ต่อไป →

[น้องจ๋า น้องจ๋าจ้า]

ข้าวเหนียวเปียกรวมมิตร
วัตถุดิบ
1. ข้าวเหนียวดำ 1 ถ้วย - ซาวน้ำ ล้าง 2 รอบ แช่น้ำทิ้งไว้ 1-2 ชม.
2. เผือกหั่นเต๋า 1 ถ้วย หรือตามชอบ
3. ข้าวโพดหวาน ฝานหรือแกะเอาแต่เม็ด 1/2 ถ้วย หรือตามชอบ
4. กะทิสด 300 กรัม พร้อมหางกะทิ
5. น้ำตาลทราย 1 ถ้วย หรือตามชอบ
วิธีทำ
1. นำข้าวเหนียวดำต้งไฟ ใส่น้ำให้เกินกว่าข้าวเหนียว เคี่ยวไปเรื่อย ๆ คอยคนอย่าให้ติดก้น น้ำน้อยให้เติมเล็กน้อย
2. เมื่อข้าวใกล้เละตามที่ต้องการ ใส่หางกะทิลงไป 1-2 ถ้วยแล้วใส่เเผือก แห้ว ข้าวโพด ลงไป
3. เคี่ยวไปเรื่อย ๆ เมื่อสุกใส่น้ำตาลลงไป น้ำตาลละลายชิมรสหวานตามต้องการ เมื่อได้ที่ ปิดไฟ
4. เอากะทิตั้งไฟอ่อน ใส่เกลือลงไป 1-2 ชช. คนให้ละลายชิมตามความชอบ หากชอบกะทิสดไม่ต้องตั้งไฟ
5. ตักข้าวเหนียวใส่ถ้วย โรยด้วยกะทิ ทานร้อน หรือเย็นก็มีความสุขครับ
เครดิต อาหารที่แม่สอน


ขอบคุณที่มา  Kanom.co.th
และ คุณพันธมิตร จิตร์มา

[น้องจ๋า น้องจ๋าจ้า]

ขนมดอกบัว (สูตรใบเตย)
ขนมฝักบัว หรือขนมดอกบัว ภาคใต้เรียกจูจุ่น การทอดขนมชนิดนี้ต้องอาศัยเทคนิคนิดหน่อย และความร้อน ของน้ำมัน
รวมถึงปริมาณน้ำมันในกระทะด้วย นิยมใช้กระทะก้นลึก เพื่อให้ง่ายในการทอดขนมชนิดนี้

ส่วนผสม
1. แป้งข้าวเจ้าสด 2 ถ้วย
2. แป้งข้าวเหนียวสด ¼ ถ้วย
3. น้ำตาลทราย ½ ถ้วย
4. น้ำมัน 2 ถ้วย
5. น้ำใบเตย ¼ ช้อนชา
6. น้ำสะอาด ½ ถ้วย
7. เกลือเล็กน้อย

วิธีทำ
1.เทแป้งทั้งสองชนิดกันรวมกัน ละลายน้ำตาล เกลือ และน้ำใบเตยในน้ำสะอาด เทลงในแป้ง คนให้ส่วนผสม
ทั้งหมดเข้ากันจนเป็นครีมข้นเข้ากันดี ตั้งพักไว้จนแป้งขึ้น สังเกตจากฟองปุดทั่วผิวแป้ง

2.ตั้งกระทะใส่น้ำมัน ควรใช้กระทะก้นลึกใบเล็กๆ รอจนน้ำมันร้อน ตักแป้งหยอดลงในกระทะทอดทีละชิ้น
คอยตักน้ำมันรดบนขนมให้ทั่วระหว่างทอด พอขอบขนมเริ่มสุกเหลืองกรอบจึงพลิกกลับอีกข้าง ทอดให้สุกทั่วดี ตักขึ้นให้สะเด็ดน้ำมัน

สูตรกล้วยหอม สีขนมออกจะเป็นสีเหลือง
ส่วนผสม
1. แป้งข้าวจ้าวโม่ 1 ¼ ถ้วย
2. มะพร้าวขูดขาว 3 ขีด
3. กล้วยหอมงอมๆ ผลขนาดกลาง 1 ลูก
4. น้ำตาลทราย 1 ถ้วย
5. น้ำมันพืช ½ กิโลกรัม

วิธีทำ
1. ขูดกล้วยหอมเอาแต่เนื้อ ไม่เอาไส้ แล้วตวงให้ได้ ¼ ถ้วย ใส่ถ้วยไว้

2. เอาแป้งใส่ชามอ่าง(เวลาตวงแป้ง ควรยีแป้งให้ละเอียดเสียก่อน) จึงเอากล้วยหอมใส่ นวดให้เข้ากัน จนแป้งไม่เป็นเม็ด
จึงใส่น้ำตาลทรายลงผสมให้เข้ากัน พอน้ำตาลทรายละลายดีแล้ว จึงเติมน้ำกะทิที่คั้นจากมะพร้าวขูดขาว ให้ได้กะทิประมาณ 1 ถ้วย
 น้ำที่คั้นกะทิ ควรใช้น้ำเดือดที่ทิ้งให้อุ่นคั้น พอแป้งและน้ำตาลทรายละลายดีแล้ว กรองอีกครั้ง ถ้าน้ำตาลทรายไม่สกปรก
ไม่ต้องกรองก็ได้ เสร็จแล้วหมักไว้สักประมาณ 3 ชั่วโมง ให้ส่วนผสมเข้ากันได้ดี

3. ใช้กระทะใบเล็กๆ ตั้งบนเตาถ่าน ใส่น้ำมันลงประมาณ ½ กระทะ ใช้ไฟอ่อนพอน้ำมันร้อน ตักขนมประมาณ 2 ช้อนโต๊ะใส่
พอขอบๆ ขนมเหลือง ใช้ไม้แหลมหรือเหล็กก็ได้ กลับอีกด้านลง พอเหลืองทั่วใช้ไม่เสียบขึ้น ทิ้งไว้ให้เย็นจะกรอบหอมอร่อย

สูตรการทำขนมฝักบัวรวม2สูตร
ส่วนผสม
1. แป้งข้าวเจ้าผง 1 ถ้วยตวง
2. แป้งสาลี แป้งเค้ก 1 ถ้วยตวง
3. น้ำใบเตยหรือสีผสมอาหารตามชอบ
4. น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วยตวง
5. น้ำตาลปึก 1/3 ถ้วยตวง
6. เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
7. หัวกะทิ 1 ถ้วยตวง
8. กะทิข้นกลาง ๆ 1 ถ้วยตวง หรือนมสด
9. กล้วยหอมสุกกลาง 1 ผล
10. น้ำมันสำหรับทอด
11. กระทะก้นมนขนาดเล็ก
12. บางสูตรใส่ไข่เพิ่มด้วย

วิธีทำ
1. ผสมแป้งทั้งหมด เทเกลือป่น และน้ำตาลทรายลงในชามผสมให้เข้ากัน เติมหัวกะทิลงทีละน้อย แล้วนวดไปเรื่อย ๆ
 เมื่อหัวกะทิหมดไปครึ่งถ้วย เติมน้ำตาลปี๊บ กล้วยหอม แล้วนวดให้เข้ากับแป้ง แล้วจึงเติมหัวกะทิต่อไปจนหมด เติมกะทิอีก 1 ถ้วยตวง

2. กรองแป้งที่ได้แล้วนั้นด้วยผ้าขาวบาง ใส่ภาชนะแล้ว ใช้ฝาปิดแล้วหมักทิ้งไว้อย่างน้อย 5 ชั่วโมง

3. ตั้งกระทะก้นมนลง แล้วเปิดไฟอ่อน ๆ พอกระทะร้อนแล้วก็ใส่น้ำมันประมาณครึ่งห้าทับพี พอน้ำมันร้อน ตักแป้งหยอดลงตรง
 กลางกระทะให้เป็นแผ่นกลม ขนมฝักบัวแผ่นหนึ่งตักหนึ่งทัพพีพอดี รอให้แป้งสุกลอยขึ้นมา พอขอบเหลืองพลิกขนมกลับพอเกรียมตัว
 ก่อนเอาขึ้นตักน้ำมันสาด ๆ ใส่ แล้วขึ้นให้สะเด็ดน้ำมัน แค่นี้ก็ได้ขนมฝักบัวร้อนๆ พร้อมรับประทานกันแล้วนะคะ


ขอบคุณที่มา  Kanom.co.th

[น้องจ๋า น้องจ๋าจ้า]

สังขยาใบเตย
วิธีทำ

จิ้มขนมปังสูตรใช้นมสด หวานหอมอร่อย สูตรนี้อร่อยมากคอนเฟิร์ม !!!!!!!!
ส่วนผสม สังขยาใบเตย
- ไข่ไก่ 2 ฟอง
- นมสด 1 ถ้วย (หรือกะทิ)
- น้ำตาลทราย 3/4 ถ้วย
- น้ำใบเตยคั้นเข้มข้น 2 ช้อนชา
- น้ำหอมกลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา (ใส่หรือไม่ใส่ก็ได้)
- นมข้นจืด 1/4 ถ้วย (และเตรียมไว้สำหรับราดด้านบนก่อนเสิร์ฟด้วย)

วิธีทำสังขยาใบเตย

1. ตีผสมไข่ไก่กับนมสด น้ำตาลทราย น้ำใบเตย และน้ำหอมกลิ่นวานิลลาพอเข้ากันดี นำไปกรองผ่านตะแกรง
2. ใส่ส่วนผสมไข่ลงในหม้อ ใช้ไฟอ่อน ๆ กวนจนส่วนผสมเริ่มเหนียวและข้น ค่อย ๆ เทนมข้นจืดลงไป
กวนจนส่วนผสมเริ่มเหนียวและข้นอีกครั้ง ยกลงจากเตา พักทิ้งไว้สักครู่ก่อนเสิร์ฟ


ขอบคุณที่มา  Kanom.co.th

[น้องจ๋า น้องจ๋าจ้า]

ข้าวเหนียวเปียกลำไย
ส่วนผสม
1. ข้าวเหนียว 1 ถ้วย
2. ลำไยสดแกะเอาแต่เนื้อ 2 ถ้วย (หรือมากกว่านี้ ตามความชอบ)
3. หัวกะทิ 2 ถ้วย
4. น้ำตาลทราย ครึ่งถ้วย
5. เกลือป่น พอประมาณ
6. ใบเตยตัดเป็นท่อนๆ 1-2 ใบ

วิธีทำเริ่มที่การต้มข้าวเหนียว โดยใช้ไฟอ่อนปานกลาง ใส่น้ำสะอาดลงในหม้อให้ท่วมข้าวเหนียวขึ้นมาประมาณ 2 นิ้ว
 ค่อยๆ คนไม่ให้ข้าวติดก้นหม้อ และระวังไม่ให้ข้าวข้นหรือแฉะเกินไป ใส่ใบเตยลงไปด้วยเพื่อความหอม
 แนะนำว่าถ้าใช้ข้าวเหนียวเขี้ยวงูก็จะดีไม่น้อย เพราะเม็ดข้าวจะบานสวย แต่ถ้าไม่มีก็ใช้ข้าวเหนียวธรรมดาทั่วๆไปได้

ระหว่างนั้นก็หันมาคั้นน้ำกะทิที่ใช้โรยหน้า โดยผสมเกลือป่นให้มีรสเค็มนิดๆ แต่ถ้าไม่มีเวลาคั้นกะทิสดเองจะเลือกใช้กะทิกระป๋องก็ได้
พอข้าวเหนียวสุก เม็ดจะเริ่มบานก็ใส่น้ำตาลทรายลงไป ใส่เกลือเล็กน้อย ชิมรสชาติความหวานตามความพอใจ คนข้าวต่อไปอีกสักพัก
 แล้วจึงใส่เนื้อลำไย เมื่อสุกได้ที่ยกลงจากเตาได้เลย

แค่นี้ก็ได้ข้าวเหนียวเปียกลำไย ราดด้วยน้ำกะทิสด หอมกรุ่น น่ากิน แต่ถ้าอยากจะเพิ่มสีสันและรสชาติให้มีมากขึ้น
 อาจจะใส่เผือก แห้ว ข้าวโพด ลูกเดือย ลำไยแห้ง ลงไปด้วยก็ไม่ผิดกติกาแต่อย่างใด


ขอบคุณที่มา  Kanom.co.th

[น้องจ๋า น้องจ๋าจ้า]

ข้าวต้มหัวหงอก หรืออีกชื่อข้าวต้มจิ้ม
ก็สงสัยอยู่นะค่ะว่าทำไมถึงเรียกข้าวต้มหัวหงอก
 สงสัยเพราะมะพร้าวขูดขาวที่โรยหน้า ใช่ไหมค่ะใครรู้คำตอบช่วยเข้ามาบอกทีค่ะ

อาหารหวาน
กล้วย / ธัญพืช
ต้ม
มือใหม่หัดชิม
150 นาที
ส่วนผสมและสัดส่วน
1. ข้าวเหนียวเขี้ยวงู 2 ถ้วย
2. กล้วยน้ำว้า แล้วแต่ขนาดของกล้วย
3. ถั่วดำต้มสุก ¼ ถ้วย
4. น้ำตาลทราย มากน้อยตามชอบ
5. มะพร้าวขูดขาว ½ ถ้วย
6. เกลือป่น 1/8 ช้อนชา
*ใบตอง
*ตอก (เป็นไม้ไผ่ผ่าซีกบางๆ ใช้เอาไว้มัด เวลาใช้ต้องเอาไปแช่น้ำให้นิ่มก่อน)
วิธีปรุง
1. ข้าวเหนียวนำไปล้างเอาเศษฝุ่นต่างๆ ออกแล้วแช่ทิ้งไว้ ประมาณ 1 ช.ม.
2. ระหว่างนั้นเตรียมตัดใบตอง สำหรับห่อ เมื่อครบเวลานำข้าวเหนียวมาล้างอีกครั้ง
3. จากนั้นนำข้าวเหนียวเกลี่ยใส่ที่ใบตอง ต้องอย่าใส่มากเกินไป จะห่อยาก วางกล้วยน้ำว้าแล้วเกลี่ยข้าวเหนียวลงไปอีก
4. ห่อให้เรียบร้อย อย่าให้แตก แล้วมัดด้วยตอกหัว ท้ายจากนั้นใส่ลงในหม้อที่จะต้ม ใส่น้ำลงไปพอท่วม จากนั้นยกตั้งไฟ
ต้มจนกว่าข้าวเหนียวจะสุก ตัดเป็นชิ้นพอดีคำ โรยด้วยมะพร้าว เวลากินก้โรยหรือจิ้มน้ำตาล


ขอบคุณที่มา  Kanom.co.th

[น้องจ๋า น้องจ๋าจ้า]

ขนมลืมกลืน 3 สูตร

1/#ขนมลืมกลืนแบบที่1
ส่วนผสมตัว
แป้งถั่วเขียว 1 ถ้วย
น้ำตาลทราย 3 - 3 1 / 2 ถ้วย
น้ำเปล่า 5 ถ้วย
พิมพ์วุ้นหรือพิมพ์กระดาษฟอยด์

วิธีทำ
1. ตวงน้ำตาลทรายผสมกับน้ำเปล่า ใส่หม้อต้มเป็นน้ำเชื่อมให้เดือด ยกลง กรอง เตรียม
2. ตวงแป้งใส่หม้อ ค่อย ๆใส่น้ำเชื่อมลงนวดให้แป้งละลายยกตั้งไฟอ่อนกวนจนแป้งสุกใส,ข้นเหนียว ตักหยอดใส่พิมพ์ให้เต็ม

#ส่วนผสมหน้า
หัวกะทิข้น 1 ถ้วย
แป้งข้าวโพด 2 ช้อนโต๊ะ
แป้งถั่ว 1 ช้อนโต๊ะ
เกลือป่น 1/2 ช้อนชา

วิธีทำ
1.นำหัวกะทิผสมแป้งทั้ง 2 ชนิดและเกลือ ใส่หม้อนวดให้แป้งละลายยกตั้งไฟกวนจนเดือดและข้น
ใช้ช้อนกาแฟเล็ก ๆ ตักหยอดลงบนตัวขนมเล็กน้อย หรือจะเอากะทิใส่กรวยบีบเป็นรูปหยดน้ำ ก็ได้

***หมายเหตุ
ตัวแป้งขนมเมื่อกวนเสร็จแล้วต้องรีบหยอด เพราะแป้งจะแข็งตัวเร็วทำให้หยอดแล้วไม่เรียบ
วิธีแก้ไขคือ
1. ให้ตวงส่วนผสมตัวแป้งครั้งละ1/2 ส่วนแล้วกวนมาหยอด
2. ให้ต้มน้ำเดือดใส่หม้อใบใหญ่ แล้วเอาหม้อแป้งที่กวนแล้วลงแช่ไว้ขณะตักแป้งหยอดใส่พิมพ์

2/#ขนมลืมกลืนแบบที่2
ส่วนผสม
แป้งถั่วเขียว 1 ถ้วยตวง
น้ำตาลทราย 5 ถ้วยตวง
น้ำลอยดอกไม้ 5 ถ้วยตวง
หัวกะทิ 1/2 ถ้วยตวง
แป้งข้าวเจ้า 1 ช้อนโต๊ะ
เกลือป่น 1/2 ช้อนชา

วิธีทำ
1. ผสมแป้งถั่วเขียวกับน้ำตาลทรายให้เข้ากัน ใส่ลงในกระทะทองคนให้เข้ากัน
ใส่น้ำลอยดอกไม้ คนให้เข้ากัน ยกขึ้นตั้งไฟอ่อนๆกวนจนแป้งสุกใส
2. หยอดขนมลงในพิมพ์หรือถ้วยตะไล
3. ผสมหัวกะทิแป้งข้าวเจ้าใส่ลงในกระทะทอง กวนด้วยไฟอ่อนๆ
ใส่เกลือ คนจนแป้งสุกและกะทิข้น หยอดหัวกะทิลงบนตัวขนม จัดใส่ภาชนะ

3/ #ลืมกลืนสีสวยหน้าครีมสด
สิ่งที่ต้องเตรียม
แป้งถั่วเขียว 50 กรัม
น้ำ 650 ซีซี
น้ำตาลทราย 150 ซีซี
เกลือป่น 1/8 ช้อนชา
สีผสมอาหาร สีชมพู, สีฟ้า,สีม่วงออร์คิด, สีเหลือง สีเขียว และสีส้ม
วิปปิ้งครีม ต้นตำรับ ตรามารีน่า 1 กล่อง
ถั่วเขียวเลาะเปลือก ตราข้าวทองแช่น้ำจนพองคั่ว จนมีกลิ่นหอมสำหรับโรยหน้า

วิธีทำ
- ผสมแป้งถั่วเขียวกับน้ำ น้ำตาลทราย และเกลือป่นในภาชนะ นำขึ้นตั้งไฟ คนผสมด้วยตะกร้อมือ ใช้ไฟปานกลาง
คนผสมจนส่วนผสมสุกใส ยกลง แบ่งผสมสี ตักหยอดลงในพิมพ์หัวใจ ขณะร้อนๆ จนเต็มพิมพ์
- ตีผสมวิปปิ้งครีมต้นตำรับ ตรามารีน่า ใช้หัวตีรูปตะกร้อ ความเร็วสูงสุด 2 นาที และลดความเร็วต่ำ 2 นาที
ตักใส่ถุงบีบ บีบลงบนหน้าขนมลืมกลืนที่เย็นสนิทแล้ว โรยหน้าด้วยถั่วเขียวเลาะเปลือก ตราข้าวทอง พร้อมรับประทาน

Cook tipการทำขนมลืมกลืน
ขนมลืมกลืนเป็นขนมไทยชนิดหนึ่ง ที่หน้าตาคล้ายตะโก้แต่มีส่วนผสมของตัว แป้งที่ไม่เหมือนกัน
ขนมลืมกลืนมีดีที่ตัวแป้ง ถ้าแป้งอร่อยก็จะสมกับชื่อลืมกลืน

การทำตัวแป้งลืมกลืน เมื่อผสมส่วนผสมทุกอย่างเข้าด้วยกันนำแป้งขึ้นตั้งไฟ ให้หมั่นกวนส่วนผสมอยู่ตลอดเวลา
จะทำให้ได้เนื้อขนมที่เนียมนุ่ม และตัวแป้งจะใสได้ที่ เมื่อนำมาทำขนมจะได้ขนมลืมกลืนที่นุ่มเหนียว เนื้อเนียนใสอร่อยทีเดียว

และเสริม cook tip อีกอย่าง ในการทำหน้าขนมที่ไม่เหมือนใคร และไม่มีใครเหมือน
เรามีสูตรเฉพาะจะใช้ วิปปิ้งครีมต้นตำรับ ตรามารีน่า เป็นส่วนผสมแทนหน้ากะทิทั่วไป
หน้าขนมของเราก็จะได้รสชาติที่หวานมันเข้มข้นอร่อย กินกันจนลืม


ขอบคุณที่มา  Kanom.co.th

[น้องจ๋า น้องจ๋าจ้า]

ขนมเปี๊ยะ....นุ่มๆๆ
 " ไส้ถั่วกวนใบเตย & ไข่เค็ม " (สูตรจาก...วังไกลกังวล)

ขั้นที่ 1 " ไส้ถั่วกวน....ใบเตย "
ส่วนผสม
1. ถั่วเขียวเลาะเปลือก 500 กรัม
2. น้ำตาลทราย 500 กรัม
3. น้ำมันพืช 1 ถ้วย
4. น้ำใบเตย 1/2 ถ้วย
5. เกลือป่น 1/2 ช้อนชา

หมายเหตุ : ไข่เค็ม ใช้ไข่แดงของไข่เค็มไชยา นำไปอบให้สุกก่อน นำมาใส่ไส้ค่ะ

วิธีทำ
1. นำถั่วเขียวเลาะเปลือก ล้างน้ำให้สะอาด แล้วแช่น้ำทิ้งไว้ 2-3 ชม.
2. นำถั่วเขียวที่แช่น้ำเสร็จ ไปนึ่งในลังถึง โดยใช้ผ้าขาวบางวางรอง และนึ่งจนถั่วนิ่มสุกดี
3. ผสมส่วนผสมที่เหลือทั้งหมด คนให้เข้ากัน แล้วนำไปปั่นจนละเอียด
4. เทลงกระทะทองเหลือง หรือ เทฟล่อน กวนจนสุก ไม่ติดกระทะ
5. พักให้เย็น นำมาปั้นกลม และใส่ใส้ไข่เค็ม (1 ลูก ผ่า 8 ชิ้น)

ขั้นที่ 2 " แป้งชั้นนอก และ ชั้นใน "
****แป้งชั้นนอก
1. แป้งเค้กตราบัวแดง 400 กรัม
2. ไข่ไก่ 1 ฟอง
3. น้ำมันพืช 125 กรัม
4. น้ำตาลทราย 100 กรัม
5. น้ำใบเตย 100 กรัม (เราใช้น้ำเปล่าแทนค่ะ ชอบแป้งขาวๆๆ)
6. แบะแซ 20 กรัม (ถ้าไม่มี..ไม่ต้องใส่ก็ได้ค่ะ)

วิธีทำ
1. ร่อนแป้งเค้ก พักไว้
2. ผสมไข่ไก่ + น้ำตาลทราย + น้ำใบเตย (หรือน้ำเปล่า) + น้ำมันพืช + แบะแซ แล้วเทลงในแป้งที่ร่อนเตรียมไว้
3. นวดจนกระทั่งเนียนดี ไม่ติดมือ พักไว้ 30 นาที (หาผ้าชื้นคลุมแป้งไว้ด้วยค่ะ

****แป้งชั้นใน
1. แป้งเค้กตราบัวแดง 200 กรัม
2. น้ำมันพืช 80 กรัม

วิธีทำ
1. ร่อนแป้ง แล้วนำไปนวดกับน้ำมันพืช แล้วพักแป้งทิ้งไว้ 30 นาทีค่ะ

ขั้นที่ 3 " คลึงแป้ง..ขึ้นรูป "
1. นำแป้งชั้นนอก และ ชั้นใน มาแบ่งให้ได้..อย่างละ 16 ก้อน คลึงกลมพักไว้
2. นำแป้งชั้นนอก คลึงให้แบนเล็กน้อย แล้ว นำแป้งชั้นในวางตรงกลาง ห่อให้มิด
3. นำมารีดให้แบนตามแนวยาว แล้วม้วน หรือ พับ 3 ท่อนก็ได้
4. หมุนให้เป็นแนวตั้ง แล้วรีดอีกครั้ง แล้วม้วนเข้าหาตัวค่ะ
5. ผ่า 4 ค่ะ แล้วแต่ละก้อนมารีดให้แบน แล้วห่อไส้ค่ะ
6. ใส่ไส้ แล้วหุ้มให้มิด วางเรียงลงถาดค่ะ
7. นำไข่แดง เจือน้ำเล็กน้อย ทาที่หน้าก่อนเข้าเตาอบค่ะ
8. นำเข้าอบที่ไฟ 400 F. หรือ 200 องศาเซลเซียส นาน 15-20 นาที
(หมายเหตุ....ควรวอร์มเตาไว้ก่อน 10 นาที..ก่อนอบค่ะ)
9. อบสุก พักไว้บนตระแกรงให้เย็นค่ะ
10. เมื่อเย็นดีแล้ว นำเรียงใส่ภาชนะมีฝาปิด เพื่อเตรียมรมควัน..ด้วยเทียนหอม ปิดฝาแล้วอบทิ้งไว้ 1 คืนค่ะ
11. หลังจากอบ 1 คืน..ก็เรียงใส่กล่องที่มีฝาปิด เตรียมแจกค่ะ หรือจะทำทานเอง ทานกับชาหรือกาแฟก็ได้นะค่ะ
 ลองทำทานดูนะค่ะ สูตรนี้แป้งนุ่ม ไส้ก็หอมมากๆๆค่ะ ใช้เวลานานหน่อย...แต่ก็อร่อยเกินคุ้มค่ะ


ขอบคุณที่มา  Kanom.co.th

[น้องจ๋า น้องจ๋าจ้า]

ขนมไข่สูตรโบราณ
ส่วนผสม แป้งเค้ก 100 กรัม
ไข่ 3 ฟอง
ผงฟู 1 ช้อนตวง หรือ 15 กรัม
น้ำตาล 100 กรัม
น้ำมะนาว 1ช้อนชา
วิธีทำ แป้งแค้กและผงฟูล่อนรวมกันประมาณ 3- 4รวมพักไว้
ตีไข่ให้ขึ้นฟองฟูใส่น้ำตาลตีให้น้ำตาลละลายใส่น้ำมะนาวตีรวมกันจากนั้นค่อยๆๆเทแป้งลงไปใช้ไม้พายค่อยๆๆตะลอ่ม
ให้แป้งกับไข่เข้ากันตักใส่พิมพ์อบที่อุณภูมิ 160 ใช้เวลา20 นาที ขนาดพิมพ์ที่ใช้ เบอร์ 21616 สูตรนี้ได้ประมาณ15 ถ้วยคะ


ขอบคุณที่มา  Kanom.co.th

[น้องจ๋า น้องจ๋าจ้า]

นกะทิ
ส่วนผสม วุ้นกะทิ

1. ผงวุ้น (ควรใช้ตรานางเงือก A เดียว) 3 ช้อนโต๊ะ
2. น้ำตาลทรายขาว 1 ถ้วย
3. ใบเตยหอมสด
4. หัวกะทิ (ใช้กะทิกล่องพาสเจอไรซ์ ตราชาวเกาะ ขนาด 1,000 กรัม) 4 ถ้วยตวง
5. เกลือป่น ซองละ 2 บาท 2 ช้อนโต๊ะ
6. แป้งข้าวเจ้า 1 ช้อนโต๊ะ
7. น้ำเปล่าสะอาด 4 ถ้วยตวง

วิธีทำวุ้นกะทิ

1. นำผงวุ้นที่ตวงแล้ว แช่น้ำเปล่า 1 ถ้วยตวง นานประมาณ 1 ชั่วโมง
2. นำหม้อใส่น้ำเปล่า 3 ถ้วยตวง ใส่ใบเตยสด ที่ล้างสะอาด และตัดใบเตยเป็นท่อนๆ ยาวประมาณ 4 หรือ 5 นิ้ว
 ตั้งไฟเคี่ยวจนกระทั่งได้กลิ่นใบเตย จากนั้นตักออก ใส่วุ้นที่แช่น้ำแล้วลงไป คนจนวุ้นละลายจะมีลักษณะหนึบๆ
3. ใส่น้ำตาลทรายขาว พอน้ำตาลละลาย ใส่เกลือ กะทิ แป้งข้าวเจ้า คนพอสุก อย่าให้กะทิแตกมัน
4. ยกลงจากเตา เทวุ้นกะทิที่เสร็จแล้วลงไปในกระติกเก็บความร้อนปิดฝาไว้

วิธีการหยอด : ให้ใช้แม่พิมพ์ ขนาดถ้วยพอดีคำ เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1 นิ้ว เทวุ้นใส สลับกับวุ้นกะทิ
เริ่มต้นวุ้นชนิดใดก็ได้ แต่ชั้นสุดท้ายต้องเป็นวุ้นใส เนื่องจากสีสันจะสวยงาม และรสชาติกลมกล่อม

ขอบคุณที่มา  Kanom.co.th

[น้องจ๋า น้องจ๋าจ้า]

วิธีทำไข่เจียวชะอม
ชะอมไข่ทอด จะนำไปจิ้มกินกับน้ำพริกกะปิ หรือเอาไปทำแกงส้มชะอมไข่ ไม่ว่าจะเอาไปทำอะไรก็อร่อยทุกอย่างเลย
 วิธีทำอาจจะง่ายเกินไปสำหรับบางคนที่ชอบทำทานเป็นประจำ แต่บางคนก็ยังไม่เลยลงมือทำเอง ลองดูวิธีแล้วเอาไปทำทานกันดูนะคะ

สิ่งที่ต้องเตรียม
ชะอม 1 กำ(เลือกที่ยอดอ่อนๆสีเขียวอ่อน)
ไข่ไก่ 3 ฟอง(ถ้าเป็นไข่อินทรีย์ จะดีที่สุด)
ซีอิ้วขาว 1/2 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันสำหรับทอด

วิธีทำชะอมไข่ทอด
- นำยอดชะอมมาเด็ดเอายอดอ่อนๆ ส่วนใบให้ใช้วิธีรูดยอด แล้วนำก้านทิ้งไป เราก็จะได้ชะอมเด็ดยอดใส่ชาม ล้างน้ำให้สะอาด วางให้แห้ง
- ตอกไข่ไก่ใส่ลงลงไปในชาม (ควรเป็นไข่ไก่ใหม่ ไม่ควรแช่ตู้เย็น เพราะจะทำให้ไข่ขาวมีความหนืด จับตัวเป็นก้อน)
จากนั้นก็ใช้ช้อนส้อมมาตีไข่ให้แหลก ใส่น้ำสะอาด ครึ่งช้อนโต๊ะ
แล้วคนผสมกับชะอมให้เข้ากัน ปรุงรสด้วยซีอิ้วขาว
- น้ำมันใส่กระทะยกขึ้นตั้งไฟ ใช้ไฟกลาง พอน้ำมันร้อนเทชะอมลงไปทอด ปรับไฟลงให้อ่อน ไม่งั้นเดี๋ยวไข่จะไหม้แต่ชะอมไม่สุก
ทอดจนไข่สุกทั้ง 2 ด้าน ตักขึ้นพักไว้
- พอทอดเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็นำชะอมไข่ทอดมาตัดเป็นชิ้นๆ ขนาดพอดีคำ แค่นี้ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย
 เราก็จะได้ชะอมทอดไข่ที่แสนอร่อยเอาไว้ทานแล้วค่ะ

หมายเหตุ
การเจียวไข่จะให้อร่อยต้องน้ำมันเยอะไข่จะขึ้นฟู และห้ามใช้ตะหลิวกดไข่จะทำให้ไข่กระด้าง แข็งไม่อร่อย
วิธีสำหรับไข่เจียวชะอมที่ใช้กับแกงส้มชะอมไข่ และไข่เจียวชะอมกับน้ำพริกกะปิ? ใส่ชะอมมากหน่อย?
 ไม่เน้นปรุงรส เอาตามธรรมชาติ ได้รสชาติอร่อยคนละแบบ
สำหรับสูตรไข่เจียวนี้เหมาะสำหรับรับประทานกับข้าวสวยร้อน ๆ อร่อยสุด ๆ


ขอบคุณที่มา  Kanom.co.th

[น้องจ๋า น้องจ๋าจ้า]

แกงบวดฟักทอง
เครื่องปรุง + ส่วนผสม
* ฟักทองหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ 2 ถ้วยตวง
* น้ำเปล่า 2 1/2 ถ้วยตวง
* หัวกะทิ 1 ถ้วยตวง
* หางกะทิ 1 ถ้วยตวง
* ใบเตย 2 ใบ
* น้ำตาลทราย 40 กรัม
* น้ำตาลปี๊บ 40 กรัม
* เกลือป่น 1/4 ช้อนชา
วิธีทำขนมไทย ทีละขั้นตอน
1. ทำความสะอาดและหั่นฟักทองเป็นชิ้นพอดีคำ เพื่อความสวยงามไม่ต้องปอกเปลือกออก
2. นำหางกะทิ, ใบเตย, น้ำตาลทรายและน้ำตาลปี๊บใส่ลงไปในหม้อ และนำไปตั้งบนไฟร้อนปานกลางจนเดือด
3. ใส่ฟักทองที่หั่นไว้แล้วลงไป ต้มต่อไปจนฟักทองสุกและนุ่ม (ใช้เวลาประมาณ 10 นาที)
4. ใส่หัวกะทิและเกลือลงไป ต้มต่อจนเืดือดอีกครั้งจึงปิดไฟ
5 . ตักใส่ถ้วย สามารถเสริฟทันทีขณะร้อน หรือปล่อยไว้ให้เย็นแล้วค่อยเสริฟเป็นอาหารว่างในวันสบายๆ

ขอบคุณที่มา  Kanom.co.th

[น้องจ๋า น้องจ๋าจ้า]

กล้วยเชื่อม
ส่วนผสมและวิธีทำ
กล้วยน้ำว้าสุก 1 หวี (หวีนี้มี 18 ลูกค่ะ)
น้ำปูนใส (กะปริมาณให้ท่วมกล้วยที่จะแช่ค่ะ)
น้ำเปล่า 1+1/2 ถ้วย
น้ำตาลทราย 300 กรัม (เราใช้น้ำตาลทองธรรมชาติค่ะ)
น้ำตาลปี๊บ 200 กรัม
(หรือจะใช้น้ำตาลทรายอย่างเ่ดียวก็ได้นะคะ เชื่อมแล้วแดงเหมือนกัน)
เกลือ 1/4 ช้อนชา
น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ

1. ปอกกล้วยและหั่นครึ่งลูกหรือหั่นสี่ก็ได้ค่ะ เราทำหลายรอบแล้วรูปก็ปน ๆ กันไปค่ะ
ลงแช่ในน้ำปูนใสประมาณ 20-30 นาที (น้ำปูนใสใช้เฉพาะส่วนที่ใส ๆ นะคะ)
ล้างออกด้วยน้ำสะอาดสัก 2-3 ครั้ง

2. ละลายน้ำตาลปี๊บ น้ำตาลทราย เกลือ กับน้ำเปล่าในหม้อให้ละลายใส่น้ำมะนาว
ใส่กล้วยที่ล้างแล้วลงไปต้มด้วยไฟปานกลางค่อนข้างอ่อน
หมั่นช้อนฟองและยางกล้วยออก เชื่อมไปเรื่อย ๆ ค่ะ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงหรืออาจนานกว่านั้นนิดหน่อย
กล้วยจะเป็นสีแดงเองค่ะสูตรนี้ไม่ต้องเติมน้ำในระหว่างเชื่อมแล้วนะคะ
*** บางคนเชื่อมแล้วไม่แดง เพราะยังเชื่อมไม่ได้ที่ค่ะ ไม่เกี่ยวกับน้ำปูนใส ***

หนึ่งชั่วโมงกว่า ๆ ผ่านไป ก็จะได้กล้วยสีแดงแบบนี้ค่ะ
สองภาพนี้เชื่อมคนละครั้งนะคะ แต่ก็ได้สีแดงเหมือน ๆ กัน

เสร็จเรียบร้อย พอกล้วยเย็นสีกล้วยเชื่อมเหมือนจะเข้มขึ้นอีกเล็กน้อยค่ะ

ขอบคุณที่มา  Kanom.co.th

[น้องจ๋า น้องจ๋าจ้า]

กลีบลำดวน

สิ่งที่ต้องเตรียม
แป้งสาลีอเนกประสงค์ 1 ถ้วย
น้ำมันพืช 1/2 ถ้วย
น้ำตาลไอซิ่ง 1/2 ถ้วย
สีผสมอาหารตามชอบ (หากต้องการแต่งสี)
เทียนสำหรับอบควันเทียน (อย่างดี)

วิธีทำ
1. ร่อนแป้งสาลีกับน้ำตาลไอซิ่งเข้าด้วยกัน 3-4 ครั้ง
2. จากนั้นค่อย ๆ เทน้ำมันพืชแล้วนวดเบา ๆ จนส่วนผสมเข้ากันดี (หากต้องการแต่งสีให้แบ่งแป้งผสมสีผสมอาหารตามชอบ
3. ปั้นแป้งเป็นลูกกลม ๆ จากนั้นใช้มีดคม ๆ แบ่งแป้งเป็น 4 ส่วน จับวางให้เป็นกลีบ 3 กลีบ ส่วนแป้งอีก 1 ส่วนที่เหลือให้ปั้นเป็นลูกกลม ๆ
 กดเบา ๆ วางลงตรงกลางกลีบ จากนั้นเรียงในถาด เตรียมไว้
4. นำกลีบลำดวนเข้าเตาอบที่อุณหภูมิ 350 องศาฟาเรนไฮต์ นานประมาณ 10 - 15 นาที (แล้วแต่ขนาดของขนม)
 จนขนมเป็นสีน้ำตาลอ่อน นำออกจากเตา พักทิ้งไว้จนเย็น
5. ใส่เทียนสำหรับอบลงในหม้อ จุดเทียนให้ติดไฟแล้วเป่าให้ดับจนมีควันออกมา ใส่ขนมกลีบลำดวนลงในหม้อ จากนั้นปิดฝา
 ทิ้งไว้ประมาณ 10-20 นาที เปิดฝาหม้อ นำขนมออก เก็บใส่กล่อง หรือภาชนะที่มีฝาปิดมิดชิด พร้อมรับประทาน

จัดใส่กล่องผูกโบว์ให้สวยงามก็สามารถนำไปเป็นของขวัญที่มีคุณค่าได้แล้วละค่ะ

ขอบคุณที่มา  Kanom.co.th

[น้องจ๋า น้องจ๋าจ้า]

กล้วยแขก
ดสูตรเด็ดขายดีมานานหลายปีกล้วยแขก(กล้วยทอด)ปักษ์ใต้ (สูตรแม่ถิ้ง-พริ้มพร้อม พงศาปาน)ก็หวังว่า
พอจะบรรเทาปัญหาเศรษฐกิจครัวเรือนได้ สำคัญที่ว่าอ่านแล้วก็ต้องลงมือทำ ขอให้เริ่มต้นจากสิ่งที่หาได้ง่าย
ทำได้ด้วยตนเอง(มีคนรวยจากกล้วยทอดมามากแล้ว)...
ส่วนผสมพร้อม...
แป้งข้าวเจ้า 7 ขีด
แป้งสาลี 3 ขีด
น้ำปูนใส 1 ถ้วยตวง
น้ำเปล่า 4 ถ้วยตวง
น้ำตาลทราย 1 ขีด
เกลือป่น 1 ช้อนโต๊ะ
มะพร้าวขูด 1 กิโลกรัม
งาขาว 3 ช้อนโต๊ะ
ไข่ไก่ 3 ฟอง
กล้วยน้ำว้าห่าม 4 หวี
น้ำมันพืช (สำหรับทอด) 2 กิโลกรัม
ลงมือทำทันที...
1. นำแป้งข้าวเจ้า และแป้งสาลี ผสมกัน ใส่น้ำปูนใสและค่อยๆเติมน้ำ นวดให้แป้งเข้ากัน ตามด้วยน้ำตาล ไข่ งา และเกลือ
 ลงไปนวดต่อ ปิดท้ายให้ใส่มะพร้าวขูดลงไป นวดขยำ จนน้ำกะทิออกนิดๆ พักไว้ (ถ้าแป้งข้นไปเติมน้ำเปล่าได้อีกเล็กน้อย...
ระดับความเหลวของแป้งดูว่าให้พอชุบกล้วยได้)
2. ปอกเปลือกกล้วยไปฝานไป (3-4 ชิ้นต่อลูก)...ฝานลงไปในหม้อแป้ง กะให้พอดี 1 กระทะ
ไม่ต้องให้เหลือ (พอกระทะต่อไปก็ฝานใหม่ ถ้าฝานเหลือจะทำให้ชุบแป้งยาก...กล้วยจะไปกองอยู่ในแป้ง)
3. กล้วยชุบแป้งให้ทั่วชิ้น ทั้งด้านหน้า ด้านหลัง ...หย่อนลงไปในกระทะทอดในน้ำมันพืชร้อนไฟปานกลางค่อนข้างแรง
 ทอดไปสักครู่กล้วยที่จมจะลอยขึ้นมาให้ลดระดับไฟลงมาเล็กน้อย และใช้ไม้เขี่ยไม่ให้กล้วยติดหรือซ้อนกัน
 จนกล้วยเริ่มเหลืองให้กลับด้าน เมื่อเหลืองกรอบทั้งสองด้านให้ตักขึ้นพักไว้บนตะแกรงให้สะเด็ดน้ำมันดี
4. รับประทานร้อนๆ...หรอยจังฮู้
เคล็ดลับ...
เรื่องของแป้งนั้น ตามสูตรกล้วยทอดพื้นบ้านจะไม่ใส่แป้งสาลี (การผสมแป้งสาลีทำให้กรอบนุ่มไม่แข็งกระด้างมากนัก แต่ในชนบทหาซื้อยาก)
มักจะใช้แป้งข้าวเจ้าเพียงอย่างเดียว แต่ระยะหลังนี้ประยุกต์ผสมแป้งชนิดอื่นๆ อย่างเช่นสูตรของป้าเขียว....
จะใส่แป้งข้าวเจ้า 1 กิโลกรัม ผสมกับแป้งกรอบ ½ กิโลกรัม (กรณีไม่ได้ใส่แป้งสาลี ให้เพิ่มแป้งข้าวเจ้าเป็น 1 กิโลกรัม)
การใส่ไข่ไก่ อาจกล่าวได้ว่าเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของกล้วยทอดสูตรนี้
ช่วงที่ทอดกล้วยยังไม่ทันหมด แป้งอาจจะแห้งเกินไปก็ให้เพิ่มน้ำลงไปได้
กล้วยน้ำว้าเลือกที่สุกแบบห่ามๆ เปลือกเขียวออกเหลืองนิดๆ สุกเหลืองมากจะเละ จะต้องหากล้วยที่พอดี
ซึ่งจะต้องบริหารจัดการกล้วยให้ได้ เพราะกล้วยเมื่อเลยวันที่ทอดได้ก็จะสุก ช่วงที่ทอดได้ดีมีอยู่ประมาณ 2-3 วันเท่านั้น

ขอบคุณที่มา  Kanom.co.th

[น้องจ๋า น้องจ๋าจ้า]

ขนมถ้วยกะทิ
 ขนมไทยสูตรอร่อยมากค่ะทำง่ายทำกินทำขายได้นะคะ>
ขอบคุณสูตรจาก คุณ RinS Cook Book สมาชิกเว็บไซต์ยูทูปดอทคอม
ส่วนผสม (หน้าขนม)
แป้งข้าวเจ้า 1/2 ถ้วย
น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย
เกลือป่น 1 ช้อนชา
หัวกะทิ 2 ถ้วย
ส่วนผสม (ตัวขนม)
แป้งข้าวเจ้า 3/4 ถ้วย
น้ำตาลปี๊บ 230 กรัม
แป้งมันสำปะหลัง 1/4 ถ้วย
แป้งท้าวยายม่อม 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำลอยดอกมะลิ 1 1/4 ถ้วย (หรือน้ำผสมกลิ่นมะลิ)
หัวกะทิ 1/2 ถ้วย
น้ำใบเตย 1/2 ถ้วย
อุปกรณ์เพิ่มเติม
ถ้วยขนมถ้วย (หรือถ้วยทนความร้อนสำหรับนึ่ง)
ชุดนึ่ง
วิธีทำ
1. ทำหน้าขนมโดยผสมแป้งข้าวเจ้า น้ำตาลทราย เกลือป่น และหัวกะทิน้ำใบเตย เข้าด้วยกัน ใช้มือขยำส่วนผสมจนเข้ากันและไม่เป็นเม็ด
 จากนั้นนำไปกรองผ่านตะแกรง เตรียมไว้
2. ทำตัวขนมโดยผสมแป้งข้าวเจ้า น้ำตาลปี๊บ แป้งมันสำปะหลัง แป้งท้าวยายม่อม น้ำลอยดอกมะลิ และหางกะทิเข้าด้วยกัน
ใช้มือขยำส่วนผสมจนเข้ากันจนน้ำตาลปี๊บละลายหมด จากนั้นนำไปกรองผ่านตะแกรง เตรียมไว้
3. นำถ้วยขนมไปนึ่งประมาณ 5 นาที (ป้องกันไม่ให้ขนมติดถ้วย)
4. เทส่วนผสมตัวขนมลงไปในถ้วย (ให้เกินครึ่งถ้วยเล็กน้อย) จากนั้นปิดฝานึ่งประมาณ 5 นาที พอครบเวลา ยกลงจากเตา พักทิ้งไว้ประมาณ 1-2 นาที
5. เทส่วนผสมหน้ากะทิลงไปจนเต็มถ้วย นำไปนึ่งต่ออีกประมาณ 6-7 นาทีจนขนมสุก ยกลงจากเตา พักทิ้งไว้จนเย็นประมาณ 10 นาที
6. ค่อย ๆ ใช้ไม้พายหรือไม้ไศกรีมแช่น้ำแคะขนมออกจากถ้วย จักใส่จาน พร้อมเสิร์ฟ

ขอบคุณที่มา  Kanom.co.th