-/> *** นรก ๘ ขุม ***

หน้า: [1]   ลงล่าง
 
ผู้เขียน หัวข้อ: *** นรก ๘ ขุม ***  (อ่าน 4757 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
นักกลอนตลาด ที่ผิดพลาดเรื่องสัมผัสเป็นนิสัย
คะแนนน้ำใจ 1621
เหรียญรางวัล:
มีความคิดสร้างสรรค์นักโพสดีเด่น
กระทู้: 246
ออฟไลน์ ออฟไลน์
"สร้างความฝันอันละไมในบทกลอน"
อีเมล์
   
« เมื่อ: 09 พฤศจิกายน 2559, 12:33:51 PM »

Permalink: *** นรก ๘ ขุม ***



นรก ๘ ขุม

** นรกมีแปดขุม
เพื่อควบคุมคนทำผิด
ทุกคนควรครุ่นคิด
ทุจริตเลิกกระทำ

** ความชั่วนั้นไม่ดี
เลิกเสียทีอย่าถลำ
ความดีดีประจำ
จงรีบทำจะสุขใจ

** ทุกคนในโลกนี้
ผลกรรมดีไม่ไปไหน
จงรีบสะสมไว้
ส่งผลให้ไปที่ดี

** ทำชั่วจะมัวหมอง
ตายแล้วต้องถูกย่ำยี
นรกอเวจี
เป็นที่หมายไปใช้กรรม

** ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต
คือความผิดบ้าระห่ำ
ลักทรัพย์แสนระยำ
เป็นกรรมชั่วจะมัวหมอง

** การทำผิดในกาม
มันเลวทรามผิดครรลอง
มุสาน้ำตานอง
ต้องใช้กรรมในโลกันตร์

** อีกทั้งดื่มน้ำเมา
จะอับเฉาต้องโศกศัลย์
ที่ร้ายสุดรำพัน
คืออนันตริยกรรม

** ฆ่าแม่และฆ่าพ่อ
กรรมหนักหนอจะกระหน่ำ
ต้องไปชดใช้กรรม
ในนรกหมกกายี

** ไม่มีได้ผุดเกิด
รู้ไว้เถิดความผิดนี้
ต้องทุกข์ไปนานปี
จะไม่มีวันสุขเลย

** รำพันเรื่องนรก
จะขอยกมาเฉลย
คิดตามกันเถิดเอย
นรกนั้นมีจริงจริง

** ขอกล่าวทั้งแปดขุม
ว่าร้อนรุ่มเป็นอย่างยิ่ง
ติดตามอย่าประวิง
พิจารณาดูดีดี



สมพงศ์  ชูสุวรรณ
บ้านกัลปังหา

บันทึกการเข้า

นักกลอนตลาด ที่ผิดพลาดเรื่องสัมผัสเป็นนิสัย
คะแนนน้ำใจ 1621
เหรียญรางวัล:
มีความคิดสร้างสรรค์นักโพสดีเด่น
กระทู้: 246
ออฟไลน์ ออฟไลน์
"สร้างความฝันอันละไมในบทกลอน"
อีเมล์
   
« ตอบ #1 เมื่อ: 09 พฤศจิกายน 2559, 01:04:40 PM »

Permalink: Re: *** นรก ๘ ขุม ***




นรกขุมที่ ๑ สัญชีวมหานรก

** นรกขุมที่หนึ่ง
ฟังแล้วพึงคิดถ้วนถี่
ตายแล้วฟื้นชีวี
มารับกรรมอีกต่อไป

** ไม่มีที่สิ้นสุด
ไม่อาจหยุดใช้กรรมได้
นรกขุมนี้ไซร้
ต้องอยูนานล้านล้านปี

** ผู้ที่ชอบฆ่าสัตว์
จะถูกจัดอยู่ขุมนี้
ฆ่าสัตว์นั้นไม่ดี
ฆ่าตัวตายร้ายพอกัน

** ชอบฆ่ามดทั้งหลาย
ตบยุงตายจ้าละหวั่น
ปาณาติบาทนั้น
จะต้องตกอเวจี

** อีกทั้งฆ่ามนุษย์
จงรีบหยุดกันเสียที
อำนาจที่เกิดมี
ทำไม่ดีเหตุไฉน

** หรือพวกมหาโจร
ควรจับโยนในกองไฟ
ขโมยทรัพย์เขาไป
ถ้าไม่ให้ก็ฆ่าฟัน

** พวกคนที่กล่าวมา
ศีลปาณาฯ ขาดสบั้น
ตายไปตกโลกันตร์
ขุมที่หนึ่งอย่างแน่นอน

** นรกขุมนี้หรือ
เลื่องลือชื่อจนกระฉ่อน
โหดร้ายเมื่อม้วยมรณ์
แสนสาหัสอย่างรุนแรง

** นายนิรยบาล
มัดประจานแล้วทิ่มแทง
นอนบนแผ่นเหล็กแดง
เพราะไฟเผาอยู่ทุกวัน

** จนเหลือแต่กระดูก
วิญญาณถูกแยกจากกัน
แล้วเกิดโดยเร็วพลัน
ลมกรรมนั้นมันพัดพา

** นรกขุมนี้หรือ
เลื่องลือชื่อเสียนักหนา
มีชื่อเรียกกันมา
"สัญชีวมหานรก"

** สำหรับผู้ทำผิด
จิตใจคิดสกปรก
ฆ่าสัตว์ดังหยิบยก
มากล่าวไว้จงเกรงกลัว

** จงทำแต่ความดี
อย่าได้มีการทำชั่ว
ชีวิตไม่หมองมัว
มีแต่สุขทุกวันคืน



สมพงศ์  ชูสุวรรณ
บ้านกัลปังหา

บันทึกการเข้า

นักกลอนตลาด ที่ผิดพลาดเรื่องสัมผัสเป็นนิสัย
คะแนนน้ำใจ 1621
เหรียญรางวัล:
มีความคิดสร้างสรรค์นักโพสดีเด่น
กระทู้: 246
ออฟไลน์ ออฟไลน์
"สร้างความฝันอันละไมในบทกลอน"
อีเมล์
   
« ตอบ #2 เมื่อ: 09 พฤศจิกายน 2559, 01:14:59 PM »

Permalink: Re: *** นรก ๘ ขุม ***




นรกขุมที่ ๒ กาฬสุตตมหานรก

** นรกขุมที่สอง
ยิ่งหม่นหมองสุดจักฝืน
ประหารเหมือนขุมอื่น
แต่ไม่ตายสุดทนทาน

** ลงโทษด้วยเครื่องมือ
มีมีดเลื่อยจอบและขวาน
สุดแสนทรมาน
ถูกขึงด้วยเชือกสีดำ

** เพื่อเป็นสัญลักษณ์
เมื่อเลื่อยจักไม่ถลำ
ตรงตามรอยที่ทำ
แบ่งแยกร่างเพื่อประจาน

** เริ่มต้นด้วยด้ายใหญ่
ทำด้วยเหล็กแสนไพศาล
ขนาดเท่าต้นตาล
ตีเป็นเส้นบนลำตัว

** แล้วนำเครื่องมือมา
เลื่อยกายาไปจนทั่ว
แยกร่างช่างน่ากลัว
แต่ไม่ตายวายชีวัน

** เริ่มต้นทำกันใหม่
เลื่อยเรื่อยไปไม่ไหวหวั่น
อย่างนี้ทุกทุกวัน
ใช้เวลาอย่างยาวนาน

** สิบสองล้านล้านปี
ตามคัมภีร์ที่กล่าวขาน
เชื่อกันแต่โบราณ
น่ากลัวมากหากคิดทำ

** ผิดศีลข้อที่สอง
จะหม่นหมองสุดชอกช้ำ
ผลคือต้องรับกรรม
ในนรกหมกไหม้ตัว

** นายนิรยบาล
ใช้มีดขวานแล่จนทั่ว
ทำซ้ำทั่วลำตัว
บนแผ่นเหล็กที่ร้อนแดง

** คนที่ลักขโมย
ร้องโอดโอยน่าแขยง
ต้องอยู่ในกำแพง
ของนรกตลอดกาล

** จนสิ้นอายุขัย
จงจำไว้นะลูกหลาน
ชาวพุทธทุกทุกท่าน
เอ่ยชื่อไว้ได้จดจำ

** คือกาฬสุตต-
มหานรกยกน้ำคำ
กล่าวไว้เพื่อได้ทำ
แต่ความดีจะชื่นใจ

** ทำดีย่อมได้ดี
จะไม่หนีไปที่ไหน
ทำชั่วจะห่างไกล
จากความสุขทุกข์คุกคาม



สมพงศ์  ชูสุวรรณ
บ้านกัลปังหา

บันทึกการเข้า

นักกลอนตลาด ที่ผิดพลาดเรื่องสัมผัสเป็นนิสัย
คะแนนน้ำใจ 1621
เหรียญรางวัล:
มีความคิดสร้างสรรค์นักโพสดีเด่น
กระทู้: 246
ออฟไลน์ ออฟไลน์
"สร้างความฝันอันละไมในบทกลอน"
อีเมล์
   
« ตอบ #3 เมื่อ: 09 พฤศจิกายน 2559, 01:24:01 PM »

Permalink: Re: *** นรก ๘ ขุม ***




นรกขุมที่ ๓ สังฆาฏมหานรก

** "สังฆาฏมหานรก"
ขอหยิบยกขุมที่สาม
นรกคนใจทราม
แย่งผัวเมียคนอื่นมา

** นอกใจสามีตน
ให้ผู้คนเขานินทา
โกหกภรรยา
ไปมีชู้ไว้ชมชื่น

** การผิดลูกเมียเขา
ย่อมโศกเศร้าและขมขื่น
เป็นเราก็สะอื้น
เจ็บหัวใจไปนานวัน

** ใจเราหรือใจใคร
มันก็ไม่แตกต่างกัน
ตายแล้วถูกลงทัณฑ์
ในนรกขุมสามนี้

** ภูเขาเหล็กสูงใหญ่
ลุกเป็นไฟขึ้นทันที
กลิ้งบดทับกายี
ให้จมลงในแผ่นดิน

** ไม่ใช่กรวดหรือทราย
แต่กลับกลายเป็นเหล็กหิน
ให้ร่างต้องแดดิ้น
แหลกเป็นจุณแสนวุ่นวาย

** รูปร่างที่แตกต่าง
หัวเป็นค่างลิงวัวควาย
วิปริตแห่งร่างกาย
พิกลสุดพรรณนา

** นายนิรยบาล
ถืออาวุธเดินไปมา
ร้องขู่บอกมาว่า
กูฆ่ามึงกูฆ่ามึง

** จึงพากันวิ่งหนี
เสียงอึงมี่ดังอื้ออึง
ภูเขาเป็นไฟจึง-
มาขวางหน้าเกิดความกลัว

** หันหลังจะวิ่งไป
ภูเขาไฟมีไปทั่ว
โหมไหม้ทั้งเนื้อตัว
ช่างสุดแสนทรมาน

** ภูเขาเหล็กสองลูก
กลิ้งมาถูกเพื่อเผาผลาญ
ละเอียดจนแหลกลาญ
เป็นธุลีดังผงดิน

** โดยมีอายุยาว
เกินจะกล่าวได้จบสิ้น
เจ็บปวดชั่วชีวิน
หนึ่งร้อยสามล้านล้านปี

**เลิกเถอะอย่าโลเล
ผิดกาเมฯ เลิกเสียที
กลับตัวเป็นคนดี
เริ่มบัดนี้ยังไม่สาย



สมพงศ์  ชูสุวรรณ
บ้านกัลปังหา

บันทึกการเข้า

นักกลอนตลาด ที่ผิดพลาดเรื่องสัมผัสเป็นนิสัย
คะแนนน้ำใจ 1621
เหรียญรางวัล:
มีความคิดสร้างสรรค์นักโพสดีเด่น
กระทู้: 246
ออฟไลน์ ออฟไลน์
"สร้างความฝันอันละไมในบทกลอน"
อีเมล์
   
« ตอบ #4 เมื่อ: 09 พฤศจิกายน 2559, 01:36:11 PM »

Permalink: Re: *** นรก ๘ ขุม ***




นรกขุมที่ ๔ โรรุวมหานรก

** นรกขุมที่สี่
ฟังให้ดีเถอะสหาย
ยังมีเรื่องมากมาย
ให้ทุกคนได้เรียนรู้

** ขุมนี้มีชื่อว่า
"โรรุว" อย่าหลบหลู่
ลงทัณฑ์พวกขี้ตู่
พวกขี้โม้โกหกเขา

** พูดหยาบและส่อเสียด
น่ารังเกียจอยู่ไม่เบา
เพ้อเจ้อก็ไม่เอา
วจีกรรมชั่วหยาบช้า

** ผิดศีลข้อที่สี่
สิ่งไม่ดีเชื่อเถอะหนา
ต้องทุกข์เวทนา
อย่างยิ่งใหญ่ในโลกันตร์

** ดอกบัวแปลกประหลาด
ช่างร้ายกาจเกินเสกสรร
ใช้เหล็กทำทั้งนั้น
ลงไปนอนคว่ำหน้าดู

** กางมือและกางเท้า
มีเปลวไฟเผาไหม้อยู่
เข้าและออกจากหู
ปากจมูกก็เหมือนกัน

** เสียงร้องก้องระงม
ส่งเสียงขรมดังสนั่น
เจ็บปวดรวดร้าวพลัน
ต้องทนทุกข์เวทนา

** จนกว่าอายุขัย
จะสิ้นไปตามเวลา
นับได้นานนักหนา
แปดร้อยกว่าล้านล้านปี

** สัจจะคือความจริง
นั่นคือสิ่งที่ควรมี
ทำได้ในชาตินี้
เป็นที่รักของทุกคน

** และห่างจากนรก
อย่าวิตกหลีกได้พ้น
หากใจเป็นกุศล
ทำสิ่งใดย่อมได้ดี

** ตั้งมั่นในศีลห้า
มีสง่าเกิดราศี
ตั้งใจสร้างความดี
จะมีสุขตลอดไป

** ห่างจากอเวจี
สุดแสนดีเป็นไหนไหน
ไม่ต้องเกิดมีไฟ
มาเผาใจและเผากาย

** ไม่ต้องตกนรก
ดังหยิบยกสาธยาย
ชีวิตจะสบาย
ในโลกนี้และโลกหน้า




สมพงศ์  ชูสุวรรณ
บ้านกัลปังหา

บันทึกการเข้า

นักกลอนตลาด ที่ผิดพลาดเรื่องสัมผัสเป็นนิสัย
คะแนนน้ำใจ 1621
เหรียญรางวัล:
มีความคิดสร้างสรรค์นักโพสดีเด่น
กระทู้: 246
ออฟไลน์ ออฟไลน์
"สร้างความฝันอันละไมในบทกลอน"
อีเมล์
   
« ตอบ #5 เมื่อ: 09 พฤศจิกายน 2559, 01:44:04 PM »

Permalink: Re: *** นรก ๘ ขุม ***




นรกขุมที่ ๕ มหาโรรุวะ

** "มหาโรรุวะ"
จำไว้นะขุมที่ห้า
ขนาดใหญ่มากกว่า
ที่กล่าวมาขุมสามสี่

** มีเสียงดังโหยหวน
ร้องคร่ำครวญกันอึงมี่
นรกขุมห้านี้
มีดอกบัวกลีบแหลมคม

** ทิ่มแทงให้เป็นแผล
เจ็บปวดแท้ร้าวระบม
มีไฟมาผสม
เผาร่างกายให้ไหม้เกรียม

** ศีรษะจรดเท้า
เปลวไฟเผาอย่างโหดเหี้ยม
มันเผาอย่างไม่เจียม
แลบเข้าไปทุกทวาร

** เผาไหม้ในและนอก
ต้องช้ำชอกถูกเผาผลาญ
เจ็บปวดตลอดกาล
แต่ไม่ตายละกายไป

** ต้องทนทรมาน
แสนร้าวรานสุดทนไหว
คร่ำครวญเพราะเปลวไฟ
มาเผาไหม้ให้ร้อนรน

** อายุขัยในขุมนี้
นับนานปีอย่าสับสน
คำนวณถ้าเป็นคน
หกพันกว่าล้านล้านปี

** ผู้ที่ต้องจองจำ
คือกระทำสิ่งไม่ดี
สุราและบุหรี่
สิ่งเสพย์ติดที่มึนเมา

** ยาม้าและยาอี
ล้วนไม่ดีคอยแผดเผา
ทำลายสมองเรา
ให้เสื่อมเสียน่าเพลียใจ

** ผู้คนก็รังเกียจ
เขาหยามเหยียดรู้บ้างไหม
ถ้าเสพนานนานไป
ทำร่างกายให้เสื่อมโทรม

** ตายแล้วตกนรก
จะไหม้หมกถูกไฟโหม
ไฟนรกมาเลียโลม
นิรยบาลก็ลงทัณฑ์

** ใช้เหล็กที่ติดไฟ
ตีลงไปที่ที่หัวนั่น
เจ็บช้ำเกินจำนรรจ์
แหลกละเอียดแต่ไม่ตาย

** เลิกเถอะเรื่องเหล่านี้
มันไม่ดีต้องฉิบหาย
ชีวิตจะวอดวาย
ไม่มีสุขทุกข์ตามมา



สมพงศ์  ชูสุวรรณ
บ้านกัลปังหา

บันทึกการเข้า

นักกลอนตลาด ที่ผิดพลาดเรื่องสัมผัสเป็นนิสัย
คะแนนน้ำใจ 1621
เหรียญรางวัล:
มีความคิดสร้างสรรค์นักโพสดีเด่น
กระทู้: 246
ออฟไลน์ ออฟไลน์
"สร้างความฝันอันละไมในบทกลอน"
อีเมล์
   
« ตอบ #6 เมื่อ: 09 พฤศจิกายน 2559, 01:56:01 PM »

Permalink: Re: *** นรก ๘ ขุม ***




นรกขุมที่ ๖ ตาปนมหานรก

** ขุมหกยกมากล่าว
จะขอเล่าฟังเถิดหนา
ด้วยจิตเจตนา
ให้ทุกท่านได้เข้าใจ

** ขุมหกมีชื่อว่า
ตาปนนรกใหญ่
ผู้ที่จะตกไป
คือคนที่เล่นพนัน

** พ่าย ปอ และไฮโลว์
อีกถัวโปกำและปั่น
ใส่ใจพวกอย่างนั้น
จะต้องตกอเวจี

** รับโทษแสนโหดร้าย
เมื่อต้องตายไปเมืองผี
ก่อนเล่นคิดให้ดี
เพราะมันมีโทษอีกนาน

** เมื่อตายตกนรก
จะหยิบยกมากล่าวขาน
ปีนหลาวเท่าต้นตาล
มีเปลวเพลิงที่ร้อนแรง

** ปีนขึ้นปลายหลาวนั้น
ถูกเสียบพลันทุกตำแหน่ง
เนื้อหนังถูกเพลิงแดง
จะสุกพองไปทั้งตัว

**สุนัขแปลกประหลาด
ตัวขนาดใหญ่กว่าวัว
วิ่งไล่ให้เกรงกลัว
กระชากสัตว์ฯ มากัดกิน
** สัตว์ฯ หมายถึง สัตว์นรก **

** จนเหลือแต่กระดูก
ยังพันผูกไม่จบสิ้น
ต้องกลับคืนชีวิน
มารับกรรมอีกต่อไป

** ไม่มีวันจะละลด
กว่าจะหมดอายุขัย
นับได้ไม่เท่าไร
ห้าหมื่นกว่าล้านล้านปี

** สุดแสนทรมาน
ตลอดกาลที่กรรมมี
ดังนั้นชีวิตนี้
ควรจะเลิกก่อเวรกรรม

** งดเว้นการพนัน
เพราะว่ามันจะถลำ
ก่อเหตุเป็นประจำ
บังเกิดก่อสร้างศัตรู

** ไม่มีใครเชื่อถือ
ผลก็คือน่าอดสู
ไร้มิตรที่เชิดชู
ซ้ำก่อเวรอีกต่อไป

** อบายมุขนี้
ควรหลีกลี้ให้ห่างไกล
ชีวิตจะสดใส
มีแต่สุขทั่วหน้ากัน



สมพงศ์  ชูสุวรรณ
บ้านกัลปังหา

บันทึกการเข้า

นักกลอนตลาด ที่ผิดพลาดเรื่องสัมผัสเป็นนิสัย
คะแนนน้ำใจ 1621
เหรียญรางวัล:
มีความคิดสร้างสรรค์นักโพสดีเด่น
กระทู้: 246
ออฟไลน์ ออฟไลน์
"สร้างความฝันอันละไมในบทกลอน"
อีเมล์
   
« ตอบ #7 เมื่อ: 09 พฤศจิกายน 2559, 03:13:17 PM »

Permalink: Re: *** นรก ๘ ขุม ***




นรกขุมที่ ๗ มหาตาปนนมหานรก

** นรกขุมเจ็ดนี้
มีพื้นที่ใหญ่มหันต์
พวกสัตว์ฯ ถูกลงทัณฑ์
แตกต่างกันแปลกออกไป

** กำแพงเหล็กล้อมรอบ
ล้วนประกอบไปด้วยไฟ
ร้อนแรงแดงไสว
ที่ทำให้ไฟลุกโชน

** ภูเขาล้วนเป็นหล็ก  
ทั้งใหญ่เล็กสัตว์ฯ ห้อยโหน
สัตว์ฯ ใดที่กระโจน
เข้ากองไฟจะร้อนรน

** ขวากเหล็กวางเรียงราย
มีมากมายดูสับสน
ทุกคนต้องผจญ
เป็นเหยื่อมันอย่างแน่นอน

** นายนิรยบาล
ยืนตระหง่านหน้าสลอน
ไม่ฟังคำอุธรณ์
ถือแหลนหลาวที่ลุกแดง

** หอกดาบกระชับมือ
ไฟลุกฮือไล่ทิ่มแทง
บังคับเหมือนกลั่นแกล้ง
ให้วิ่งไปปีนภูเขา

** ที่ร้อนด้วยเปลวไฟ
ต่างตกใจกันไม่เบา
วิ่งไปถึงยอดเขา
ช่างเร่าร้อนสุดบรรยาย

** ครั้นแล้วมีลมกรด
จากบรรพตแรงเหลือหลาย
พวกสัตว์ฯ ตกกระจาย
ถูกเสียบกายด้วยหลาวคม

** ทะลุเลือดแดงฉาน
น่าสงสารเหลือจะข่ม
ขุมนี้เพื่อสังคม
พวกที่ชอบเที่ยวกลางคืน

** มัวเมาอบายมุข
ต้องมีทุกข์จนสุดฝืน
เสียทรัพย์และอื่นอื่น
แม้ผู้คนไม่ไว้ใจ

** ต้องทุกข์ในนรก
สกปรกและหมกไหม้
กรรมใครก็กรรมใคร
ชดใช้ไปตามเวลา

** ครึ่งอันตรกัป
ถ้าจะนับยากนักหนา
หนึ่งร้อยเพิ่มศูนย์มา
ที่ข้างหลังเจ็ดสิบตัว

** มาเถอะทำความดี
อย่าให้มีจิตหมองมัว
หลีกไกลสิ่งที่ชั่ว
เที่ยวกลางคืนนั้นไม่ดี



สมพงศ์  ชูสุวรรณ
บ้านกัลปังหา

บันทึกการเข้า

นักกลอนตลาด ที่ผิดพลาดเรื่องสัมผัสเป็นนิสัย
คะแนนน้ำใจ 1621
เหรียญรางวัล:
มีความคิดสร้างสรรค์นักโพสดีเด่น
กระทู้: 246
ออฟไลน์ ออฟไลน์
"สร้างความฝันอันละไมในบทกลอน"
อีเมล์
   
« ตอบ #8 เมื่อ: 09 พฤศจิกายน 2559, 05:29:36 PM »

Permalink: Re: *** นรก ๘ ขุม ***




นรกขุมที่ ๘ อเวจีมหานรก

** นรกขุมสุดท้าย
ตั้งชื่อไว้ "อเวจี"
ยิ่งใหญ่เกินจะมี
ขุมใดใดใหญ่เท่าทัน

** เวลารับโทษมาก
รับกรรมหนักอย่างมหันต์
มีทุกข์อย่างฉกรรจ์
เกินจำนรรจ์จาระไน

** กำแพงเหล็กกว้างขวาง
ร้อนระอุด้วยเปลวไฟ
จะหันไปทางใด
ไฟลุกอยู่ทุกวันคืน

** แออัดและยัดเยียด
ต้องเบียดเสียดสุดจักฝืน
บางคนต้องทนยืน
ใช้เวรกรรมที่ทำมา

** บางคนนั่งและนอน
เวรกรรมก่อนร้องเรียกหา
ใครทำกรรมจะพา
ชดใช้กรรมตามนั้นเลย

** ยืนทำกรรมเอาไว้
ยืนชดใช้ดังเฉลย
นั่งนอนทำนะเอย
ต้องนั่งนอนชดใช้กรรม

** ไฟเผาตลอดมา
ความร้อนพาซ้ำกระหน่ำ
ถูกเผาจนตัวดำ
แต่ไม่ตายวายชีวา

** ต้องทุกข์ทรมาน
เกินกล่าวขานนานนักหนา
รวมแล้วเป็นเวลา
หนึ่งอัตรกัปนับพอดี

** หนึ่งร้อยต้องเพิ่มศูนย์
เพื่อเพิ่มพูนวันเดือนปี
อีกร้อยสี่สิบมี
เพิ่มตามหลังได้ลงตัว

** นั่นคือการทนทุกข์
ไม่สนุกเพราะทำชั่ว
คนที่ใจหมองมัว
ทำอนันตริยกรรม

** คือฆ่าพ่อและแม่
แสนจะแย่อย่ากระทำ
จงคิดและจดจำ
สังฆเภทก็เหมือนกัน

** คือทำสงฆ์แตกแยก
เป็นเรื่องแปลกอย่าถลำ
ตายไปต้องรับกรรม
ในนรกอเวจี

** โปรดเถิดนะชาวพุทธ
หยุดกระทำบาปเสียที
จะได้ไปที่ดี
คือสวรรค์ชั้นวิมาน

** นรกนำมากล่าว
สื่อเรื่องราวเป็นหลักฐาน
ทำชั่วเพราะใจพาล
อเวจีเป็นที่ไป

** เลิกเถอะการทำชั่ว
ไม่หมองมัวจิตผ่องใส
ผิวกายงามวิไล
สุคติเป็นที่หมาย



สมพงศ์  ชูสุวรรณ
บ้านกัลปังหา

บันทึกการเข้า

หน้า: [1]   ขึ้นบน
 
 
กระโดดไป: