You are here: Khonphutorn.com - แหล่งข้อมูลของคนไทยหมวดความบันเทิงเรื่องเล่าดีดี (ผู้ดูแล: หนุ่มภูธร ณ ลุ่มน้ำป่าสัก)พระราชพิธีบรมราชาภิเษก(๒) ตอน เครื่องราชกกุธภัณฑ์
หน้า: [1]   ลงล่าง
 
ผู้เขียน หัวข้อ: พระราชพิธีบรมราชาภิเษก(๒) ตอน เครื่องราชกกุธภัณฑ์  (อ่าน 1274 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
คะแนนน้ำใจ 1676
เหรียญรางวัล:
ผู้ดูแลบอร์ดมีความคิดสร้างสรรค์นักโพสดีเด่น
กระทู้: 120
ออฟไลน์ ออฟไลน์
หนุ่มภูธร...ผู้ผิดหวังจากการเป็นครู
อีเมล์
   
« เมื่อ: 29 มีนาคม 2562, 08:38:53 PM »

Permalink: พระราชพิธีบรมราชาภิเษก(๒) ตอน เครื่องราชกกุธภัณฑ์

...หลังจากพักสมองไปหลายวัน(เกือบสัปดาห์เลยมั้ง 555)
 วันนี้เราก็จะมาต่อกันที่เรื่องเกี่ยวกับพระราชพิธีในเดือนหน้านี้นะครับ
 โดยวันนี้เราจะขอกล่าวถึง "เครื่องราชกกุธภัณฑ์" ซึ่งถือเป็นของสำคัญในพระราชพิธีก็ว่าได้ครับผม....

...เครื่องเบญจกกุธภัณฑ์ หรือเครื่องสิริราชกกุธภัณฑ์ เป็นเครื่องหมายแห่งความเป็นพระราชาธิบดี
 หรืออีกนัยหนึ่ง เป็นเครื่องประกอบพระบรมราชอิสริยยศของพระมหากษัตริย์ เมื่อประมวลได้ ๕ ชนิด
 ก็เรียกว่า เบญจราชกกุธภัณฑ์
ตามหลักฐานที่ประมวลได้ นับตั้งแต่สมัยสุโขทัยเป็นต้นมา
พบว่า เครื่องใช้สำหรับพระมหากษัตริย์ที่ประมวลไว้ เป็นเครื่องสิริราชกกุธภัณฑ์นั้น มีดังนี้

๑.พระนพปฎลมหาเศวตฉัตร เป็นฉัตรขั้นสูงสุด มีรูปทรงชะลูด
หุ้มด้วยผ้าขาวแต่ละชั้นมีระบายขลิบทองแผ่ลวดซ้อน ๓ ชั้น มียอดชั้นล่างสุดห้อยอุบะจำปาทอง
ในสมัยโบราณถือว่าเป็นเครื่องเบญจราชกกุธภัณฑ์ที่สำคัญที่สุดที่ต้องน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายใน
พระราชพิธีบรมราชาภิเษก
 
๒.พระมหาพิชัยมงกุฎ เป็นเครื่องราชกกุธภัณฑ์สำหรับประดับพระเศียร สร้างในรัชกาลพระบาทสมเด็จ
พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช เพื่อทรงใช้ในพระราชพิธีสำคัญ ทำด้วยทองคำลงยาประดับเพชร
 ยอดพระมหามงกุฎเป็นทรงพุ่มข้าวบิณฑ์ แต่ยังไม่มีพระจอน ต่อมาพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระจอนและประดับเพชรแทนยอดพุ่มข้าวบิณฑ์
พระราชทานชื่อเพชรว่า "พระมหาวิเชียรมณี" ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงรับพระมหาพิชัยมงกุฎจากพราหมณ์มาทรงสวม
ซึ่งถือว่าเป็นขั้นตอนที่มีความสำคัญ เป็นสัญลักษณ์ที่แสดงว่าทรงรับพระราชภาระหนัก
ในการปกครองแผ่นดินและราษฎรนั่นเองครับ

๓.พระแสงขรรค์ชัยศรี เป็นสัญลักษณ์แสดงการได้พระราชอำนาจอาญาสิทธิ์
ในการปกครองแผ่นดินและจะทรงขจัดศัตรูให้สิ้นด้วยพระบรมเดชานุภาพ สร้างขึ้นในสมัยที่ขอมมีอำนาจปกครองดินแดน
เมื่อพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชทรางปราบดาภิเษกแล้ว ชาวประมงผู้หนึ่งในเมืองเสียมราฐ
 ได้ทอดแหบริเวณทะเลสาบเขมร(Tonle sap)พบพระขรรค์องค์นี้และนำมามอบแก่กรมการเมืองเสียมราฐ ซึ่งขณะนั้นยัง
เป็นเมืองขึ้นของไทย ต่อมาเจ้าพระยาอภัยภูเบศร์(แบน อภัยวงศ์) ผู้สำเร็จราชการเมืองพระตะบองและ
เสียมราฐในขณะนั้น จึงทูลเกล้าฯ ถวายแด่พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช
 ในวันที่เชิญพระแสงขรรค์เข้าใกล้เขตพระราชฐานนั้น ได้เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง เกิดฟ้าผ่าที่ประตูวิเศษไชยศรี
และประตูพิมานไชยศรีซึ่งเป็นเส้นทางที่อัญเชิญพระขรรค์ผ่านเข้าเขตพระราชฐานอีกด้วย
โปรดเกล้าฯ ให้ทำด้ามด้วยทองคำลงยาราชาวดีลายเทพพนม และฝักหุ้มทองคำลงยาราชาวดี
พระมหากษัตริย์ทุกรัชกาลทรงใช้เป็นพระแสงราชศาสตราในพระราชพิธีสำคัญ

๔.ธารพระกรไม้ชัยพฤกษ์ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชโปรดเกล้าฯให้สร้างขึ้น
ต่อมาสมัยรัชกาลที่ ๔ โปรดเกล้าฯ ให้สร้างใหม่ทำด้วยไม้ชัยพฤกษ์หุ้มทองลักษณะคล้ายพระแสงดาบยอดทำเป็นรูปเทวดา
ชักยอดออกแล้วจะกลายเป็นพระแสงเสน่าหรือมีดสำหรับขว้าง ธารพระกรนี้เป็นเครื่องหมายแห่งการปกครอง
ที่เปี่ยมด้วยพระปรีชาญาณอันสุขก่อให้เกิดความมั่นคงแก่แผ่นดิน

๕.พัดวาลวิชนีและพระแส้หางจามรี พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชโปรดเกล้าฯ
ให้สร้างขึ้น พัดทำด้วยใบตาลปิดทองทั้งสองด้าน ด้ามและเครื่องประกอบทำด้วยทองคำลงยา
 ส่วนพระแส้ขนจามรีทำด้วยขนจามรีซึ่งเป็นสัตว์ประเภทหนึ่งที่มีอยู่ในธิเบต ด้ามเป็นแก้ว
พัดวาลวิชนีและพระแส้ขนจามรีเปรียบเสมือนพระเมตตาบารมีปกเกล้าฯ พสกนิกรได้พระบรมโพธิสมภารให้ร่มเย็น

๖.ฉลองพระบาทเชิงงอน เป็นเครื่องราชกกุธภัณฑ์ทำด้วยทองคำลงยาราชาวดีฝังเพชร
ใช้สวมเฉพาะในงานพระราชพิธีที่ต้องประทับเท่านั้น ฉลองพระบาทเชิงงอนนั้นเป็นเครื่องหมายแสดงว่า
จะทรงสร้างความเจริญรุ่งเรืองแก่แผ่นดินทุกอาณาเขตที่เสด็จพระราชดำเนินไป


....เครื่องราชกกุธภัณฑ์เป็นเครื่องประกอบพระราชอิสริยยศของพระมหากษัตริย์
แต่ด้วยลักษณะที่งดงามและฝีมืออันปราณีตของช่างหลวงในสมัยโบราณ
จึงนับได้ว่า เครื่องราชกกุธภัณฑ์แสดงถึงภูมิปัญญาที่ช่างโบราณถ่ายทอดออกมาอย่างวิจิตร
 และเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่สืบทอดมาถึงปัจจุบันนั่นเองครับ....

....วันนี้ก็ขอจบเพียงเท่านี้ครับผม สวัสดีครับ....
บันทึกการเข้า

รวมบทประพันธ์ของ หนุ่มภูธร ณ ลุ่มน้ำป่าสัก คลิ๊กที่นี่
http://www.khonphutorn.com/index.php/topic,12043.0.html
ขอบคุณทุกภาพจาก Internet และเพลงจาก YouTube
หน้า: [1]   ขึ้นบน
 
 
กระโดดไป: