หน้า: [1]   ลงล่าง
 
ผู้เขียน หัวข้อ: มะเร็งปากมดลูก  (อ่าน 1532 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ผู้บริหารเว็บ
คะแนนน้ำใจ 65535
เหรียญรางวัล:
PJ ดีเด่นนักอ่านยอดเยี่ยมผู้ดูแลเว็บ
กระทู้: 18,136
ออนไลน์ ออนไลน์
"สาวหวาน กับ ความฝันไม่รู้จบ "
   
« เมื่อ: 20 พฤษภาคม 2558, 08:43:27 AM »

Permalink: มะเร็งปากมดลูก




มะเร็งปากมดลูก



มะเร็งปากมดลูก
 สาเหตุ
 อาการ
วิธีการรักษา

และ วิธีดูแลผู้ป่วยโรคมะเร็งปากมดลูก
ในปัจจุบันนี้มีผู้ป่วยด้วยโรคมะเร็งเพิ่มจำนวนมากขึ้นทุ
กวัน และคร่าชีวิตผู้คนเรียกได้ว่าเป็นอันดับต้นๆ ของโรคต่างๆ เลยก็ว่าได้นะคะ อย่างโรคมะเร็งปากมดลูกนี้ก็เป็นสาเหตุการเสียชีวิตของผู้หญิงอันดับหนึ่ง ซึ่งผู้หญิงเราส่วนใหญ่มักรู้สึกอายที่ต้องไปตรวจภายในหาเชื้อมะเร็งปากมดลูกกัน จึงปล่อยให้เชื้อลุกลามมารู้ตัวอีกทีก็ยากเกินจะแก้ไขเสียแล้ว


มะเร็งปากมดลูกคืออะไร
มะเร็งปากมดลูก (Cancer of Cervix) คือ เซลล์ในร่างกายที่มีการแบ่งตัวขึ้นอย่างผิดปกติโดยไม่สามารถควบคุมได้
และจะขยายตัวใหญ่ขึ้นตามเวลา พร้อมทั้งเจริญลุกลามไปยังอวัยวะอื่นๆ ของร่างกายได้ โดยไม่สามารถหายเองหรือรับประทานยา
 ต้องทำการผ่าตัดออกหรือฆ่าเชื้อมะเร็งเท่านั้น รวมทั้งยังเป็นโรคที่ทำให้ผู้หญิงเสียชีวิตเป็นอันดับหนึ่งอีกด้วย (เกณฑ์เฉลี่ย 7 คน/วัน)
 แต่ทั้งนี้โรคมะเร็งปากมดลูกก็ถือเป็นโรคที่สามารถรักษาให้หายขาดเป็นปกติได้ ซึ่งมะเร็งปากมดลูกนี้มักพบในผู้หญิงที่มีอายุระหว่าง 35 – 60 ปี






สาเหตุของโรคมะเร็งปากมดลูก
มะเร็งปากมดลูกนั้นเกิดจากการติดเชื้อไวรัสหูด (Human Papilloma Virus – HPV) ซึ่งติดต่อได้โดยทางเพศสัมพันธ์
โดยเมื่อเชื้อนี้เข้าสู่ร่างกายก็จะก่อให้เกิดเป็นโรคมะเร็งปากมดลูก ซึ่งใช้ระยะเวลาในการฟักตัวนาน 10 – 15 ปีเลยทีเดียว
 จึงทำให้ผู้ป่วยมักไม่ทราบว่ากำลังเป็นมะเร็งปากมดลูกอยู่ และสาเหตุที่ถือเป็นปัจจัยเสี่ยง
 ได้แก่ การมีเพศสัมพันธุ์ตั้งแต่อายุน้อย, การมีคู่นอนหลายคน (ทั้งตัวผู้หญิงเองและฝ่ายชาย), การคลอดบุตรหลายคน,
 กรรมพันธุ์, ขาดสารอาหารบางอย่าง, การดื่มเหล้า หรือสูบบุหรี่ รวมถึงร่างกายอ่อนแอมีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง (เอดส์) เป็นต้น
เหล่านี้ล้วนเป็นสาเหตุปัจจัยที่ก่อให้เกิดโรคมะเร็งปากมดลูกได้ทั้งสิ้น







อาการของมะเร็งปากมดลูก
- มีเลือดออกทางช่องคลอดแบบกะปริบกะปรอยระหว่างรอบเดือนในแต่ละเดือน ซึ่งเป็นอาการที่พบได้มาก
ที่สุดถึง 80 – 90 เปอร์เซ็นต์ในผู้หญิงเลยทีเดียว
- มีตกขาวมากผิดปกติแบบมูกเลือด และกลิ่นเหม็นมาก
- มีเลือดออกขณะมีเพศสัมพันธ์
- อาจปวดหลังหากก้อนเนื้อลุกลามไปยังอุ้งเชิงกรานแล้วกดทับเส้นประสาท
- หากลุกลามไปยังร่างกายส่วนต่างๆ ก็จะเกิดการปวดก้นกบ ขับถ่ายปัสสาวะและอุจจาระเป็นเลือด หรือขาบวม ฯลฯ






วิธีการรักษามะเร็งปากมดลูก
- รักษาโดยวิธีการผ่าตัด ซึ่งวิธีนี้อาจเกิดผลข้างเคียงขึ้นหลังผ่าตัด คือ อาจมีการติดเชื้อ หรือตกเลือด เป็นต้น
- รักษาโดยการฉายแสง วิธีนี้มีผลข้างเคียงคือ จะรู้สึกอ่อนเพลียมาก ผิวหนังแห้งไม่ชุ่มชื้น และอาจมีปัสสาวะปนเลือดออกมา
- รักษาโดยให้ยาเคมีบำบัด ก็มียาอยู่หลายตัวให้ได้เลือกตามความสะดวก เพราะราคาก็แพงตามเกรดของยา
ซึ่งส่งผลให้เกิดการอ่อนเพลีย ผมร่วง คลื่นไส้ อาเจียน และมือ-เท้าชาได้ (ขึ้นกับตัวยาเคมีที่ใช้)






วิธีดูแลผู้ป่วยโรคมะเร็งปากมดลูก
- ให้ผู้ป่วยรับประทานอาหารให้ครบทุก 5 หมู่ เพื่อเสริมสร้างให้ร่างกายแข็งแรง
- หมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอแบบไม่หักโหม เช่น การเดิน หรือแกว่งแขน เป็นต้น
- ให้กำลังใจแก่ผู้ป่วยมากๆ ไม่ให้เครียด หรือวิตกกังวลมากจนเกินไป
- เมื่อพบอาการผิดปกติใดๆ ต้องรีบบอกแพทย์ผู้รักษาทันที
ซึ่งในปัจจุบันนี้มีวัคซีนสำหรับป้องกันโรคมะเร็งปากมดลูกแล้ว โดยเด็กและผู้หญิงที่อายุไม่เกิน 26 ปี
และยังไม่เคยมีเพศสัมพันธ์มาก่อนก็สามารถฉีดวัคซีนนี้ได้เลยโดยไม่ต้องตรวจแปปสเมียร์ (โดยเฉพาะอายุ 9 – 26 ปี จะได้ผลมากที่สุด)
แต่หากเป็นผู้หญิงที่ผ่านการมีเพศสัมพันธ์มาแล้วก็ต้องตรวจแปปสเมียร์ก่อนรับวัคซีน



ที่มา  เกร็จความรุ้.net





บันทึกการเข้า


♪♪♪ รวมบทกลอนน้องจ๋า คลิกค่ะ ...

ขอบคุณทุกภาพจาก Internet และเพลงจากYouTube
หน้า: [1]   ขึ้นบน
 
 
กระโดดไป: