ดูแลและเข้าใจ ผู้ชายวัยต่างๆ

ดูแลสุขภาพผู้ชายทุกวัย

ดูแลสุขภาพผู้ชายทุกวัย
ผู้ชายต่างวัยต้องการการดูแลต่างกัน เรามีวิธีดูแลสุขภาพผู้ชายในทุกช่วงวัยมาฝากกันค่ะ

ด้วยสรีระที่แข็งแรงกว่าเพศหญิงและความเป็น "ผู้นำ" ที่สังคมมอบให้ อาจทำให้ผู้ชายส่วนใหญ่สะเลย
ไม่ให้ความสนใจในเรื่องที่พวกเขาเห็นว่าเป็นเรื่องเล็กอย่างเช่นการดูแลสุขภาพ
ส่งผลให้ผู้ชายทั่วโลกมีอายุขัยสั้นกว่าผู้หญิงที่มักจะรู้จักดูแลและป้องกันสุขภาพ

คราวนี้เรามีข้อมูลดีๆ เกี่ยวกับสุขภาพที่อาจเกิดขึ้นกับคุณผู้ชาย โดยแบ่งเป็นช่วงอายุต่างๆ
เพื่อทำความเข้าใจผู้ชายใกล้ตัวกัน

0-12 ปี วัยแรกป่วน
   วัยตั้งแต่ถึง 12 ปีเป็นช่วงวัยที่มีพัฒนาการทางร่างกายเติบโตเร็วที่สุด เป็นช่วงวัยที่มีพัฒนาการทางสมองและสติปัญญา
รวมถึงความมั่นคงทางอารมณ์ ซึ่งสำคัญต่อความคิดและทัศนคติในอนาคต
   แพทย์หญิงอำไพขนิษฐ สมานวงศ์ไทย อธิบายว่า วัยนี้จะมีปัญหาสุขภาพค่อนข้างน้อย อาจเป็นโรคหวัดหรือขาดสารอาหารบ้าง
สิ่งสำคัญคือ ผู้ใหญ่ต้องทำตัวเป็นแบบอย่างที่ดีแก่เด็ก เนื่องจากเป็นวัยที่ต้องสร้างทัศนคติที่ดีในด้านต่างๆ โดยเฉพาะเรื่องสุขภาพ
ซึ่งทัศนคติต่างๆ นั้นไม่สามารถเกิดขึ้นได้จากการบอกหรือดุ เนื่องจากเด็กจะพิจารณาจากสิ่งที่เห็นเป็นหลัก เช่น บอกลูกว่าไม่ควรสูบบุหรี่
แต่ยังมีคนในบ้านสูบให้เห็น หรือบอกเด็กว่าให้นอนแต่หัวค่ำ แต่พ่อแม่กลับนอนดึกเสียเอง

นอกจากนี้ ควรปลูกฝังให้เขาเข้าใจถึงความสำคัญในการดูแลสุขภาพตั้งแต่ยังเล็กโดยไม่ต้องบังคับ
เพราะเด็กจะต่อต้าน เช่น ออกกำลังกายด้วยเพลงที่สนุกสนาน ให้ทานอาหารที่มีประโยชน์ก็อาจต้องใส่ความสนุกลงไป
ด้วยการใช้สีสันที่สวยงาม เป็นต้น

12-20 ปี วัยแห่งความรุนแรง
   วัยรุ่นเป็นช่วงเปลี่ยนแปลงในทุกด้าน โดยเฉพาะด้านจิตใจที่ต้องการเป็นตัวของตัวเอง ขณะเดียวกันก็ต้องการการยอมรับ
และต้องการเป็นที่สนใจของเพศตรงข้าม อยากดูดีในสายตาคนที่พบเห็น จึงสนใจสุขภาาพในแง่ของความงาม
เช่น กินอะไรช่วยให้หล่อ ไม่เป็นสิว แต่ไม่ใช่การดูแลสุขภาพในระยะยาว

   แพทย์หญิงอำไพขนิษฐ อธิบายว่า วัยนี้ยังไม่ค่อยมีปัญหาสุขภาพมากนัก มักเป็นอาการทั่วไป เช่น หวัด ปวดเมื่อย
บาดเจ็บจากการเล่นกีฬา อ่อนเพลียเพราะอดนอน แต่มีแนวโน้มจะใช้ความรุนแรงมากกว่าวัยอื่น เนื่องจากโกร๊ธฮอร์โมนจะหลั่งมาก
เมื่อบวกกับอารมณ์แปรปรวน หงุดหงิดง่าย ก็อาจใช้กำลังในการตัดสินปัญหา

   แนวทางแก้ไขต้องอาศัย พ่อแม่ผู้ปกครองเข้ามามีส่วนร่วม ในแบบที่เด็กผู้ชายวัยนี้รับได้ นั่นคือ ให้คำแนะนำเรื่องการดูแลสุขภาพ
เรื่องการแบ่งเวลา แม้แต่ปัญหาสำคัญ คือ แนวโน้มการใช้ความรุนแรง พ่อแม่ผู้ปกครองสามารถมีส่วนในการมองหากิจกรรม
ให้เขาได้ใช้กำลังอย่างสร้างสรรค์ เช่น เล่นดนตรี กีฬา หรือกิจกรรมที่เด็กสนใจ แต่ควรให้เขาเป็นคนเลือกเองว่าจะทำหรือไม่
ไม่ใช่เป็นการบังคับ เพื่อรักษาสัมพันธภาพอันดี ให้เด็กรู้สึกสะดวกใจที่จะขอคำแนะนำหรือปรึกษาเมื่อมีปัญหาต่อไป

20-40 ปี วัยก่อร่างสร้างตัว
   จากลักษณะทางกายภาพวัยนี้เป็นวัยที่แข็งแรงมากที่สุด จึงไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องสุขภาพให้เห็นชัด
ทำให้หลายคนใช้ชีวิตแบบ "สุดโต่ง" อดนอน นอนดึก เที่ยวหามรุ่งหามค่ำ กินเหล้าหนัก สูบบุหรี่จัด และมักคิดว่าสุขภาพยังแข็งแรงดี

   นายแพทย์วิชัย เดชะทัตตานนท์ อธิบายว่า ปัญหาสุขภาพหนุ่มวัยนี้มักจะเป็นโรคเกี่ยวกับระบบกล้ามเนื้อ
ปวดหลัง ปวดเอว และโรคที่เกี่ยวกับระบบทางเดินอาหารซึ่งมักเกิดจากความเครียด เพราะมีหน้าที่ต้องรับผิดชอบมาก
มักใช้ชีวิตเร่งรีบ กินอาหารไม่เป็นเวลา

แนวทางการแก้ไข แพทย์หญิงอำไพขนิษฐ แนะนำว่า ควรเริ่มต้นจาก "ตัวเราเอง" ก่อน
แต่ชายวัยนี้จะคิดเรื่องงานเป็นหลัก จำเป็นที่ภรรยา ญาติพี่น้อง และคนรอบตัวควรเข้ามามีส่วนช่วยดูแล เลือกอาหารที่มีประโยชน์
ให้เขาได้พักเมื่ออยู่บ้าน รวมถึงไม่เอาปัญหาไปทับถมให้หนักกว่าเดิม

40-50 ปี ประตูสู่ปัญหาสุขภาพ

   หลายคนทึกทักว่า วัยขึ้นต้นด้วยเลข 4 เป็นวัยที่ทุกอย่างลงตัว แต่แม้จะยังมีไฟเพียงใด ร่างกายของคนวัยนี้กลับเริ่มเข้าเกียร์ถอยหลัง
มักมีอาการเหนื่อยง่าย เริ่มมีพุง กล้ามเนื้อไม่ฟิตเหมือนสมัยหนุ่มๆ ความว่องไวในการคิดการจำก็ลดลง

   คุณหมอวิชัยให้คำตอบว่าที่เป็นเช่นนั้น เพราะฮอร์โมนเพศชายเทสทอสเทอโรนที่มีอิทธิพลแสดงออกด้านความกระตือรือร้นจะลดลงเรื่อยๆ
จากที่เคยเต็มร้อยเมื่ออายุ 20 ปี ทำให้สภาพร่างกายโดยทั่วไปเปลี่ยนแปลง ไม่กระฉับกระเฉง ลืมง่าย ขาดสมาธิ และเหนื่อยง่าย
และผลจากการใช้ชีวิตในช่วงวัยหนุ่มจะเริ่มส่งผลต่อสุขภาพในวัยนี้ ซึ่งในช่วงปีแรกๆ ของวัยเลข 4 ฮอร์โมนยังสูงอยู่
โรคและอาการต่างๆ อาจจยังแสดงอาการน้อย แต่พออายุมากขึ้น ฮอร์โมนจะลดน้อยลง อาการก็จะเป็นมากขึ้น ถี่ขึ้น
ทั้งโรคหัวใจ กระดูกพรุน และโรคที่เป็นผลพวงจากพฤติกรรม

   น.ท.ดร.นายแพทย์สมพล เพิ่มพงศ์โกศล แนะนำให้ ปรับพฤติกรรมการดำเนินชีวิต เลิกสูบบุหรี่ เลิกดื่มเหล้า
เพราะยิ่งจะทำให้ฮอร์โมนเพศลดลง เป็นตัวเร่งให้แก่เร็ว และต้องเสริมด้วยการออกกำลังกาย ลดอาหารทีมีไขมัน
เลือกอาหารที่มีประโยชน์ จะช่วยให้ฮอร์โมนเพิ่มขึ้นได้

50-60 ปี วัยวิกฤต
   ผู้ชายวัยนี้ระดับฮอร์โมนจะเสื่อมลง เข้าสู่วัยทองอย่างแท้จริง โรคและอาการฮิตของผู้ชายวัยนี้คือ โรคอ้วน -
ซึ่งทั้งพฤติกรรมและฮอร์โมนต่างมีส่วนสัมพันธ์ต่อโรคอ้วน เนื่องจากระบบเผาผลาญช้า กล้ามเนื้อทำงานน้อย
เมื่อกินเท่าเดิมแต่เผลาญไม่ดี ก็ทำให้ไปสะสมเพิ่มขึ้นตามเนื้อเยื่อต่างๆ เบาหวาน – มีทั้งสองชนิดคือ
เบาหวานที่เกิดจากไม่ควบคุมอาหาร และเกิดจากความบกพร่องของอวัยวะภายในร่างกาย ความดันโลหิตสูง - ความจริง
โรคนี้มักเป็นกับผู้ชายก่อนวัย 55 ปี เกิดจากเส้นเลือดเสื่อมและไขมันที่อุดตันในเส้นเลือด และ โรคเกี่ยวกับต่อมลูกหมาก
ที่สำคัญคือ ผู้ชายส่วนหนึ่งไม่รู้ตัวว่าตัวเองเข้าสู่วัยทอง
คนรอบข้างอย่างภรรยาจะเป็นคนสังเกตเห็นก่อนว่ามีอารมณ์แปรปรวน หงุดหงิดง่าย

   แนวทางการดูแล คุณหมอวิชัยแนะนำเหมือนผู้ชายในวัย 40-50 ปี ซึ่งเป็นการดูแลตัวเองอย่างต่อเนื่อง
ปรับพฤติกรรมการกินการใช้ชีวิต ออกกำลังกายที่เหมาะสม ทำอารมณ์ให้ดี รวมทั้งคนรอบข้างก็มีส่วนช่วยให้ผู้ชายวัยนี้
เกิดความกระตือรือร้นในการดูแลรักษาสขภาพและร่วมกันเสริมสร้างสุขภาพที่ดีได้
60+ สุขภาพดี...ไม่มีวันหมดอายุ

   ล่วงเลยเข้าสู่วัยนี้ ส่วนใหญ่ร่างกายจะเสื่อมลงทุกระบบพร้อมๆ กัน ปัญหาทางร่างกายที่เห็นได้ชัด
เช่น โลหิตจางเนื่องจากฮอร์โมนเพศชายลดลง นอนหลับยาก บางทีหลับไปแล้วก็ตื่นข้นมากลางดึก
ฟันหลุดร่วงตามวัยซึ่งอาจส่งผลให้การย่อยอาหารไม่มีประสิทธิภาพ รวมทั้งปัญหาทางสายตาที่มีมากขึ้น
เช่น เป็นต้อกระจก มีปัญหาเรื่องการจำแนกสี โดยเฉพาะสีเขียวและสีฟ้า
นอกจากนี้ยังมีปัญหาอื่นๆ เช่น หูตึง ผิวแห้ง ตกกระ เป็นต้น

   แนวทางการดูแล คุณหมอวิชัยแนะนำว่า ควรลดอาหารที่ย่อยยาก เน้นผักผลไม้ เสริมด้วยธัญพืช
พร้อมทั้งควรนำเรื่องการทำสมาธิมาใช้ เมื่อปรับอารมณ์ให้สมดุลได้ ลดความเครียดได้ก็ช่วยลดเรื่องโรคได้หลายโรค
ในส่วนการออกกำลังกาย ที่ดีที่สุดคือว่ายน้ำ โดยว่ายแบบเล่นน้ำ ไม่ใช่แบบกีฬา การว่ายน้ำจะช่วยพยุงสรีระ ดีต่อระบบหายใจ
ระบบไหลเวียนโลหิต และระบบกล้ามเนื้อ

   สุขภาพของผู้ชายทุกช่วงวัยต้องการการดูแลที่ต่างกัน ซึ่งนอกจากตัวคุณผู้ชายเองแล้ว
ครอบครัวและคนรอบข้างก็มีส่วนช่วยได้ไม่น้อย และถ้าได้เริ่มต้นทำตั้งแต่ตอนนี้ เมื่อถึงวัยสูงอายุก็รับมือได้สบายๆ ค่ะ

KBeautifullife