่างดีใจในทันที
ทุกคนต่างเปรมปรีดิ์ทุกข์หายไป

** ขณะนั้นก็ได้เกิดเหตุประหลาด
อัศจรรย์เกินคาดแสนยิ่งใหญ่
เหตุสี่อย่างเกิดขึ้นในทันใด
จะขานไขให้ฟังโปรดนั่งลง

** หนึ่งบิดามารดาหายตาบอด
นับเป็นยอดภูมิใจใฝ่ประสงค์
เป็นความสุขที่ทุกคนมุ่งจำนง
สำเร็จดังใจจงคงเพราะบุญ

** สองเป็นวาระเวลาอรุณรุ่ง
แสงทองพุ่งจับขอบฟ้ามาช่วยหนุน
ช่างสวยงามในตอนรุ่งอรุณ
เพื่อแทนคุณคนดีน่านิยม

** สามบุคคลทั้งหมดได้ลอยล่อง
ไปนั่งมองหน้ากันที่อาศรม
ต่างสรรเสริญเยินยอและนิยม
ในน้ำใจที่อุดมด้วยเมตตา

** สี่สุวรรณสามฟื้นคืนชีพ
เปรียบดังกลีบดอกไม้กลางพฤกษา
ขยายบานรอรับภุมรา
มาคลอเคล้าเพื่อหาน้ำหวานกิน

** สุวรรณสามมองดูคนทั้งหลาย
แล้วยิ้มที่ไม่ไม่ตายทุกข์หมดสิ้น
ทุกคนจงมีสุขเป็นอาจิณ
ชั่วชีวินปลอดทุกข์สุขสบาย

** แล้วจึงหันไปทางพ่อและแม่
เป็นบุญแท้ลูกปลอดภัยไม่เสียหาย
ได้เลี้ยงดูแม่พ่อจนวันตาย
ไม่เสียดายชีวิตนี้ที่เกิดมา

สมพงศ์  ชูสุวรรณ
บ้านกัลปังหา
ข้อมูล : พระเจ้าสิบชาติ  สำนักพิมพ์ธรรมสภา  
ภาพประกอบเรื่อง : ไพบุลย์  อินทศรี
บรรยายภาพ : บรรจบ  บรรณรุจิ

บันทึกการเข้า

นักกลอนตลาด ที่ผิดพลาดเรื่องสัมผัสเป็นนิสัย
คะแนนน้ำใจ 1621
เหรียญรางวัล:
มีความคิดสร้างสรรค์นักโพสดีเด่น
กระทู้: 246
ออฟไลน์ ออฟไลน์
"สร้างความฝันอันละไมในบทกลอน"
อีเมล์
   
« ตอบ #14 เมื่อ: 23 มกราคม 2560, 02:31:13 PM »

Permalink: Re: *** พระเจ้าสิบชาติคำกลอน พระชาติที่ ๓ พระสุวรรณสาม ***



พระเจ้าสิบชาติ  พระชาติที่ ๓  พระสุวรรณสาม
ตอนที่ ๑๔  สอนพระเจ้าปิลยักษ์

** สุวรรณสามกราบทูลจอมกษัตริย์
ที่อุบัติเหตุอัศจรรย์สุดหรรษา
ข้าพระองค์พลิกฟื้นคืนชีวา
เป็นเพราะว่าเลี้ยงดูบุพการี

** อันได้แก่แม่พ่อผู้ก่อเกิด
ให้กำเนิดลูกยาสง่าศรี
มอบความรักความเมตตาและปรานี
แกลูกนี้ตราบชั่วชีวิตวาย

** พระราชาฟังคำสุวรรณสาม
ก็เกิดความเลื่อมใสไม่จางหาย
ศรัทธามั่นเกิดในใจไม่เสื่อมคลาย
คิดหลีกหนีอบายให้ห่างไกล

** สุวรรณสามถือโอกาสนำคำสอน
มาเสนอเป็นขั้นตอนเพื่อมอบให้
องค์ราชาปิลยักษ์จำใส่ใจ
เพื่อนำไปปฏิบัติขจัดพาล

** อันพระองค์เปรียบดังต้นไม่ใหญ่
แผ่ร่มเงาด้วยใบทั้งกิ่งก้าน
เพื่อสงเคราะห์แก่เหล่าบริวาร
ได้บังเกิดความสำราญอย่างยั่งยืน

** ขอพระองค์จงทำดีต่อแม่พ่อ
ผู้เกิดก่อรักลูกกว่าใครอื่น
รักเช้าเย็นกลางวันและกลางคืน
ไม่เคยฝืนทำเป็นรักสักครั้งเลย

** จงรักบุตรธิดามเหสี
ทั้งผู้มีความสัมพันธ์อย่าพลันเฉย
มิตรอำมาตย์ไพล่พลคนคุ้นเคย
อย่าเฉยเมยคนรอบกายให้เมตตา

** จงบำรุงสมณะพราหมณ์ตามเหมาะสม
จะเป็นที่ชื่นชมสมปรารถนา
ประพฤติสุจริตใจกายวาจา
สิ้นชีวาไปสวรรค์อย่างมั่นคง

** พระเจ้ากรุงพาราณสีมีวาทะ
เป็นสัจจะคงมั่นตามประสงค์
ดังคำของสุวรรณสามอย่าพะวง
เราตกลงตามกล่าวมาอย่ากังวล

** จึงทรงขอขมาสุวรรณสาม
อย่าได้ตามจองเวรให้หมองหม่น
กราบอำลาฤๅษีทั้งสองคน
รีบกลับเมืองของตนไม่รีรอ

** บำเพ็ญบุญประพฤติธรรมสร้างกุศล
ด้วยหวังผลทานศีลมาหุ้มห่อ
ให้หนีพ้นจากโลกันต์หมั่นพะนอ
บังเกิดก่อในสวรรค์ชั้นวิมาน

** สุวรรณสามพร้อมฤๅษีพ่อและแม่
ต่างดูแลซึ่งกันหมั่นประสาน
เพิ่มความรักความเข้าใจไม่ร้าวราน
ต่างเรียกขานถามไถ่ไม่ดูดาย

** บำเพ็ญธรรมด้วยหวังฝังกิเลส
อันเป็นเหตุหมองเศร้าเฝ้ามุ่งหมาย
พ้นจากทุกข์สุขมาละงมงาย
ถึงคราวตายสุคติที่หมายปอง

** สามฤๅษีบรรลุฌานสมาบัติ
ได้ขจัดอกุศลพ้นเศร้าหมอง
ครั้นวายชนม์ผลส่งให้ได้ครอบครอง
วิมานทองบนสวรรค์ชั้นแห่งพรหม

สมพงศ์  ชูสุวรรณ
บ้านกัลปังหา
ข้อมูล : พระเจ้าสิบชาติ  สำนักพิมพ์ธรรมสภา  
ภาพประกอบเรื่อง : ไพบุลย์  อินทศรี
บรรยายภาพ : บรรจบ  บรรณรุจิ


บันทึกการเข้า

หน้า: [1] 2   ขึ้นบน
 
 
กระโดดไป: